ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พรหมจรรย์ของพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าพระองค์ไหนดำรงอยู่นานหรือไม่นาน (๒๑/๗/๕๘)  (อ่าน 9366 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ดนัย

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 179
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
                                         


(๑/๓)

พระสารีบุตรทูลถามถึงเหตุที่ทำให้พรหมจรรย์ (พระศาสนา) ดำรงอยู่นานและไม่นาน

ครั้งนั้น  ท่านพระสารีบุตรหลีกเร้นอยู่ในที่สงัด  รำพึงขึ้นมาอย่างนี้ว่า
   “พรหมจรรย์ (พระศาสนา) ของพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าพระองค์ไหนดำรงอยู่ไม่นาน ของพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าพระองค์ไหนดำรงอยู่นาน” 

ครั้นเวลาเย็นจึงออกจากที่พักเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นถึงแล้วได้ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้วนั่งลง ณ  ที่สมควร  ท่านพระสารีบุตรผู้นั่งอยู่  ณ  ที่สมควรแล้ว  ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า 
  “พระพุทธเจ้าข้า  เมื่อข้าพระองค์หลีกเร้นอยู่ในที่สงัด  ได้เกิดความรำพึงขึ้นมาอย่างนี้ว่า  ‘พรหมจรรย์ของพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าพระองค์ไหนดำรงอยู่ไม่นาน  ของพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าพระองค์ไหนดำรงอยู่นาน’  พระพุทธเจ้าข้า”

พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า 
   “สารีบุตร  พรหมจรรย์ของพระพุทธเจ้าวิปัสสี พระพุทธเจ้าสิขี  พระพุทธเจ้าเวสสภู  ดำรงอยู่ไม่นาน  พรหมจรรย์ของพระพุทธเจ้ากกุสันธะ  พระพุทธเจ้าโกนาคมนะ  และพระพุทธเจ้ากัสสปะ  ดำรงอยู่นาน”

“อะไรเป็นเหตุเป็นปัจจัยทำให้พรหมจรรย์ของพระพุทธเจ้าวิปัสสี พระพุทธเจ้าสิขี  และพระพุทธเจ้าเวสสภู  ดำรงอยู่ไม่นาน  พระพุทธเจ้าข้า”

   “สารีบุตร  พระพุทธเจ้าวิปัสสี  พระพุทธเจ้าสิขี  พระพุทธเจ้าเวสสภู  ทรงผ่อนคลายที่จะแสดงธรรมโดยพิสดารแก่สาวก  สุตตะ  เคยยะ  เวยยากรณะ  คาถา  อุทาน อิติวุตตกะ  ชาดก  อัพภูตธรรม  เวทัลละ (รวมเรียกว่า  “นวังคสัตถุศาสน์)  ของพระพุทธเจ้าทั้ง  ๓  พระองค์จึงมีน้อย มิได้ทรงบัญญัติสิกขาบทไว้แก่สาวก  ไม่มีการแสดงปาติโมกข์  เมื่อหมดพระพุทธเจ้าและสาวกผู้ตรัสรู้ตามแล้ว  สาวกชั้นหลัง ๆ  ต่างชื่อ  ต่างโคตร  ต่างชาติวรรณะ  ได้เข้ามาบวชจากต่างตระกูล  เธอเหล่านั้นพาให้พรหมจรรย์สูญสิ้นไปเร็วพลัน  เหมือนดอกไม้นานาพรรณกองอยู่บนแผ่นกระดาน  ยังไม่ร้อยด้วยด้าย  ย่อมถูกลมพัดกระจัดกระจายไป  เพราะเหตุไร  เพราะไม่ได้เอาด้ายร้อยไว้  ข้อนี้ฉันใด  เมื่อหมดพระพุทธเจ้าและสาวกผู้ตรัสรู้ตามแล้ว  สาวกชั้นหลังๆ  ต่างชื่อ  ต่างโคตร  ต่างชาติวรรณะ  ได้เข้ามาบวชจากต่างตระกูล  เธอเหล่านั้นพาให้พรหมจรรย์สูญสิ้นไปเร็วพลันฉันนั้น

ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.jetovimut.com/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 21, 2015, 04:52:24 am โดย danai_siriangkawoot »
บันทึกการเข้า
"พระธรรม เป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว
เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติ พึงเห็นได้ด้วยตนเอง
เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล
เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกะผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด
เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว
เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน"

KIDSADA

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 439
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
เราชอบ ป่วนแก็งค์ อ๊บ อ๊บ

บุญเอก

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 516
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
ทำงานอาสา หวังช่วยคนตกยาก แม้จะลำบาก แต่ก็จะทำโดยความไม่หนักใจ
อาสากตัญญู พัทยา ยินดีรับใช้

saieaw

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 271
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า

fan

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 139
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า

ดนัย

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 179
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 17, 2015, 09:02:13 pm โดย danai_siriangkawoot »
บันทึกการเข้า
"พระธรรม เป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว
เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติ พึงเห็นได้ด้วยตนเอง
เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล
เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกะผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด
เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว
เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน"

ดนัย

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 179
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
                   


(๒/๓)

   อย่างไรก็ตาม พระพุทธเจ้าเหล่านั้นไม่ทรงผ่อนคลายที่จะกำหนดจิตของสาวก ด้วยพระทัยแล้วทรงสั่งสอน  สารีบุตร  เรื่องเคยเกิดขึ้นแล้ว  พระพุทธเจ้าเวสสภู  ทรงกำหนดจิตภิกษุสงฆ์แล้วทรงสั่งสอนภิกษุสงฆ์  ๑,๐๐๐  รูป  ในราวป่าน่าสะพึงกลัวแห่งหนึ่งว่า  “เธอทั้งหลายจงพิจารณาเช่นนี้  อย่าพิจารณาอย่างนั้น  จงตั้งใจอย่างนี้ อย่าตั้งใจอย่างนั้น  จงละสิ่งนี้  จงเข้าถึงสิ่งนี้อยู่เถิด”  จิตของภิกษุ  ๑,๐๐๐  รูป  ที่พระพุทธเจ้าเวสสภูทรงสั่งสอน  หลุดพ้นจากอาสวะ  เพราะไม่มีความถือมั่น  สารีบุตร เพราะราวป่าน่าสะพึงกลัว  น่าสยดสยอง  จึงมีเรื่องดังนี้  คือ  ภิกษุผู้ไม่ปราศจากราคะ  เข้าไปราวป่า  ส่วนมากเกิดความกลัวขนลุกขนพอง

       สารีบุตร  นี้คือเหตุปัจจัยที่ทำให้พรหมจรรย์ของพระพุทธเจ้าวิปัสสี  พระพุทธเจ้าสิขี  พระพุทธเจ้าเวสสภูดำรงอยู่ไม่นาน”


      “อะไรเป็นเหตุเป็นปัจจัยทำให้พรหมจรรย์ของพระพุทธเจ้ากกุสันธะ พระพุทธเจ้าโกนาคมนะ และ พระพุทธเจ้ากัสสปะดำรงอยู่นาน พระพุทธเจ้าข้า”

