ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เราขอขมา อโหสิกรรม ต่อหน้าพระพุทธรูปแล้ว ก็จบแล้วใช่หรือไม่คะ  (อ่าน 4507 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

sinjai

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 144
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 ask1

   สมมุติ นะคะ ว่าเราไป ล่วงเกิน พระสงฆ์ รูปหนึ่งด้วยการกล่าวปรามาส ทั้งต่อหน้า และ ลับหลัง ทำให้ท่านเสียชื่อ เสียง และเป็นที่ครหา นินทา ต่อชนทั่วไป หรือจนท่านไม่สามารถอยู่วัดได้ตามปกติ ต้องตะลอนไปที่อื่น ๆ มาวันหนึ่งเกิดสำนึก แต่ไม่อยากไปขอขมาท่านต่อหน้า แต่ใช้วิธีการขอขมาต่อหน้า พระพุทธรูปแทน อย่างนี้ก็ใช้ได้แล้วใช่หรือไม่คะ

  ด้วยความสงสัยคะ ไม่ทราบว่า ผลการขอขมานี้ จะให้ผลหรือไม่คะ

   :c017:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28420
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

ความหายนะของการปรามาสพระรัตนตรัย

    ท่านกล่าวไว้ว่า บุคคลที่เป็นพระโสดาบันแล้ว ถ้าปรากฏว่า มีผู้อื่นผู้ใดประมาทพลาดพลั้ง หรือคะนองปาก กล่าวตำหนิติเตียน หรือนินทาว่าร้าย ด่าบริภาษ แม้จะเป็นพระอริยะบุคคลที่เป็นคฤหัสถ์
    ท่านกล่าวว่า ห้ามมรรค ผล นิพพาน แม้บุคคลผู้นั้นจะพากเพียรปฏิบัติธรรม อย่างไรก็มิอาจสามารถ บรรลุมรรคผลได้ การติเตียน ด่าบริภาษพระอริยเจ้า จึงมีโทษมาก เกิดความหายนะอย่างร้ายแรงที่สุด 10 อย่าง คือ


    1.บุคคลผู้นั้นจะยังไม่บรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ
    2. เสื่อมจากธรรมที่บรรลุแล้ว ฌาณ สมาธิ จะเสื่อมทันที
    3. สัทธรรมของบุคคลผู้นั้นย่อมไม่ผ่องแผ้ว
    4. เป็นผู้หลงคิดว่าตนเป็นผู้บรรลุสัทธรรม
    5. ไม่ยินดีในการประพฤติพรหมจรรย์
    6. ถ้าเป็นภิกษุต้องอาบัติเศร้าหมองอย่างใดอย่างนึง
    7. ย่อมถูกโรคเบียดเบียนอย่างหนัก
    8. ถึงความเป็นบ้ามีจิตฟุ้งซ่าน
    9. หลงตามกาละ คือตายอย่างขาดสติ
  10. เมื่อตายย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก


     กรรมที่บริภาษ ด่าทอ พระอริยบุคคลนี้ เป็นกรรมตัดรอน มรรคผล นิพพาน
     มิใช่กรรมเก่า แต่เป็นกรรมที่สร้างขึ้นใหม่ และมีผลรุนแรงมาก มีอำนาจตัดรอนกรรมดีอื่นๆในทันใด
     วิธีแก้กรรมนี้ ต้องกล่าวขอขมาโทษ แก่พระอริยเจ้า เมื่อพระอริยเจ้าอดโทษไม่เอาโทษแล้ว ก็ไม่ห้าม มรรค ผล นิพพาน กลับมาเป็นปรกติดังเดิม

     ขอขอบพระคุณ องค์สมเด็จพระสังฆราช สุกไก่เถื่อนครับ สำหรับธรรมะนี้



     ดังนั้นให้เราหมั่นขอขมาพระรัตนตรัยทุกๆวัน เพราะเราไม่รุ้ว่าบุคคลที่เราเดินผ่านไปผ่านมา หรือว่าพบเจอ แล้วเราไปแสดงอากัปกิริยานไม่เหมาะสม ใส่ท่าน บุคคลเหล่านั้น ท่านเป็นพระอริยเจ้าหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยและเจริญก้าวหน้าของตัวเราเอง ให้เราอย่าประมาท ปรามาสพระรัตนตรัยเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเว็บพลังจิต ที่ค่อนข้างจะมีทั้งพระโพธิสัตว์ ทั้งพระอริยเจ้า แวะเวียนมาเสมอๆ ดังนั้นอย่าไปปรามาสท่านใดเป็นอันขาดครับ

