ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - tcarisa
หน้า: 1 ... 5 6 [7] 8 9 ... 13
241  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / http://www.watumong.org/ วัดอุโมงค์ เชียงใหม่ เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2011, 12:48:19 pm


เป็นวัดที่เคยได้พบสามเณรยื่นหนังสือ คู่มือมนุษย์ ให้คะ

วัดนี้เป็นแนวสวนโมกขพลาราม และ วัดชลประทานรังสฤษดิ์ นะคะ

2 ขุนทัพทางธรรม สายปัญญา คะ

หลวงพ่อพุทธทาส และ หลวงพ่อปัญญานันทะ คะ

 :25:

242  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: คุณคิดอย่างไร ถ้ามีคนกำลังพูดถึง คนที่คุณเคารพในแง่ที่ไม่ดี เมื่อ: พฤษภาคม 07, 2011, 08:55:26 pm
เพิ่มแนวความคิดสักนิดได้หรือไม่คะ

  วันนี้อะไรอาจจะไปติดที่บุคคล กันแล้วก็ได้นะคะ เรื่องอื่นไม่ขอวิจารณ์ แต่ขอวิจารณ์เรื่องเกี่ยวกับพระสงฆ์ ตามที่ จขกท. เริ่มต้นไว้นะคะ ทุกวันนี้แม้เราจะรู้ว่า อะไรดี อะไรชอบ อะไรถูก อะไรควร แต่บางครั้งหัวใจของเราเองก็มักจะโต้กลับด้วยความไม่ชอบใจบางประการ เช่น เราอาจจะมองเห็นว่า พระรูปนี้สอนดี ปฏิบัติดี แต่เรากลับไม่ชอบท่านเพราะมีความรังเกียจที่บุคคล บางคนอาจจะรังเกียจที่ตระกูล ว่ายากจน เรียนน้อย พรรษาน้อย วัยวุฒิไม่ได้ เป็นต้น ซึ่งไปมองที่ตัวตนอันเป็นบุคคล ซึ่งไม่ใช่มองที่คุณธรรม การปฏิบัติ เหมือนทุกวันนี้ถ้าบอกว่า พระพรรษาน้อยปฏิบัติได้ พระพรรษามาก ๆ แทนที่จะอนุโมทนา กับรังเกียจ ว่าเป็นไปได้หรือ สิ่งเหล่านี้ชี้ชัดว่า คนในยุคนี้ไม่เชื่อว่ามีพระปฏิบัติได้จริง ๆ ถ้าจะเชื่อจริง ๆ ก็ต้องให้พระรูปนั้นเป็นที่เคารพนับถือจากคนทั้งปวงก่อน โดยวัดปริมาณจากการที่คนเข้าไปหาท่านอย่างพระที่มีชื่อเสียง

   โดยส่วนตัวเคยเข้าไปหา ที่มีชื่อเสียงหลายรูป บอก ตรง ๆ นะคะ ว่าบางรูปนั่งรอตั้งแต่ สองโมงเช้า ได้พบท่านบ่าย 3 ก็มี บางรูปต้องรอท่านตื่นก่อน ก็มี บางรูปต้องรอท่านกลับจากกิจนิมนต์ก็มี ในส่วนตัวทุกครั้งที่ได้พบตอบได้เลยว่า เพียงทัศนาได้กราบ ไม่ได้แม้แต่อ้าปากสนทนาธรรมกับท่านด้วยซ้ำไป ซึ่งที่กล่าวมาล้วนแล้วเป็นพระระดับประเทศทั้งนั้นคะ ที่อุตส่าห์ถ่อสังขารตนเองไปเคารพท่าน ไม่ได้แม้แนวปฏิบัติ ไม่ได้แม้ได้คำปรึกษา แต่พระเหล่านี้เป็นพระที่คนทุกคนเคารพในเชิงต่าง ๆกัน จนกระทั่งวันหนึ่งได้เข้าไปที่สวนพุทธธรรม วัดอุโมงค์ เชียงใหม่ วันนั้นก็ไปทำบุญตามปกติคะ แต่วันนี้ได้สนทนากับสามเณรน้อย ๆ คะ สามเณรยื่นหนังสือธรรมะเล่มหนึ่งให้กล่าวว่า "ธรรมะจะมีได้อยู่ที่โยมต้องอ่านคะ" ฟังแล้วธรรมดามาก ๆ คะแต่ดิฉันก็กลับมาอ่านหนังสือเล่มนี้จนจบคะ หนังสือที่ยื่นให้เป็นหนังสือ คู่มือมนุษย์ ของหลวงพ่อพุทธทาสคะ

    ในกรณีที่เล่านี้ เพื่อต้องการอย่าติดที่ตัวตนบุคคลที่แสดงธรรม เลยคะอยากให้มองธรรมะ อันเป็นเครื่องประดับปรุงแต่งจิตให้เป็นกุศลเป็นหลักนะคะ เพราะธรรมะไม่ได้อยู่ที่การฟังเท่านั้น แต่อยู่ที่ใจเราน้อมนำมาประพฤติปฏิบัติภาวนา มาก ๆ คะ

    :67:
243  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ขอเชิญปฏิบัติธรรมช่วงวันวิสาขบูชา เมื่อ: พฤษภาคม 07, 2011, 07:51:17 pm
อนุโมทนา ข่าวบุญด้วยคะ

 :25:
244  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / Re: สำรวจเส้นทาง ธรรมสัญจร ลพบุรี วันที่ 7 พ.ค.2554 เมื่อ: พฤษภาคม 07, 2011, 07:47:04 pm
ติดตามข่าวสารอยู่ คะ
อนุโมทนากับทุกท่านที่ได้ไปด้วยคะ
 :25:
245  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: อาการหมั่นไส้ คน ที่มารยา นี้จะแก้อย่างไรดีคะ เมื่อ: พฤษภาคม 04, 2011, 01:14:19 pm
จริง ๆ เรื่องอย่างนี้ ในสังคมความเป็นครู เจอประจำคะ ประเภทฉันประจบ และกลั่นแกล้ง เรานี่นะคะ

เห็นกันทุก ๆ วัน วันไหนไม่เห็น ก็คงจะทานข้าวไม่ได้คะ เพราะขาดรสชาด

  ดังนั้นอาการหมั่นไส้ ย่อมมีคะ จะกำเริบน้อย หรือ กำเริบ มาก ขึ้นอยุ่กับสติ คะ

  ภาษาพระกรรมฐาน อันนี้จัดเป็นธาตุลม นะคะ แผ่เมตตาให้มากคะ แผ่ให้เราเป็นสุขนะคะ ไม่ใช่แผ่เมตตาให้ศัตรูเป็นสุข คะ

  หนักแน่น อดทน มองให้เห็นว่า มันเป็นธรรมดา ของสัตว์โลก เหมือนค้าขาย ก็ต้องมีกำไร คะ จะมากหรือน้อย
ส่วนผู้บริโภคจะซื้อ หรือ ไม่ นั้นอยู่ที่เราตัดสินใจคะ

  เพื่อความสบายใจ ของเรานะคะ อย่าไปใส่ใจเลยคะ เจริญมรณัสสติ คิดว่าเสียไม่เธอ ก็ ฉัน ต้องตายจากกันไป ไม่วันใด ก็วันหนึ่ง คะ

 :021: :021: :021:
246  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: คุณคิดอย่างไร ถ้ามีคนกำลังพูดถึง คนที่คุณเคารพในแง่ที่ไม่ดี เมื่อ: พฤษภาคม 04, 2011, 01:09:23 pm
เหตุการณ์ อย่างนี้ คล้ายคลึงอย่างนี้ไม่ใช่พึ่งมี มีมานาน ตั้งแต่ไหน แต่ไรแล้วคะ

  สิ่งสำคัญที่สุด การทำบุญอย่างนี้ ก็คือ ปัตตานุโมทนามัย คะ คือ กล่าวอนุโมทนาให้เป็นนิสัย

  ถือหลักธรรม คือ ความหนักแน่น ด้วยปัญญา ใคร่ครวญ พิจารณากันให้มากคะ

  การนินทา ให้ร้าย ส่อเสียด กันนั้นมีมาเนิ่นนานแล้ว คะ แม้แต่ พระพุทธเจ้า ยังโดนเลยคะ

