หัวข้อ: รับศีล แต่ไม่มั่นใจว่าจะรักษาได้.. เมื่อรับมาแล้ว รักษาไม่ได้ เป็นบาปมากหรือไม่. เริ่มหัวข้อโดย: ฟ้าใหม่แจ่มใส ที่ กุมภาพันธ์ 17, 2011, 09:41:43 pm พอไปที่วัด ทำบุญ พระท่านก็จะให้สมาทานศีล แต่เรื่องศีล โดยเฉพาะเรื่อง มุสาวาท นั้นบางครั้งก็มีการพูดเล่น
กับเื่พื่อน ๆ กัน จึงไม่แน่ใจว่า เรารับศีลมา้เพื่อสร้างบุญให้จิต แต่ตอนที่เราผิดศีล ตอนนี้เป็นบาปมากหรือไม่คะ ดังนั้นถ้าเราไม่มั่นใจ เราไม่รับศีลเลยจะดีกว่าหรือไม่คะ :c017: หัวข้อ: Re: รับศีล แต่ไม่มั่นใจว่าจะรักษาได้.. เมื่อรับมาแล้ว รักษาไม่ได้ เป็นบาปมากหรือไม่. เริ่มหัวข้อโดย: poepun ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2011, 04:03:20 am พอไปที่วัด ทำบุญ พระท่านก็จะให้สมาทานศีล แต่เรื่องศีล โดยเฉพาะเรื่อง มุสาวาท นั้นบางครั้งก็มีการพูดเล่น ไม่น่าจะผิด นะครับ เพราะความตั้งใจคือ ไม่ตั้งใจผิด ผมว่ารับไว้ดีกว่า ไม่รับครับ เพราะการสมาทานเขามีทาง ออกไว้ให้แแล้วครับ อยู่ตอนที่กล่าวว่า เวระมะณี สิกขา ปะทัง สะมาทิยามิ , แต่ถ้าแบบ อุโบสถเลยต้องทำให้ ได้เขาจะว่า แค่ เวระมะณี เท่านั้น คำแปลไม่ค่อยถนัดเดี๋ยวให้ผู้รู้มาแปลกันต่อครับ :25: หัวข้อ: Re: รับศีล แต่ไม่มั่นใจว่าจะรักษาได้.. เมื่อรับมาแล้ว รักษาไม่ได้ เป็นบาปมากหรือไม่. เริ่มหัวข้อโดย: juntra ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2011, 04:04:23 am ไม่ผิดคะ เพราะ ศีลมีองค์ เจตนา ประกอบด้วยคะ ว่าด้วยเรื่ององค์ประกอบของการผิดศีลคะ
:93: หัวข้อ: Re: รับศีล แต่ไม่มั่นใจว่าจะรักษาได้.. เมื่อรับมาแล้ว รักษาไม่ได้ เป็นบาปมากหรือไม่. เริ่มหัวข้อโดย: RATCHANEE ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2011, 04:08:07 am อ่่านเรื่องนี้ประกอบด้วยนะคะ
ศีล กับ กรรมฐาน http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=2162.0 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=2162.0) ศีล มี ๒ ระดับ คือ โลกียศีล และ โลกุตตรศีล http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=1774.0 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=1774.0) หัวข้อ: Re: รับศีล แต่ไม่มั่นใจว่าจะรักษาได้.. เมื่อรับมาแล้ว รักษาไม่ได้ เป็นบาปมากหรือไม่. เริ่มหัวข้อโดย: somchit ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2011, 04:13:49 am เจตนา งดเว้น นะครับที่เป็นเครื่องวัดความตั้งใจ
ศีล หมายถึงความสงบกาย สงบวาจา คะ :bedtime2: หัวข้อ: Re: รับศีล แต่ไม่มั่นใจว่าจะรักษาได้.. เมื่อรับมาแล้ว รักษาไม่ได้ เป็นบาปมากหรือไม่. เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2011, 11:52:40 am กุศลกรรมบถ ๑๐ (ทางแห่งกุศลกรรม, ทางทำความดี, กรรมดีอันเป็นทางนำไปสู่สุคติ ) ว่าโดยหัวข้อย่อ ดังนี้
ก. กายกรรม ๓ (การกระทำทางกาย) ๑. ปาณาติปาตา เวรมณี (เว้นจากปลงชีวิต ) ๒. อทินนาทานา เวรมณี (เว้นจากถือเอาของที่เขามิได้ให้โดยอาการขโมย) ๓. กาเมสุ มิจฉาจารา เวรมณี (เว้นจากประพฤติผิดในกาม) ข. วจีกรรม ๔ (การกระทำทางวาจา ) ๔. มุสาวาทา เวรมณี (เว้นจากพูดเท็จ ) ๕. ปิสุณาย วาจาย เวรมณี (เว้นจากพูดส่อเสียด ) ๖. ผรุสาย วาจาย เวรมณี (เว้นจากพูดคำหยาบ ) ๗. สัมผัปปลาปา เวรมณี (เว้นจากพูดเพ้อเจ้อ ) ค. มโนกรรม ๓ (การกระทำทางใจ ) ๘. อนภิชฌา (ความไม่คิดเพ่งเล็งอยากได้ของเขา ) ๙. อพยาบาท (ความไม่คิดร้ายผู้อื่น) ๑๐. สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ ถูกต้องตามคลองธรรม ) ที่มา พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลธรรม (ป.อ.ปยุตโต) การที่จะวัดหรือประเมิน ศีลของตัวเอง ว่าอยู่ระดับไหน เช่น ศีลขาด ศีลทะลุ หรือ ศีลด่าง ขอให้พิจารณาจาก "กุศลกรรม ๑๐" :s_good: :49: :25: หัวข้อ: Re: รับศีล แต่ไม่มั่นใจว่าจะรักษาได้.. เมื่อรับมาแล้ว รักษาไม่ได้ เป็นบาปมากหรือไม่. เริ่มหัวข้อโดย: หมวยจ้า ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2011, 06:24:35 am คุณ ฟ้าใหม่แจ่มใส คุณฟ้าใส คุณป่าไม้ เกี่ยวข้องกันหรือไม่คร้า...ชื่อคล้ายกันม๊ากมาก
:57: |