ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: วันนี้จะพูดเรื่องที่เข้าใจยากมากขึ้น ทดสอบศิษย์ทุกท่าน ฟังอ่านกันเข้าใจหรือไม่ ?  (อ่าน 1819 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0


"วันนี้จะพูดเรื่องที่เข้าใจยากมากขึ้น ทดสอบศิษย์ทุกท่าน ฟังอ่านกันเข้าใจหรือไม่ ? อันธรรมดาบุคคลผู้ปรารถนาในนิพพาน อันบุคคลใด ๆ ก็ไม่สามารถจะอ่านได้บอกได้ ว่า เป็นใคร เหล่ากอคือใคร มาอย่างไร ไปอย่างไร และเป็นอยู่อย่างไร และอะไรเป็นที่มา เมื่อเราต้องย้อนกาล ก็ต้องอาศัย บันทึกที่เกิดจากความพอใจ และความไม่พอใจ แต่ถ้าเป็นผู้ที่ไม่กลับมาเกิด สิ่งที่เกิดขึ้น ก็คือบันทึกนี้หายไป ไม่สามารถระบุสถานะ อะไร ๆ ได้ ครั้งหนึ่ง วังสีสะพราหมณ์ ผู้มีชำนาญเชี่ยวชาญ ปุพเพนิวาสานุสติญาณ คือ ระลึกชาติของคนอื่น ๆ ได้ เมื่อพราหมณ์ท่านนี้นำมือไปแตะกระโหลกของคนที่ตายไปแล้ว จะสามารถเอื้อนเอ่ยวาจาบอกได้ว่า เป็นของผู้ใด บ้านอยู่ที่ไหน มีเชื้อสายเหล่ากออย่างไร ใช้ชีวิตอย่างไร และมรณะด้วยเหตุใด พรามหณ์ท่านนี้เป็นที่นับถือของชาวพราหมณ์เป็นอย่างมาก ด้วยความยะโสตรงนั้น จึงเข้าไปท้าประลองกับพระพุทธเจ้า เมื่อพระพุทธเจ้า ได้ทรงทดสอบด้วยการนำกระโหลกของคนที่ตายมาวาง ไว้สี่กระโหลก ด้วย วังคีสะพราหมณ์ ก็สามารถบอกได้หมดว่า สามกระโหลกแรก เป็นอย่างไร ก็ได้รับการยอมรับในความสามารถว่าถูกต้อง แต่ครั้นถึงกระโหลกสุดท้าย วังคีสะพราหมณ์ ถึงกับเหงืีอแตก จับแล้วจับอีก พลิกแล้วพลิกอีก ก็ไม่สามารถบอกได้ กระโหลกสุดท้ายเป็นของผู้ใด จึงจำนน แต่พระพุทธเจ้ากลับตรัสว่า เรารู้ว่ากระโหลกนี้เป็นของใคร เนื่องด้วย ความสามารถของพระพุทธเจ้านั้นย่อมเหนือกว่า ชนทั่วไป วังคีสะพราหมณ์ จึงขอเรียนวิธีอ่านกระโหลกอันนั้น ด้วยการสละเพศพราหมณ์ เรียนวิธีอ่านกระโหลกนั้น จึงได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ ดังนั้น การที่เราจะไม่ผูกพัน หรือ ปรารถนา การไม่มาเกิดนี้อีกต่อไป ก็ต้องละจาก มานานุสัย และ อวิชชานุสัย เมื่อท่านทั้งหลาย ละจาก มานานุสัย และ อวิชชานะสัย สิ่งต่างอันเป็นภพ ที่มีอยู่ในภายหลังก็จักอัตรธานไป แม้ สิ่งที่เป็นไปในภายหน้า ก็ย่อมไม่มีเป็นเพียง สุญญัง เพราะการเกิดนี้ไม่มีอีกต่อไป ภพใหม่ไม่มีแล้ว สำหรับท่านที่เข้าใจ และรู้แจ้งเห็นจริงตรงนี้ กิจแห่งพรหมจรรย์จบแล้ว กิจอื่นยิ่งกว่านี้ไม่มีอิีกแล้ว นั่นเอง ใครเข้าใจก็อนุโมทนา ใครไม่เข้าใจก็ต้องอาศัยเวลาในการภาวนา ...... "

ข้อความบางส่วนจาก หนังสือเพียงหยดหนึ่งแห่งพระธรรม
บันทึกการภาวนาและการเดินทาง ของ ธัมมะวังโส
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

     ขออนุโมทนา สาธุ ครับ ครูอาจารย์พระกรรมฐาน
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

Mario

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 208
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เรื่องนี้ อ่านไปหลาย ๆ รอบ แล้ว และพยายามทำความเข้าใจ กับ คำถาม ที่ถูกซ่อนเร้นไว้ คือ อะไร ?

   พิจารณา จาก เรื่อง กาลที่ พระอาจารย์พูดถึง และ เรื่อง กาลในเรื่องนี้ น่าจะสัมพันธ์กัน

  แต่ ที่แน่นอน ก็เข้าใจนิดหนึ่งว่า ผู้ที่เป็นพระอรหันต์ นั้น อนาคตกาลดับ แน่นอน และ ปัจจุบันกาล ก็น่าจะดับ เหมือนที่ วังคีสะพราหมณ์ มอง กาลปัจจุบัน ของพระอรหันต์ไม่ออก ส่วนอดีตกาลนั้น เมื่อปัจจุบันระบุตัวตนไม่ได้ การย้อนอดิต ก็จะทำไม่ได้ เหมือนเราเข้าโปรไฟล์ ที่มีแต่ว่างเปล่า นั่นแหละ

   ไม่รู้ถูก หรือ ผิด คะ

   :58:
บันทึกการเข้า
hero ผู้ปราบอธรรม มาแว้ว
มาเพราะยายกบ เป็นคนชวน
ฝากตัวด้วยไม่ถนัดเว็บ ธรรม
แต่เป็น hero ต้องไม่กลัว ธรรม