  สุนทรภู่แต่งกลอนไว้บทหนึ่งว่า

      อัน นินทา กาเล เหมือน เทน้ำ     

    ไม่ชอกช้ำ เหมือนเอามีด ไปกรีดหิน

    แม้แต่องค์พระปฏิมา ยังราคินทร์

    มนุษย์เดินดิน ไหนจะพ้น คนนินทา

    ที่สำคัญ ก็ขอบอกเลยคะ ในวงการครูด้วยกัน เรื่องเล่านี้เป็นเรื่อง ระอุ คะ มีการเลื่อย ตัดเก้าอี้ ตัดผลงาน

แม้แต่วงการสงฆ์ ด้วย ยิ่งเยอะ เลอะเทอะไปใหญ่เลยคะ

    ที่เกิด สำนักนั้น ว่าสำนักนี้ สำนักนี้ ว่า สำนักโน้น ดูอย่างพระอาจารย์สิคะ ท่านยังต้องวิเวก เลยนะคะ

   ดังนั้น ก็ขอบอก คะว่า คนที่ตั้งใจทำงานเรื่องธรรมะ ไม่ว่าจะเข้าค่ายนักเรียน หรือ ชมรมกลุ่มปฏิบัติธรรม

เราต้องหนักแน่น ในครูอาจารย์ของเราคะ ปฏิบัติธรรมะกันได้ถึงไหนแล้ว คะถึงจะไปว่า ครูอาจารย์กัน อย่าลืม

นะคะ ว่า อาริสา เชื่อว่า คนที่ชอบ ก็สรรเสริญ คนที่ไม่ชอบ ก็ไม่สรรเสริญ คะแต่ให้ดูจริยาวัตร ครูอาจารย์เรา

ให้ดีนะคะ จะได้ไม่เขวไปตามแรงลมจากปากคนนั้น คนนี้ คะ

     :040: :040: :040:
   
247  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: เมื่อผลการปฏิบัติเกิดที่ใจ ศิษย์ส่วนใหญ่จึงต้องการพบแต่ตัวครูผู้สอนกรรมฐานของตน เมื่อ: เมษายน 30, 2011, 07:18:34 pm
อ้างถึง
ศิษย์กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลําดับ ปฏิบัติแล้ว มีแต่สรรเสริญครูบาอาจารย์ ไม่เป็นอย่างอื่นไปได้


เป็นลูกศิษย์ตัวจริง ที่กล่าวเคารพครูอาจารย์ เยี่ยงครูอาจารย์ เคารพในครูอาจารย์ของท่าน
ศิษย์กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับควรเป็นอย่างนี้คะ

 ;)
248  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: 'พุทธ-มุสลิม' ร่วมสืบสานงานบุญ 'ทวดสะบ้าย้อย' เมื่อ: เมษายน 20, 2011, 05:46:14 pm
อนุโมทนาข่าวสาร อยากให้ภาคใต้ 3 จังหวัด สงบลงเสียที
 :25:
249  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำัดับ เวลาปฏิบัติหาเพื่อนปรึกษาไม่ได้คะ เมื่อ: เมษายน 10, 2011, 11:20:22 am
อ้างถึง
อย่าสักคิดเอาแต่ว่าหลับหูหลับตานั่งบริกรรมหายใจเข้าหายใจออก เชื่อได้เลยไม่มีอะไรในกอไผ่ จิตมีแต่กลวง

โพลงโล่งๆว่างๆเป็น "อทุกขมสุข" ไม่ไปไหนเลยผิดหมดแล้วตีความเข้าใจเอาเองแบบโลกๆบวมๆไป

เมื่อก่อนก็เคยคิดว่าไม่สำคัญเหมือนกันคะ

อ่านตามที่คุณธรรมธวัช อธิบายมาแล้ว พึงกระทำคะ การขึ้นขันธ์ครูก็คือการกล่าววตัวเป็นศิษย์ พระรัตนตรัย คะ

และเป็นการเปิดปวารณา ให้ครูอาจารย์ อบรมสั่งสอนเราได้เต็มที่ เป็นการวางจิตของเราให้ยอมรับคำสั่งสอนด้วย

ความไม่โกรธ ไม่เคือง และเพื่อความไม่ขัด ไม่ข้อง ไม่ใช่แต่เรื่องการขึ้นครูนะคะ ที่สำคัญการกล่าวขอขมาต่อ

พระรัตนตรัย ก็มีความสำคัญคะ

 :014:
250  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: [น้ำท่วม] วัดทุ่งเซียด ภาพเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ น้ำท่วมเดือนเมษายน ภาค2 เมื่อ: เมษายน 10, 2011, 11:14:35 am
คิดว่าต่อไปนี้ ประวัิติศาสตร์ น่าจะต้องมีซ้ำซาก แน่ ๆ คะเพราะเป็นสัญญาณเตือนเรื่องภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยคะ สาเหตุหลัก ๆ ที่เขื่อนพัง ดินถล่ม น้ำท่วมนั้นเป็นเพราะป่าที่เก็บอุ้มน้ำมีน้อยลงคะ ที่ไม่เกิดสมัยก่อนเป็นเพราะว่า ป่าบังมีอยู่ช่วยอุ้มน้ำซึมซับไว้เหมือนกำแพง และผ่อนออกมาเป็นสายธาร แต่ปัจจุบัน ตัดไม้ทำลายป่ากันไปมากขึ้น จากที่เห็นจากข่าว ท่อนซุงมากมาย ลอยมากับโคลนและสายน้ำ

 และคิดว่าน่าจะเป็นอย่างนี้ต่อไป เรื่อย ๆ จนสัก 30 ปีก็จะอยู่ใต้น้ำจริงตามที่ หน่วยงานนาซา รายงานไว้ว่าตอนนี้ระดับปริมาณน้ำจะสูงขึ้นเรื่อย  ๆ เนื่องด้วยขั้วโลกเหนือและใต้ เริ่มเปลี่ยนแกนทำให้น้ำแข็งละลายพัดไปทั่วโลก

อาจจะกล่าวแสดงความเห็นแบบน่าตระหนก แต่คิดว่าเป็นสัญญาณเตือนให้เห็นว่า ที่ว่าเป็นไปไม่ได้ ว่าตอนนี้เป็นไปได้ว่าทุกอย่างเป็นไปแล้วคะ

 :03: :03: :03:
251  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: กรรมฐาน มีความจำเป็นกับชีวิต มากกว่่า สติ หรือไม่ครับ เมื่อ: เมษายน 10, 2011, 11:09:02 am
กรรมฐานมีความจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตประจำวันคะ สติ จะมั่นคงอยู่ได้ต้องอาศัยสมาธิคะ

จิตแกร่ง จึงมีสติ จิตขาดเหตุผล จึงไร้สติ

จิตกอร์ป ด้วยประโยชน์ ต้องมีสมบูรณ์ด้วยอริยมรรคมีองค์ 8 ประการ

 :08:
252  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: อะไรจะเป็นเครื่องยืนยัน ว่าเราจะได้บรรลุธรรมในชาตินี้บ้างครับ เมื่อ: เมษายน 10, 2011, 11:07:22 am
ครูประสิทธิ์ ยังคมเหมือนเดิม นะคะ
ศิษย์พี่

 :97:
253  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: เรื่องถ้วยเก่ากับคนแก่ เมื่อ: เมษายน 08, 2011, 10:10:38 am
ขอให้ย่า หายไว ๆ เน้อ ถึงว่าหายไปหลายวัน ไปที่แม่จัน นี่เอง

 :58:
254  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: อนาถลูกชายนั่งเฝ้าศพแม่นาน5วันย่านบางมด เมื่อ: เมษายน 08, 2011, 10:09:27 am
กรรมที่ทำให้เสีย สติ เป็น โรคประสาทไม่ทรงจิตอยู่ได้เกิดจากกรรมอะไรคะ มีใครชี้แจงได้บ้างคะ

