ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อัศจรรย์ ท่านผู้ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ นั่งสมาธิแล้วหมดลมไปในท่านั้น  (อ่าน 11734 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ปัญญสโก ภิกขุ

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 403
  • อริยสโก
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0


ในปี 1927 "ดาชิ ดอร์โฌ อิติกิลอฟ" พระสังฆนายกนิกายวัชรยานในแคว้นบูเรียต และประธานพุทธศาสนิกชนแห่งรัสเซีย ได้ถึงแก่มรณภาพ หนึ่งปีก่อนที่ท่านจะละสังขารได้เตือนให้สานุศิษย์เดินทางออกจากรัสเซียเสีย เพราะ "ลัทธิแดง" กำลังรุกมาทางตะวันออกถึงแคว้นบูเรียต ซึ่งหมายถึงพรรคบอลเชวิก หรือฝ่ายคอมมิวนิสต์ใกล้มายังไซเบียแล้ว หลังโค่นล้มพระเจ้าซาร์ และพวกเมนเชวิก

แต่ท่านไม่ได้อยู่เป็นพยานการทำลายล้างศาสนาในรัสเซีย ในปีต่อมาท่านมีญาณเล็งเห็นว่าจะถึงกาลมรณะแล้ว จึงสั่งให้สานุศิษย์สวดมนต์ภาวนาพร้อมประกอบพิธีศพ ส่วนท่านนั่งสมาธิแล้วหมดลมไปในท่านั้น

ร่างของท่านถูกฝังไว้ในสุสานลามะ ซึ่งรอดพ้นจากการทำลายของคอมมิวนิสต์มาได้ จนกระทั่งถึงปี 1955 รัสเซียผ่อนปรนเรื่องศาสนามากขึ้น บรรดาลามะจึงเปิดหีบศพออกดู พบว่า ร่างไม่เพียงไม่เน่าเปื่อยแต่ยังดูใกล้เคียงกับตอนที่ยังมีชีวิต แต่ลามะมิได้รายงานเรื่องนี้ักับรัฐบาล เรื่องจากเห็นว่าพรรคฯ ยังไม่ใส่ใจกิจการด้านศาสนานัก และมีการเปิดโลงศพท่านอีกครั้งในปี 1973 แตก็มิได้แพร่งพรายเช่นกัน

จนกระทั่งในปี 2002 จึงได้มีการนำร่างของท่านดาชิ ดอร์โฌ อิติกิลอฟ มาประดิษฐานไว้ในวิหารใหญ่ที่สร้างขึ้นใหม่อย่างเป็นทางการ พร้อมกับมีการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งระบุว่า สภาพร่างสังขารของท่านคล้ายกับผู้ที่เพิ่งเสียชีวิตมาได้เพียง 36 ชั่วโมงเท่านั้น ขณะที่ผู้ดูแลเปิดเผยว่า ต้องคอยเช็ดร่างท่านทุกวัน เพราะมีของเหลวคล้ายเหงื่อซึมออกมาตลอด

นับแต่นั้น ร่างของดาชิ ดอร์โฌิ อิติกิลอฟ ก็กลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวพุทธรัสเซียทั่วประเทศ แม้แต่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ก็ยังเดินทางมา "สนทนา" กับร่างสังขารของดาชิ ดอร์โฌ อิติกิลอฟถึง 2 ครั้ง 2 ครา

แต่จะสนทนากันในเรื่องใดนั้น ไม่เป็นที่ทราบเแน่ชัด
บันทึกการเข้า

patra

  • RDNpromote
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรมรรค
  • *
  • ผลบุญ: +100/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 971
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
บันทึกการเข้า
ข้าพจ้า สนับสนุนการเผยแผ่ พระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ

ปัญญสโก ภิกขุ

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 403
  • อริยสโก
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0


อนุสนธิ์ ว่าด้วยของเหลวจากร่างของ "ดาชิ ดอร์โฌ อิติกิลอฟ"

ในบทความว่าด้วยร่างสังขารไม่เน่าเปื่อยของท่าน "ดาชิ ดอร์โฌ อิติกิลอฟ" ผู้นำชาวพุทธนิกายวัชรยานในรัสเซีย เมื่อราวต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งในบทความระบุถึงผู้ดูแลร่างของท่าน ที่เปิดเผยว่า ต้องคอยเช็ดร่างท่านทุกวัน เพราะมีของเหลวคล้ายเหงื่อซึมออกมาตลอด

