ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อานิสงส์การดูแลพระอาพาธ  (อ่าน 2064 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

patra

  • RDNpromote
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรมรรค
  • *
  • ผลบุญ: +100/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 971
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
อานิสงส์การดูแลพระอาพาธ
« เมื่อ: ธันวาคม 01, 2018, 08:51:48 am »
0
เกี่ยวกับเรื่อง การบำรุงดูแล พระภิกษุอาพาธ นั้นมีในพระไตรปิฏก พระพุทธเจ้าท่านได้ตรัสไว้ว่า

โย ภิกฺขเว มํ อุปฏฺฐเหยฺย โส คิลานํ อุปฏฺฐเหยฺย
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดจะพึงอุปัฏฐากเรา ผู้นั้นพึงพยาบาลภิกษุอาพาธ

ความข้างต้นมีที่มาในพระวินัยปิฏก เล่มที่ ๕ มหาวรรค ข้อ ๑๖๖ ซึ่งมีความโดยสรุปว่า มีภิกษุรูปหนึ่งอาพาธเป็นโรคท้องร่วง (กุจฺฉิวิการาพาโธ) นอนจมกองมูตร(อุจจาระ) กองคูถ(ปัสสาวะ) ครั้งนั้นพระผู้มีพระภาคมีท่านพระอานนท์เป็นผู้ติดตาม เสด็จพุทธดำเนินไปตรวจตามที่พักอาศัยของพระภิกษุทั้งหลาย ได้เสด็จไปทางที่อยู่ของภิกษุรูปนั้นนอนป่วยอยู่ ได้เสด็จเข้าไปตรัสถามขึ้นว่า อาพาธเป็นโรคอะไร เมื่อทรงด้รับคำกราบทูลว่า อาพาธเป็นโรคท้องร่วง จึงตรัสถามว่า มีพยาบาลคอยดูแลหรือไม่ เมื่อทรงได้รับคำกราบทูลว่าไม่มี ก็ได้ตรัสถามว่าเพราะเหตุใดภิกษุทั้งหลายจึงไม่มาดูแล เมื่อพระภิกษุรูปนั้นทูลว่า เพราะท่านเองไม่เคยไปดูแลภิกษุรูปใด ก็จึงไม่มีภิกษุรูปใดมาดูแลท่าน จึงรับสั่งให้พระอานนท์ไปตักน้ำมาแล้วพระองค์ก็ได้รับน้ำมาชำระล้างทำความสะอาดเนื้อตัวให้สะอาดแล้วทรงร่วมกับพระอานนท์หามพระภิกษุรูปนั้นขึ้นไปนอนบนเตียง จากนั้นได้ทรงตรัสเรียกประชุมพระภิกษุทั้งหลาย ทรงตรัสว่าพระภิกษุทั้งหลายเมื่อเข้ามาบวชแล้ว เป็นผู้ไม่มีมารดา ไม่มีบิดา  ดังนั้นเมื่อเวลาเกิดการเจ็บป่วยก็จะต้องคอยดูแลกันจนกว่าจะตายหรือจนกว่าจะหาย หากไม่ช่วยกันดูแลก็จะเป็นอาบัติ ดังสำนวนความในพระวินัยปิฎกว่าดังนี้:

“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย   พวกเธอไม่มีมารดาไม่มีบิดา   ผู้ใดเล่าจะพึงพยาบาลพวกเธอ   ถ้าพวกเธอจักไม่พยาบาลกันเอง   ใครเล่าจักพยาบาล  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย    ผู้ใดจะพึงอุปัฏฐากเรา    ผู้นั้นพึงพยาบาลภิกษุอาพาธ   ถ้ามีอุปัชฌายะๆ   พึงพยาบาลจนตลอดชีวิต    หรือจนกว่าจะหาย    ถ้ามีอาจารย์ ๆพึงพยาบาลจนตลอดชีวิต  หรือจนกว่าจะหาย   ถ้ามีสัทธิวิหาริก ๆ  พึงพยาบาลจนตลอดชีวิต  หรือจนกว่าจะหาย  ถ้ามีอันเตวาสิก ๆ  พึงพยาบาลจนตลอดชีวิตหรือจนกว่าจะหาย  ถ้ามีภิกษุผู้ร่วมอุปัชฌายะ ภิกษุผู้ร่วมอุปัชฌายะพึงพยาบาลจนตลอดชีวิต  หรือจนกว่าจะหาย  ถ้ามีภิกษุผู้ร่วมอาจารย์  ภิกษุผู้ร่วมอาจารย์พึงพยาบาลจนตลอดชีวิต    หรือจนกว่าจะหาย    ถ้าไม่มีอุปัชฌายะ    อาจารย์สัทธิวิหาริก  อันเตวาสิก  ภิกษุผู้ร่วมอุปัชฌายะ  หรือภิกษุผู้ร่วมอาจารย์  สงฆ์ต้องพยาบาล   ถ้าไม่พยาบาลต้องอาบัติทุกกฏ”

พระผู้มีพระภาคได้ตรัสถึง องค์ของภิกษุอาพาธที่พยาบาลได้ยาก 5 อย่างคือ 1. ไม่ทำความสบาย 2. ไม่รู้ประมาณในความสบาย 3.ไม่ฉันยา 4. ไม่บอกอาการไข้ตามจริงแก่ผู้พยาบาล 5. มีนิสัยเป็นคนไม่อดทนต่อทุกขเวทนา จากนั้นได้ได้ถึง องค์ของภิกษุอาพาธที่พยาบาลได้ง่าย 5 อย่าง คือ 1. ทำความสบาย 2. รู้ประมาณในความสบาย 3. ฉันยา 4. บอกอาการป่วยไข้ตามจริงแก่ผู้พยาบาล 5.มีนิสัยเป็นคนอดทนต่อทุกขเวทนา

เจริญธรรม / เจริญพร
บันทึกการเข้า
ข้าพจ้า สนับสนุนการเผยแผ่ พระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ

นิรตา ป้อมนาวิน

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1212
  • อย่างน้อยชาตินี้ขอปิดอบายภูมิ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: อานิสงส์การดูแลพระอาพาธ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2018, 05:22:28 pm »
0
 :25: st11 st12
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: อานิสงส์การดูแลพระอาพาธ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2018, 07:13:30 pm »
0
 st12 st12 st12
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