     ความหายนะที่ร้ายแรงก็คือ การหลงว่าเราบรรลุธรรมไปแล้ว เพราะถ้าเราหลงว่าตัวเองบรรลุโดยที่ยังไม่ได้บรรลุจริงๆแล้วล่ะก็ ส่วนมากจะกู่ไม่กลับและมีอบายภูมิเป็นที่ไปครับ แล้วยิ่งเราไปสอนคนผิดๆ เพราะหลงว่าตัวเองบรรลุธรรมไปแล้ว ยิ่งสอนคนด้วยธรรมะผิดๆไปเป็นจำนวนมากเท่าไหร่ เราเองก็จะยิ่งต้องชดใช้กรรมนานเท่านั้นครับ ดังนั้นอย่าเผลอปรามาสพระเป็นอันขาดครับ


______________________________________
อ้างอิงจากหนังสือ "พระประวัติ สมเด็จพระสังฆราช สุกไก่เถื่อน"
เครดิต เว็บพลังจิต (ขออภัยไม่ทราบชื่อคนโพสต์)


ask1

   สมมุติ นะคะ ว่าเราไป ล่วงเกิน พระสงฆ์ รูปหนึ่งด้วยการกล่าวปรามาส ทั้งต่อหน้า และ ลับหลัง ทำให้ท่านเสียชื่อ เสียง และเป็นที่ครหา นินทา ต่อชนทั่วไป หรือจนท่านไม่สามารถอยู่วัดได้ตามปกติ ต้องตะลอนไปที่อื่น ๆ มาวันหนึ่งเกิดสำนึก แต่ไม่อยากไปขอขมาท่านต่อหน้า แต่ใช้วิธีการขอขมาต่อหน้า พระพุทธรูปแทน อย่างนี้ก็ใช้ได้แล้วใช่หรือไม่คะ

  ด้วยความสงสัยคะ ไม่ทราบว่า ผลการขอขมานี้ จะให้ผลหรือไม่คะ

   :c017:

     ans1 ans1 ans1
     
    เรื่องต่อไปนี้จำมาจากพระอาจารย์ครับ
        - หากท่านมีชีวิตอยู่ ต้องไปขอขมาต่อหน้าท่าน
        - หากเสียชีวิตแล้ว ให้ขอขมาต่อหน้าพระพุทธรูป

        คำขอขมาต่อพระรัตนตรัย
        อุกาสะ วันทามิ ภันเต,
        สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต,
        มะยา กะตัง ปุญญัง สามินา อะนุโมทิตัพพัง,
        สามินา กะตัง ปุญญัง มัยหัง,
        ทาตัพพัง สาธุ สาธุ อะนุโมทามิ
        สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต

        กราบ ๑ ครั้ง)
        สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต,
        อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง
        สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต,
        อุกาสะ ขะมามิ ภันเต
        (กราบ ๑ ครั้ง)


     การขอขมานี้ มีผลให้ผู้ขอขมา "เพียงได้บรรลุมรรคผลนิพพาน" เท่านั้น
     วิบากกรรมบางส่วนยังอยู่ ถึงแม้จะได้รับการยกโทษแล้วก็ตาม
     ขอให้ดูกรรมของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน
     ครั้งหนึ่งในอดีตชาติ ท่านเคยไปกล่าวปรามาสพระพุทธเจ้าองค์หนึ่่งเอาไว้
     กรรมนั้นส่งผลให้ท่านต้องบำเพ็ญทุกรกิริยาถึง ๖ ปี
     พระพุทธเจ้าท่านบำเพ็ญปรมัตถ์บารมีมาเต็มแล้ว ยังหนีไม่พ้นเลย
     แล้วปุถุชนอย่างเราๆ จะเหลือรึ.?

      :25: :25: :25:
     
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 20, 2013, 11:44:47 am โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

KIDSADA

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 439
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 ans1

    ชัด ๆ เลยนะครับ ผมว่า การขอขมา ต่อพระสงฆ์ ที่มีชีิวิตอยู่ นั้นควรจะต้องไป ทำกันต่อหน้า ครับ เพื่อไม่ปิดประตู มรรคผล นิพพาน นะครับ ยิ่งถ้าเป็นพระอริยสงฆ์ ด้วยต้องระวัง และควรรีบไป เลยนะครับ

   :49:
บันทึกการเข้า
เราชอบ ป่วนแก็งค์ อ๊บ อ๊บ