หลังจากทำการศึกษาพบว่า ของเหลวดังกล่าวไม่น่าจะเป็นเหงื่อ แต่น่าจะเป็นน้ำมันพิเศษ

ที่พิเศษเพราะน้ำมันที่ว่านี้จะออกมาจากร่างสังขารของผู้บรรลุอภิญญา หรือภูมิธรรมชั้นสูงเท่านั้น ในพุทธศาสนิกายวัชรยานเรียกของร่างที่ไม่เน่าเปื่อยของพระอริยะเจ้าว่า "วัชรกาย" และหากสามารถควบคุมธาตุให้คงร่างได้ตามต้องการ เรียกว่าบรรลุ "วัชรจิต"

ส่วนเหลวจากร่างวัชระถือกันว่าเป็น "ธาตุศักดิ์สิทธิ์" แม้ในเมืองไทยก็มีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นมาแล้วกับร่างสังขารของ "พระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร" หรือนพระโพธิ์แจ้งมหาเถระ อดีตเจ้าคณะใหญ่ สงฆ์จีนนิกาย รูปที่ 6

พระโพธิ์แจ้งมหาเถระมีภูมิธรรมสูงส่งมาก และมีสถานะยิ่งใหญ่ เพราะเป็นผู้สืบทอดนิกายวินัยของมหายานฝ่ายจีน และผู้สืบทอดวิชาของนิกายวัชรยานสายท่านนอร่าริมโปเชแห่งทิเบต (เรื่องนี้มีรายละเอียดยืดยาว จะขยายความต่อไป)

หลังจากมรณภาพแล้วปรากฎว่า พระโพธิ์แจ้งมหาเถรบรรลุ วัชรกาย วัชรจิต ไม่เพียงไม่เน่าเปื่อย แต่ยังมีของเหลวซึมออกมาจากร่าง ซึ่งเว็บไซต์ ก่งฮุก (http://www.gonghoog.com/) ได้ให้รายละเอียดถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นไว้ว่า

"ในครั้งนี้มีเหตุการณ์มหัศจรรย์เกิดขึ้นจากการเชิญสรีระของท่านออกมาแล้ว เพื่อรอการปิดทองตามเจตนารมณ์ของท่านเจ้าคณะใหญ่จีนนิกายองค์ปัจจุบัน

"ในขณะที่รอก็มีน้ำมันไหลออกมาจากสรีระของท่านทุกวัน ผ้าเหลืองที่พับไว้ให้สรีระท่านรองนั่งเปียกชุ่มโชกทุกวัน และกลุ่มผู้ดูแลและผู้รู้เรื่องทั้งหมดไม่มีใครทราบความสำคัญของกรณีนี้เลย (ในทิเบต ถือเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญและมหาศักดิ์สิทธิ์ พระอาจารย์ผู้บรรลุธรรมถ้าให้น้ำมันออกจากสีรระร่างในลักษณะนี้ ถือว่าพระอาจารย์มอบพระธาตุไว้ให้บรรดาศิษย์เป็นที่ระลึกไว้บูชา น้อยมากที่จะมีกรณีนี้เกิดขึ้น)"

"เหตุการณ์นี้ดำเนินอยู่สองปีกว่าเกือบสามปี และผู้ดูแลก็นำผ้าซึ่งเปียกชุ่มน้ำมันจากสรีระของท่านเจ้าคุณโพธิ์แจ้งไปเผาทิ้งหมด ด้วยความไม่รู้ จนเมื่อพระมหาวัชราจารย์โซนัมริมโปเช พระลามะผู้มีความสัมพันธ์กับท่านเจ้าคุณโพธิ์แจ้ง ท่านเป็นหลานของท่านนอร่าริมโปเชผู้เป็นพระอาจารย์ของท่านเจ้าคุณโพธิ์แจ้ง ผู้ซึ่งกลุ่มศิษย์ผู้ดูแลสรีระของท่านเจ้าคุณโพธิ์แจ้งเชิญมาและกราบท่านเป็นพระอาจารย์มาหลายปีแล้ว ท่านมาประเทศไทยประจำทุกปี แต่ครั้งนี้มีกิจทำให้ท่านมาเมืองไทยเมื่อเกิดเหตุนี้แล้วเกือบสามปี"

"ท่านได้รู้เหตุการณ์นี้และได้บอกว่าการให้น้ำมันเช่นนี้ เป็นที่มหายินดีแก่บรรดาลูกศิษย์ของชาวพระอาจารย์ชาวทิเบต เพราะว่าพระอาจารย์ท่านได้มอบพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ของท่านให้หมู่ศิษย์ไว้เป็นที่ระลึก กรณีให้น้ำมันนี้จะไม่หยุดจนกว่าหมู่ศิษย์จะรู้เรื่องและเก็บน้ำมันนี้ไว้เป็นที่ระลึก และเมื่อรู้เรื่องแล้ว การให้น้ำมันก็จะหยุดลง และทุกอย่างก็เป็นไปตามนั้น"

"หลังจากที่ท่านวัชราจารย์โซนัมริมโปเช ท่านบอกกล่าวให้รู้ ในวันถัดมาน้ำมันก็ไม่ออกมาอีกเลย ผมได้เก็บน้ำมันพระธาตุนั้นไว้ และได้นำมาสร้างพระเครื่อง และบรรจุไว้ในพระบูชาที่ได้สร้างขึ้น นี่เป็นเหตุการณ์มหัศจรรย์หนึ่งในหลายเรื่องที่ได้เกิดขึ้นซึ่งได้ประสบมากันตนเอง"

การควบคุมร่างสังขาร จึงมิใช่เพื่อคงร่างให้เป็นนิรันดร์ แต่เพื่อมอบให้สานุศิษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลายได้สักการะบูชา เพื่อเป็นสิริมงคล ในฐานะพระธาตุอย่างหนึ่งนั่นเอง

และที่สำคัญ เพื่อเป็นมรณานุสติ และอสุภกรรมฐาน ให้เกิดญานเล็งเห็นว่า สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง
บันทึกการเข้า

sakol

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 242
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 st12 st12 st12
ไกลจัง ตั้งรัสเซีย ในเมืองไทย ไม่มี แบบนี้หรือคะ

 :25: :88:
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ

ปัญญสโก ภิกขุ

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 403
  • อริยสโก
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0


สังฆะสักขี
     อนิจจาเราตายเช่นกายนี้
หน่วงใยดีอะไรอย่างที่เห็น
หลงชื่นชมเขลาไปไม่บำเพ็ญ
กายบ่เป็นหนังบังเช่น “ดอร์โฌ”

                                                                            ธรรมธวัช.!


 st11           :67:           st12           :72:           st12           :25: 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 23, 2014, 01:34:44 am โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

บุญเอก

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 516
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 st11 st12 st12 st12

 ที่จริงในเมืองไทย ก็มีหลายองค์ นะครับ แต่เท่่าที่ทราบก็เป็น วัดจีน ซะเป็นส่วนใหญ่ ครับ

 :49:
บันทึกการเข้า
ทำงานอาสา หวังช่วยคนตกยาก แม้จะลำบาก แต่ก็จะทำโดยความไม่หนักใจ
อาสากตัญญู พัทยา ยินดีรับใช้

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ขออนุโมทนาสาธุ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

suwannasut

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 10
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า

อาราม นิวส์ FACEBOOK

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 133
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
หลวงพ่อโหพัฒน์ พระอริยะเจ้าอนัมนิกาย
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2014, 09:49:08 pm »
0
หลวงพ่อโหพัฒน์ (Hổ Phách) พระในคณะสงฆ์อนัมนิกาย เป็นชาวกาญจบุรีโดยกำเนิด เกิดเมื่อปีมะโรง พ.ศ.2447 ที่ต.วังขนาย อ.ท่าม่วง กาญจนบุรี



เมื่อเจริญวัยได้ 11 ปี จึงได้มาบวชเป็นสามเณรอยู่ที่วัดถารวรารามเมืองกาญจน์ เมื่ออายุครบ 20 ปี จึงได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดถาวรวราราม โดยมีหลวงพ่อเทียม เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้รับฉายาว่า "โหพัฒน์"

ต่อมาภายหลังท่านได้ย้ายไปอยู่ ณ วัดมงคลสมาคม ถนนแปลงนาม เขตสัมพันธวงศ์กรุงเทพฯ ขณะนั้นมีพระครูคณะบับสมณาจาร์ย (เหมิกโหงน) เป็นเจ้าอาวาสอยู่ เมื่อเจ้าอาวาสได้มรณภาพลงแล้ว พระอาจาร์ยโหพัฒน์จึงได้ย้ายไปอยู่ ณ วัดอุทัยบำรุง เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ

เมื่อมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 พ.ศ.2487 ท่านได้มาพำนักอยู่ ณ วัดถ้ำเขาน้อย อ.ท่าม่วง กาญจนบุรี ยุคเดียวกับพระอารย์ย๊ากเหมิง แต่ท่านอาจารย์โหพัฒน์ ได้อยู่ที่วัดถ้ำเขาน้อย ได้ระยะหนึ่งไม่นานนัก ท่านก็ได้ไปพำนักที่วัดสงฆ์จีน ทางภาคใต้ จังหวัดยะลา ต่อมาภายหลังได้กลับมาอยู่ที่โรงเจ "เข่งซิ่วตั๊ว" ตลาดท่าเรือ อ.ท่ามะกา กาญจนบุรี นับแต่นั้นก็บำเพ็ญภาวนาในสมณเพศเรื่อยมาจนมรณภาพ

