ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อภัยให้โจร! พระเมตตาไม่เอาโทษ โดน ตร.เท้าเปล่าไล่จับ  (อ่าน 1124 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออนไลน์ ออนไลน์
  • กระทู้: 28362
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



อภัยให้โจร! พระเมตตาไม่เอาโทษ โดน ตร.เท้าเปล่าไล่จับ

เมื่อโจร พระ ตำรวจ มาอยู่เหตุการณ์เดียวกัน โจรลักโทรศัพท์พระ ถูกร้องตะโกนให้ช่วยจับ ตำรวจบ้านอยู่ข้างวัด ไล่จับโจรทั้งที่สวมกางเกงตัวเดียวรองเท้าไม่มีแต่ก็จับตัวไว้ได้ ส่วนพระให้อภัยไม่เอาโทษโจร ชาวบ้านชื่นชมทั้งพระและตำรวจ...

เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ด.ต.อรรถพล ปานพรหมมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน บก.ภ.อ่างทอง ได้ควบคุมตัวนายสุชาติ ทองงาม อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 48/2 หมู่ 8 ต.โพสะ อ.เมืองอ่างทอง คนร้ายลักทรัพย์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย 2 เครื่อง ที่ได้ขโมยมาจากกุฏิพระณัฎฐวิทย์ ธมมคาโร พระลูกวัด วัดทำนบ ต.สี่ร้อย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง หลังย่องเข้าไปขโมยแต่พระณัฎฐวิทย์ มาเจอจึงร้องตะโกนให้คนช่วยจับ

ขณะนั้น ด.ต.อรรถพล ที่มีบ้านพักอยู่ติดกับวัดทำนบ ได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือ จึงได้วิ่งออกมาดูในชุดกางเกงขาสั้น ไม่ใส่เสื้อ และเท้าเปล่าไม่ได้สวมรองเท้า พบเห็นคนร้ายจึงไล่ตามไปจับกุมตัวไว้ได้พร้อมโทรศัพท์ของกลาง


 :96: :96: :96: :96: :96: :96:

จากการสอบสวนเบื้องต้นนายสุชาติ ให้การรับสารภาพว่าตนเอง ได้เข้าไปขโมยโทรศัพท์ในกุฏิพระณัฎฐวิทย์จริง เนื่องจากไม่มีเงินและทำเป็นครั้งที่สองแล้ว โดยครั้งแรกขโมยเงินไป 3,000 บาทและโดนจับติดคุก หลังพ้นโทษก็หาทำงานรับจ้างทั่วไป แต่ไม่พอกิน ก่อนเกิดเหตุได้มาเที่ยวที่วัดทำนบ เห็นกุฏิพระเปิดอยู่จึงเข้าไปดูพบโทรศัพท์วางอยู่ เกิดความอยากได้ จึงหยิบแล้วเดินออกมา เมื่อได้ยินเสียงคนตะโกนว่าขโมย ตนจึงได้วิ่งหนีอย่างสุดชีวิต แต่ก็มีชายที่ถอดเสื้อ วิ่งไล่จับตัวได้พร้อมของกลาง มารู้ทีหลังว่าเป็นตำรวจ

ด้านพระณัฎฐวิทย์ กล่าวว่า เมื่อได้โทรศัพท์คืนแล้ว ตนก็ไม่ติดใจเอาความนายสุชาติ และเห็นว่าทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ จึงได้ขอบิณฑบาต ไม่อยากให้ต้องโทษติดคุก ขอเพียงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำประวัติบันทึกไว้ และขอให้ทำตัวเสียใหม่ เป็นคนดีของสังคม ซึ่งนายสุชาติ ได้รับปากพร้อมก้มลงกราบพระณัฎฐวิทย์ ท่ามกลางประชาชนที่มุงดู ที่ซาบซึ้งกับควาเมตตาและการให้อภัยของพระณัฎฐวิทย์ พร้อมชมเชย ด.ต.อรรถพล ตำรวจที่นุ่งกางเกงเพียงตัวเดียวไล่จับโจร แม้ว่าเท้าที่ไม่ได้สวมรองเท้าจะเหยียบหนามเข้าไปเต็มฝ่าเท้า ก็ยังทนจนสามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างทันควัน.


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/514461
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

naka-54

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 84
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เป็นคดี อาญา นะนี่ ที่จริงยอมความไม่ได้ ถึงแม้พระไม่เอาโทษ แต่ตำรวจ ควรดำเนินตามกฏหมาย แต่เหตุเพราว่า ตำรวจอยู่นอกเครื่องแบบ พระใจดี ยกโทษให้ มุมกลับกัน ถ้าเกิดจับไม่ได้ แล้วพระไปแจ้งความไว้ ก็ ยอมความไม่ได้ นะกรณีนี้ ในเหตุนี้เพราะว่า ยังไม่ได้แจ้งความ

   ตัวบทกฎหมายอ้างอิง

ประมวลกฎหมายอาญา

            มาตรา  334  ผู้ใดเอาทรัพย์ของผู้อื่น หรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินหกพันบาท

 

        มาตรา  357  ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งทรัพย์อันได้มาโดยการกระทำความผิด ถ้าความผิดนั้นเข้าลักษณะลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ กรรโชก รีดเอาทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ฉ้อโกง ยักยอก หรือเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานรับของโจร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

        มาตรา  176  ในชั้นพิจารณา ถ้าจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลจะพิพากษาโดยไม่สืบพยานหลักฐานต่อไปก็ได้ เว้นแต่คดีที่มีข้อหาในความผิดซึ่งจำเลยรับสารภาพนั้นกฎหมายกำหนดอัตราโทษอย่างต่ำไว้ให้จำคุกตั้งแต่ห้าปีขึ้นไปหรือโทษสถานที่หนักกว่านั้น ศาลต้องฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง
บันทึกการเข้า