ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อนั่งหลับตาปฏิบัติอยู่ จะรู้ได้อย่างไร ว่า ครบเวลาตามกำหนดแล้ว !  (อ่าน 2437 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธรรมะ ปุจฉา

  • http://www.facebook.com/srikanet?ref=tn_tnmn
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 713
  • ปัญญสโก ภิกขุ (พระที) ..... คณะ ๓/๓ วัดพลับ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
เมื่อนั่งหลับตาปฏิบัติอยู่  เราจะไปรู้กันได้อย่างไรว่า ตอนนี้ เรานั่งปฏิบัติมาครบ 30 นาทีแล้ว หรือ 1 ชั่วโมงแล้ว  เพื่อที่หลังจากที่เรารู้เวลาแล้ว เราจะได้ทำการออกจากการนั่งปฏิบัติกรรมฐาน  เพราะว่า ได้มีการระบุบอกว่า ให้นั่ง ปฏิบัติ 30 นาทีบ้าง 1 ชั่วโมงบ้าง  ก็ปกติเวลาที่เราจะรู้เวลาได้ก็ต่อเมื่อเราลืมตาหันไปมองที่นาฬิกา เราก็จะรู้เวลา  แต่นี้ นั่งหลับตาอยู่ จะรู้ได้อย่างไร!
บันทึกการเข้า
ยาดี มิได้ทำให้คนหายไข้   คนหายไข้ เพราะได้กินยาดี
ธรรมะ มิได้ทำให้คนดี       คนดีได้  เพราะปฏิบัติธรรม

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ท่าน ธรรมะปุจฉา มาลองภูมิกันแล้ว นะนี่ คะ

 :67: :58:
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ถ้ายังมีความลังเลสงสัย ก็ขอให้ทําตามจริตที่ตัวเองถนัด ถ้าผู้ที่ฝึกใหม่ก็ต้องมีสัจจะ  ก็ควรใช้การตั้งเวลา อย่างน้อย30 นาทีหรือครึ่งชั่วโมงหลังจากที่อธิฐานกรรมฐานแล้ว (ผู้ฝึกใหม่ที่ต้องตั้งรูป คือ องค์วิตก นั้น จําเป็นต้องใช้เวลาเพราะต้องการให้มีสัจจะ ต่อพระรัตนตรัย)
     ส่วนจริตที่ไม่ชอบการตั้งเวลา ก็ไม่เป็นไร แต่ก็ขอให้รักษาเวลาดังกล่าวเป็นสัจจะเช่นกัน ท่านจะใช้วสี คือความชํานาญในการนึกหน่วงประมาณเอาอย่างไร ก็ขอให้ ชั่ง ตวง วัด หรือประมาณเวลาเอาตามความชํานาญเฉพาะตน  ขาดก็ไม่ได้เสียอะไร ถ้าขาดคราวหน้าก็เพิ่มอีกหน่อยให้ครบ ถ้าเกินก็ถือคือกําไร ถวายพระพุทธเจ้า
 เรียกว่าตามจริตที่ตนเองถนัด ชอบแบบไหน ก็ว่ากันไป ที่ได้มาสร้างกุศลแล้วก็ถือว่าดีแล้ว
      จงตัดอุปปายะที่เป็น นิวรณ์ ความลงเลสงสัยต่างๆที่เป็นตัวกัน  ขวางที่เป็นเสี้ยนหนามของสมาธิ เพื่อพระธรรมปีติ จะได้ดําเนินไป ตามครรลองครองธรรม
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
เรื่องเวลา ไม่ใช่เป็นสิ่งทีต้องไปกำหนด แต่ วิตก + วิจาร คือ นิมิตทั้ง 3 วิจาร คือความเพียรตั้งมั่นในนิมิต ทั้ง 3 นั้น จะเป็นเรื่องสำคัญและ เป็นเหตุของการกำหนดเข้าออกได้ เวลาอธิษฐานกรรมฐาน ด้วยส่วนตัวนะ จะอธิษฐานว่า ขอเข้า ปฐมฌาน และ ออกจาก ปฐมฌาม อย่างนี้เป็นต้น เมื่อกำหนดเข้าออก จนชำนาญก็จะได้เวลาของเขาเอง โดยที่เราไม่ต้องไปกำหนด 30 นาที 40 50 60 1 ชม 2 3 4 6 7 1 วัน 2 3 4 5 6 7 สัปดาห์ อย่างนี้ เพราะเวลาไม่เกี่ยวกับ สมาธิ

    เวลาเป็นมุมมองภายนอก ของบุคคลอื่น เท่านั้น ซึ่งไม่เกี่ยวกับสมาธิ
   
    สำหรับผู้ฝึกภาวนา คือ ลำดับการเลื่อนจิต จาก วิตก + วิจาร เป็น ปีติ เป็น สุข เป็น เอกัคคตา เป็น อุเบกขา เป็น อากาสานัญจายตนะธาตุ เป็นวิญญาณัญจายตนะธาตุ เป็นอากิญจัญญายตนะธาตุ เป็นเนวนาสัญญายตนะธาตุ เป็นผลสมาบัติ เป็นนิโรธสมาบัติ เป็นสัญญาเวทยิตนิโรธ ดังนี้

    สาธุ เจริญธรรม

     ;)
 
Aeva Debug: 0.0005 seconds.
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