ท่านเป็นพระที่เคร่งครัดในวินัย บำเพ็ญภาวนาเป็นนิจ ทั้งสวดมนต์ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จนเชื่อกันว่าท่านสำเร็จมีญานรู้เห็น มีตาทิพย์ หูทิพย์ รู้เห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ ทั้งยังช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้ผู้ตกทุกข์ได้ยาก จึงเป็นที่เคารพศรัทธาโดยทั่วไป

และยังมีเรื่องราวเหนือธรรมชาติอีกมากมายเกี่ยวกับท่าน เล่ากันว่า คุณวิเศษเหล่านี้เป็นผลมาจากการบำเพ็ญเพียรภาวนา ซึ่งท่านจะฉันอาหารเจวันละ 1 มื้อตอนเพล ถือศีลปฏิบัติธรรมในห้องเล็ก ๆ และไม่พูดจามากนัก หากจะติดต่อให้เขียนกระดาษสอดเข้าไปในกุฏิท่านเท่านั้น

หลังจากมรณะภาพได้ 7 วัน ปรากฎว่าสังขารท่านนุ่มนิ่มเหมือนยังมีชีวิต ศิษยานุศิษย์จึงนำร่างท่านไปเก็บรักษาไว้ เตรียมการฌาปนกิจต่อไป 3 ปี จึงทำพิธีเปิดโลงศพ ปรากฏว่าสภาพศพไม่เน่าเปื่อย ผิวเนื้อแห้ง ดวงตาเปิดเล็กน้อย มองดูเหมือนมีชีวิต อีกทั้งยังอยู่ในท่านั่งสมาธิมือพนมเหมือนเช่นเดิมเป็นที่น่าประหลาดใจ อันแสดงว่าท่านบรรลุมรรคผล

นอกจากนี้ ยังมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า การที่ท่านอยู่ในท่าพนมมือแสดงว่าท่านดับขันธ์ขณะภาวนา "นโม อมิตาภพุทธ" เป็นลักษณะการดับขันธ์ที่จะพบได้ยากยิ่ง เมื่อเห็นอัศจรรย์ดังนั้นแล้วคณะศิษยานุศิษย์จึงได้ทำการปิดทองร่างของท่าน แล้วนำไปประดิษฐาน ณ โรงเจเข่งซิ่วตั๊ว ต.ท่าเรือ อ.ท่ามะกา กาญจนบุรี ตราบจนปัจจุบัน
บันทึกการเข้า
.              ร่วมรณรงค์ รักษาศาสนา ไม่ส่งต่อ ข่าวเสีย พระสงฆ์ไทย   
                                     คงไว้ แต่ข่าวดี ๆ
ติดตาม ข่าวสารดี ๆ ของพระสงฆ์ไทย ได้ที่ "อาราม นิวส์" ข่าวพระ ได้ทางเฟสบุ๊ค

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ที่หินกอง สระบุรี ก็มีอีก ๑ องค์

     ที่นั่งสมาธิ เสียชีวิต

   ก็คือ......หลวงพ่อผินะ ปิยะธโร วัดสนมลาว

          ท่านเป็นศิษย์สายอาจารย์มั่น

      พระอาจารย์ของข้าพเจ้า บอกว่าถ้ามีโอกาสก็ให้ไปกราบ

          ข้าพเจ้าก็ไปมาสามรอบน่าจะได้

     ท่านนั่งสมาธิเสียชีวิต ก่อนตายสั่งลูกศิษย์ไว้ทั้งหมด

...........ไม่เน่าเปื่อย....เมื่อไวๆนี้มีการเปลี่ยนจีวร.....



    ข้าพเจ้าได้รับมาติดตัว คือเศษจีวรที่ตัดแบ่งกันมาเป็นชิ้นเล็กๆ

    ตอนนี้มีของ หลวงพ่อผินะ

                 กับของ หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน

                      สําหรับเรื่องการแบ่งจีวรที่เป็นเครื่องใช้ของพระอริยะเจ้าทั้งหลาย

                   เพื่อเอาไว้เป็นมงคลอยู่รอดปลอดภัย
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ขออนุโมทนาสาธุ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา