ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สั่งงดเข้าชมภายในองค์พระธาตุพนม หลัง ”พานทองคำ” หาย  (อ่าน 734 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28420
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0





เผยภายในองค์พระธาตุพนม คลังสมบัติโบราณสีทองอร่าม เต็มไปด้วยสิ่งของล้ำค่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ สั่งงดเข้าชมหลัง”พานทองคำ”หาย

เผยภายในเจดีย์พระธาตุพนม คลังสมบัติโบราณสีทองอร่าม เต็มไปด้วยสิ่งของมีค่า ทั้งพระธาตุ สิ่งศักดืสิทธิ์ แก้วแหวนเงินทอง พระพุทธรูป ล่าสุดสั่งงดชมในองค์พระธาตุ หลังมีข่าวพานทองคำหาย

วัดพระธาตุพนม สั่งงดเข้านมัสการภายในองค์พระธาตุพนม หลังมีข่าววุ่นพานทองคำหาย เร่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ด้านนายกเล็ก ทต.ธาตุพนม เชื่อไม่สูญหาย อาจมีการเคลื่อนย้ายที่เก็บ ยืนยันไม่มีใครกล้าขโมย ศักดิ์สิทธิ์จริง เตรียมจัดระเบียบงดเข้าชมภายในถาวร

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้ากรณี มีกระแสข่าวเกี่ยวกับพระชื่อดัง หลวงปู่ภูพาน วัดโนนสวรรค์ (ภูดินแดง) บ้านโนนสวรรค์ ต.พังข้าง อ.เมือง จ.สกลนคร ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูล เพื่อเรียกร้องให้ทางวัดพระธาตุพนม วรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม รวมถึงหน่วยงานเกี่ยวข้อง ออกมาตรวจสอบ โดยระบุว่า มีพานทองคมลงยาทองคำ ประมาณ 42 บาท ซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่าทางประวัติศาสตร์เคยนำไปใช้ในพิธีต้อนรับพระราชอาคันตุกะ ของราชวงศ์ไทย ที่พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จ.สกลนคร ได้สูญหายไป หลังจากได้นำเข้าไปถวายเก็บรักษาไว้ภายในองค์พระธาตุพนม เมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา จนกระทั่งล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เข้าไปสักการบูชา แต่ไม่พบพานทองคำที่นำเข้าไปเก็บรักษาไว้ พร้อมประสานไปยังทางวัดเพื่อตรวจสอบ แต่ยังไม่พบว่า พานทองคำ ดังกล่าว เก็บรักษาไว้ที่ไหน จึงต้องการให้มีการตรวจสอบ และเพิ่มมาตรการในการดูแลรักษาทรัพย์สินมีค่าภายในองค์พระธาตุพนม เกรงว่าจะมีการสูญหาย เนื่องจากปัจจุบันมีการเปิดให้บุคคลภายนอกเข้าไปกราบสักการะถึงภายในองค์พระธาตุพนมบ่อยครั้ง

ล่าสุดทางด้าน พระครูพนมปรีชากร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ได้หารือประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับหลักฐานข้อมูลการเก็บรักษาพานทองคำ เพื่อไม่ให้สร้างความเสื่อมเสียกับทางวัด พร้อมออกคำสั่งให้งดเปิดให้บุคคลภายนอกเข้านมัสการ ชมภายในองค์พระธาตุพนม จนกว่าจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วเสร็จ และจะได้มีการเพิ่มมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยเข้มงวดมากขึ้น โดยในส่วนของการนำพานทองคำ มาเก็บรักษาไว้ภายในองค์พระธาตุพนม เบื้องต้นจากการตรวจสอบ พบว่ามีเจ้าหน้าที่ยืนยันว่ามีการนำมาเก็บรักษาไว้ ตามความเชื่อความศรัทธา จริง แต่ภายหลังอาจมีการเคลื่อนย้ายไปเก็บในที่เหมาะสม และอาจจะหาไม่พบ เพราะภายในมีสิ่งของมีค่า รวมถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากที่นำมาเก็บรักษาไว้ แต่จะไม่มีการลงทะเบียนเป็นลายลักษณ์อักษร เพราะในการนำมาถวายส่วนใหญ่เป็นเรื่องของความเชื่อ ความศรัทธาของแต่ละบุคคล แต่หากมีการสูญหายจริง จะต้องมีการตรวจสอบหาตัวผู้กระทำผิด และวางระเบียบหาทางป้องกันแก้ไขในระยะยาว ซึ่งจะต้องรอการตรวจสอบหาความชัดเจน จากเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง



ด้าน นายขจรศักดิ์ นิตชิน นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นคพรนม ออกมาเปิดเผยว่า ในฐานะที่ตนเป็นคนที่มีส่วนร่วมในการดูแลวัดพระธาตุพนม รวมถึงเป็นคนธาตุพนมโดยกำเนิด ยังมีความเชื่อมั่นว่า พานทองคำ ที่เป็นข่าวว่าหายไปยัง ยังอยู่ภายในวัด เพราะภายในองค์พระธาตุพนม ที่มีพื้นที่เก็บรักษาทรัพย์สิน ของมีค่า รวมถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จำนวนถึง 5 ชั้น รวมถึงพระอุรังคธาตุ หรือกระดุกส่วนหน้าอก ของพระพุทธเจ้า ในชั้นที่ 4 -5 โดยทรัพย์สินมีค่าส่วนใหญ่ จะมาจากความเคารพศรัทธา ความเชื่อ จึงได้นำมาถวายเพื่อเก็บรักษา เชื่อว่าจะเป็นบุญกุศล รวมถึงเป็นบุญบารมี บางคนมีเอาทองคำรูปพรรณมาถวายน้ำหนักมากถึง 400 บาท ซึ่งจะนำเข้าไปเก็บรักษาไว้ภายในองค์พระธาตุพนม แต่ส่วนใหญ่ไม่มีการบันทึกเป็นหลักฐานหรือลงทะเบียน เพราะเป็นเรื่องความศรัทธา และมอบให้เป็นเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องของวัดดูแลรักษา

ที่สำคัญในเรื่องการเก็บรักษาส่วนใหญ่ไม่มีความกังวลเพราะเชื่อว่า ความศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงความเคารพศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ทำให้ไม่มีใครกล้าที่จะคิดมาลักขโมย เพราะเชื่อในบาปบุญคุณโทษ อีกทั้งในอดีตที่ผ่านมา เคยมีบุคคลคิดไม่ดี นำสิ่งของมีค่าในวัดออกไป รวมถึงมีเรื่องราวเหลือเชื่อเกิดขึ้นในอดีตเมื่อครั้ง พระธาตุพนมล่ม ปี 2518 มีคนนำเอาก้อนอิฐ ก่อนดิน รวมถึงสิ่งของออกไปจากวัด ยังมีเรื่องเหลือเชื่อเกิดขึ้น ทำให้เจ็บป่วย และมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น จนต้องนำมาส่งคืน เช่นกันในเรื่องพานทองคำ ตนเชื่อว่าหากมีคนนำไปจริง คงไม่นานจะได้กลับคืน เป็นเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ ที่หลายคนไม่เชื่อ แต่ส่วนตัวนั้นไม่เคยลบหลู่ อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดปัญหาจะต้องหาทางพุดคุยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในการจัดระเบียบในการดูแลเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย เพราะช่วงหลังต้องยอมรับว่ามีการเกิดให้คนเข้าไปสักการะบูชาภายในบ่อยครั้ง เพราะอยากให้คนที่เคารพศรัทธาได้ใกล้ชิด แต่ทุกครั้งมีระเบียบขั้นตอน และเจ้าหน้าที่ดูแลใกล้ชิดตลอด ซึ่งไม่เคยเกิดปัญหามาก่อน โดยจะต้องเร่งดำเนินการตรวจสอบไม่ให้วัดเสื่อมเสีย และยังเชื่อมั่นว่า พานทองคำ ดังกล่าวยังอยู่ภายในวัด


ภายในพระธาตุ

สำหรับองค์พระธาตุพนม ตั้งอยู่ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ถือเป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เป็นที่เคารพศรัทธาทั้งชาวไทย ชาวลาว รวมถึงพุทธศาสนิกชนทั่วโลก อีกทั้งยังเป็น 1 ใน 7 พระธาตุประจำวันเกิด ที่เป็นเส้นทางท่องเที่ยว ในพื้นที่ จ.นครพนม ซึ่งองค์พระธาตุพนม จะเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ และเป็นพระธาตุประจำปีเกิด ของผู้ที่เกิดปีวอก โดยจากตำนานพระธาตุพนม ในอุรังคนิทาน ระบุไว้ว่า เมื่อครั้งพุทธกาล พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เสด็จมาประทับที่ภูกำพร้า หรือที่ตั้งองค์พระธาตุพนม ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นประเพณีของพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ เมื่อนิพพานไปแล้ว พระสาวกจะนำเอาพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุไว้ รวมถึงพระองค์ด้วย ทำให้ภายหลังต่อมาพระพุทธเจ้าปรินิพพาน เป็นการเริ่มต้นปีพุทธศักราช จนกระทั่งเมื่อประมาณ ปี พุทธศักราช 8 ในยุคอาณาจักรศรีโคตรบูร เจริญรุ่งเรือง โดยพระมหากัสปะ พร้อมด้วย พระอรหัน 500 องค์ ได้นำก่อสร้างพระธาตุพนม ขึ้น เพื่อนำพระอุรังคธาตุ หรือกระดูกส่วนหน้าอก ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาบรรจุไว้ ภายใน เพื่อเป็นที่สักการบูชา ของพุทธศาสนิกชน และมีการบูรณะซ่อมแซมมาถึงปัจจุบัน

จนกระทั่งเมื่อปี 2518 ได้เกิดเหตุการณ์พระธาตุพนมถล่ม เพราะเกิดพายุฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน แต่สิ่งที่ไม่คาดคิด นอกเหนือจากความสูญเสีย กับเป็นความโชคดีที่พุทธศาสนิกชน ได้มีโอกาสพบเห็น โบราณวัตถุ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงหลักฐานตำนานพระอุรังคธาตุ ที่บรรจุไว้ภายใน จนได้มีการบูรณะซ่อมแซมสร้างพระธาตุพนมขึ้น คงอยู่มาถึงปัจจุบัน ซึ่งในการก่อสร้างลักษณะสถาปัตยกรรม รูปสี่เหลี่ยมก่อด้วยอิฐ มีซุ้มซ้อนกัน 3 ชั้น ลดหลั่นลงมาจนถึงองค์สถูป ที่มีการตกแต่งลวดลายพุทธประวัติที่สวยงาม ภายในมีการแบ่งออกเป็น 7 ชั้น เพื่อบรรจุพระอุรังคธาตุ รวมถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัตถุโบราณ มีความสูงจากฐาน ประมาณ 57 เมตร ฐานกว้าง ประมาณ 12 เมตร ซึ่งภายหลังการบูรณะแล้วเสร็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จ เป็นประธานประกอบพิธีบรรจุ พระอุรังคธาตุ เมื่อปี 2522 ถือเป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวไทย และชาวต่างชาติ เชื่อกันว่า ถ้าใครมีโอกาสเดินทางไปไหว้พระธาตุพนมอันศักดิ์สิทธิ์ ถวายเครื่องสักการะบูชาหน้าองค์พระธาตุพนม จิตใจจะสงบเยือกเย็นอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง ถ้ายังไม่บรรลุนิพพานในชาตินี้ เมื่อตายแล้ววิญญาณก็จะได้ไปสู่สวรรค์ ทำให้มีพุทธศาสนิกชน เคารพศรัทธา บางคนยอมเอาทรัพย์สินมีค่ามาถวายไว้ภายในองค์พระธาตุพนม ตามความเชื่อว่า เป็นการเสริมบุญบารมี



ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news/174332
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