ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ดูละครย้อนดูจิต : ธรรมะยู-เทิร์น  (อ่าน 1168 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28444
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ดูละครย้อนดูจิต : ธรรมะยู-เทิร์น
« เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2015, 10:14:11 pm »
0


ดูละครย้อนดูจิต : ธรรมะยู-เทิร์น
โดย อิทธิโชโต

     แสวงหาที่ไม่ฉลาดในธรรม  ย่อมไม่เห็นแจ้งนิพพานที่อยู่ใกล้ตัว   
     (ปัคคัยหสูตร ๑๘/๑๔๒)

     ลูกศิษย์ถามว่า ดูละครซีรีส์ ‘พระพุทธเจ้า’ ไม่เหมือนในพุทธประวัติเลย
     เราจึงถามว่า เวลาดูหนัง ดูอะไร


หนังก็คือ หนัง ส่วนพุทธประวัติก็คือ พุทธประวัติ การที่เขาทำหนังออกมาไม่ใช่ว่าจะทำได้เป๊ะๆ อย่างที่มันควรจะเป็น เพราะเขาก็ต้องตีความตามความคิดของเขา และการทำให้คนหมู่มากชม ก็ต้องทำในแบบที่เขาคิดว่าจะนำเสนออย่างไรให้คนเข้าใจง่าย แต่เป็นที่น่าตั้งคำถามว่า ทำไมศาสนาพุทธจึงเกิดที่ประเทศอินเดีย  แล้วทำไมคนอินเดียนับถือน้อย และพุทธศาสนาทำไมจึงหายไปจากอินเดียได้  เมื่อศาสนาพุทธมาประดิษฐานในประเทศไทย เหตุใดคนจึงเคารพศรัทธากันทั่วประเทศ อีกทั้งรอยต่อ การเดินทางของพระพุทธศาสนา  ที่ทำให้คนหันมาสนใจศึกษาและปฏิบัติไปทั่วโลกเป็นเพราะอะไร

อะไรที่เป็นแก่น อะไรที่เป็นเปลือก เราต้องแยกแยะให้เห็น และมองให้ออกว่า ถ้าไม่มีเปลือก แก่นก็อยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีแก่น เปลือกก็ไม่มีความหมาย


 :96: :96: :96: :96: :96:

เวลาดูหนัง จึงอย่าไปมั่นใจว่า จะเหมือนกันทุกอย่าง ความจริงก็คือความจริง ส่วนเรื่องมาแต่งทีหลังจะให้เหมือนเดิม หรือเป็นไปแบบพุทธประวัติ เป็นไปไม่ได้ การแต่งตัว การสร้างฉากเขาก็ต้องทำให้น่าสนใจ เพราะเป็นงานศิลปวัฒนธรรมของเขา และเป็นมุมมองของผู้เขียนบทที่จะเจียระไนพุทธประวัติออกมา 

แต่เราก็อย่าไปคาดหวังว่า จะให้หนังเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ เพราะมันเป็นเรื่องของคนทำ

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นประวัติของพระพุทธเจ้า หรือที่เขาทำขึ้นมาใหม่ก็แล้วแต่ ให้เรารับรู้ทั้งสองอย่าง คือ รู้แล้วเข้าใจ และวางมันได้ นั่นคือ หนังอาจมีข้อคิดดีๆ ก็เก็บมาเป็นสติ นำมาปรับใช้ในชีวิตเราได้  ส่วนที่ไม่ใช่ก็เป็นเรื่องของเขา ดูแล้วก็ผ่านไป


 :25: :25: :25: :25:

เหมือนเรื่องอื่นๆ ในชีวิตเรา ต้องมองให้ออกว่า ไม่ว่าข่าวดีหรือข่าวร้าย  เราก็ต้องอยู่เหนือมันให้ได้  แล้วทุกเรื่อง เดี๋ยวมันก็ผ่านไป อย่าไปหยุดเรื่องนั้น เรื่องนี้ไว้ที่ใจเรา อันจะทำให้ใจเราขุ่นมัว

จะทำเช่นนี้ได้ก็ต้องมีสติ  เพราะสติที่แข็งแรงเท่านั้น จึงสามารถเห็นว่า อะไรเป็นเรื่องปรุงแต่ง อะไรเป็นเรื่องจริง หรือ อะไรเป็นเปลือก และอะไรคือแก่น

"สติ" เท่านั้น ที่จะทำให้เราดูหนังอย่างเข้าใจผู้สร้าง ผู้กำกับ ผู้เขียนบท  ขณะเดียวกันก็เข้าใจตัวเราเองว่า ดูทำไม ดูเพื่ออะไร  ดูสนุก หรือดูเอาสาระ  ดูเพื่อวิพากษ์วิจารณ์ จับผิด หรือดูเพื่อเป็นการศึกษาตัวเรา 


 st12 st12 st12 st12

การเผยแผ่ธรรมะที่พระพุทธองค์ค้นพบนั้น ทำได้หลายทาง ทางหนึ่งที่สำคัญมาก ก็คือ การปฏิบัติที่ตัวเรา จนเป็นสื่อธรรมได้ เมื่อคนเห็นเรามีความสุขเขาก็จะถามว่าทำอย่างไร   เช่นเดียวกับหนัง ถ้าผู้ชมดูแล้วมีความสุขได้ข้อคิด เขาก็ติดตาม และนำไปปรับใช้ในชีวิตของเขา


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20150708/209352.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ดูละครย้อนดูจิต : ธรรมะยู-เทิร์น
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2015, 11:12:29 pm »
0

           ขออนุโมทนาสาธุ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา