ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ที่ว่า "พระสกทาคามีทำกิเลสให้เบาบางนั้น"...แค่ไหน.?  (อ่าน 2163 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28431
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

ที่ว่า "พระสกทาคามีทำกิเลสให้เบาบางนั้น"...แค่ไหน.?

ถาม  สกทาคามิมรรคนั้นละสังโยชน์ได้ ๓ อย่าง กับทำราคะ โทสะ โมหะให้เบาบางลง ความหมายที่ว่า เบาบางนั้นมีแค่ไหน

ตอบ  โดยปกตินั้น โสดาปัตติมรรคละสังโยชน์ได้ ๕ คือ ทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลพตปรามาส อิสสาและมัจฉริยะ ส่วนสกทาคามิมรรคนั้นละสังโยชน์ใดๆ ที่เหลือไม่ได้เลย คือ สังโยชน์มี ๑๐ โสดาปัตติมรรคละไปแล้ว ๕ ยังเหลืออีก ๕

สกทาคามิมรรคละสังโยชน์ ๕ ที่เหลือโดยเด็ดขาดเป็นสมุจเฉทไม่ได้เลย ได้เพียงทำให้ "กามราคะและปฏิฆะ" สังโยชน์ที่เป็นอย่างหยาบที่ไม่นำไปอบาย ให้เบาบางลง ส่วนกามราคะและปฏิฆะอย่างละเอียด ละได้ด้วยอนาคามิมรรค


 :96: :96: :96: :96:

พูดให้ชัดก็คือ เราสามารถจะแบ่งความหนาบางของกิเลสได้เป็น ๓ ขั้น คือ
    ๑. ชนิดที่นำไปอบาย
    ๒. ชนิดที่เป็นอย่างหยาบ
    ๓. ชนิดที่เป็นอย่างละเอียด

     ชนิดที่นำไปอบายนั้น โสดาปัตติมรรคละได้เด็ดขาด
     ชนิดที่เป็นอย่างหยาบแต่ไม่นำไปอบาย สกทาคามิมรรคละได้เด็ดขาด คือ สกทาคามิมรรคละเฉพาะกิเลสอย่างหยาบเท่านั้น ยังละกิเลสที่เป็นอย่างละเอียดไม่ได้
     เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่าทำกิเลสที่เหลือให้เบาบางลง คือ ทำอย่างหยาบให้บางลงเป็นส่วนละเอียด ซึ่งส่วนละเอียดนี้ต้องละด้วยอนาคามิมรรคและอรหัตตมรรค นี่เป็นการพูดอย่างกว้างๆ


      :25: :25: :25: :25:

     ท่านยังกล่าวถึงเหตุที่ทำให้เบาบางไว้ด้วยว่า
          เบาบางด้วยการเกิดขึ้นโดยลำพัง ๑
          เบาบางด้วยความกลุ้มรุมอ่อน ๑
     อธิบายว่า กิเลสย่อมไม่เกิดขึ้นเนืองๆ แก่พระสกทาคามี เหมือนกับที่เกิดแก่ปุถุชนส่วนมากที่แล่นไปตามวัฏฏะ ย่อมเกิดขึ้นเป็นบางครั้งบางคราวเท่านั้น แม้เมื่อเกิดขึ้นก็เป็นอาการที่เบาบาง เหมือนอย่างหน่อพืชในไร่นาที่หว่านไว้ห่างๆ แม้เมื่อเกิดขึ้นก็ไม่รุนแรง ไม่กระทำความมืดมนให้เหมือนกันที่เกิดแก่ปุถุชนส่วนมากที่แล่นไปตามวัฏฏะ

     อีกประการหนึ่งเพราะเหตุที่ถูกมรรคทั้งสองประหานเสียแล้ว จึงเกิดขึ้นอ่อนๆ ไม่รุนแรง ย่อมเกิดขึ้นเป็นอาการบางๆ เหมือนชั้นแห่งหมอก และเหมือนอย่างปีกแมลงปอ จากคำขยายความจากอรรถกถานี้ คงทำให้มองเห็นภาพว่า สกทาคามิมรรคทำราคะและโทสะให้เบาบางได้อย่างไร
     จึงขอยุติปัญหาข้อนี้ไว้เพียงเท่านี้


