สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

(https://fbcdn-sphotos-d-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xtp1/v/t1.0-9/11667546_841178252630297_2393430144620974405_n.jpg?oh=88f40713aa62229d9811c9d2fc93bb80&oe=562526EE&__gda__=1444538328_27d4c20fe52264eb371e31b94e0453ae)

"กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ อาศัยห้องพุทธคุณเป็นหลัก แต่ห้องพุทธคุณ แบ่งออกเป็นสามห้อง สองส่วน คือ
         ห้องที่ 1 เรียกว่า พระธรรมปีติ
         ห้องที่ 2 เรียกว่า ห้องพระยุคลธรรม
         ห้องที่ 3 เรียกว่า ห้องพระสุขสมาธิ
        มีสองส่วน คือ การเข้าถึงพระลักษณะปรากฏ การเข้าถึงพระรัศมีปรากฏ และ การเข้าถึงอุคคหนิมิตในห้องสุดท้าย และ
       การเดินจิตในห้องพุทธคุณ แบ่งออกเป็น 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การเดินจติเป็น อนุโลม และ เป็นปฏิโลม ระยะที่ 2 การเข้าคืบ การเข้าสับ ระยะที่ 3 การเข้าวัด ออกวัด ระยะที่ 4 การเข้าสะกดสุขสมาธิ แต่ละขั้นตอนก็มี การเดินจิตแตกต่างกันไป แต่ หลักการสามอย่าง ยังปรากฏจนถึง ห้องที่ 3 คือ การบริกรรม การปัคคาหะฐานจิต การวางอเบกขารมณ์ นี่พูดแบบย่อ ไม่ต้องทำงง อยากรู้มากกว่านี้ ก็ไปที่ คณะ 5 ขึ้นกรรมฐาน กันซะนะ เพราะว่า กรรมฐาน นี้เป็นกรรมฐาน ที่ชัดเจนทางด้าน อารมณ์ภาวนา เป็นไปตามลำดับ ไม่ขาด ไม่พร่อง และไม่เกิน ปฏบัติ จริง ๆ ไม่เยิ่นเย้อ และก็ไม่ช้าที่จะได้ ผลสำเร็จทางการภาวนา โดยเฉพาะถ้าภาวนา เพื่อพระนิพพานแล้ว กรรมฐานนี้ จะภาวนาได้เร็ว ....."

ข้อความบางส่วน จากหนังสือ เพียงหยดหนึ่งแห่งพระธรรม
บันทึกการภาวนา และการเดินทาง ของ ธัมมะวังโส

(https://scontent-sin1-1.xx.fbcdn.net/hphotos-xtp1/v/t1.0-9/11140049_841184235963032_7825014114895619488_n.jpg?oh=d93f6274855f94717afd5a84e83ac24e&oe=55E663F6)

"การภาวนา ที่ฐาน หนึ่ง ฐานธาตุดิน นั้นมีความสำคัญมาก เพราะเป็นฐานเริ่มต้น ถ้าผู้ฝึกภาวนา ตั้งใจและเข้าใจในการปฏิบัติในฐานจิตที่ 1 คือ พระขุททกาปีติ แล้ว ฐานนี้ นับว่าเป็นฐาน ที่เรียกว่า ฐานตั้งหลัก
   ฐาน นี้ ถ้าฝึกไม่ดี ก็พาลจะทำให้ ฐานอื่น ๆ ไม่ปรากฏ การปรากฏพื้นฐาน ก็คือ พระลักษณะประจำฐาน ซึ่งมีลักษณะเฉพาะของแต่ละฐาน ดังนั้นท่านทั้งหลาย ที่เริ่มฝึก กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ส่วนพระพุทธคุณแล้ว อย่าได้ประมาทในการซ้ำฐานที่หนึ่ง ให้คล่องแคล่ว อันที่จริงถ้าจะพูดตรง ๆ ใน โกฏฐาส เพียงธาตุ ฐานที่ 1 ก็ทำให้ในครั้งพระพุทธกาลมีพระอรหันต์ มากมายเพราะองค์คุณแห่งสมาธิ นี้ ... ดังนั้นถ้าจะทบทวน วิธีการฝึกการภาวนาส่วนนี้ ท่านทั้งหลาย ต้อง อย่า ลืม 3 นิมิต คือ 1 บริกรรม นิมิต ใช้คำว่า พุทโธ  2 ปัคคาหะนิมิต ฐานจิตที่ 1 อยู่ต่ำจาก ศูนย์นาภี ประมาณ 2 นิ้ว  3. อุเบกขานิมิต คือการวางใจเป็นกลาง ในการภาวนา อ่ย่าได้ใส่ความยินดีในการบริกรรม และอย่าได้ใส่ความยินร้ายในการบริกรรม ให้บริกรรม ไปตามหน้าที่ ๆ มอบหมาย ให้แก่จิตได้ทำงาน เรียกว่าการวางใจเป็นกลาง วิธีวางใจเป็นกลาง......."

