ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - ธัมมะวังโส
หน้า: 1 ... 121 122 [123] 124 125 ... 132
4881  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับหลวงปู่สุก ไก่เถื่อน / Re: พระประวัติสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร มหาเถรเจ้า (สุกไก่เถื่อน) เมื่อ: ตุลาคม 23, 2010, 05:14:08 pm
ประวัติหลวงปู่ เป็นไฟล์แนบ ต้องสมัครสมาชิก ถึงจะโหลดไฟล์ได้นะจ๊ะ

ไฟล์แนบนำมาจาก เว็บ สมเด็จสุก นะจ๊ะ

เป็นไฟล์ Pdf และ Doc มีความจุไม่สูง ดาวน์โหลดเร็ว แต่อ่านนานนะจ๊ะ เนื้อหามาก

อาตมาภาพ ก็อยากให้ทุกคนได้อ่าน โดยเฉพาะประวัติหลวงปู่ ซึ่งเรียบเรียงโดย พระครูสิทธิสังวร

เจริญพร

 ;)
4882  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / Re: เชิญร่วมปฏิบัติธรรม ๓๐ - ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ คณะ ๕ วัดราชสิทธาราม เมื่อ: ตุลาคม 23, 2010, 05:11:23 pm
ก็ใกล้ถึงวันแล้ว นะจ๊ะ
 ;)
4883  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: RDN ( Radio net online ) ทดสอบสถานีวิทยุ มัชฌิมา อาร์ดีเอ็น เมื่อ: ตุลาคม 23, 2010, 05:10:33 pm
ช่วงนี้ที่สถานี ก็มีปัญหา เรื่องกระแสไฟฟ้า บ่อยเหมือนกัน ดับแทบจะทุกวันนะ

ก็ได้ยินตอนไหนก็ปกติ นะจ๊ะ

 ;)
4884  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: ประกาศ เรืองแจก Email address ให้กับสมาชิก เมื่อ: ตุลาคม 23, 2010, 05:09:11 pm

 

 ก็อนุโมทนา ตามที่แจ้งไว้ นะจ๊ะสำหรับ Email ถ้าสมาชิกธรรมมาช่วยงานแล้ว ก็จะแจกให้ใช้นะจ๊ะ ไม่ได้แจก
 
 ไปโก้ ๆ นะจ๊ะ เพราะสามารถแจกได้ถึง 100 address
 
 เท่าที่อาตมาใช้งานมาตลอด ก็ใช้งานได้ดี มาก ๆ เพราะใช้แบบ Outlook express ,fire bird ,web mail
 
 ได้ด้วย จะพิจารณาผู้ที่จะรับ Email ต่อไปนะจ๊ะ
 
 เจริญพร
  ;)
4885  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: นามผู้สร้างหนังสือพระกรรมฐานห้อง ๔ เมื่อ: ตุลาคม 23, 2010, 04:59:40 pm


ตัวอย่างหนังสือ ปกหน้า และ ปกหลัง ยืนยันว่าพร้อมพิมพ์แล้วนะจ๊ะ

เกี่ยวกับปกนั้น พระอาจารย์ออกแบบใช้เวลา 4 วัน ปกหน้า 2 วัน และ ปกหลัง 2 วัน

มีปกที่ออกแบบออกมาหลายปก แต่ไม่สื่อความหมายที่ต้องการจึงเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา

กว่าจะลงตัว เพราะต้องการใส่ปริศนาธรรมลงไปที่ปกด้วย ไม่ใช่เพียงออกแบบให้เป็น

แต่สีสวย ๆ เท่านั้น นะจ๊ะ ฉบับนี้ใช้อักษร ลายมืออยู่ 3 แบบ เนื้อหาเดิมทีมีถึง 500 กว่าหน้า

แต่พระอาจารย์ตัดส่วนคำอธิบายออกหมดเพื่อให้เหลือ สิ่งที่ต้องการในหนังสือดังนั้นในหนังสือ

เล่มนี้จึงเหลือเพียง 80 หน้าเท่านั้น

ก็อนุโมทนากับผู้ร่วมบริจาคมา ก็จะทะยอยส่งหนังสือไปให้ตามชื่อที่บริจาคกันมา ถือว่า

มาร่วมแจกธรรมทาน ก่อนสิ้นปี กันนะจ๊ะ

เจริญพร

 ;)
4886  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: มหาปวารณา ( วันนี้เป็นวันออกพรรษา เป็นวันมหาปวารณา ) เมื่อ: ตุลาคม 23, 2010, 04:48:14 pm
วันมหาปวารณา แต่เดิมมีความสำคัญมาก ๆ เพราะเป็นวันที่พระเถระเปิดโอกาสให้พระผู้น้อยได้แสดงความคิดเห็น

โดยไม่มีโทษ เพราะอยู่ร่วมกันมาเป็นเวลา 3 เดือนก็ย่อมมีอะไรที่เก็บไว้ กันบ้าง การปวารณา ก็คือ การยินยอม

ให้อีกฝ่ายได้พูดคุย ในทางธรรมเพื่อความสงบ

ออกพรรษาแล้ว คนที่ละ เลิก มาได้แล้ว ก็ขอ ให้ละ เลิก กันต่อไปนะจ๊ะ

 ;)
4887  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ช่วยเหลือผู้ประสพภัย น้ำท่วม กับทีวีไทย เมื่อ: ตุลาคม 23, 2010, 04:42:50 pm
ส่วนการรับบริจาค ของ สระบุรีเฉพาะในตัวเมือง ก็สามารถไปบริจาคกันได้ที่ เต็นท์ชุมชนต่าง ๆ เลยนะจ๊ะ

ไม่ต้องเข้าไปบริจาคที่ กทม. หรอก ตอนนี้เห็นจะเดือดร้อนกันอยู่เรื่อง น้ำดื่ม อาหาร เพราะว่าเขตที่น้ำท่วม

นั้นเขาตัดไฟกันนะจ๊ะ หุงข้าวก็ไม่ได้ อย่างเช่นวัดบ้านอ้อย ท่านพระนิพนธ์ ก็บอกว่าตัดไฟฟ้า มา 1 อาทิตย์

แล้ว พวกโยมก็นึกเอาสิจ๊ะ ไม่มีไฟฟ้าใช้ แถมฟืนก็เปียก จะหุงข้าวกันอย่างไร ? ดังนั้นทางชุมชนต่าง ๆ เขา

จึงตั้งทีมทำอาหารกล่อง แจกผู้ประสพภัยกันอยู่

ในตัวเมืองสระบุีรี นั้นที่เห็นหนัก ๆ ก็เป็นเขตวัดเขาคูบา เพราะอยู่ติดเขื่อนชลประทาน จึงได้รับผลกระทบโดย

ตรง จุดที่สองก็เป็น วัดดาวเสด็จ ที่ชาวบ้านทำสวนผัก ชายคลองกัน อันนี้ตรงข้ามวัดบ้านอ้อย

ก็อนุโมทนา กับผู้ที่ไปช่วยเหลือ ด้วยกันทุกคนนะจ๊ะ

เจริญพร

 ;)
4888  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: สถานการณ์น้ำท่วม ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก (ทุกภาค ) เมื่อ: ตุลาคม 23, 2010, 04:37:45 pm
พระอาจารย์ ยกเลิก กิจนิมนต์ ที่ จว.ลำพูน และ ลำปาง ไปแล้ว เพราะเดินทางไม่สะดวก

และยังเป็นช่วงที่ประชาชนยังคงมีความทุกข์ในเรื่องประสพภัยน้ำท่วม

ตอนนี้ก็ รอฟังลูกศิษย์ จาก กทม. เขต ธนบุรี นนทบุรี แจ้งมาให้ทราบอยู่แต่ก็มีเมล์แจ้งมา

บ้างว่า ให้พระอาจารย์ เสกน้ำให้หาย ( คงจะพูดเล่น ) ทำไม่ได้หรอกนะจ๊ะ

ก็ขอให้ผ่านพ้นทุกข์นี้ โดยไวกันทุกคนทุกท่าน ที่ประสพภัยกันอยู่

เจริญพร
 ;)

4889  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: สถานการณ์น้ำท่วม ของสระบุรี เมื่อ: ตุลาคม 23, 2010, 04:34:51 pm
สถานการณ์ น่าเป็นห่วง เท่านที่ทราบมา แม้เพื่อน สหธรรม กับอาตมาก็ต้องอยู่ในวัด

ทำอะไรกันไม่ได้ สระบุรี ก็ประสพกับปัญหานี้หลายจุด ระัดับก็ยังคงสูงขึ้นทุกวันยังไม่ลด

ก็ ขอให้ผ่านพ้นเคราะห์กรรมนี้ โดยไวทุกท่าน ทุกคน

 ;)
4890  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: งานประเพณีออกพรรษา บั้งไฟพญานาค ประจำปี 2553 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2010, 04:32:53 pm
ปีนี้ก็ว่าจะไป แต่มาประสพปัญหาเรื่อง น้ำท่วมก็เลยระงับโปรแกรม

ไปหลาย ๆ ที่

ก็อนุโมทนากุศล กับทุกท่านที่ลงข้อมูลข่าวสาร งานบุญทุกท่านด้วย
 ;)
4891  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: เนสัชชิกธุดงค์ ทำอย่างไร ครับ เมื่อ: ตุลาคม 23, 2010, 04:17:06 pm
เนสัชชิกธุดงค์ คือ การขัดเกลากิเลสแบบหนึ่ง ที่ฝีนธรรมชาติ คือการนั่ง โดยไม่นอน ส่วนใหญ่พระเวลาฝึก

จะใช้ระยะเวลาเฉพาะช่วงหนึ่ง แต่บางรูปท่านก็สมาทานเป็นระยะเวลานาน บางรูปท่านก็สมาทานตลอดชีวิต

รูปไหนที่ทำได้นั้น ก็ขออนุโมทนาด้วย


แต่การฝึก เนสัชชิกธุดงค์นั้น มีผลต่อร่างกายพอสมควรโดยเฉพาะ ระบบของจักษุประสาท นั้นมีปัญหามาก

อาตมาเคยฝึกอยู่ 2 อาทิตย์ติดต่อ ไม่สามารถสะกดกลั้นน้ำตาได้ จะไหลออกตลอดเวลา จนเลิกฝึกไปเพราะ

ต้องหยุดพักรักษาตาที่อักเสบ อันนี้มีผลมากจริง ๆ แต่สมาธิทรงตัวดี สภาพกึ่งหลับ กึ่งตื่น จะมีในช่วง 7 วัน

แรก

  ในครั้งพุทธกาล ก็มีพระอรหันต์ใจเด็ด อย่างพระจักขุบาล ที่ปฏิบัติเนสัชชิก จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์

แต่ผลการปฏิบัตินั้น ทำให้ท่านตาบอด ดังนั้นถามว่าเป็น อัตตกิลมถานุโยคหรือป่าวนั้น ก็ขอตอบว่าไม่เป็น

ถามว่าเพราะอะไร ? เพราะว่า ถ้าผู้ใดปฏิบัติในอริยมรรค มีองค์ 8 มีสัมมาทิฏฐิ เป็นประธาน นั้นจัดว่ายัง

เป็นการปฏิบัติทางสายกลาง ถึงเป็นการทรมานตนอยู่บ้าง ก็จัดว่ายังบริสุทธิ์ในท่ามกลาง

   ดังนั้น ผู้ฝึกภาวนา สำหรับอาตมาแนะนำก็ปฏิบัติเป็นช่วง ๆ ดีกว่า ปฏิบัติตาม กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ

นั้นง่ายที่สุด แล้ว

  เจริญพร

  ;)
4892  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: นามผู้สร้างหนังสือพระกรรมฐานห้อง ๔ เมื่อ: ตุลาคม 23, 2010, 04:07:47 pm
อนุโมทนาด้วย ตอนนี้หนังสือก็พร้อมจะตีพิมพ์แล้ว

 :25:
4893  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง เมื่อ: ตุลาคม 12, 2010, 09:35:08 pm
ตามที่ โยม สมาชิกนาม total ได้ส่งเมล์ประวัติตนเองมาให้พระอาจารย์ เพื่อการพิสูจน์คุณธรรม

 คุณโยมพลศักดิ์ 

   ขอยืนยันว่าได้รับเมล์ นั้นแล้ว

 อยู่ที่พวกโยมตัดสินใจกัน นะจ๊ะ

 เจริญพร

 ;)
4894  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: หลักฐานต่างๆชี้ว่า: พระเยซูเป็นพระอรหันต์โพธิสัตว์พุทธมหายาน เมื่อ: ตุลาคม 12, 2010, 09:29:03 pm
อนุญาต ให้แปะลิงก์ ไปได้

เจริญพร
4895  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / Re: เชิญร่วมปฏิบัติธรรม ๓๐ - ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ คณะ ๕ วัดราชสิทธาราม เมื่อ: ตุลาคม 07, 2010, 08:32:55 am
ถ้าตามความคิดตอนนี้ ก็คือไม่ไป เนื่องจากมีปัจจัยจำกัดเดินทางมากไม่ได้

เจริญพรที่ถามถึง

 ;)

4896  เรื่องทั่วไป / IT สาระประโยชน์ชาวธรรม / Re: ประกาศหา เว็บมาสเตอร์ ดูแล ออกแบบ ห้อง เว็บ เมื่อ: ตุลาคม 07, 2010, 08:31:23 am
ลืมแจ้งไว้ว่า เป็นด้วยการอาสา นะจ๊ะ ไม่มีเงินเดือน ให้ใครใจรักที่อยากจะช่วยงานพระศาสนา

ธรรมทาน ก็เชิญนะจ๊ะ สอบถามกันมาเรื่องค่าแรงนั้น ไม่มีนะจ๊ะั

แต่ถ้าออกแบบดูแล้วเข้าท่า อาตมาจะหารางวัลให้นิดหน่อย เป็นกำลังใจ นะจ๊ะ

เจริญพร

 ;)
4897  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: การตรวจสอบ ว่าใครเป็นพระอรหันต์ มีวิธีการหรือป่าวคะ เมื่อ: ตุลาคม 07, 2010, 08:28:33 am
การตรวจสอบว่าเป็นพระอรหันต์ ที่วาทะ เรียกว่า ฉวิโสธนสูตร

หรือ โวหาร 4 ประการในสอบ พระอริยะ

 ใครว่าง ๆ นำเรื่องนี้โพสต์ด้วย


 เจริญพร

 ;)
4898  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: มิจฉัตตะ คืออะไรครับ เมื่อ: ตุลาคม 07, 2010, 08:27:06 am
มิจฉัตตะ ได้แก่ มีตนที่ผิด มิจฉ + อัตตะ ประพฤติตนผิด

   มี 8 ประการ

   1. มิจฉาทิฏฐิ ความเห็นผิด

   2. มิจฉาสังกัปปะ ความคิดผิด

   3. มิจจาวาจา การพูดจาผิด

   4. มิจฉากัมมันตะ การทำการงานผิด

   5. มิจจฉาอาชีิวะ การเลี้ยงชีวิตผิด

   6. มิจฉาวายามะ ความพากเพียรผิด

   7. มิจฉาสติ การระลึกผิด

   8. มิจฉาสมาธิ ความตั้งใจมั่นผิด

 มิจฉัตตะ 10

   9. มิจฉาญาณ คือได้ญาณผิด ความสำคัญด้วยทิฏฐิยังประกอบด้วยอัตตา เช่นได้ อิทธิวิธิญาณ และ

 หลงผิด ติดในญาณนั้น ไม่มี อาสวักขยญาณ

   10.มิจฉาวิมุตติ คือ ได้วิมุตติผิด ความสำคัญด้วยทิฏฐิยังประกอบด้วยอัตตาและมานะ เพียงพ้นชั่วขณะ

ทำให้เกิดความสำคัญมั่นหมายว่าพ้น เป็นต้น

 เจริญพรแต่เพียงเท่านี้

 ;)
 
4899  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: สุตามยญาณ เข้าใจง่าย ๆ อย่างไรครับ เมื่อ: ตุลาคม 07, 2010, 08:19:42 am
  การทรงจำธรรมที่ได้สดับมาว่า "ธรรมเหล่านี้ควรละ" ปัญญารู้ชัดธรรมที่ได้สดับมานั้น ชื่อว่า สุตมยญาณ

  สุตมยญาณ เป็นอย่างไร คือ

   ธรรม 1 อย่างที่ควรละ คือ อัสสมิมานะ ( ความถือตัวว่ามีอยู่ในอุปาทานขันธ์ 5 มีรูปเป็นต้น )

   ธรรม 2 อย่างที่ควรละ คือ อวิชชา 1  ภวตัณหา 1

   ธรรม 3 อย่างที่ควรละ คือ ตัณหา 3

   ธรรม 4 อย่างที่ควรละ คือ โอฆะ 4

   ธรรม 5 อย่างที่ควรละ คือ นิวรณ์ 5

   ธรรม 6 อย่างที่ควรละ คือ ตัณหา 6
 
   ธรรม 7 อย่างที่ควรละ คือ อนุสัย 7

   ธรรม 8 อย่างที่ควรละ คือ มิจฉัตตะ 8

   ธรรม 9 อย่างที่ควรละ คือ ธรรมที่มีตัณหาเป็นมูล 9
       
   ธรรม 10 อย่างที่ควรละ คือ  มิจฉัตตะ 10 


   การทรงจำธรรมที่ได้สดับมาว่า "ธรรมเหล่านี้ควรเจริญ" ปัญญารู้ัชัดธรรมที่ได้สดับมานั้น ชื่อว่า

 สุตมยญาณ เป็นอย่างไร คือ

   ธรรม 1 อย่างที่ควรเจริญ คือ กายคตาสติที่ประกอบด้วยความสำราญ

   ธรรม 2 อย่างที่ควรเจริญ คือ สมถะ 1 วิปัสสนา 1

   ธรรม 3 อย่างที่ควรเจริญ คือ  สมาธิ 3

   ธรรม 4 อย่างที่ควรเจริญ คือ  สติปัฏฐาน 4

   ธรรม 5 อย่างที่ควรเจริญ คือ  สัมมาสมาธิอันมีองค์ 5

   ธรรม 6 อย่างที่ควรเจริญ คือ อนุสสติฐาน 6

   ธรรม 7 อย่างที่ควรเจริญ คือ โพชฌงค์ 7

   ธรรม 8 อย่างที่ควรเจริญ คือ  อริยมรรคมีองค์ 8

   ธรรม 9 อย่างที่ควรเจริญ คือ ปาริสุทธิปธานิยังคะ 9

   ธรรม 10 อย่างที่ควรเจริญ คือ กสิณ 10


เจริญพรไว้แต่เพียงเท่านี้

 ;)




4900  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: การประหารกิเลส ในการภาวนา เป็นอย่างไรคะ ที่ว่าสิ้นสุด เมื่อ: ตุลาคม 07, 2010, 08:08:31 am
การประหารกิเลสได้ในภาษา กรรมฐาน นั้นเรียกว่า วิมุตติ คือ พ้น ให้ผลคือ หมดสังโยชน์ ตามลำดับชั้น

ซึ่งมีคำหลายคำที่ใช้ วิมุตติ บ้าง ปหาน บ้าง เป็นต้น

ในภาษากรรมฐาน นั้นมักจะใช้อยู่ 2 ความหมาย

 ถ้าใช้คำว่า ประหารกิเลส โดยตรงก็ใช้คำว่า ปหาน

 ปหาน ในบท 2 มีดังนี้

   1.สมุจเฉทปหานะ การละด้วยการตัดขาด จัดเป็นโลกุตตรมรรค

   2.ปฏิปัสสัทธิปหานะ การละด้วยการสงบระงับ จัดเป็นโลกุตตรผล


ปหาน ในบท 3 มีดังนี้

  1.เนกขัมมปหานะ เป็นเครื่องสลัดออกจากกาม

  2.อรูปฌาน  เป็นเครื่องสลัดออออรูปฌาน

  3.นิโรธ เป็นเครื่องสลัดออกจากสังขตธรรมที่เกิดขึ้นแล้วอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งอาศัยกันและกันเกิดขึ้น

ปหาน ในบท 4 ดังนี้

  1.เมื่อรู้แจ้งทุกขสัจ ด้วยการกำหนดรู้ ชื่อว่าย่อมละ ( กิเลสที่ควรละ )ได้

  2.เมือรู้แจ้งสมุทัยสัจจะด้วยการละ ชื่อว่าย่อมละ ( กิเลสที่ควรละ ) ได้

  3.เมื่อรู้แจ้งนิโรธสัจด้วยการทำให้แจ้ง ชืื่อว่าย่อมละ ( กิเลสที่ควรละ ) ได้

  4.เมื่อรูแจ้งมัคคสัจด้วยการเจริญ ชื่อว่าย่อมละ ( กิเลสที่ควรละ ) ได้


ปหาน ในบท 5 มีดังนี้

  1.วิกขัมภนปหานะ  การละด้วยการข่มไว้

  2.ตทังคปหานะ การละด้วยองค์นั้น เพียงแค่นั้น

  3.สมุจเฉทปหานะ การละด้วยการตัดขาด

  4.ปฏิปัสสัทธิปหานะ การละด้วยการสงบระงับ

  5.นิสสรณปหานะ การละด้วยการสลัดออก

 
   การละนิวรณ์ ด้วยการข่มไว้ ย่อมมีแก่บุคคลผู้เจริญปฐมฌาน

   การละทิฏฐิสังโยชน์ด้วยองค์นั้น ๆ ย่อมมีแก่บุคคละผู้เจริญสมาธิซึ่งเป็นส่วนแห่งการชำแรกกิเลส

   สมุจเฉทปหานะ เป็นโลกุตตรมรรค

   ปฏิปัสสัทธิหานะ เป็นโลกุตตรผล
   
   นิสสรณปหานะเป็นนิโรธ คือ พระนิพพาน


    อะไร เป็นสิ่งที่ ควรละ

    จักขุควรละ รูปควรละ จักขุวิญญาณควรละ จักขุสัมผัสควรละ สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรือ อทุกขมสุข

เวทนาที่เกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัยควรละ เป็นต้น

    พระโยคาวจรเมื่อเห็นรูป  ชื่อว่าย่อมละ ( กิเลสที่ควรละ )ได้ เมื่อเห็นเวทนา ( ขันธ์ 5) ชื่อว่าย่อมละ

 เมื่อเห็นจักขุ  ชื่อว่าย่อมละ เมื่อเห็น ชราและมรณะ ย่่อมละ เมื่อเห็นธรรมที่หยั่งลงสู่อมตะคือนิพพาน

 เพราะมีสภาวะเป็นที่สุด ชื่อว่าย่อมละ ธรรมใด ๆ ที่ละได้แล้ว ธรรมนั้น ๆ เป็นอันละได้แล้ว เป็นต้น


   เจริญพรแต่เพียงเท่านี้

   ;)
     


4901  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: อานาปานสติ ถ้าฝึกโดยตรง ควรเิริ่มอย่างไรครับ เมื่อ: ตุลาคม 07, 2010, 07:48:33 am
สำหรับคนที่ขึ้นกรรมฐาน มาแล้ว ฝึกห้่องพุทธานุสสติ อยู่ ไม่ควรเปลี่ยนกรรมฐาน ให้คงฝึกอย่างเดิม

เพราะถ้าฝึกแล้วจะเป็นอุปสรรค จะทำให้ฝึกยากขึ้น

ส่วนผู้ที่ยังไม่เคยขึ้นกรรมฐานนั้น ก็ลองฝึกตามเนื้อหา อานาปานสติสูตร

เจริญพร
 ;)
4902  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: เมื่อแสงสว่าง เจิดจ้า ในเบื้องหน้า เมื่อ: ตุลาคม 07, 2010, 07:45:12 am
เป็นคุณลักษณะของจิต ที่เริ่มเป็นสมาธิ ในส่วนพระรัศมี

แสงสว่างที่เกิดนั้นเรียกว่า โอภาส

ส่วนความเย็นยะเยือก ตัวแข็งเป็นต้นนั้น เป็นปีติส่วนพระลักษณะ

ภาพพระพุทธรูปบ้าง ภาพอื่น ๆ บ้างนั้นเป็น อุคคหนิมิืต ในส่วนที่มี และ หายไปนั้นจิตยังไม่ทรง เพราะ

วางบริกรรม คือ วิตก ไปสนใจกับอารมณ์ทั้งหลาย ทำให้จิตส่งออก เพลิดเพลินและดีใจ ก็ยังปฏิบัติผิด

แต่อาการที่มีนั้น ก็ถือว่าเป็นจุุดเริ่มต้นที่ดี

ที่เหลืออ่านทางเมล์ ในวิธีการแก้อารมณ์ เพราะไม่สามารถนำบรรยายบอกได้ในเว็บ

เจริญพร
 ;)
4903  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / อุปสรรค ที่แท้จริงในการเผยแผ่ กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ เมื่อ: ตุลาคม 05, 2010, 08:59:18 am
การเผยแผ่ กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ นั้นมีอุปสรรคดังนี้

  1.ชนทั้งหลายคิดว่า เป็นกรรมฐาน ใหม่ไม่เคยได้ยิน

  2.ผู้ได้ยินแล้วเมื่อฝึก ก็บอกว่ามีขั้นตอนยุ่งยาก เพราะชอบแบบง่าย ๆ

  3.ผู้ฝึกไม่ชอบขึ้นกรรมฐาน เพราะคิดว่าการขึ้นกรรมฐานเป็นการผูกมัดดังนั้นจึงมีผู้ปฏิเสธการขึ้นกรรมฐาน

  4.เมื่อฝึกกรรมฐาน ทราบว่าเพื่อนปฏิบัติไปขั้นนั้น ขั้นนี้แล้ว ก็เกิดความอยาก ตีเสมอ หรือชนะ จึงขอฝึก

    ขั้นอื่น ๆ ไม่สนใจในการภาวนาเพราะเกิดอุปกิเลส คือการแข่งดี

  5.ไม่เคารพ หรือ ปฏิบัติตามที่สอน

  6.ผู้ฝึก คาดหวังให้ผู้สอน นั้นดึงจิตของผู้ฝึกให้ไปสู่จุดสูงสุด หรือ ระดับใด ระดับหนึง

  4.เพราะคณะสงฆ์ ไม่สนับสนุนการปฏิบัติ

  5.มีจำนวนผู้สืบทอดน้อย

  6.มีสื่อ สำนัก ความเห็น มากมาย ล้วนแสดงความเห็นขัดแย้ง ในการส่งเสริมกรรมฐาน

  7.แสวงหากรรมฐาน ที่คิดว่าง่ายกว่า ไม่ยุ่งยาก

 เป็นปัญหาส่วนใหญ่ ที่เกิดมาจากประสพการณ์ การสอนที่ผ่านมา

 ;)
4904  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ความกำหนดธรรม มีวิธีกำหนดอย่างไรครับ เมื่อ: ตุลาคม 05, 2010, 08:48:34 am
มี 2 คำถามในนี้ คือถามวิธีแก้ความฟุ้งซ่าน

  และ ถามวิธีแก้ วิจิกิจฉา


      ความไม่ฟุ้งซ่าน ย่อม แก้ความฟุ้งซ่าน

      ความกำหนดในธรรม ย่อม แก้ความลังเลสงสัย


  ในอานาปานสตินั้น เมื่อจิตมีนิวรณ์เกิด คือความฟุ้งซ่าน ก็ กำหนดวางเฉยเสียในความฟุ้งซ่านนั้น

เช่นฟุ้งซ่านไปในอดีติ ฟุ้งซ่านไปในอนาคต ฟุ้งซ่านอยู่ในปัจจุบัน การกำหนดองค์ภาวนาต่อไปย่อทำไม่ได้

ต้องกลับมากำหนดอารมณ์แก้ความฟุ้ง ด้วยการรู้ตัวในความฟุ้ง ว่าขณะนี้เรากำลังฟุ้งซ่าน อยู่

 เมื่อรู้ตัวแล้ว ก็ให้กำหนดจิตวางเฉยเสีย การกำหนดให้วางนั้นมีวิธีการหลากหลาย แต่พอสรุปได้ดังนี้


   1.กำหนดตามดูจิต คือ เมื่อมีสติรู้แล้วว่าฟุ้ง ก็ให้ตามดูว่าจิตกำลังฟุ้งเรื่องอะไร เมื่อตามดูไปเรื่อยๆ จิตก็จัก

สงบเองเพราะมีสติคอยตามดู ก็จะสงบอีกพักหนึ่งจนกว่าจะกำเริบใหม่

   2.ส่งจิตไปยังพื้นฐานกรรมฐาน โดยการกำหนดจิตให้กับไปยังฐานจิตที่ภาวนา พร้อมบริกรรม เป็นวิธีในการ

ภาวนา กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ในส่วนพระพุทธานุสสติ

  3.กำหนดอิริยาบถ ร่วมด้วยเช่น ยกมือขึ้น ยกมือลง กำหนดสติติดตาม เป็นการเหนี่ยวนำสติ


  ความฟุ้งซ่าน เกิดจากการที่ขาดสติ เมื่อ ขาดสติ สัมปชัญญะก็ขาด เมื่อสติ สัมปชัญญะขาด เป้าหมายการ

ภาวนาทั้งหลายทั้งปวงก็ขาด ดังนั้นการแก้ความฟุ้งซ่านนั้น ต้องแก้่ด้วยการมีสติ เพราะผู้มี สติ  ย่อมทำ

ธรรมความไม่ฟุ้งซ่าน ให้เกิด ในอานาปานสติก็เป็นอย่างนี้




การแก้วิจิกิจฉา นั้น คือการกำหนดธรรม


คำว่า ธรรม ก็คือ องค์บริกรรมหัวข้อธรรม ( อย่าไปแตกความหมายให้มากในการภาวนา ) ความลังเล สงสัย

ย่อมมีได้เมื่อเราภาวนาไปสักระยะ เพราะยังเป็นบุคคลผู้อ่าน เป็นปุถุชนอยู่

   เมื่อภาวนา ย่อม สงสัยว่า จักได้ผลจริงหรือ ไม่ได้ผล

                              จักทำได้หรือ หรือ ทำไม่ได้

                              จัดทำต่อ หรือ จักหยุดทำ

                       ความสงสัย 6 ประการนี้ย่อมมีโดยธรรมชาติ

   ดังนั้นเมื่อจิตของเราตกภายใต้ ความลังเลสงสัย นั้น จึงต้ององค์ธรรม คือการ กำหนดธรรม ขึ้นมาแก้

  การกำหนดธรรมเป็นการสร้างกำลังใจให้กับผู้ฝึกที่ยังเป็นปุถุชน

     การกำหนดธรรมมีหลายแบบ แต่จะแนะแบบที่ได้ผลมากที่สุดคือ

           1.กำหนดว่า เรามีความแก่ เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้

           2.           เรามีความเจ็บ เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไปได้

           3.           เรามีความตาย เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้

           4.           พิจารณาปัจจัย 4 เพื่อการดำรงชีวิต

           5.           แผ่เมตตาให้ตนเองมีความสุข

  เพียง 5 ประการนี้เลือกประการใดประการหนึ่ง ก็ย่อมเป็นเครื่องกำหนดธรรม ทำให้มีกำลังใจในการภาวนา

ต่อไป

    วิสัชชนาแต่เพียงเท่านี้ก่อน

    เจริญพร

     ;)


4905  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: อาโลกสัญญา มีวิธีปฏิบัติอย่างไร ครับ เมื่อ: ตุลาคม 05, 2010, 08:29:55 am
เป็นคำถามที่ดีมาก ๆ สำหรับผู้ภาวนาที่ยังไม่ได้ อุปจาระฌาน ขึ้นไป

สิ่งที่เป็นศัตรูร้าย ในองค์กรรมฐาน ตัวหนึ่งก็คือ ความง่วง

   เราอยากภาวนา แต่ มันง่วง จะทำอย่างไร ?