ที่มา อ้างอิง และแนะนำ :-
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๖  พระอภิธรรมปิฎก เล่มที่ ๓ ธาตุกถา-ปุคคลบัญญัติปกรณ์ [๕๐] บุคคลชื่อว่าสกทาคามี เป็นไฉน
http://www.84000.org/tipitaka/book/v.php?B=36&A=2785&Z=2939#50
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) คำว่า สังโยชน์ 10 [ตามสุตตันตนัย]
http://www.84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=329
คำว่า สังโยชน์ 10 [ตามอภิธรรมนัย]
http://www.84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=330
ที่มา(2) :-
http://www.84000.org/tipitaka/book/nana.php?q=36
ขอบคุณภาพจาก
http://i.ytimg.com/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 15, 2015, 09:26:50 pm โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28431
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
พระสกทาคามี ๕ จำพวก
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2015, 09:40:54 pm »
0
 

อรรถกถาสกทาคามีบุคคล
               
     วินิจฉัยในนิเทศแห่งสกทาคามีบุคคล.
     บุคคลใด ย่อมมาอีกครั้งเดียวด้วยสามารถแห่งปฏิสนธิ เพราะเหตุนั้น ผู้นั้นจึงชื่อว่าสกทาคามี แปลว่า ผู้มาปฏิสนธิอีกครั้งเดียว.

     บทว่า "สกิเทว" ได้แก่ ครั้งหนึ่งเท่านั้น.
     บรรดาพระสกทาคามี ๕ จำพวก...๔ จำพวกพระองค์ไม่ทรงประสงค์เอา แต่ทรงประสงค์เอาเพียงพวกเดียวเท่านั้น ในที่นี้ ด้วยบทว่า "อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา" เพราะว่า
     พระสกทาคามีบางพวกบรรลุสกทาคามิผลในโลกนี้ ย่อมปรินิพพานในโลกนี้นั่นแหละ
     บางพวกบรรลุสกทาคามิผลในโลกนี้ ปรินิพพานในเทวโลก
     บางพวกบรรลุในเทวโลก ปรินิพพานในเทวโลกนั่นแหละ
     บางพวกบรรลุในเทวโลก แล้วเกิดขึ้นในโลกนี้แล้วจึงปรินิพพาน

     รวมพระสกทาคามีทั้ง ๔ จำพวกดังกล่าวมานี้ พระองค์มิได้ทรงประสงค์เอาในสกทาคามีนิสเทสนี้.

    แต่พระสกทาคามีพวกใดบรรลุในโลกนี้ แล้วดำรงชีวิตอยู่ในเทวโลกตลอดอายุ แล้วก็เกิดขึ้นในโลกนี้อีกจึงปรินิพพาน พระสกทาคามีพวกเดียวนี้เท่านั้น พึงทราบว่า พระองค์ทรงถือเอาในสกทาคามีนิทเทสนี้.

    คำใดที่ยังเหลืออยู่ในที่นี้ ข้าพเจ้ายังมิได้กล่าว คำนั้นทั้งหมด ข้าพเจ้ากล่าวแล้วในโลกุตตรกุศลนิทเทส ในอรรถกถาแห่งธรรมสังคหะในหนหลัง.


     ask1 ans1 ask1 ans1

     ถามว่า ก็พระสกทาคามีนี้มีการกระทำที่แตกต่างกันกับพระโสดาบันที่ชื่อว่าเอกพีชี อย่างไรบ้าง.?
     ตอบว่า พระโสดาบัน ผู้ชื่อว่าเอกพีชี ท่านมีปฏิสนธิครั้งเดียวเท่านั้น ส่วนพระสกทาคามีท่านมีปฏิสนธิ ๒ ครั้ง ข้อนี้เป็นการกระทำที่แตกต่างกันระหว่างพระอริยะทั้งสองเหล่านั้น.

               จบอรรถกถาสกทาคามีบุคคล.     


อ้างอิง :-
อรรถกถา ปุคคลบัญญัติปกรณ์ บุคคลบัญญัติ เอกกนิทเทส     
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=36.2&i=17
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎกได้ที่
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=36&A=2734&Z=2939 
ขอบคุณภาพจาก
https://sites.google.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

      ขออนุโมทนาสาธุ ครับ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา