ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: (ทำไม) ถนน′วีไอพี′ทุกสาย มุ่งหน้าสู่...′วัดโพธิ์′ !??  (อ่าน 1083 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


(ทำไม) ถนน′วีไอพี′ทุกสาย มุ่งหน้าสู่...′วัดโพธิ์′ !??

หลังจาก นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดี และ นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ แห่งสหรัฐอเมริกา เดินทางมาประเทศไทยและได้เข้าไปเยี่ยมชมวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร หรือวัดโพธิ์ เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยมี พระสุธีธรรมานุวัตร หรือ เจ้าคุณเทียบ สิริญาโณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส เป็นคนนำชม และเป็นข่าวโด่งดัง เผยแพร่ให้ทั่วโลกได้เห็นถึงความงดงามของวัดโพธิ์

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เหล่าบรรดาแขกคนสำคัญจากต่างประเทศที่มาเยือนประเทศไทย ก็จะต้องแวะไปสักการะและเยี่ยมเยือนวัดโพธิ์ด้วยเสมอ อาทิ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมปีเดียวกัน สมเด็จพระสังฆราชแห่งศรีลังกาก็เสด็จมาเยือน และหลังจากนั้นไม่นาน สมเด็จพระราชาธิบดีฟิลลิป กษัตริย์แห่งราชอาณาจักรเบลเยียม และเจ้าหญิงมาทิลเดอร์ พระชายา ก็เสด็จมาเยือนเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2556


 ans1 ans1 ans1

ท่านเจ้าคุณเทียบกล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ทรงสร้างพระมหาราชวัง และสถาปนาวัดโพธิ์ให้เป็นพระอารามหลวง และในสมัยรัชกาลที่ 3 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้มีการบูรณะวัดครั้งใหญ่ มีการสร้างพระนอนที่งดงาม และรวบรวมเอาสรรพวิชาทุกด้านมาไว้ในวัด เช่น วิชาการนวด อักษรศาสตร์ โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอนโบราณถูกจารึกเอาไว้ตามเสา ระเบียงต่างๆ ที่รู้จักกันในนามของจารึกวัดโพธิ์ จนมีการเปรียบเปรยว่า วัดโพธิ์ถือเป็นมหาวิทยาลัยเปิดแห่งแรกของประเทศไทย

    "ตอนที่อาตมาได้มีโอกาสต้อนรับคุณโอบามากับคุณฮิลลารี อาตมานำเขาทั้ง 2 ไปชมพระพุทธโลกนาถ ซึ่งประดิษฐานเป็นพระประธานในพระวิหารด้านทิศตะวันออกของวัด อาตมาบอกกับคุณโอบามาและคุณฮิลลารีว่า เรามีความเชื่อว่า
     ใครปรารถนาจะมีลูก ให้มาขอกับพระพุทธรูปองค์นี้ได้ แต่จะต้องมาขอทุกวันพระเท่านั้น ซึ่งก็มีหลายคนที่สมปรารถนา คุณโอบามายิ้ม แล้วหันไปพูดกับคุณฮิลลารีว่า โชคดีนะ เราไม่ต้องขอ เพราะเรามีแล้ว
     สำหรับเรื่องการขอลูกกับพระพุทธโลกนาถนั้นไม่ค่อยจะมีใครรู้กันมากนัก แต่เป็นความเชื่อที่คนโบราณเชื่อกันมานานแล้ว และพระพุทธโลกนาถนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นพระที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในวัดโพธิ์"
ท่านเจ้าคุณเทียบกล่าว





นอกจากนี้ยังมีพระพุทธไสยาสน์ หรือพระนอน ที่ได้ชื่อว่างดงามที่สุด การเข้าไปสักการะและชมพระนอน นอกจากจะได้สัมผัสความงามของศิลปวัฒนธรรมแล้ว การได้เข้าไปเพ่งพิศองค์พระจากฝ่าพระบาทไปตลอดถึงพระเศียร ใครที่จิตใจรุ่มร้อน จะดับความร้อน เรียกสติให้กลับคืนมาได้อย่างน่าประหลาดทีเดียว

    "ถึงปัจจุบันนี้ วัดโพธิ์ก็ยังเป็นวัดแห่งการศึกษาและเรียนรู้ในสรรพวิชาหลายๆ ด้าน หลายคนรู้จักวัดโพธิ์ว่าโดดเด่นในวิชาการนวด แต่ความจริงคือนอกจากวิชาการนวดแล้ว ในวัดยังมีศิลปวัฒนธรรมให้เรียนรู้หลายแขนง อีกทั้งยังมีความสงบ ร่มเย็น ซึ่งจะเป็นที่พึ่งด้านจิตใจของคนที่มีความทุกข์มาพึ่งพาที่นี่ได้อีกด้วย"

 st12 st12 st12

ท่านเจ้าคุณเทียบบอกว่า แต่เดิมทีการเข้ามาในวัดของคนทั่วไป ไม่มีค่าใช้จ่าย ต่อมาวัดเป็นที่รู้จักของคนจากทั่วโลก ที่หลั่งไหลกันเข้ามาสักการะและชมวัดมากขึ้น ต้องมีระบบการจัดการเพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบ จึงต้องเก็บเงิน เพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับบริหารจัดการระบบต่างๆ เช่น การรักษาความสะอาด บูรณะซ่อมแซมส่วนต่างๆ

    "ยอมรับว่าที่ผ่านมา เมื่อมีคนมาก การจัดการต่างๆ ก็จะมีข้อบกพร่องมากขึ้น เวลานี้ จึงได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างกรมศิลปากร กรรมการวัด และผู้ที่เกี่ยวข้อง เรื่องการปรับปรุงการบริหารจัดการให้วัดโพธิ์เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านสุขภาพกายและสุขภาพใจ
      จะมีการปรับระบบการบริหารจัดการในวัดใหม่หลายอย่าง เพื่อให้คนเข้าวัดมากขึ้น คนที่มีความทุกข์ ไม่ว่าทางกาย หรือทางใจ เข้ามาในวัดเมื่อออกไปพวกเขาจะสามารถตั้งสติ จากคำสอน การพบเจอศิลปะแขนงต่างๆ จากการสนทนาธรรม การฟื้นฟูสุขภาพจากการนวดที่เป็นต้นตำรับ และกลับออกไปด้วยความรู้สึกที่ดีๆ มีกำลังใจในการทำดีประพฤติดีต่อไป"





ระบบใหม่ที่ท่านเจ้าคุณเทียบคิดไว้ มีตั้งแต่ระบบการเก็บตั๋วเพื่อเข้าชมวัด ซึ่งจะทำเฉพาะกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเท่านั้น สำหรับคนไทยยังให้เข้าฟรีเหมือนเดิม แต่จะอำนวยความสะดวกมากขึ้นคือนักท่องเที่ยวสามารถใช้เงินในสกุลของประเทศตัวเองก็ได้ ไม่จำเป็นต้องแลกเป็นเงินไทย
     สำหรับตั๋วที่เข้าชม ก็จะทำเหมือนกับตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์ในต่างประเทศ คือ มีรูปเจ้าของตั๋วติดอยู่ด้วย สำหรับเป็นที่ระลึก และเร็วๆ นี้ ทั่วทุกพื้นที่ภายในวัดจะมีไวไฟบริการ สำหรับการส่งข้อมูลข่าวสารทุกชนิดออกจากวัด

    "เราจะนำเอาสรรพวิชาแขนงต่างๆ ทั้งโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน รวมไปถึงวิชาการนวดที่เป็นเอกลักษณ์และสัญลักษณ์ของวัดโพธิ์ นำเสนอนักท่องเที่ยว ในลักษณะโรดโชว์ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ รวมไปถึงการแปลเป็นภาษาประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียน เพื่อรองรับประชาคมอาเซียนอีกด้วย ให้ทุกชาติทุกภาษาสามารถเข้าถึงขนบธรรมเนียม ประเพณี และศิลปะ สรรพความรู้ ที่ทางวัดสั่งสมเอาไว้ เพื่อให้แพร่หลายและให้คนที่เข้าวัดทุกคนมีความรู้สึกดีๆ มีสุขภาพทั้งกายและจิตดีๆ กลับออกไป" ท่านเจ้าคุณเทียบกล่าว

 ask1 ask1 ans1 ans1

   มีข้อสงสัยว่า สิ่งที่วัดคิดและกำลังจะทำนั้นดูจะเป็นการสวนทางกับวิถีแห่งพระและวัดหรือไม่
   ท่านเจ้าคุณเทียบกล่าวว่า วัดโพธิ์นั้นมีเนื้อที่กว้างขวางกว่า 50 ไร่ พื้นที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ เขตพุทธาวาส สำหรับพุทธศาสนิกชน และนักท่องเที่ยวเข้ามาชมวัด และเขตสังฆาวาส
   ซึ่งเป็นที่อยู่ที่ปฏิบัติของเหล่าพระสงฆ์ ซึ่งทั้ง 2 แห่งแยกกันอยู่แล้ว พระทุกรูปในวัดยังปฏิบัติตนตามกิจของสงฆ์อย่างเคร่งครัด ส่วนพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาศึกษาชมวัด ก็จะมีทั้งเจ้าหน้าที่ของวัดและพระสงฆ์บางรูปที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยดูแล

จากวัดคู่บ้านคู่เมือง อีกบทบาทหนึ่งของวัดโพธิ์ที่คงหนีไม่พ้น ก็คือ แหล่งท่องเที่ยวด้านสุขภาพ ที่ทั้งวีไอพีและนักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถสัมผัสได้ และประเทศไทยภูมิใจเสนอ


ที่มา:มติชนรายวัน 13 ตุลาคม 2556
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1381644618&grpid=&catid=09&subcatid=0901
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

drift-999

  • ศิษย์ตรง
  • พอพึ่งพาได้
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 239
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ผมเป็นคนไทย ไปวัดโพธิ์ แค่่ครั้งเดียวเอง ครับ ทั้ง ๆ ที่ไป วัดพระแก้ว หลาย ๆ ครั้ง

 st12 st11
บันทึกการเข้า