      “สารีบุตร พระพุทธเจ้ากกุสันธะ พระพุทธเจ้าโกนาคมนะ และพระพุทธเจ้ากัสสปะ  ไม่ทรงผ่อนคลายที่จะทรงแสดงธรรมโดยพิสดารแก่สาวก  สุตตะ  เคยยะ เวยยากรณะ  คาถา  อุทาน  อิติวุตตกะ  ชาดก  อัพภูตธรรม  เวทัลละของพระพุทธเจ้า  ๓ พระองค์จึงมีมาก  ทรงบัญญัติสิกขาบทไว้แก่สาวก  มีการแสดงปาติโมกข์  เมื่อหมดพระพุทธเจ้าและสาวกผู้ตรัสรู้ตามแล้ว  สาวกชั้นหลังๆ  ต่างชื่อ  ต่างโคตร  ต่างชาติวรรณะ  ได้เข้ามาบวชจากต่างตระกูล  เธอเหล่านั้นพาให้พรหมจรรย์ดำรงอยู่นานเหมือนดอกไม้นานาพรรณกองอยู่บนแผ่นกระดานเอาด้ายร้อยไว้  ย่อมไม่ถูกลมพัดกระจัดกระจายไป  เพราะเหตุไร  เพราะเอาด้ายร้อยไว้  ข้อนี้ฉันใด  เมื่อหมดพระพุทธเจ้าและสาวกผู้ตรัสรู้ตามแล้ว  สาวกชั้นหลังๆ  ต่างชื่อ  ต่างโคตร  ต่างชาติวรรณะ  ได้เข้ามาบวชจากต่างตระกูล  เธอเหล่านั้นพาให้พรหมจรรย์ดำรงอยู่นานฉันนั้น

      สารีบุตร  นี้คือเหตุปัจจัยที่ทำให้พรหมจรรย์ของพระพุทธเจ้ากกุสันธะ  พระพุทธเจ้าโกนาคมนะ  และพระพุทธเจ้ากัสสปะ  ดำรงอยู่นาน”

ขอบคุณภาพประกอบจาก http://chat2556.nanacity.com/rsarahabusa.htm
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 21, 2015, 04:49:28 am โดย danai_siriangkawoot »
บันทึกการเข้า
"พระธรรม เป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว
เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติ พึงเห็นได้ด้วยตนเอง
เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล
เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกะผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด
เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว
เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน"

ดนัย

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 179
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
   นวังคสัตถุศาสน์ (อ่านว่า นะวังคะสัดถุสาด แปลว่า คำสอนของพระศาสดามีองค์ ๙ ) หมายถึง คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหมดซึ่งแบ่งเป็นส่วนย่อยตามลักษณะที่เหมือนกันได้ ๙ อย่าง คือ

๑.   สุตตะ ได้แก่ พระสูตร และพระวินัย
๒.   เคยยะ ได้แก่ พระสูตรที่มีคาถาผสม
๓.   เวยยากรณะ ได้แก่ ข้อความร้อยแก้วล้วนๆ เช่น พระอภิธรรมปิฎก
๔.   คาถา ได้แก่ ข้อความร้อยกรองที่เป็นคาถาล้วนๆ เช่น ธรรมบท เถรคาถา
๕.   อุทาน ได้แก่ ข้อความที่เป็นพุทธอุทาน
๖.   อิติวุตตกะ ได้แก่ ข้อความที่ตรัสอุเทศแล้วแสดงนิเทศจบลงด้วยบทสรุป (นิคม)
๗.   ชาตกะ ได้แก่ ชาดกทั้งหมด
๘.   อัพภูติธรรม ได้แก่ พระสูตรว่าด้วยเรื่องอัศจรรย์ต่างๆ
๙.   เวทัลละ ได้แก่ ข้อความที่ถามตอบกันไปมา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 18, 2015, 10:12:12 am โดย danai_siriangkawoot »
บันทึกการเข้า
"พระธรรม เป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว
เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติ พึงเห็นได้ด้วยตนเอง
เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล
เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกะผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด
เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว
เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน"

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

      ขออนุโมทนาสาธุครับ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

ดนัย

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 179
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
                   

(๓/๓)

ทรงปรารภเหตุที่จะบัญญัติสิกขาบท

     ลำดับนั้น ท่านพระสารีบุตรลุกขึ้นห่มผ้าเฉวียงบ่าประนมมือไปทางพระผู้มีพระภาค

    กราบทูลว่า  “ถึงเวลาแล้วพระพุทธเจ้าข้า  ที่พระผู้มีพระภาคจะทรงบัญญัติสิกขาบท  ทรงยกปาติโมกข์ขึ้นแสดงแก่พระสาวกอันจะเป็นเหตุให้พรหมจรรย์ดำรงอยู่ได้ยืนนาน”
     
    “จงรอไปก่อนเถิดสารีบุตร ตถาคตรู้เวลาในเรื่องที่จะบัญญัติสิกขาบทนั้นศาสดาจะยังไม่บัญญัติสิกขาบทแก่สาวก  ไม่ยกปาติโมกข์ขึ้นแสดง  ตลอดเวลาที่ยังไม่เกิดอาสวัฏฐานิยธรรม (ธรรมเป็นที่ตั้งอาสวะ  ความชั่วต่างๆ  เช่น  การกล่าวให้ร้ายคนอื่น เป็นต้น)  บางอย่างในสงฆ์  เมื่อเกิดอาสวัฏฐานิยธรรมบางอย่างในสงฆ์  ตถาคตจึงจะบัญญัติสิกขาบท  จะยกปาติโมกข์ขึ้นแสดงแก่สาวก  เพื่อขจัดธรรมเหล่านั้น

     สารีบุตร  อาสวัฏฐานิยธรรมบางอย่างยังไม่เกิดในสงฆ์  ตราบเท่าที่สงฆ์ยังไม่เป็นหมู่ใหญ่เพราะมีภิกษุบวชนาน  เมื่อสงฆ์เป็นหมู่ใหญ่เพราะมีภิกษุบวชนาน  และมีอาสวัฏฐานิยธรรมบางอย่างเกิดในสงฆ์  ตถาคตจะบัญญัติสิกขาบท  จะยกปาติโมกข์ขึ้นแสดงแก่สาวก  เพื่อขจัดธรรมเหล่านั้น

      สารีบุตร  อาสวัฏฐานิยธรรมบางอย่างยังไม่เกิดในสงฆ์  ตราบเท่าที่สงฆ์ยังไม่เป็นหมู่ใหญ่เพราะแพร่หลาย  เมื่อสงฆ์เป็นหมู่ใหญ่เพราะแพร่หลาย  และมีอาสวัฏฐานิยธรรมบางอย่างเกิดในสงฆ์  ตถาคตจะบัญญัติสิกขาบท  จะยกปาติโมกข์ขึ้นแสดงแก่สาวก  เพื่อขจัดธรรมเหล่านั้น

      สารีบุตร  อาสวัฏฐานิยธรรมบางอย่างยังไม่เกิดในสงฆ์  ตราบเท่าที่สงฆ์ยังไม่เป็นหมู่ใหญ่เพราะมีลาภสักการะมาก  เมื่อสงฆ์เป็นหมู่ใหญ่เพราะมีลาภสักการะมาก และมีอาสวัฏฐานิยธรรมบางอย่างเกิดในสงฆ์  ตถาคตจะบัญญัติสิกขาบท  จะยกปาติโมกข์ขึ้นแสดงแก่สาวก  เพื่อขจัดธรรมเหล่านั้น

    สารีบุตร  อาสวัฏฐานิยธรรมบางอย่างยังไม่เกิดในสงฆ์  ตราบเท่าที่สงฆ์ยังไม่เป็นหมู่ใหญ่เพราะความเป็นพหูสูต  เมื่อสงฆ์เป็นหมู่ใหญ่เพราะความเป็นพหูสูตและมีอาสวัฏฐานิยธรรมบางอย่างเกิดในสงฆ์  ตถาคตจะบัญญัติสิกขาบท  จะยกปาติโมกข์ขึ้นแสดงแก่สาวก  เพื่อขจัดธรรมเหล่านั้น     

    สารีบุตร  ก็ภิกษุสงฆ์ยังไม่มีเสนียด  ไม่มีโทษ  ไม่มีสิ่งมัวหมอง  บริสุทธิ์ผุดผ่อง  ดำรงอยู่ในสารคุณ  แท้จริงในภิกษุ  ๕๐๐  รูปนี้  ผู้มีคุณธรรมอย่างต่ำก็ชั้นโสดาบัน  ไม่มีทางตกต่ำ  มีความแน่นอนที่จะสำเร็จสัมโพธิในวันข้างหน้า”




ขอบคุณภาพประกอบจาก : http://www.oknation.net/blog/nun2504
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 21, 2015, 05:09:49 am โดย danai_siriangkawoot »
บันทึกการเข้า
"พระธรรม เป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว
เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติ พึงเห็นได้ด้วยตนเอง
เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล
เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกะผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด
เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว
เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน"

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

            ขออนุโมทนาสาธุ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

fasai

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 540
  • ทางสายกลาง
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นไปตามกรรม
ใครสร้างกรรมอย่างไร ก็รับผลกรรมอย่างนั้น

Akira

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 653
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
เครดิต ยายกบ มาศึกษาธรรมะจ้า แก๊งค์ อ๊บ อ๊บ

modtanoy

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-5
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 213
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
พระไตรปิฏก ปัจจุบัน เชื่อถือได้ขนาดไหน ? ทราบว่า มีพระที่เข้าสังคายนาใหม่ ๆ มาจากสายพราหมณ์ ก็พยายามยัดเรื่องราว ของพราหมณ์ ลงไปใน พระไตรปิฏก เช่นเรื่อง สวรรค์ เรื่อง พรหม เรื่อง มาร เป็นต้น เหล่านี้ แสดงธรรมออกไปทาง อภินิหาร เป็นอวตาร เป็นโลก อีกโลกหนึ่ง อยากให้หลายท่านไปศึกษา

บันทึกการเข้า

bajang

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 325
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 >:( >:( >:(
  บ๊ะ บ๊ะ บ๊ะ ยายมดคันไฟ เข้ามา เผยแผ่ ..... พระโอษฏ์ อีกแล้ว

  ใจคอจะให้ ปกดำ บัง พระไตรปิฏก เลยใช่ไหม ?
  เริ่มตังแต่ บอกว่า พระไตรปิฏก มีการแก้ไขเป็นแนวพราหมณ์ แล้วให้มาอ่านปกดำ แนวเซ็น หรือ

      ความคิดเธอ..... นี่ สวดโยด ( สุดยอด )

    :s_laugh: :s_laugh: :s_laugh:
บันทึกการเข้า

noobmany

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 79
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
พี่ bajang เป็นอะไร หรือ คะ ต้องการให้ช่วย หรือ ไม่คะ
 เอาน้ำเย็น ผ้าเย็นก่อน ดีหรือไม่ คะ

  :signspamani: :signspamani: :signspamani: :13:
 :s_hi: :s_hi: :s_hi:
บันทึกการเข้า

noobmany

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 79
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อ๋อ รู้แล้ว เจ๊ มด แก เป็นอย่างนี้ประจำนะ ที่เว็บ นี้

  :49: :58: :58:
บันทึกการเข้า

บุญเอก

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 516
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 st11 st12 st12 thk56
เนื้อหามีสาระธรรม อันสมควรแก่ผู้ปฏิบัติธรรมภาวนา ครับ

  thk56
บันทึกการเข้า
ทำงานอาสา หวังช่วยคนตกยาก แม้จะลำบาก แต่ก็จะทำโดยความไม่หนักใจ
อาสากตัญญู พัทยา ยินดีรับใช้

naka-54

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 84
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า

nonestop

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 87
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
nonestop  หยุดทำ้ร้าย หยุดเบียดเบียน หยุดการกลับมาเกิด กันเถิดครับ

saieaw

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 271
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
หวังว่า คนโพสต์ คงไม่ท้อ เพราะ ยาย (แม่) มดนะะคะ

 :49: :58: st11 st12 st12
 
บันทึกการเข้า