 ข้อความบางส่วน จากหนังสือ เพียงหยดหนึ่งแห่งพระธรรม
 บันทึกการภาวนา และ การเดินทาง ของ ธัมมะวังโส

 

กายเทวดา จัดเป็นกายทิพย์

  กายทิพย์ ย่อมสามารถสัมผัสได้ ด้วย ธาตุแห่งใจ คือ มนธาตุ การทำให้เกิดรูป กายเทวดา เรียกว่า มนายตนะธาตุ เพราะประกอบธาตุใจ ให้มีรูป ธาตุที่ประกอบเป็นไปตามความปรารถนา พ้นจากกฏแห่ง คือ ความแก่ ความเจ็บ สองอย่าง

  เนื่องด้วยกายเทวดา ก็คือ กายโอปปาติกะ อุบัติขึ้นเองจากกำลังบุญ และดับสิ้นไปเองเมื่อหมดบุญ ไม่เหมือนกายมนุษย์ ดังนั้นท่านที่ภาวนา ส่วนพระลักษณะ นั้น ท่านก็จะสัมผัส กายนี้ได้ เมือ่สัมผัสกายทิพย์ ทานก็จะเกิดปีติขึ้นมา เนื่องด้วยกายทิพย์นั้นมีผล ต่อสภาวะใจ โดยตรงจึงทำให้เกิดพระลักษณะ

   ส่วนพระรัศมี นั้น ก็คือ วิญญาณชันธ์ นั่นเอง เป็นไปตามสภาวะ ของแต่ละบุคคล แต่ในสายกรรมฐาน ไม่สนรูปร่วง รูปพรรณสันฐาน แต่อย่างใด สนแต่เพียง รัศมี คือสีอขง รูปร่างนั้นเท่านั้น

  เจริญพร รับทราบตามนี้

 

            ขออนุโมทนาสาธุ ครับ

 st12 st12 st12

 st11 st12 st12

^^ รู้สึกว่า ช่วงนี้ พระอาจารย์ ออกเนื้อหา ทางด้านกรรมฐาน ค่อนข้างจะลึกซึ้ง มาก อ่านบางครั้งก็ไม่เข้าใจ คะ
สงสัย จะไม่เหมาะกับห้องนี้ คะ

  :58: :25: st11 st12

ผมอ่าน แล้ว หลายรอบ เริ่มชินปากแล้วครับ รู้สึกจำได้ง่ายดี สงสัย ต้องอ่านบ่อย ๆ ครับ
 :49: st11 st12 thk56

ขั้นประถม แต่ เป็นขั้นแรก ที่สำคัญ

 ขอบคุณมากคะ

  st11 st12 like1

 st11 st12 st12
ไม่ได้มาอ่าน ตั้งนาน มีเนื้อหา เช้มข้นเพิ่มขึ้นมาก
 :25: :25: :25: