ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สุดอลังการ บวชนาคช้างสุรินทร์แบบชาวกูยโบราณ เฉลิมพระเกียรติพระเจ้าอยู่หัว ร.10  (อ่าน 676 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28415
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




สุดอลังการ! บวชนาคช้างสุรินทร์แบบชาวกูยโบราณ เฉลิมพระเกียรติพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐

สุรินทร์- สุดอลังการบวชนาคช้าง เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ ๑๐ เฉลิมพระชนพรรษาครบ 66 พรรษา เผยขบวนแห่นาค 80 นั่งหลังช้าง 50 เชือก ตกแต่งสวยงาม เดินเท้า 4 กิโลฯ เข้าโบสถ์วัดป่าอาเจียง เพื่อประกอบพิธีอุปสมบท แบบชาวกูยโบราณ



วันนี้ (21 ก.ค. ) ที่บริเวณลานพระครู ปะกำ โครงการคชอาณาจักร องค์การสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ บ้านภูดิน ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ พระครูสมุห์หาญ ปัญญาธโร เจ้าอาวาสวัดป่าอาเจียง พร้อมด้วย ผู้จัดการโครงการคชอาณาจักร องค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประชาชนชุมชนชาวกูย คนเลี้ยงช้าง กว่า 200 คน ได้ร่วมพิธี เซ่นไหว้บวงสรวง อนุสาวรีย์รูปเหมือนพระครูปะกำ ที่ชาวกูย ชุมชนคนเลี้ยงช้าง ให้ความเคารพกราบไหว้ ก่อนนำช้าง 50 เชือก เข้าร่วมขบวนแห่นาคบนหลังช้าง ในงานประเพณีบวชนาคช้างจังหวัดสุรินทร์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ ๑๐ ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนพรรษาครบ 66 พรรษา 28 กรกฎาคม 2561

โดย ครูบาใหญ่ บุญมา แสนดี อายุ 91 ปี หมอช้างอาวุโสสูงสุดของชาวกูย คนเลี้ยงช้าง เป็นผู้นำประกอบพิธี นำอาหารเครื่องคาว หวาน น้ำดื่ม เซ่นไหว้บวงสรวงรูปเหมือนพระครูปะกำ พร้อมเป่าเสนงเกล หรือ แตรทำจากเขาควาย ใช้เป่าก่อนออกคล้องช้างในอดีต




จากนั้น นาค ทั้ง 80 นาค ได้ขึ้นนั่งบนหลังช้าง 50 เชือก ตั้งริ้วขบวนแห่นาคบนหลังช้าง 50 เชือก อย่างยิ่งใหญ่อลังการ เริ่มจากขบวนนักเรียนอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวงรัชกาล ที่ ๑๐ ตามด้วยขบวนแห่เทียนพรรษา ขบวนประเพณีวัฒนธรรมของชุมชนชาวกูย ขบวนช้างโดยช้างเชือกแรกอัญเชิญพระฉายาลักษณ์ ในหลวงรัชกาล ที่ ๑๐ เดินนำหน้าอย่างสง่างาม ตามด้วยขบวนนาคที่นั่งบนหลังช้างอย่างยิ่งใหญ่อลังการ

อีกทั้ง การแต่งตัวนาคของชุมชนชาวกูย จะแตกต่างจากท้องถิ่นอื่นของไทย โดย นาคชุมชนชาวกูยจะแต่งหน้าทาปาก นุ่งโสร่งสวมเสื้อขาวสว่าง คลุมผ้าสี และสวมกระโจมนาคหรือชฎานาค ซึ่งแต่ละชิ้นนั้นมีความหมายที่แตกต่างกันออกไป อาทิ ผ้าหลากสี เปรียบดังแสงรุ้ง 7 สีของผู้มีบุญวาสนา ,เสื้อสีขาวสว่าง คือการไม่หมกมุ่นในที่มืด , กระโจมนาค หรือ ชฎานาค ที่ทำจากไม้ไผ่และตกแต่งด้วยกระดาษสี ห้อยนุ่นไว้ด้านข้างนั้น

มีความหมายว่า ยอดที่แหลมเปรียบดั่งสมองอันหลักแหลมในการศึกษาพระธรรม กระดาษสีเปรียบดั่งความเปลี่ยนแปลงของแสงสี ไม่ให้เราหลงละเลิงไปกับมันเพราะทุกอย่างมีทั้งดีและไม่ดี มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และ นุ่น ที่ห้อยไว้ด้านข้างของกระโจมนาค ถูกใช้แทนต่างหู เปรียบได้ว่าอย่าได้เป็นคนหูเบา อีกทั้งยังมีเครื่องประดับอื่นๆ อีกเช่น สังวาล, ตรึม , กำไล (เครื่องประดับโบราณ) ซึ่งปัจจุบันสิ่งเหล่านั้นได้สูญหายไปหมดแล้ว จึงมีการใส่สร้อยทองแทน




ขบวนแห่นาคบนหลังช้าง เดินเท้าเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร เข้ามายังบริเวณวัดและศาลาเอราวัณ ภายในวัดป่าอาเจียง บ้านหนองบัว ต.กระโพ และเข้าอุโบสถ เพื่อประกอบพิธีบรรพชา อุปสมบท เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ ๑๐ และจะปฏิบัติกิจของสงฆ์ ตลอดระยะเวลา 3 เดือน ในช่วงเข้าพรรษาต่อไป










ขอบคุณภาพและข่าวจาก
https://m.mgronline.com/local/detail/9610000072674
เผยแพร่: 21 ก.ค. 2561 22:39  โดย: MGR Online
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