   พอภาวนาไป ก็นั่งหลับเหมือนตกภวังค์ มารู้อีกทีกว่าหลับแล้ว ก็ตอนตื่น ?

ในองค์กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ นั้น ก็คือ กำหนด นิมิต ไม่ครบ 3 อย่าง

   คือ 1.ปัคคาหะ นิมิต การกำหนดฐานจิต

       2.บริกรรมนิมิต การกำหนดองค์ภาวนา

       3.อุเบกขานิมิต คือการกำหนดจิตให้วางต่อนามธรรม

 อันนี้เป็นไปในองค์ ภาวนาของพระพุทธานุสสติ ศิษย์กรรมฐานจักมีความเข้าใจ




ที่นี้สำหรับบุคคล ที่ไม่ได้ฝึกกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ

คือฝึกกรรมฐาน สันโดด กองใดกองหนี่งนั้น ก็ต้องประสพปัญหาอย่างนี้เช่นเดียวกัน

ดังนั้นเมื่อความง่วง ย่างกราบ เข้ามาหา วิธีการแก้ความง่วงของพระพุทธเจ้าที่ตรัสสอนพระโมคคัลลานะ

นั้นมี 8 ประการ ตั้งแต่ยอนหู ซ้าย ขวา จนกระทั่งไปจบที่ การนอนเสีย


ดังนั้นขอแนะนำผู้ฝึกภาวนามือใหม่ ( มือเก่า )นั้นเมื่อความง่วงเข้ามา วิธีดีที่สุดก็คือ การนอน

  นอนเสียเถิดกำหนดสติในการนอนว่า เมื่อมีสติตื่นขึ้น ข้าพเจ้าจะไม่นอนต่ออีก แล้วลุกไปเดินจงกรมออก

  กำลังกายให้กระชับก่อน

  จากนั้นมากำหนด ลมหายใจเข้า้ออก อัดนิ่ง ไว้

  เมื่อสภาพจิตพร้อมแล้วก็กำหนดในกรรมฐาน ต่อไป

  วิธีนี้เป็นวิีธีที่ได้ผลมากที่สุด



  ส่วนการกำหนด อาโลกสัญญา นั้นต้องมีพลังจิตแล้วจึงจักทำได้ บุคคลธรรมดานั้นไม่สามารถกำหนด

 อาโลกสัญญาได้ อาโลกสัญญา นั้น เป็นแสงสว่าง เป็นนิมิต เป็นรัศมี เป็นโอภาส

  ดังนั้นคนที่ง่วงอยู่ แล้วกำหนดว่า นี้คือกลางวัน ๆ ๆ ๆ อยู่แล้วภาวนาต่อนั้น ผลก็คือ ง่วงเหมือนเดิม


เจริญพรแต่เพียงเท่านี้ก่อนนะ

 ;)


   

   
4906  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ขอบคุณ "ที่คิดถึง" แต่การภาวนา "นั้นไม่เกี่ยว" เมื่อ: ตุลาคม 03, 2010, 09:04:00 am
เจริญพร อาตมาได้รับเมล จากท่านทั้งหลาย ในเรื่องความเป็นห่วงว่าพระอาจารย์อยู่ที่ไหน

เมื่อไรจะกลับ ปฏิบัติธรรม ไม่ก้าวหน้า เพราะอาจารย์ไม่อยู่ เป็นต้น



ก่อนอื่น ก็เจริญพร ขอบคุณที่ท่านทั้งหลายเป็นห่วง และคิดถึง กันทุกท่าน




แต่ขอให้ทุกท่านอย่าให้ความสำคัญ กับบุคคลเลย จงให้ความสำคัญกับธรรมะ

หรือ พระกรรมฐาน


พระอาจารย์ อยู่ ไม่อยู่ ก็ไม่ได้ทำให้ท่านปฏิบัติได้สำเร็จ หรอกนะจ๊ะ

หากแต่บุคคลจะสำเร็จ คุณธรรม ก็เพราะตัวพวกท่านทั้งหลายต้อง ภาวนา กันจริง ๆ


  บุคคล จะก้าวล่วงทุกข์ได้ เพราะความเพียร


ความเพียรในที่นี้หมายถึง

  1. ท่านทั้งหลายต้องละเลิกในสิ่งที่ไม่ดี หยุดกระทำในสิ่งที่ไม่ดี ว่างเว้นจากความเกียจคร้านในการภาวนา

อย่าหลงไปกับความประมาท ว่าพรุ่งนี้จักมีชีวิตอยู่ มีความหวังนั้นอยู่ พึงระวังสังวรไว้ว่า ชีวิตสิ้นนัก น้อยนัก

หากแต่เรายังมีเรี่ยวแรง ที่จะภาวนา อย่ามัวหลง อยู่ ในลาำภสักการะ ยศฐาบรรดาศักดิ์ หรือสุขอันเจือด้วย

อามิส และ สรรเสริญเยินยอให้หลง ให้จมอยู่ในโลก

  2. เมื่อท่านทั้งหลายละจากความไม่ดี สิ่งไม่ดี นั้นแล้ว ก็พึงระมัดระวัง อย่าให้ความไม่ดี สิ่งที่ไม่ดี เกิดขึ้น

อีก จงหมั่นสร้าง ทาน ให้ทาน จงรักษา ศีล มีศีล จงเป็นผู้ระมัดระวังกับสิ่งล่อให้ท่านทั้งหลายติดใจในกอง

ทุกข์ สังสารวัฏฏ์ อันเจือด้วยความโศรก ความอาดูล อาลัย

  3. หมั่นสร้างกุศล คือคุณงาม ความดีให้เกิดขึ้นไม่เกียจคร้านในการภาวนา ตั้งใจปฏิบัติในการภาวนา

ตามลำดับพระกรรมฐาน อย่ามัวเพลิดเพลินเรียนแต่ธรรมะ คืออรรถ และ พยัญชนะ จงหมั่นภาวนาด้วยใจ

ที่ศรัทธา เลื่อมใสต่อพระรัตนตรัย จงภาวนาเพื่อตัวท่าน และค้นหาตัวท่าน เพื่อการสิ้นสุดแห่งตน เพื่อความจาง

คลายกำหนัด เพื่อสละออก เพื่อสันติในภายใน เพื่อการสิ้นสุดแห่งพรหมจรรย์

  4. เมื่อการภาวนาที่ได้ผลแล้ว ก็เพิ่มพูนรักษาให้มีขึ้น ให้มากขึ้น จนถึงขอบเขตที่ท่านต้องการ หรือปณิธาน

 สูงสุดคือพระนิพพาน


ท่านทั้งหลาย ทำได้อย่างนี้ ก็ชื่อว่าท่านอยู่ใกล้ พระอาจารย์ มิได้อยู่ไกลจากพระอาจารย์

การคงอยู่ แห่งเนื้อหนังของพระอาจารย์ หามีประโยชน์อันใดไม่ ถ้าหากท่านทั้งหลายเพียงแต่เรียนกรรมฐาน

เพื่อไปเก็บอยู่ในสมุด และหนังสือ

การเรียนกรรมฐาน จักมีประโยชน์คณานับ หากท่านทั้งหลาย ปฏิบัติภาวนา จริง ๆ เหมือนตอนที่พระอาจารย์

นั่งอยู่กับท่านทั้งหลาย






ดังนั้นโปรดอย่าให้ความสำคัญกับเนื้อหนัง ของพระอาจารย์

จงให้ความสำคัญ กับพระกรรมฐาน ของพระบรมศาสดาเถิด และ จงหมั่นภาวนา ให้มากขึ้น

อย่าประมาท จงเรียนธรรมด้วยความเคารพ จงภาวนาธรรมด้วยความศรัทธา จงสัมปยุติด้วยสมาธิ

จงละตนเองด้วยการมองเห็นตามความเป็นจริง จงทำที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งหลายให้สิ้น ด้วยตัวท่านเถิด



เจริญพร
 ;)
4907  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: อนุโมทนา กับ ผู้บริจาคร่วมโครงการ RDN ( เรดิโอเน็ต ) เมื่อ: ตุลาคม 03, 2010, 08:39:39 am
เจริญพร ตัวไม่เล็กหรอกถ้าสนใจอ่าน

ทำตัวใหญ่มาก เดี๋ยวว่าพระอาจารย์เจตนาบอกบุญ

เพราะกันไว้สำหรับคนที่ชอบพูดว่า ไม่ได้แจ้งบอกไว้

เจริญพร

 ;)
4908  เรื่องทั่วไป / IT สาระประโยชน์ชาวธรรม / ประกาศหา เว็บมาสเตอร์ ดูแล ออกแบบ ห้อง เว็บ เมื่อ: ตุลาคม 03, 2010, 08:34:52 am
เนื่องด้วย ในขณะนี้ ทาง www.madchima.org นั้นจะมีอายุครบ 1 ปี แล้ว

เนื้อที่ส่วน hosting ยังมีำพื้นที่เหลือมาก

ประกอบกับ ขณะนี้เว็บ มีเด็กเข้ามาใช้งาน ไม่ต่ำกว่า 100 กว่าคนซึ่งมีตั้งแต่ ระดับประถม และ มัธยม

สรุปจากเมล์ ที่ส่งมา


อาตมา จึงคิดว่าจักแยกเว็บให้เด็กไป ต่างหาก จึงคิดจะทำ Domain สำหรับเด็ก ต่างหาก

เพื่อไม่ให้สับสนกับข้อความ บางคำถาม และรักษาเนื้อหา จุดประสงค์ของพระกรรมฐาน

ดังนั้นจึง ขอความเห็น จากสมาชิกช่วยกันแสดงความคิดเห็นกันในที่นี้ด้วย


เจริญพร

 ;)
4909  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / Re: เชิญร่วมปฏิบัติธรรม ๓๐ - ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ คณะ ๕ วัดราชสิทธาราม เมื่อ: ตุลาคม 01, 2010, 08:29:52 am
อนุโมทนา กุศลด้วย

 ;)
4910  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: คุณธรรม หมวด 2 เบื้องต้น ใช้กันถึง เืบื้องปลาย เมื่อ: ตุลาคม 01, 2010, 08:28:57 am
อนุโมทนา ด้วยกับคุณโยม กิติศักดิ์ ดูแลสุขภาพด้วยนะ

อาตมาไม่ได้จับหนังสือ นวโกวาท มาเป็นปีแล้ว ยิ่งไม่รู้ว่าปัจจุบัน มีหลายปก หลายสำนักพิมพ์

คุณธรรมพื้นฐาน เป็น คุณธรรมรากฐาน จริง ๆ

เจริญพร

 ;)
4911  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: เงิน และ ทอง เครื่องประดับ เป็นดั่งเช่นอสรพิษ เมื่อ: ตุลาคม 01, 2010, 08:27:19 am
พิจารณา ความจริง ดังนี้

    1.การที่พระพุทธเจ้า สอนเรื่องการไม่รับเงิน ไม่รับทอง ของมีค่า ของพระนั้น เพื่อให้ปลอดภัย

        จากข้าศึก 1.โจร 2.ราชา 3.คหบดี 4.โสเภณี 5.กิเลส

        ในพระวินัย ก็มีทั้งข้อห้าม และ ทั้งข้ออนุญาต ( พึงศึกษาทั้ง 2 ประการ )

        การรับเงิน และ ทอง พระพุทธเจ้า ปรับอาบัติแค่ ปาจิตตีย์ มิได้ขาดจากความเป็นพระ เป็นอาบัติเบา

    2. วัตถุทุกอย่าง ที่มีคุณและโทษ เป็นของกลาง ๆ ไม่ดี และ ไม่ชั่ว

        ยกตัวอย่าง ก้อนหิน ดี หรือ ชั่ว ตอบไม่ได้ เพราะเป็นกลาง

             ถ้านำไปปาหัวคน ก้อนหินก็ยังเป็นก้อนหิน คนที่ปาเป็นคนชั่วต่างหาก

             ถ้านำไปสร้างเขื่อน ก้อนหินก็ยังเป็นก้อนหิน คนที่สร้างเขื่อนเป็นคนดีต่างหาก



ที่เหลือ ให้ผู้อื่นตอบบ้าง นะจ๊ะ

เจริญพร

 ;)
4912  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: นิมิต ที่เกิดในธรรม เมื่อ: ตุลาคม 01, 2010, 08:18:29 am
หลัีกการ พิจารณาวิปัสสนา สัมปยุตธาตุ เมื่อจิตเป็นสมาธิระดับหนึ่ง

   1. ความจริง ของธาตุ  คือ อะไร ? เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ( เข้า ออก ) ( สัจจะญาณ )

   2. ธาตุ มีคุณ มีโทษ อย่างไร ? ( กตญาณ )

   3. ธาตุ ใช่เรา เป็นเรา เป็นตัว เป็นตนของ เรา หรือ ไม่ ?( กิจจญาณ )

เจริญพร
4913  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ถามเรื่องการเดินจงกรม คะ เมื่อ: ตุลาคม 01, 2010, 08:13:25 am
ถ้า ต้องการที่ไป ที่มา ไว้มาคุยเป็นการส่วนตัว เนื่องด้วย พระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับนั้น

มีข้อแม้ ศิษย์ต้องขึ้นกรรมฐาน เรียนกรรมฐานในระบบ ครู กับ ศิษย์ ไม่ใช่เป็นแบบ นึกจะเรียน

ก็เรียนได้ ( เป็นเหตุผลหนึ่งที่พระกรรมฐาน เสื่อมเพราะหาผู้สืบทอดได้ไม่มาก )

ศึกษาเพียงเพื่อปฏิบัติ ก็จบตรงที่บอกแล้ว สำหรับผู้ที่ไม่ไ้ด้ขึ้นกรรมฐาน นับว่ากรุณามากแล้ว

เหตุผล กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ จะไม่สอนแบบปริยัติ ถ้าผู้ปฏิบัติในขั้น 1ก็ไม่ได้ ก็จะไม่สอนเพิ่ม

เพราะสอนต่อไปก็ทำไม่ได้ ทำให้ผู้ฝึก ที่ไม่ตั้งใจจริง ถอดใจและเลิกราการฝึก ตั้งแต่สอนมา มีคนบอกเลิก

ก็มาก มีคนหายไปก็เยอะ มีผู้ปฏิบัติได้ ถึง ห้อง 4 ก็มีมาก ดังนั้นถ้าวัดจำนวนคนก็ไม่ได้

   การบรรลุธรรม เหตุึผลหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็คือการสั่งสมบารมีมาด้วย อันนี้สำคัญ ถึงพระอาจารย์จัก

กล่าวให้กำลังใจว่า ไม่ต้องคิดว่าบารมีน้อย จักสำเร็จไม่ได้ ความเป็นจริงก็คือ ให้เธอสร้างบารมีใหม่ในตอนนี้

ซึ่งอาจจะเต็มได้ในตอนนี้ หรือ สั่งสมไว้ก็ได้ ( นี่คือความจริง )

   ดังนั้น พระอาจารย์ สอนในแนวปฏิบัติ นะจ๊ะ ถ้าสอนปริยัตินั่งพิมพ์ มา 5 เดือนแล้วยังไม่เสร็จเลย

เจริญพรให้เข้าใจ

  ;)
4914  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ถ้าเราปฏิบัติ พระกรรมฐาน โดยไม่อธิษฐาน กรรมฐาน ได้หรือป่าวคะ เมื่อ: ตุลาคม 01, 2010, 08:05:13 am
อ้างถึง
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายพึงชี้แจง (คลี่คลาย)  เรื่องที่ไม่เป็นจริง ให้เห็นว่าไม่เป็นจริง  ในข้อที่คนเหล่าอื่นกล่าวติเตียนเรา ติเตียนพระธรรม หรือติเตียนพระสงฆ์  ให้เขาเห็นว่าข้อนั้นไม่จริง ข้อนั้นไม่แท้ ข้อนั้นไม่มีในพวกเรา  ข้อนั้นไม่ปรากฏในพวกเรา ดังนี้.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย  ท่านทั้งหลายพึงรับรองเรื่องที่เป็นจริง ให้เห็นว่าเป็นจริง  ในข้อที่คนเหล่าอื่นกล่าวชมเชยเรา ชมเชยพระธรรม หรือชมเชยพระสงฆ์  ให้เขาเห็นว่าข้อนั้นจริง ข้อนั้นแท้ ข้อนั้นมีในพวกเรา  ข้อนั้นปรากฏในพวกเรา ดังนี้."