เป็นเพราะทำกรรมอันใด จึงได้เป็นอย่างนี้คะ

 :c017: :c017:
255  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: แผ่นดินไหวที่ พม่า ส่งผลถึง ไทย ด้วยคะ เมื่อ: เมษายน 08, 2011, 10:08:25 am
เจียงใหม่ ก็เป็นจะงั้น เหมือนกันเจ๊า
แต่ไหว หน่อย ๆ เน้อ
 :03:
256  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัย 16 ประการ เมื่อ: เมษายน 06, 2011, 05:08:05 pm
อ่านแล้วเข้าใจ อันนี้เป็นเหตุ วิจิกิจฉา ในสังโยชน์ด้วยใช่หรือไม่คะ หรือเป็นข้อสงสัย แบบรวม ๆ คะ

 :smiley_confused1:
257  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ผู้ที่ไม่รู้อะไร เรื่องภาวนา อาจไปได้ไวกว่าผู้ที่รู้ เมื่อ: เมษายน 06, 2011, 05:06:51 pm
รู้น้อยก็อาจจะไม่สำเร็จ นะคะ เพราะรู้น้อยก็เลยโดนหลอกอีก สมัยนี้มีหลอกกันมากด้วยเรื่องการภาวนา

ตุ๊เจ้า ทางเหนือท่านมีหลายแบบ น่อ

  ตุ๊เจ้าตาบอด จูงตุ๊เจ้าตาดี



ถ้าเราไม่รู้ ก็เหมือนคนตาบอดคลำช้าง หรือป่าวจ๊ะ

258  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: วิสามัญ“ไอ้ไข่”ฆาตกรข่มขืนฆ่าสาวแม่ลูกอ่อน เรียบร้อยไปแล้ว..กรรมทันตา เมื่อ: เมษายน 06, 2011, 05:03:21 pm
อ่านข่าวแล้วรู้สึกหดหู่ จริง ๆ คะทำไม คนสมัยนี้ถึงได้โหดร้าย ทำได้ลงคอ หน้าตาก็ีดี ไม่น่าสร้างกรรมอย่างนี้เลย เด็กที่รอดมาอายุแค่ 11 เดือนเองไม่น่าเลย

กรรมคงตามทันเร็วคะ

 :021:
259  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ในสติปัฏฐาน สี่ นั้นหมวดในฐานใด ฝึกภาวนาได้ง่ายที่สุด คะ เมื่อ: เมษายน 04, 2011, 05:48:28 pm
เคยได้รับเมล บรรยายเรื่องนี้จากพระอาจารย์ แนะนำในกรรมฐาน มุ่งไปที่เวทนา เป็นหลัก

เพราะธรรมปีติ พระยุคลหก พระสุข เป็นเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน

แต่ในพระลักษณะ เป็นกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน

 :67:
260  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: อำนาจจิต อิทธิฤทธิ์ มีจริงหรือไม่ ? เมื่อ: เมษายน 04, 2011, 05:46:55 pm
เมื่อก่อนดิฉัน ไม่มีความศรัทธา หรือเชื่อเรื่องฤทธิ เลยคะแต่ครั้นพอได้ศึกษาและภาวนาในแนวกรรมฐาน มัชฌิมา
แบบลำดับแล้ว ยิ่งมีความศรัทธาเชื่อเพิ่มคะ และเข้าใจแตกต่างจากเมื่อก่อนมากด้วยคะ

อนุโมทนา กับคำแนะนำของพระอาจารย์คะ

 :25:
261  ธรรมะสาระ / กระดานข่าวทางวัดแก่งขนุน / Re: เกี่ยวกับเรื่อง บรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน พ.ศ.2554 เมื่อ: เมษายน 02, 2011, 08:35:11 pm
สาธุกับเยาวชน เด็กดีที่ไปรับการบรรพชา ในภาคฤดูร้อนนี้ ทุกคน คะ

 :25: :25: :25:
262  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: เวลาเราทำบุญอะไรก็ตาม ไม่มีความศรัทธา จะได้บุญบ้างหรือไม่ เมื่อ: เมษายน 02, 2011, 08:31:09 pm
เคยได้ิยิน ครูนภาเล่าให้ฟังว่า พระอาจารย์เคยกล่าวเรื่องการทำทานขั้นสูงคือ ทานูปฏินิสสัคคา 8

ขั้นสูง คือ ทำบุญเพื่อความไม่มี ไม่ยึดมั่น ถือมั่น

 อนุโมทนาด้วยคะ คุณธรรมธวัช สมเป็นศิษย์กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ จริง ๆ คะ

  :25: :25: :25:
263  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: รายการ RDN ช่วงนี้ไม่ได้ยินเสียงครับ เมื่อ: เมษายน 02, 2011, 08:27:57 pm
วันนี้พึงจะได้รับฟัง การบรรยายนำ อุพเพงคาปีติครั้งแรก คะ

ภาวนาตามแล้ว รู้สึกตัวเบา และน้ำตาไหลออกมามากเลยคะ

สนใจเสียงธรรมคะ อยากได้ไว้รับฟังในเวลาอื่น ๆ คะ

 :25:
264  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: สลด! เด็กหญิงป.5 ผูกคอตาย เครียด ผลสอบไม่ผ่าน เมื่อ: เมษายน 02, 2011, 11:45:04 am
แสดงให้เห็นว่า สถานที่ศึกษานั้น ไม่ได้ส่งเสริมคุณธรรม ซึ่งเป็นหน้าที่ของคุณครูที่ต้องดูแลเป็นพิเศษกับเด็ก

ซึ่งมีผลการศึกษาที่ด้อย

แปลก.....

 :'(
265  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: สารกัมมันตภาพรังสีสูงในโตเกียว เมื่อ: มีนาคม 26, 2011, 02:55:20 pm



266  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ฟุกุชิมะ 50 วีรบุรุษของญี่ปุ่น เมื่อ: มีนาคม 26, 2011, 02:52:08 pm
สำนักข่าวต่างประเทศ เปิดเผยรายงานว่า คนงานภายในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิม่า หมายเลข 1 จำนวน 50 คน หรือที่เรียกว่า ฟูกูชิม่า 50 ได้ยอมรับชะตากรรมของพวกเขา ซึ่งหนึ่งในคนงาน ที่กำลังปฏิบัติภารกิจหยุดวิกฤตินิวเคลียร์ บอกว่า พวกเขายอมรับชะตากรรมที่เกิดขึ้น

โดยภารกิจนี้ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า อาจเรียกได้ว่า เป็นภารกิจพลีชีพ เนื่องจากตอนนี้ ระดับ ของสารกัมมันตรังสีภายในโรงไฟฟ้า ได้เข้าสู่ระดับที่อาจทำให้คนงานเสียชีวิตในทันที หรือไม่ก็อาจทำให้พวกเขาล้มป่วยในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยชุดที่พวกเขาสวมใส่ ป้องกันการปนเปื้อนกัมมันตรังสีได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

อย่าง ไรก็ตาม ไม่มีการเปิดเผยว่า  50 คน นี้เป็นใครบ้าง แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ฟูกูชิม่า 50 จริงๆ แล้วน่าจะมีคนงานรวม 200 คน ผลัดเปลี่ยนกันทำงานเป็น 4 กะ และคิดว่าทั้งหมดเป็นช่างเทคนิค และเจ้าหน้าที่ ที่รู้เรื่องโรงไฟฟ้าแห่งนี้ดี อีกทั้งส่วนใหญ่ยังเป็นผู้สูงวัยที่มีลูกแล้ว เพราะการเผชิญกับสารกัมมันตรังสี อาจเสี่ยงต่อการเป็นหมันได้

ฟูกูชิม่า 50  เสียสละทำงานเพื่อส่วนรวม หลังจากเพื่อนร่วมงาน 700 คน ถอนตัวออกไป เมื่อพบว่าระดับสารกัมมันตรังสีอันตรายเกินไป

ทั้ง นี้ ชาวญี่ปุ่นต่างสรรเสริญในความกล้าหาญ และยกยองพวกเขาเป็นวีรบุรุษ โดย Fukuda Kensuke ที่อาศัยอยู่ในโตเกียวกล่าวว่า “พวกเขาเสียสละตัวเองเพื่อคนญี่ปุ่น ฉันรู้สึกขอบคุณจริงๆสำหรับผู้ที่ยังคงทำงานที่นั่น”

 

เรียบเรียงข่าวโดย Mthai News


http://news.mthai.com/headline-news/107267.html
267  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ชมภาพและเรื่องราว เกี่ยวกับ สึนามิที่ญี่ปุ่น เมื่อ: มีนาคม 26, 2011, 02:20:45 pm
268  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: รายการ RDN ช่วงนี้ไม่ได้ยินเสียงครับ เมื่อ: มีนาคม 25, 2011, 07:33:00 pm


นำตารางการคิดเรทค่าไฟฟ้า มาให้ดูประกอบคะ

 :19:
269  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: รายการ RDN ช่วงนี้ไม่ได้ยินเสียงครับ เมื่อ: มีนาคม 25, 2011, 07:19:28 pm
อ่านเรื่องที่คุณ TC9 รายงานแล้วก็แน่ใจได้ครูฝ่ายวิทยาศาสตร์ ของเราสุ่มทำเรื่องประหยัดค่าไฟฟ้า

ที่จริงจะบอกว่า ไปซุ่มทำเรื่องประหยัดก็มิใช่ เป็นแค่ไปเก็บสถิติการใช้ไฟฟ้า

   วิเคราะขนาด บ้านตายาย มีอุปกรณ์แค่นั้น ยังใช้ถึง 110 หน่วย ค่าไฟฟ้า 2.54 = 279 บาท
                                                                     ค่า ft           =   96 บาท
                                                                     รวมค่าไฟฟ้า    =  375 บาท
                                                                     vat 7 %      =    26 บาท
                                                        รวมต้องจ่ายค่าไฟฟ้าจริง    =   412 บาท
 
                  ดูแล้วโหดเหมือนกันนะนี่ แค่ 110 หน่วยเอง เฉลี่ยใช้ไฟฟ้าวันละ 3.66 หน่วย

   ยุคอภิสิทธิ์ โหดนะนี่ เกือบ 500 บาท

    :41:
270  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: การฝึกสมาธิ ให้สำเร็จโดยอาศัยการถ่ายพลังจิต เป็นไปได้หรือไม่ครับ เมื่อ: มีนาคม 25, 2011, 07:03:22 pm
โดยส่วนตัวก็หวังว่า ครูอาจารย์จะช่วยเปิดทางให้กับศิษย์เช่นเดียวกัน

แต่ใจหนึ่ง ก็ยังนึกอยู่ว่า การภาวนาน่าจะเกิดตนเองเป็นผู้ฝึกภาวนา

จึงเชื่อมั่นว่า ต้องมาจากตัวเราเอง 95 % และจากเหนือความคาดหมาย 5 %

ส่วนการฝึกจักรา ที่ว่าเปิดจักระ นั้นเคยฟังมาว่า เสียเงินด้วยนะคะ ไ่ม่ได้เปิดกันฟรี ๆ

ผู้ที่เสียเงินเปิดแล้ว ก็ไม่ออกมาตอบกันว่า เปิดไม่ได้...( น่าจะมีหลายเหตุผลคะ )

 :13:
271  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ความเหนี่อย ลำบาก ไม่เคยปราณีใคร เมื่อ: มีนาคม 22, 2011, 01:31:54 pm
อ้างถึง
ก็ให้กำลังใจเท่านี้ ทุกข์ ใน วัฏฏะสงสาร นั้นทรมานเรามาด้วยความกดดัน มาหลายชาติแล้ว น้ำตาของเราอาจจะร้องไห้ไว้เป็นไห ๆ แล้ว

  อย่าท้อ เมื่อต้องเหนื่อย

  อย่าท้อ เมื่อต้องทนความกดดันของสภาวะ

  อย่าท้อ เมื่อน้ำตาของเธอต้องไหลริน

  อย่าท้อ แม้คนอื่นทั้งหลายจะไม่เข้าใจเธอ

ขอบพระคุณ สำหรับ กำลังใจที่พระอาจารย์ ให้เป็นข้อคิด เตือนจิต สะกิดใจ ด้วยคะ

 :25:


  สาธุ คะ ขอบคุณพระอาจารย์ ที่ส่งคำตอบ ให้คะ

 :25: :25: :25:
272  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: ยามใดที่เรารู้สึก ท้อแท้ ต่อชีวิต ควรใช้หลักธรรมพยุงใจคร้า.. เมื่อ: มีนาคม 18, 2011, 09:41:57 am
ล้มทั้งยืน..ดีกว่าล้มไม่เป็น


อย่าคิดว่าสูญเสีย
แล้วชีวิตจะต้องเป็นศูนย์
เรานับหนึ่งใหม่ได้เสมอหากเราคิดจะนับซะอย่าง

ถ้าสิ่งที่เราคาดหวัง...ไม่เป็นดั่งหวัง
ถ้าสิ่งที่เราพยายามทุ่มเททำสุดแรงกายแรงใจ
ไม่ประสบผลสำเร็จ
ถ้าสิ่งที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้น
มันก็เกิดขึ้นและได้สร้างความบอบช้ำ
จนทำให้เราต้องจมอยู่กับ ความทุกข์

 เรากำลังก้าวสู่ "ชีวิตที่เป็นจริง " แล้วหล่ะ เพราะความเป็นจริงของชีวิต จะสอนให้เรารู้จักยอมรับความพ่ายแพ้สอนให้เรารู้จักสูญเสียน้ตา เพื่อที่จะได้รอยยิ้มคืน กลับมาเป็นรางวัลตอบแทน แต่มันก็ไม่เคยทำให้ใครหมดสิ้นความหวัง หมดสิ้นพลังและกำลังใจไปกับความพ่ายแพ้ เพียงแค่ความเป็นจริงสอนให้พวกเราทุกคนรู้ว่า

...........อย่าเพียรสร้างความหวัง
แต่ให้เชื่อมั่นใความหวัง............

เพราะความเชื่อมั่นจะนำพาเราไปพบกับ
"หนทางสู่ความสำเร็จ"
แม้ว่าจะต้องฝ่าฟันอะไรอีกมากมายกว่าจะถึงวันนั้น
แม้ว่าจะต้องล้มลงอีกสักกี่ครั้ง
แม้ว่าจะต้องผิดหวังอย่างแรงอีกสักกี่หนก็ตาม


 

  ปล่อย ให้ชีวิตผิดพลาดเสียบ้าง ปล่อยให้ความคาดหวังได้เจอกับความผิดหวัง ปล่อยให้ความฝันกลายเป็นฝันค้างลอยกลางอากาศ ปล่อยให้อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด แม้ว่าเกิดขึ้นแล้วจะเลวร้ายกับชีวิตก็ตามที เพราะทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้น จะช่วยสอนและช่วยเป็นบทเรียนอันล้ำค่าให้แก่ชีวิต ที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วบนโลกใบนี้

  คุณ บอย โกสิยพงศ์ เคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสารเล่มหนึ่ง เขาพูดให้แง่คิดที่ดีเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งมันอาจจะสร้างบาดแผลให้กับใครหลายๆ คนมาบ่อยครั้ง คุณบอยพูดไว้ว่า...

ไม่มีอะไรที่อยู่กับเราตลอดชีวิต
ทุกอย่างมันก็รอเวลาจากเราไปทั้งนั้น

เชื่อ ว่าถ้าชีวิตคนเราไม่ยึดติด ไม่ต้องแขวนชีวิตไว้กับความคาดหวัง เวลาที่เราสูญเสีย หรือเวลาที่เราต้องเจอกับความล้มเหลว เราคงมีภูมิต้านทานมากพอที่จะเอาไว้ต่อสู้กับความท้อแท้ อย่าคิดว่าสูญเสียแล้วชีวิตจะต้องเป็นศูนย์ เพราะว่าเรานับหนึ่งใหม่ได้เสมอหากเราคิดที่จะนับซะอย่าง ไม่มีอะไรบนโลกที่น่ากลัว และไม่จำเป็นต้องกลัวกับความเป็นจรองของชีวิต

"มีพบก็ต้องมีจาก มีได้ก็ต้องมีเสีย
และมีสุขก็ต้องมีทุกข์เป็นสัจธรรม"

เมือ่ ไรที่เราได้รู้จักสัมผัส และได้เรียนรู้กับชีวิตทั้งสองด้าน เมื่อนั้นเราจะไม่รู้สึกเสียดายหากเราได้มีโอกาสล้มทั้งยืน แต่เราจะเสียใจไปตลอดชีวิตหากเราไม่สามารถก้าวข้ามความล้มเหลวที่ผ่านเข้ามา ได้

 

มีคนเคยบอกเอาไว้ว่า...

การตั้งความหวัง
คือการเสี่ยงกับความเจ็บปวด
การพยายาม คือการเสี่ยงกับความล้มเหลว

แต่ยังไงก็ต้องเสี่ยง

เพราะในสิ่งที่อันตรายที่สุดในชีวิตก็คือ

การไม่เสี่ยงอะไรเลย

 

  ล้ม ลงสักกี่ครั้ง ผิดหวังมาสักกี่หน ลุกขึ้นยืนให้ไกด้ แล้วสักวันเราจะเจอความสุข เพราะความสุขไม่ได้หนีจากเราไปไหนหรอก มันอยู่ใกล้เราแค่เพียงเอื้อมมือจริงๆ ถ้าหากเราไม่ได้ไปตัดสินว่า โลกมันควรเป็นอย่างที่เราอยากให้เป็น และไม่ได้ตั้งกฎเกณฑ์ให้กับตัวเองมากจนเกินไป เวลาคิดหรือทำอะไรสักอย่างแล้วมีข้อบังคับ มีกรอบ และสร้างมโนภาพความสำเร็จไว้ล่วงหน้า เมื่ออะไรๆ ไม่เป็นไปตามกฎของเรา เราก็ทุกข์ เราก็เสียใจ และเราก็ใจเสียเอาได้ง่ายๆ

มีคนเคยบอกไว้ว่า

สิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ

ไม่ใช่สิ่งที่จะกำหนดความสุขของคุณ

แต่มันเป็นความคิดของคุณเองต่างหาก

ความคดที่มีต่อสิ่งที่ได้เกิดขึ้นกับคุณนั่นเอง

 

  จะสุขหรือจะทุกข์ก็ขึ้นอยู่ที่เราทั้งนั้นเป็นคนกำหนด ล้มทั้งยืนเสียบ้างก็คงไม่เสียหายไร แต่ล้มไม่เป็นเลยนี่สิ...

 

 ลองคิดดูเล่นๆ ซิว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตต่อไป............ห ลั ง จ า ก นี้
273  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: อีกปัญหา คะ "เมื่อเพื่อนเรามาปรึกษา เรื่องการเป็นเมียน้อย" เมื่อ: มีนาคม 18, 2011, 09:40:31 am
มื่อผู้ชายเริ่มรักผู้หญิงของตัวเอง . . ทุกอย่างที่เป็นเธอ จะดูสวยงามและเพียบพร้อม
ไม่มีอะไรที่เขาไม่ชอบ ไม่พอใจ

วันเวลาผ่านไป. . .
เมื่อความเคยชินเข้ามาแทนที่ สิ่งที่เห็นอยู่ทุกวัน
อาจกลายเป็นสิ่งที่น่ารำคาญ
เธอไม่สวยงาม และน่าทะนุถนอมเหมือนแต่ก่อน
ทำไมเวลาจับต้องเธอแล้ว รู้สึกไม่เหมือนเดิม
ทำไมนิสัยไม่ดีของเธอ ถึงได้ผุดขึ้นมามากมายแบบนี้
เขารับเธอไม่ได้อีกต่อไป และทนไม่ได้กับการเปลี่ยนแปลงของเธอ
ในขณะที่ความรักของผู้หญิงเริ่มต้นจากศูนย์
เขายังมีสิ่งที่เธอคิดว่าเธอไม่ชอบทุกอย่างของเขา
แต่เมื่อเธอตัดสินใจลองคบหาเพื่อที่จะศึกษาสิ่งที่ดีในตัวเขา

วันเวลาผ่านไป . .
ทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่สุดบนโลกนี้
คะแนนที่มากมายมันเพิ่มขึ้นมาได้อย่างไร
ถึงขั้นนี้ . . .ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเขา
ช่างดูดีและน่าหลงใหล
จนรู้สึกว่า . . .เขาแทบจะกลายเป็นสิ่งเดียวในชีวิต
ที่ทำให้เธอมีชีวิตอยู่ได้ เธอพร้อมที่จะสละทุกอย่างที่มีอยู่
เพื่อที่จะให้เขาและเธออยู่ด้วยกันตลอดไป

วันนี้…ความรักของเธอเกินร้อย
ในทางกลับกัน ความรักของเขากลับลดลงจนเหลือศูนย์
ความรู้สึกที่ค้างคาอยู่ในใจของคนทั้งคู่
เหมือนกันคือ คำถามที่ว่า “ ทำไม . . .อีกฝ่ายถึงเปลี่ยนไป ”

หากตัวแปรของความสัมพันธ์ ระหว่างคนสองคน อยู่ที่ความเปลี่ยนแปลงแล้ว
คงเร็วเกินไปที่จะโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพียงคนเดียว
เราต้องยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า “ คนเรานั้น เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ”
และนี่คือ สัจธรรมที่แท้จริงบนโลกใบนี้เสียด้วย

คุณว่าจริงไหม...
274  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ทำไมเราถึงไม่เห็นภาพศพสึนามิที่ญี่ปุ่นเลย เมื่อ: มีนาคม 18, 2011, 09:37:26 am


เครดิตรูปจาก  http://www.cheapestav.com/
(เอามาแชร์ต่อจากนก เพื่อนนิเทศ จุฬา ฯ ในฐานะของคนสื่อมองสื่อว่า เราได้เรียนรู้อะไรบ้างจากแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่ออาทิตย์ก่อน)
ผ่านมาแล้ว 4 วัน ฉันกับพี่โตก็ยังคงติดตามข่าวจากสื่อโทรทัศน์ญี่ปุ่นไม่ได้หยุด โทรทัศน์โดยเฉพาะ NHK ที่ญี่ปุ่นทำงานกันเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้แน่ใจว่าได้นำเสนอเรื่องที่คนญี่ปุ่นทุกคนควรจะทราบ รวมไปถึงคนต่างชาติที่อยู่ในญี่ปุ่นที่จะมีโอกาสได้ฟังภาคภาษาอังกฤษ (เป็นบางจังหวะ) หากกดปุ่มเลือกโหมดสองภาษาที่รีโมทคอนโทรลเลอร์
ตอนนี้ฉันอยากเล่าเรื่องเกี่ยวกับสื่อของญี่ปุ่น โดยเฉพาะสื่อโทรทัศน์กับการนำเสนอข่าวที่ฉันรู้สึกว่ามีอะไรน่าสนใจมากๆ สำหรับคนไทยอย่างเรา
เชื่อว่าคนไทยทั่วโลกคงติดตามข่าวการเกิดแผ่นดินไหวและภัยพิบัติสึนามิที่ ญี่ปุ่นเมื่อบ่ายวันศุกร์ที่ 11 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมา นอกจากจะได้เห็นวิธีการจัดการรับมือกับปัญหาในแบบฉบับของคนญี่ปุ่นแล้ว ประเด็นหนึ่งที่ฉันอยากนำมาแชร์กับเพื่อนคนไทยก็คือ เรื่องการนำเสนอข่าวของสื่อโทรทัศน์ญี่ปุ่น ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของจริยธรรมอย่างเคร่งครัด
ต้องออกตัวก่อนว่า ฉันเป็นคนไทยที่มาอาศัยอยู่ในญี่ปุ่นได้เกือบปีแล้ว ดังนั้นก่อนหน้านี้สื่อที่ฉันคุ้นเคยดีก็คือสื่อไทย อาจมีสื่อต่างชาติบ้างก็ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก แต่พอฉันมาถึงญี่ปุ่น สถานการณ์บังคับให้ฉันต้องติดตามข่าวสารและรายการของญี่ปุ่น
และเนื่องจากการติดนิสัยเสียดูโทรทัศน์ไปก็ไม่สนใจแค่เนื้อหา แต่ชอบดูว่ารายการลักษณะแบบนี้คนผลิตผลิตด้วยวิธีอย่างไร อันเป็นสันดานของนักเรียนสื่อสารมวลชนอย่างฉันและเพื่อนๆ ที่เรียนนิเทศศาสตร์มาด้วยกัน ก็ยิ่งทำให้เราสังเกตเห็นอะไรหลาย ๆ อย่างที่ฉันอยากให้สื่อมวลชนของไทยปัจจุบันได้กลับมาทบทวนตัวเอง
อย่างแรกที่ฉันพบความแตกต่างจากการนำเสนอข่าวที่เมืองไทย ก็คือข่าวอาชญากรรม ภาพข่าวโทรทัศน์ของญี่ปุ่นทุกช่องจะไม่เคยถ่ายให้เห็นภาพคนตาย คนบาดเจ็บ อาวุธ หรือภาพที่น่าหวาดเสียวใด ๆ
หากเมื่อไรมีเหตุอาชญากรรมเกิดขึ้น และจับตัวคนร้ายได้โดยมีหลักฐานมัดตัว ข่าวจะใช้การอธิบายว่า นายคนนี้ อายุเท่านี้ ก่อเหตุอะไรขึ้นที่ไหน เมื่อไหร่ ซึ่งภาพข่าวอาจจะแสดงให้เห็นใบหน้าคนร้ายที่ถูกจับกุมตัวเล็กน้อย แล้วก็ตัดไปเป็นสถานที่เกิดเหตุ แต่จะจำกัดเฉพาะจุดที่เกิดเหตุจริงๆ เท่านั้น
สภาพแวดล้อมต่างๆ ถ้าอยู่ในเฟรมภาพเดียวกันจะถูกทำให้เบลอๆๆๆ ไม่ว่าจะเป็นป้ายชื่อหน้าบ้าน รูปทรงของบ้าน แม้กระทั่งทะเบียนรถที่จอดอยู่ใกล้เคียงก็จะเบลอไปทั้งเฟรม โดยเฉพาะถ้าคนที่ถูกจับเป็นเพียงผู้ต้องสงสัย หรือพยานที่เห็นเหตุการณ์ แม้แต่คนที่มายืนมุงรอบข้างก็จะถูกทำให้เบลอที่ใบหน้า และเปลี่ยนเสียงให้เพี้ยนไป เพื่อไม่ให้ผู้ชมเห็นหน้าและได้ยินเสียงที่แท้จริงของคนนั้น
เป็นการรักษาสิทธิส่วนบุคคลของคนดังกล่าวรวมทั้งบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง และรักษาจริยธรรมในการนำเสนอข่าวที่จะไม่แสดงภาพล่อแหลมหรือน่าหวาดเสียว เป็นชนวนให้เกิดการเลียนแบบหรือทำตามอย่าง
ตัวอย่างล่าสุดจากเหตุการณ์สึนามิเมื่อกลางเดือนมีนาคมนี่เอง ในช่วงสองวันแรก ฟรีทีวีทุกช่อง รวมทั้งช่องโทรทัศน์แห่งชาติอย่าง NHK พร้อมใจกันนำเสนอภาพข่าวเหตุการณ์ แผ่นดินไหวและสึนามิอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง
ภาพที่ผู้ชมได้เห็นซ้ำไปซ้ำมาสลับกับการรายงานข่าวในสถานี จะเป็นภาพเหตุการณ์ขณะที่เกิดแผ่นดินไหว คลื่นซัดน้ำเข้าฝั่งทำลายบ้านเรือนพังทลาย ซากกองไม้ที่ปรักหักพังต่างๆ และคนที่หนีพ้นมายืนอยู่บนที่สูง
หลังจากนั้นก็เป็นสภาพในศูนย์อพยพและช่วยเหลือผู้ประสบภัย การแบ่งปันที่นอน การแบ่งปันอาหาร น้ำดื่ม และสัมภาษณ์ผู้ประสบภัยที่สูญเสียบ้านและทรัพย์สิน โดยตัดมาเพียงประโยคสั้นๆ ที่แม้ผู้พูดจะเศร้าน้ำตานองหน้า แต่ก็กล่าวอย่างสุภาพ ไม่แสดงอารมณ์ฟูมฟายโวยวาย
และที่สำคัญที่สุด ....
ไม่มีภาพศพหรือคนตายให้เห็นแม้แต่คนเดียว รวมทั้งไม่มีภาพการขุดคุ้ยหาศพของเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ไม่มีภาพใด ๆ ที่น่าอุจาดตาปรากฏทางสื่อเลยแม้แต่น้อย มีเพียงแต่คำบรรยายจากผู้ประกาศข่าวว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยกำลัง ค้นหาผู้รอดชีวิตอย่างเร่งด่วนที่นั่นที่นี่ มียอดผู้เสียชีวิตจำนวนเท่าใดบ้าง เพียงแค่นั้นก็สื่อสารได้ใจความครบถ้วนที่จำเป็นแล้ว
เหตุการณ์นี้อดทำให้ฉันหวนนึกไปถึงช่วงที่เกิดเหตุสึนามิในประเทศไทย ตลอดสัปดาห์อันเลวร้ายนั้น ฉันต้องดูภาพศพผู้เสียชีวิตที่นอนเกลื่อนชายหาด ศพที่ซ้อนทับๆ กันเป็นภูเขาเป็นซากเน่า แบบไม่ให้เกียรติกับผู้ตายเลยแม้แต่น้อย
แม้จะมีการเบลอบ้างแต่ก็ยังเห็นภาพอุจาดตาน่าสังเวชใจ พร้อมกับเสียงคนร้องไห้คร่ำครวญ ฉันถามคนญี่ปุ่นใกล้ตัวว่า ทำไมในข่าวของญี่ปุ่นจึงไม่มีภาพแบบนี้...คำถามที่ฉันได้รับแทนคำตอบก็คือ
“ก็ถ้านำเสนอภาพคนตายน่ากลัวหรือมามัวคร่ำครวญแบบนั้น แล้วมันได้ประโยชน์อะไรขึ้นมาบ้างล่ะ?”
อือม์...นั่นสินะ...
หดหู่ น่ากลัว เห็นคนตายเหมือนซากศพ เกิดภาพติดตา นำไปฝันร้าย ไม่ให้เกียรติผู้ตาย ทำลายจิตใจผู้สูญเสียซ้ำลงไปอีก พอเห็นภาพคนตายบ่อย ๆ ก็ชิน ทำให้จิตใจหยาบกระด้าง ไม่เห็นมีอะไรสร้างสรรค์สักอย่าง นอกจากอารมณ์ปลงสังเวช
ในวันที่สองและสามของเหตุการณ์ มีข่าวใหญ่เป็นผลต่อเนื่องจากเหตุสึนามิ นั่นคือ ความร้อนและการระเบิดของอาคารเตาปฏิกรณ์ปรมาณูในโรงไฟฟ้าพลังปรมาณูที่ฟูคุ ชิมะ โทรทัศน์เกือบทุกช่องนำเสนอรายการเพื่ออธิบายการทำงานของโรงไฟฟ้าเพื่อให้ ประชาชนเข้าใจได้ง่ายที่สุด
โดยการทำเป็นภาพวาดประกอบ เชิญผู้เชี่ยวชาญมาวิเคราะห์สลับกับการแถลงข่าวจากผู้แทนรัฐบาล แล้วก็วิเคราะห์ข่าวที่แถลงนั้นอีกที เพื่อให้คนที่เกิดคำถาม ได้ถามและตอบข้อสงสัยอย่างกระจ่าง มีการประกาศแผนที่ประชาชนต้องพึงปฏิบัติในสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ รวมทั้งการแถลงแนวทางแก้ไขปัญหาในทุกๆ ด้านที่เกี่ยวข้อง
ทั้งเรื่องมาตรการประหยัดไฟฟ้าและพลังงานต่างๆ สลับกับการเสนอภาพความร่วมมือด้วยดีของประชาชนที่พากันเข้าคิวอย่างเป็น ระเบียบเพื่อซื้ออาหาร ตุนน้ำดื่ม หรือรอโทรศัพท์ ฯลฯ
จนล่วงเข้าวันที่สี่ที่หลายคนเริ่มปรับสภาพใจให้ชิน ยอมรับกับเหตุการณ์ได้บ้างแล้วนั่นแหละ ภาพข่าวจึงค่อยเปลี่ยนโทนมาเสนอเป็นภาพจากคลิปวิดีโอที่ถ่ายด้วยโทรศัพท์มือ ถือของผู้ประสบภัยบ้าง ได้ยินเสียงผู้คนตื่นเต้นตกใจกับคลื่นที่พัดผ่านหมู่บ้าน เสียงสะอื้นไห้ของคน ทั้งที่พลัดพรากจากญาติมิตรและที่ดีใจที่ได้เจอกัน
ในความเห็นของฉัน สื่อมวลชนญี่ปุ่นนั้นเคร่งครัดในจริยธรรมการนำเสนอข่าวและเข้าใจหน้าที่ของ สื่อมวลชนอย่างดีน่านับถือมาก การเลือกนำเสนอภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยผ่านการไตร่ตรอง ไม่ใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง แต่เลือกเน้นหนักในข้อเท็จจริง
ทำให้ประชาชนที่ตระหนกตกใจกับเหตุการณ์ฉุกเฉินสามารถเรียกสติกลับคืนมาได้ อย่างรวดเร็ว และหันมามองการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และแก้ปัญหาระยะยาวเพื่อดำเนินชีวิตต่อไป ไม่มัวเสียเวลานั่งฟูมฟายร้องไห้กับความสูญเสียที่เรียกคืนไม่ได้ แต่ลุกขึ้นสู้กับปัญหาด้วยปัญญา ทั้งยังปลูกฝังแนวคิดให้ความร่วมมือกับส่วนรวมมากที่สุดเท่าที่แต่ละคนจะทำ ได้ ไม่ทำตัวเองให้เป็นปัญหากับคนอื่น และเคารพให้เกียรติซึ่งกันและกันแม้ในยามวิกฤตสุดยอด เป็นสิ่งที่ฉันรู้สึกชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง
ถึงนาทีนี้แล้วคงสะท้อนให้เห็นชัดเจนล่ะว่า สื่อมวลชนที่มีคุณภาพสามารถชี้นำสังคมให้ดำเนินไปในทางที่ดีได้จริงๆ
เขียนโดย jirastoryteller
275  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / การให้อภัย ไม่ใช่ยอมแพ้ ไม่ใช่เสียเปรียบ เมื่อ: มีนาคม 18, 2011, 09:32:40 am
การให้อภัย ไม่ใช่ยอมแพ้ ไม่ใช่เสียเปรียบ

