ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: แม่บท บุตร 3 ประเภท  (อ่าน 324 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
แม่บท บุตร 3 ประเภท
« เมื่อ: เมษายน 25, 2023, 08:09:35 am »
0
แม่บท บุตร 3 ประเภท
======================
          อติชาตํ อนุชาตํ               ปุตฺตมิจฺฉนฺติ ปณฺฑิตา
          อวชาตํ น อิจฺฉนฺติ            โย โหติ กุลคนฺธโน ฯ
          เอเต โข ปุตฺตา โลกสฺมึ     เย จ ภวนฺติ อุปาสกา
          สทฺธาสีเลน สมฺปนฺนา      วทญฺญู วีตมจฺฉรา
          จนฺโท อพฺภฆนา มุตฺโต     ปริสาสุ วิโรจเรติ ฯ
          อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา  อิติ เม สุตนฺติ ฯ ปญฺจมํ ฯ
------------------------------------------------------------
          บัณฑิตทั้งหลาย ย่อมปรารถนาอติชาตบุตร และอนุชาตบุตร
 ไม่ปรารถนาอวชาตบุตร ซึ่งเป็นผู้ทำลายตระกูล ส่วนบุตร
 เหล่าใดเป็นอุบาสก บุตรเหล่านั้นแลชื่อว่าเป็นบุตรในโลก
 บุตรเหล่านั้นมีศรัทธา ถึงพร้อมด้วยศีล ผู้ (โอบอ้อมอารี)
 รู้ความประสงค์ ปราศจากความตระหนี่ ย่อมรุ่งเรืองใน
  บริษัททั้งหลาย เปรียบเหมือนพระจันทร์พ้นแล้วจากเมฆ
  ฉะนั้น ฯ
อติชาตบุตร บุตรที่ดียิ่งกว่าพ่อแม่
อนุชาตบุตร บุตรที่เสมอพ่อแม่
อวชาตบุตร บุตรที่เลวกว่าพ่อแม่
ใครได้บุตรแบบไหน ก็ต้องประมาณใจไว้ ความดี ความเลว เป็นนิสัยติดตัวมาแต่เกิด ใช่ว่าจะเกิดจากการอบรม ภาษากรรมฐานเรียกว่า อนุสัย สันดานติดตัว คนไหนเป็นคนดีมาหลายชาติ แม้อยู่ในที่ยอดแย่ ก็ไม่แย่ตาม คนไหนเป็นคนชั่วมาหลายชาติ แม้อยู่ในที่ดี ๆ ก็เลวได้เช่นกัน อารมณ์และอุปนิสัยคือสิ่งติดตัวของแต่ละคน แต่จะสามารถข่มได้ด้วยการเรียนรู้คุณธรรม และหักห้ามได้ด้วยการสมาทานศีล
เจริญธรรม / เจริญพร
======================
          อติชาตํ อนุชาตํ               ปุตฺตมิจฺฉนฺติ ปณฺฑิตา
          อวชาตํ น อิจฺฉนฺติ            โย โหติ กุลคนฺธโน ฯ
          เอเต โข ปุตฺตา โลกสฺมึ     เย จ ภวนฺติ อุปาสกา
          สทฺธาสีเลน สมฺปนฺนา      วทญฺญู วีตมจฺฉรา
          จนฺโท อพฺภฆนา มุตฺโต     ปริสาสุ วิโรจเรติ ฯ
          อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา  อิติ เม สุตนฺติ ฯ ปญฺจมํ ฯ
------------------------------------------------------------
          บัณฑิตทั้งหลาย ย่อมปรารถนาอติชาตบุตร และอนุชาตบุตร
 ไม่ปรารถนาอวชาตบุตร ซึ่งเป็นผู้ทำลายตระกูล ส่วนบุตร
 เหล่าใดเป็นอุบาสก บุตรเหล่านั้นแลชื่อว่าเป็นบุตรในโลก
 บุตรเหล่านั้นมีศรัทธา ถึงพร้อมด้วยศีล ผู้ (โอบอ้อมอารี)
 รู้ความประสงค์ ปราศจากความตระหนี่ ย่อมรุ่งเรืองใน
  บริษัททั้งหลาย เปรียบเหมือนพระจันทร์พ้นแล้วจากเมฆ
  ฉะนั้น ฯ
อติชาตบุตร บุตรที่ดียิ่งกว่าพ่อแม่
อนุชาตบุตร บุตรที่เสมอพ่อแม่
อวชาตบุตร บุตรที่เลวกว่าพ่อแม่
ใครได้บุตรแบบไหน ก็ต้องประมาณใจไว้ ความดี ความเลว เป็นนิสัยติดตัวมาแต่เกิด ใช่ว่าจะเกิดจากการอบรม ภาษากรรมฐานเรียกว่า อนุสัย สันดานติดตัว คนไหนเป็นคนดีมาหลายชาติ แม้อยู่ในที่ยอดแย่ ก็ไม่แย่ตาม คนไหนเป็นคนชั่วมาหลายชาติ แม้อยู่ในที่ดี ๆ ก็เลวได้เช่นกัน อารมณ์และอุปนิสัยคือสิ่งติดตัวของแต่ละคน แต่จะสามารถข่มได้ด้วยการเรียนรู้คุณธรรม และหักห้ามได้ด้วยการสมาทานศีล
เจริญธรรม / เจริญพร
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