ตอนนี้ลูกศิษย์ พระอาจารย์วางอุเบกขา แล้วให้พระอาจารย์พูดแก้ต่างด้วยตนเองเป็นส่วนใหญ่

ซึ่งการแก้ต่าง ( การแก้ตัว ) ไม่ได้เป็นวิสัยของพระอาจารย์ทีพึงกระทำ ลูกศิษย์ส่วนใหญ่ขาดในช่วงท้าย

ของพระพุทธองค์ คือการร่วมกันชี้แจงความจริง หรือชี้แจงความจริงในขณะนั้น เพราะวางเฉยกันไว้เรื่องจึง

บานปลาย เพราะการนิ่งของอุบาสก อุบาสิกาในพระพุทธศาสนา เป็นได้ 3 อย่าง คือ 1 ยอมรับ

2 ไม่ยอมรับ 3 ไม่อยากยุ่ง  ส่วนการนิ่งของพระสงฆ์ เป็นได้อย่างเดียว ก็คือ การยอมรับ

  การโต้ตอบในธรรม ไม่ใช่ การขุ่นเคือง การโ้ต้วาทะในธรรม เป็นการฝึกใจประการหนึ่ง

  ในธิเบต พระธิเบต จะใช้วิธีการปุจฉา วิสัชชนา โดยสวมท่าทาง มีการฟาดมือ กระทืบเท้า เพื่อให้พระนั้น

เคยชินกับการถูกวาทะ เป็นการฝึกยับยั้งใจ ไม่ให้โกรธเคือง ชิงชัง เคียดแค้น ผู้กล่าววาจา


  ท่านทั้งหลาย อ่านแล้วอาจจะมองเห็นดี ว่าเป็นตามนั้น แต่ความจริงวิธีการนี้ ใช้ไม่ได้ ( เพราะเคยได้คุยกับ

พระธิเบตที่เป็นคนไทยมาแล้ว  4 ท่าน ) ยังควบคุมไม่ได้ ผ่านการฝึกฝนมา 4 ปี


  เหตุผล เพราะการฝึกอย่างนี้ ไม่ใช่วิถีพุทธแท้

  การฝึก ปุจฉา วิสัชชนา จักได้ผลในครั้งแรก แต่เมื่อกระทำบ่อย ก็เป็นการแสดง ถึงจะเปลี่ยนบุคคล ใจของ

ผู้ฝึกก็รู้ว่า เป็นเพียงการแสดง การทำอย่างนี้นาน ๆ เข้า ก็เข้ากับคำไทยว่า สัปเหร่อชินผี คือสัปเหร่อ ไม่กลัวผี

ที่จริงไม่ใช่ หรือ หมอคุ้นเคย กับ ศพ ไม่ใช่หมอไม่กลัว ผี ( ท่านทั้งหลายอ่านก็น่าจะเข้าใจ ตรงส่วนนี้ )


  การฝึกจริงในประเทศไทย จึงไม่ฝึกแบบนั้น พระไทยจึงฝึกตั้งมั่น ในศีล สมาธิ และ ปัญญา

  โดยเฉพาะสมาธิ จะต้องฝึกมากกว่า เพราะมีอุปการะมาก จักทำให้ใจ มองเห็นตามความเป็นจริงได้(ปัญญา)


  สรุปท่านทั้งหลาย จงสนทนาธรรม ตอบโต้กันด้วยธรรม เพียงเพื่อขจัดกิเลส เถิด อย่าทำเพื่อประการอื่น


 



 ถามว่า ทำไม พระอาจารย์ ทำไมกล่าวที่ไปที่มา ให้ชัดเจน

    ตอบว่า ไม่มีความจำเป็น

 ถามว่า เพราะเหตุไร ?

    ตอบว่า กรรมฐาน ที่สอนเป็นแนวปฏิบัติ มีไว้เพื่อดับกิเลส คือ เวทนา

         อุปมาเหมือน คนป่วย ปวดหัว เราก็หยิบยา แก้ปวดหัว ให้ทาน คนป่วยก็ทาน

         ความเป็นจริง ก็คือ คนป่วยจริง ไม่เรื่องมากถ้าผู้หยิบยา น่าเชื่อถือ

           คงไม่ถามว่า ยาอะไร ใครผลิต หมดอายุวันไหน มาจากที่ไหน มีสูตรอย่างไร

 ถามว่า แล้วถ้าต้องการคำตอบ ในเรื่องรายละเอียดที่มาที่ไป

    ตอบว่า โปรดเข้าศึกษาที่วัดราชสิทธาราม คณะ 5 หรือ หาหนังสือ เกี่ยวกับพระกรรมฐาน

           หรือ ไปที่ฐานข้อมูลพระกรรมฐาน ซึ่งมีไฟล์รายละเอียดมากมาย จนท่านอาจจะไม่อ่านกันเลย

         คำตอบก็คือ คำถาม ที่พระอาจารย์ให้ไว้แล้ว ดังนั้นท่านต้องการรอบรู้เรื่องกรรมฐาน ก็ให้อ่านทุก

         กระทู้ที่เข้ามา

            ถ้าต้องการภาวนาเพื่อ ขจัดกิเลส ก็ทำตามที่สอน ซะนะจ๊ะ

  เจริญพร เพื่อสันติภาพของโลก

   ;)

4915  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: จริงหรือคะ ถ้าเราไม่มีพระพุทธรูป แล้วพระพุทธศาสนาจักมีอายุถึง 5000 ปี เมื่อ: ตุลาคม 01, 2010, 07:37:28 am
เรื่องนี้เป็นเรื่อง หมิ่นเหม่ ต่อศรัทธา พึงระมัด ระวัง ทั้งคนที่ตอบ และ คนที่ถาม

การจะตอบเรื่องนี้ได้ ไม่ใช่แต่ต้องมี สัมมาทิฏฐิเท่านั้น ต้องมี ทัศนะที่กว้างไกล

ลักษณะคำถาม คล้ายกับการทูลขอของพระเทวฑัต  3 ข้อ

  อย่างไรเสีย ทุกคนช่วยอ้างอิงการขอพร 3 ข้อ ของพพระเทวฑัต หน่อย

  ;)
4916  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: อยากอ่านเรื่อง อุบาสิกา ที่บรรลุเป็นพระอนาคามี คะ เมื่อ: ตุลาคม 01, 2010, 07:34:50 am
อ้างถึง
แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ พระอาจารย์ จึงไม่ตอบเอง หรือ มีเหตุผลอื่นที่พระอาจารย์ ไม่ค่อยจะตอบกระทู้

พระอาจารย์ไม่มีเวลามานั่งพิมพ์ มากนะจ๊ะ อีกอย่างถ้าตอบหมดนั้น เป็นเรื่องลำบาก ทำให้ศิษย์ขาด ธรรมวิจยะ
ดังนั้น จึงไม่ได้ตอบ อีกอย่างปัญหา มีมากมาย ก็จริงอยู่

แต่ที่พระอาจารย์จะตอบจริง ๆ ต้องเป็นปัญหาที่ ขจัดกิเลส และทุกข์

ไม่ได้ตั้งคำถามแต่เพียงว่า แค่ได้ให้รับคำตอบ นะจ๊ะ

วันนี้วันธรรมมัสสวนะ เจริญธรรม กันมาก ๆ นะจ๊ะ

 ;)
4917  เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / พ้นจากอบายภูมิ 4 ด้วย พระพุทธานุสสติ เมื่อ: กันยายน 28, 2010, 08:11:07 am
พระพุทธานุสสติ นั้น เป็นกรรมฐาน รากฐาน

เพราะเป็นกรรมฐานที่เชื่อมั่น ศรัทธา เลื่อมใสในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ผู้ใดใคร่พ้นจาก อบายภูมิทั้ง 4 อันมี เปตร สัตว์นรก ดิรัจฉาน และ อสุรกาย