ยอมกันเสียบ้าง ก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง การยอมแพ้อาจหมายถึงชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ คือ การให้อภัย การให้อภัย ดูเหมือนว่า เรายอม ไม่ติดใจ ไม่เอาเรื่อง แล้วเขาจะได้กำเริบ ส่วนเราเสียเปรียบ ความจริงแล้วไม่ใช่ เรากำลังบำเพ็ญบารมี คือ "อภัยทาน" อันเป็นทานบารมีที่สูงส่ง

บางคนรักมากหลงมาก เพราะเขาดี ก็ปรารถนาพบกันทุกชาติ หรือต้องการพบกันอีก บางคนก็อธิษฐานไม่ขอพบขอเจอกันอีกและไม่ให้อภัย ผลของการไม่อภัย ก็เหมือนการผูกสิ่งที่เราไม่ชอบไว้กับตัวตลอดเวลา คล้ายๆ ผูกเวร จองเวร ไม่มีที่สิ้นสุด

การให้อภัย เป็นการฝึกจิต อบรมจิต เป็นการชำระใจ เป็นการยุติปัญหาต่างๆ เป็นการแสดงกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่การเสียหน้าหรือเสียรู้ ไม่ใช่การได้เปรียบเสียเปรียบ แต่เป็นการชำระล้างสิ่งที่ไม่ดีออกจากใจ เหมือนล้างภาชนะที่สกปรก ฉันนั้น

การให้อภัยพูดง่ายแต่ทำยาก แม้จะยากเพราะใจไม่อยากทำ ก็ต้องฝืนใจ เพราะเมตตาและการให้อภัย เป็นคุณประโยชน์แก่เรา เป็นความสงบร่มเย็นของเราเอง ไม่ใช่ของใครอื่น

การให้อภัย จึงเป็นชัยชนะของผู้มีปัญญา

ที่มา http://board.palungjit.com/
276  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ทำไมบางคน ถึงได้ใจทุกข์ร้อนอยู่เสมอ เมื่อ: มีนาคม 18, 2011, 09:26:15 am
ทำไมบางคน ถึงได้ใจทุกข์ร้อนอยู่เสมอ

ทำไมบางคนถึงทุกข์ร้อน วิตกกังวล กระวนกระวาย ไม่สบายใจ ไม่ปลอดโปร่งอยู่เสมอ

คำตอบง่ายมาก เพราะเขาแบกความคิดและความรู้สึกหลายอย่างเอาไว้ ไม่ปลดปล่อย ไม่ปรับเปลี่ยน จนกระทั่งมันกลายเป็นขยะหรือคราบสกปรกเกาะติดหัวใจ เวลามีอะไรมากระทบหรือสัมผัสกับความรู้สึก ก็จะมีคราบเปื้อนเหล่านี้เข้าไปเจือปน ความสดใสที่ควรจะมี จึงมีได้ไม่เต็มที่

ทำไมเราจึงปล่อยให้ใจเป็น "ถังขยะ" ล่ะ

คำตอบก็คือ เราไม่ค่อยรู้ตัวหรอก ว่าเราแอบทิ้งขยะลงไปในใจของเราเอง หรือมีใครทิ้งขยะลงมาในหัวใจของเราบ้าง ถ้าเราไม่หมั่นสำรวจ บางทีเราอาจมีขยะรกเรื้อหัวใจอยู่มากมายเลยก็ได้ อะไรบ้าง ที่เป็นขยะหัวใจ

1. ความไม่พอใจ

มีหลายเรื่องเลยนะ ในชีวิต ที่เราไม่พึงพอใจ ถ้าจะแบ่งให้กว้างที่สุดเพื่อให้เห็นภาพ สิ่งที่ทำให้เราไม่พอใจมีอยู่ 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ ไม่พอใจคนอื่น กับไม่พอใจตัวเอง ไม่พอใจคนอื่นเกิดได้มากกว่าความไม่พอใจในตัวเอง เพราะธรรมชาติของคน ย่อมรักตัวเองมากกว่าคนอื่น ย่อมโทษคนอื่นก่อนโทษตัวเอง ย่อมเห็นความผิดของคนอื่นได้ก่อนและได้ชัดกว่าความผิดของตนเอง

ขณะเดียวกันเราต่างก็รู้ว่า โลกนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ มีเกิน มีขาด จนกว่าจะค่อยๆ ปรับปรุงพัฒนาให้มีความพอดีได้ จึงจะเข้าใกล้ความสมบูรณ์แบบมากที่สุด ฉะนั้น เราควรมองด้านดีของกันและกันให้มากกว่าด้านที่บกพร่อง

ถ้าเราเริ่มจากมองด้านดีของกันและกันแล้ว ความพึงพอใจ และความนับถือในกันและกันก็จะเกิด ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่สร้างสรรค์...กว่าการจับผิดกัน แล้วนำไปสู่ความไม่พอใจ

 


2. ความผิดหวัง

2 สิ่งที่ไม่ควรตั้งความหวังไว้สูงนัก คือหวังว่าเรื่องบางเรื่อง เหตุการณ์บางเหตุการณ์ หรือคนบางคนในอดีตจะย้อนกลับมา กับหวังว่าอนาคตจะเป็นไปตามที่เราวาดหวังเสียทุกประการ อดีตเป็นสิ่งที่ยากจะเรียกหาให้ย้อนกลับคืนมาเป็นเหมือนเดิม ดีที่สุดคือใช้อดีตเป็นบทเรียน ให้สติ ให้เราเรียนรู้ทั้งโอกาสและความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้น เพื่อให้วันนี้และวันข้างหน้า ดีกว่าอดีตที่เคยเป็น

ส่วนอนาคตย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุปัจจัย ไม่สามารถบังคับบงการให้เป็นไปตามความหวังของเราได้เสียทั้งหมด แต่พอจะคาดการณ์ได้ว่าน่าจะเป็นอย่างไร กระนั้นก็ตาม หากไม่เป็นไปอย่างที่คาดการณ์ ก็อย่าได้ทุกข์ร้อนเสียใจ และปล่อยความคาดหวังบนความไม่แน่นอนแบบนี้ให้เป็นขยะรกอารมณ์

3. ความอิจฉาริษยา

ขยะอย่างหนึ่งที่รกใจคนที่สุด ก็คือความอิจฉาริษยาคนอื่น โดยไม่ทันเฉลียวว่า ทุกครั้งที่เราอิจฉาริษยาใครก็ตาม ความนับถือตัวเองของเราก็เสื่อมถอยลงไปด้วย เพราะการจะรู้สึกอิจฉาหรือริษยาใครนั้น ย่อมมีพื้นฐานมาจากความรู้สึกว่าเขาดีหรือได้ดีกว่าเรา เราจึงอิจฉาเขาเป็นพัลวัน

จงหยุดอิจฉา แล้วมองให้เห็นว่า การที่คนอื่นได้ดีหรือมีดีกว่าเรานั้น เป็นสิ่งที่น่ายินดี ควรยินดีกับเขา และปรับเปลี่ยนโน้มน้าวตัวเองให้ทวีความดีดั่งที่เขามีจนเราอิจฉา

 


4. ความยึดมั่นถือมั่น

ขยะที่เพิ่มพูนความรกเรื้อรุงรังให้ใจได้เป็นอย่างดีอีกประการหนึ่งคือ ความยึดมั่นถือมั่น คิดว่านั่นก็คนของฉัน นี่ก็บ้านของฉัน รถของฉัน คนรักของฉัน ตำแหน่งของฉัน ฯลฯ จนไม่สามารถปล่อยวาง ?สิ่งนอกตัว? เหล่านั้นลงได้

ส่วนใหญ่พบว่า จิตจะปรุงแต่งไปเอง ว่าสิ่งนี้ฉันรัก สิ่งนี้ฉันเป็นเจ้าของ ใครก็เอาไปจากฉันไม่ได้ พอไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ ก็ผูกพันหน่วงเหนี่ยว ยังคงเสียดาย เสียใจ และปรุงแต่งจิตเพิ่มเข้าไปว่าฉันนี้แสนทุกข์ระทม

ลองยอมรับความจริงดูบ้างไหม ว่าอะไรๆ ในโลกนี่ก็ไม่ใช่ของเราอย่างถาวรทั้งสิ้น แม้กระทั่งร่างกายของเรานี้ แท้ก็เป็นแค่ของยืมมา ใช้ได้ชาตินี้ชาติเดียว เดี๋ยวก็เสื่อม ก็แก่ ก็ป่วย ก็ตาย ต้องคืนร่างกายสังขารนี้สู่สภาพดิน น้ำ ลม ไฟ เน่าเปื่อยผุพังไป สิ้นความสวยความหล่อ ตลอดจนลาภยศสรรเสริญทั้งปวง

 

5. ความกลัว

ใจหลายคน รุงรังไปด้วยความกลัว กลัวเขาจะไม่รัก กลัวเงินจะหมด กลัวฝนจะตก กลัวนายจ้างจะเลิกจ้าง กลัวเพื่อนร่วมงานจะได้ดีกว่า กลัวไม่ก้าวหน้า ไม่ได้โบนัส ฯลฯ

กลัวไปทำไม เรื่องบางเรื่องเราตัดสินเองไม่ได้ อยู่นอกเหนือจากการควบคุม ซึ่งกลัวไปก็เท่านั้น ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นสักนิด บางเรื่องแทบไม่มีวันมาถึงในชีวิต ก็กลัวล่วงหน้า กลัวจนประสาทเสีย

จงพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกคนและทุกสิ่งในชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี ซึ่งต้องเริ่มจากการทำแต่สิ่งที่ดี โปร่งใส ไม่เป็นแผลติดตัวที่ต้องปิดบังซ่อนเร้น และจงขจัดความกลัวออกไปจากใจ เพื่อให้เกิดความมั่นใจที่จะใช้ชีวิตของเราให้สมศักดิ์ศรี เพื่อที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพื่อทำให้ชีวิตนี้ดีกว่าเดิม


6. ความอยาก

จง "อยาก" ให้พอดีกับกำลังกาย กำลังทุน และกำลังสติปัญญาของตัวเอง อย่าอยากจนเกินกำลัง เพราะจะทำให้สิ้นกำลังได้ง่าย แล้วกลายเป็นคนพ่ายแพ้ อ่อนแอ หมดสิ้นความทะเยอทะยานอยากในชีวิต

ความทะเยอทะยานอยากเหมือนรถ แต่ใจเราคือคนขับ รถแล่นด้วยความเร็วกำลังดี เราก็ได้ประโยชน์ จอดอยู่เฉยๆ ก็นิ่งอยู่กับที่ แต่หากแล่นฉิวจนเกินควบคุม ก็อันตรายกับชีวิต ฉะนั้น ใจต้องเป็นนายของความทะเยอทะยานอยาก ขับเคลื่อนความทะเยอทะยานอยากโดยควบคุมได้



ทำอย่างไรให้ใจสะอาด

เริ่มจากปล่อยวางสิ่งต่างๆ ลง อย่ายึดติดยึดถือให้มากนัก แล้วอยู่กับปัจจุบัน อะไรที่อยู่กับเรา เป็นของเรา ย่อมอยู่กับปัจจุบันของเราด้วย นั่นคือสิ่งจริงแท้แน่นอน การปล่อยวางสิ่งต่างๆ ลง เท่ากับการเทขยะทิ้ง การอยู่กับปัจจุบัน เท่ากับการปิดฝาถังขยะ ไม่เปิดรับขยะใหม่ๆ ให้ใจต้องสกปรกรกรุงรังอีก เพื่อมีเวลาทำความสะอาดหัวใจให้ผ่องใส เบิกบาน

ใจ...แท้จริงผ่องใสด้วยตัวของมันเอง แต่คนที่เป็นเจ้าของหัวใจต่างหาก ที่ชักนำสิ่งต่างๆ มาปะพอก จนใจนั้นหมดสภาพ ฟื้นหัวใจให้กลับไปผ่องใสดังเดิมกันเถิด ปัดฝุ่นและคราบเขม่าทั้งหลาย แล้วเปิดทางให้หัวใจได้หายใจ เต้น และรู้สึกด้วยตัวของมันเอง

อย่าไปบงการหัวใจมาก เพราะแทนที่จะเป็นหัวใจ มันจะกลายเป็นถังขยะแทน

 

 

 ที่มา   http://fws.cc/clubdee/index.php?topic=1277.0
277  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: ขอคำปรึกษา เพื่อนสมาชิกธรรม เรื่อง วัตถุ หน่อยครับ เมื่อ: มีนาคม 17, 2011, 09:53:05 am
ใช้ เน๊ตบุ๊ค น่าจะดีกว่านะเพราะมีฝาปิด อีกอย่าง มี os พวกวินโดว์ ใช้งานด้วย

 ประหยัด และ พอเพียง นะจ๊ะ อย่าไปตื่นกับกระแสวัตถุนิยม นะจ๊ะ

 :29:
278  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: เห็นความจริงคือ เห็นอะไร เมื่อ: มีนาคม 13, 2011, 11:20:23 am
น่าจะเป็นการเห็น ใน อริยสัจจะ 4 ประการ มากกว่า นะคะครูภา

  คือเห็น ทุกข์  สมุทัย นิโรธ และ มรรค

 :s_hi:
279  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ในโลกนี้ มีใครพูดจริง มาตลอดทุกวินาที เมื่อ: มีนาคม 12, 2011, 10:12:06 am
                   พูดมาก    เสียมาก
                  พูดน้อย    เสียน้อย
                  ไม่พูด      ไม่เสีย
                  นิ่งเสีย      โพธิสัตว์
280  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: เชิญร่วมโพสต์ ภาพไทยๆ อวยพรในวันปีใหม่ไทยกันบ้าง เมื่อ: มีนาคม 06, 2011, 11:18:10 am
ชื่นมื่น ทั่วไทย ในเทศกาลวันสงกรานต์

หน้า: 1 ... 5 6 [7] 8 9 ... 13