พึงรีบเร่งขวนขวายในพระพุทธานุสสติ ให้มากขึ้น

พระพุทธานุสสติ เป็นอารักขกรรมฐาน ด้วยดังนั้น

ผู้ฝึก หวังพ้น จากอบาย พึงหมั่นภาวนา

เจริญพร

 ;)
4918  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / นิมิต ที่เกิดในธรรม เมื่อ: กันยายน 28, 2010, 08:06:48 am
จากประสพการณ์ ภาวนา มาจุดหนึ่ง มีนิมิตเกิดในขณะสัมปยุตธาตุ ( ไม่ได้มีเหมือนกันทุกคน )

  พระพุทธเจ้าเปิดบารมีให้เห็นธรรม นำจิตของเราไปด้วยอักขระ 

  ตัวอักขระ นะ ปรากฏที่ข้อมือ นำจิตเข้าไปในเส้นเอ็น จนเห็นกระดูก ของตนเอง กลวงโบ๋

   ครั้นทราบการชี้นำ จิตจึงเจริญวิปัสสนาตาม ความประสงค์ของพระพุทธเจ้า พิจารณาสัมปยุตธรรมลงไป

  ในเอ็น และ กระดูก ด้วยสมาธิในขณะนั้น จิตเป็นสมาธิแล้ว จึงรู้เห็น แจ้งชัด ตามความเป็นจริง

  ทำการสัมปยุต ธาตุดิน แจ่มชัด ว่า นี้คือ เอ็น และ กระดูก อันชื่อว่าเป็น กาย ของเรา เป็นตัว เป็นตนของ

เรา แต่เราหาควบคุมดูกายนี้ได้ไม่ เอ็น และ กระดูก นี้จึง ว่างเปล่าจากเรา จากของเรา จากตัว จากตนของเรา

แม้จิตนี้ ก็ไม่ครอบครอง จากสิ่งที่ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา จนเอ็น และ กระดูก เห็นเด่นชัด

ว่า ไม่ได้เกิดจากเรา จากตัว จากตนของเรา เป็นเพียงธาตุที่เกิดขึ้น เป็นเพียงธาตุที่ตั้งอยู่ เป็นเพียงธาตุที่ดับ

ไม่อยู่ในการบังคับบัญชาของเรา จึงไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เป็นสักว่าูธาตุ ตามธรรมชาติ

  แม้ปัจจัยภายนอก อันประกอบด้วยปัจจัย 4 ทั้งหลาย ก็กลายเป็นของน่าเกลียด น่าชัง ร่วมไปกับธาตุ นี้

ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาให้งาม ให้สวย บังเกิดขึ้นเป็นความเสื่อม เพราะธาตุ นี้

 เอ็น และ กระดูก นี้จึงไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตนของเรา ไม่ควรยึดมั่น ถือมั่นว่าเป็น ตัวตน

ของเรา เพราะว่างเปล่าจากความหมายแห่งความเป็ํนตัว เป็นตน เป็นเราเป็นของเรา ไม่อยู่ในอำนาจแห่งเรา

แม้กาย ทั้งหมดนี้ ก็เช่นกัน เป็นแต่เพียงสักว่า กาย หาได้เป็นเรา เพราะกายนี้ก็เกิดขี้น ตั้งอยู่ และดับไป เช่น

กัน แม่ชีวิตนี้ ก็ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตนของเรา อันไม่ควรเข้าไปยึดมั่น ถือมั่นด้วยใจ

อย่างนี้


เจริญพร
 ;)
4919  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ประเทศไทย มีพระกรรมฐาน ที่เก่ง ๆ หรือป่าวครับ ? เมื่อ: กันยายน 28, 2010, 07:51:52 am
เจริญพร ที่ทุกท่านถามถึงกัน ทั้งในเว็บและ เมล มากัน

พระอาจารย์ก็ลึกลับจริง ๆ เพราะต้องการเว้นวรรค งานพระศาสนา ที่เป็นกิจของพระิอริยะ

หันมาทำงานพระศาสนา ของพระโยคาวจร คือ พิจารณาตนเอง ภาวนาที่ตนเอง

ในช่วงที่พระอาจารย์ไม่ได้อยู่วัด นั้นถึงจะลำบากบ้าง เช่นเรื่องการฉัน ก็ฉันตามมีตามได้ ตามปัจจัยจะอำนวย

ไม่ยุ่งกับกิจนิมนต์ทั้งหลาย อยู่แบบพระในเขตจำกัด เพื่อสละความเป็นเรา เป็นของเรา เป็นตัวเป็นตนของเรา

นับว่าเป็นช่วงที่ พระอาจารย์บอกได้ว่า มีความสงบทางจิตได้ดีมาก

  เพราะใจได้วาง เรื่องทั้งหลาย ที่ไม่ควรแบก

  เพราะใจถึงความสงบ ภายใน อันเป็นแก่นสารที่แท้จริง

  เพราะมองเห็นสาระ ในความเป็นสาระ

  ทุกวันนี้จึงเข้าใจว่า ทำไมพระภาวนาที่ได้ผลการภาวนาดี ท่านไม่ค่อยอยู่ในเมือง หรือ คลุกคลีด้วยหมู่คณะ

  เพราะว่า ภาระทั้งหลายนั้นถูกปลด ใจก็ปลดและวางในภาระ

  ยศ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา ว่างเปล่าจากความหมายแห่งความเป็นตัว เป็นตน เป็นเรา

 เป็นของเรา

  ลาภ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา ว่างเปล่าจากความหมายแห่งความเป็นตัว เป็นตน เป็นเรา
 
  เป็นของเรา

  สุข  ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา ว่างเปล่าจากความหมายแห่งความเป็นตัว เป็นตน เป็นเรา
 
  เป็นของเรา

  สรรเสริญ  ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา ว่างเปล่าจากความหมายแห่งความเป็นตัว เป็นตน

เป็นเราเป็นของเรา

  กาย   ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา ว่างเปล่าจากความหมายแห่งความเป็นตัว เป็นตน เป็นเรา
 
  เป็นของเรา

  จิต ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา ว่างเปล่าจากความหมายแห่งความเป็นตัว เป็นตน เป็นเรา
 
  เป็นของเรา

  ลมหายใจ ก็สักว่า ลมหายใจ ว่างเปล่าจากเรา

  สิ่งที่เป็นภายใน ก็สักว่า สิ่งที่เป็นภายใน ว่างเปล่าจากเรา

  สิ่งที่เป็นภายนอก ก็สักว่า สิ่งที่เป็นภายนอก ว่างเปล่าจากเรา

  สิ่งทีเป็นของหยาบ ของกลาง ของละเอียด ทังหมดนั้น พึ่งเห็นว่า ก็เป็นแต่เพียงสักว่า ว่างเปล่าจากเรา


  ถ้าท่านทั้งหลาย เข้าใจในสิ่งที่พระอาจารย์ แสดงไว้ ก็ขออนุโมทนา ถึงจะไม่เข้าใจ ก็ควรจะอนุโมทนาด้วย

อยู่ดี

   เจริญพรไว้แต่เพียงเท่านี้

   ;)
4920  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: อานาปานสติ ปฏิสัมภิทามรรค เพื่อการภาวนา เมื่อ: กันยายน 28, 2010, 07:34:56 am
มีเมล์เข้ามาถามเนื้อหา ของอานาปานสติ ปฏิสัมภิทา กันพอสมควร
 
 เพื่อความสะดวก พระอาจารย์จัก ให้ดาวน์โหลดเนื้อหา พระสูตรที่เรียบเรียงไว้เบื้องต้น
 
 ช่วงนี้ไม่ค่อยจะมานั่งอ่านหรือนั่งพิมพ์อะไร เพราะว่ากำลังเข้ากรรมฐาน ถือโอกาสช่วงเช้านี้แล้ว
 
 ก็เลยทะยอยตอบคำถามบ้าง ดังนั้นขอให้ดาวน์โหลดตรงส่วนนี้เลย
หน้า: 1 ... 121 122 [123] 124 125 ... 132