เข้าใจในความคิดเบื้องต้นว่ากรรมฐาน นั้นเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก ของมหาชน อยู่บ้างแต่เป็นเพราะว่า มหาชน ส่วนใหญ่นี้มุ่งเรียนกรรมฐาน ที่เป็นระดับสูงสุดเลย จึงทำให้เกิดความรู้สึกว่ายาก ดังนั้นถ้าต้องการเรียนกรรมฐานให้
เหมาะสมกับชีวิตประจำวัน ก็ต้องเรียนกรรมฐานให้ถูกจุด และมีเป้าหมายที่ชี้ให้เราเข้าใจได้ง่าย ๆ ก่อนเป็นอันดับแรกเริ่มจาก มองที่ประโยชน์ของกรรมฐานในเบื้องต้นคือ
1.ช่วยสุขภาพจิต เพิ่มประสิทธิภาพกาย
การเรียนกรรมฐาน ที่เหมาะกับทุกคนทุกวัย นั้นต้องภาวนาควบคู่กันไป โดยหลักการภาวนาในระดับที่เป็นธรรมชาติ คือไม่ใช่ทำอย่างพระ แต่ทำอย่างชนที่ครองเรือน คือใส่กรรมฐาน ลงไปในชีิวิตประจำวันเช่นการเรียนรู้เรื่องการหายใจ การออกกำลังกาย การออกกำลังจิต การฝึกสติในเบื้องต้น ถ้าเราเรียนอย่างนี้กรรมฐานก็จะไม่ใช่เรื่องยาก สำหรับเราอีกต่อไปเพราะเราเีรียน ภาวนากรรมฐานถูกจุด
2.ช่วยตัดกรรม ตัดวิบากแห่งกรรม
เรื่องของกรรมอาจจะกล่าวได้ว่าเป็นเรื่องที่ซับซ้อน เ้ข้าใจยาก เอะอะ อะไรก็ไปโทษกรรมทุกครั้ง โทษแม้กระทั่งดวงดาวต่าง ๆ นั้นแต่ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย คำกล่าวที่ว่า ปัจจุบัน เป็นผลมาจากอดีต นั้นไม่ใช่เรื่องที่เหลวใหล แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกันมาหลายภพ หลายชาติ ที่เราได้สะสมลงมา คนปัจจุบันไม่ได้กลัวกรรมส่วนนั้น แต่ที่เกรงกลัวกัน ก็คือวิบาก ( ผลกรรม ) ต่างหาก การที่เราจะหนีกรรมก็ต้องทำกรรมที่เป็นฝ่ายกุศลให้มากขึ้น ธรรมที่จะสร้างกุศล ให้กรรมทั้งหลายมีทันทีก็คือผลของการเจริญกรรมฐาน อันนี้กล่าวเรียกได้ว่าเป็นส่วนที่เกี่ยวพันกับชีวิตประจำวัน และสอดคล้องกันอย่างที่ไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้นกรรมฐานส่วนนี้จะช่วยได้
3.กรรมฐาน ตัดสังสารวัฏ
อันนี้กล่าวได้ว่าเป็นเป้าหมาย สูงสุดของพระกรรมฐาน ในพระพุทธศาสนาเลยคือการตัดสังสารวัฏไม่ต้องกลับมาเกิด มาเวียนว่ายอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์ มี ทุกข์เป็นเอนกอนันต์ มีความโศรก ความร่ำไร รำพัน ความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ เป็นต้น แต่กรรมฐานส่วนนี้ไม่ใช่เป็นกรรมฐานที่จะภาวนาำได้ง่าย ๆ จะเห็นได้จากจำนวนพระอริยะ ลดน้อยลงทุกวัน ทุกกาลดังนั้นจะกล่าวว่าง่ายนั้นก็ไม่ใช่ กรรมฐานส่วนนี้ต้องอาศัยกำลังใจสูงมาก โดยเฉพาะต้องเป็นผุ้ผ่าน นิพพิทา ( ความเบื่อหน่าย ) คือเห็นโทษของวัฏฏสงสารมาแล้ว จึงจะปฏิบัติภาวนาไปได้ในส่วนนี้ แต่ถ้าหากยังไม่เห็นโทษแห่งวัฏฏสงสารแล้ว เข้ามาศึกษาและภาวนาในส่วนนี้ ก็จะไม่สามารถสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่นี้ได้
ดังนั้น กรรมฐาน นั้นเปรียบเหมือนสะพาน ที่จะข้ามน้ำ ไปสู่อีกฟากฝั่ง
ใครจะรู้บ้างว่าอีกฟากฝั่งหนึ่ง นั้นที่เรียกว่า นิพพาน จะมี คุณ มี ธรรม มีลักษณะ อย่างไร ก็ไม่สามารถเล่าสู่กันฟังได้กันอย่างง่าย ๆ หรอกนะจ๊ะ ต้องเป็นผู้ข้ามไปแล้วเห็นเอง รู้เอง เท่านั้น
ดังนั้นถ้าจะเริ่มศึกษากรรมฐาน แล้ว ก็ให้พิจารณากรรมฐาน ให้เหมาะกับลำดับ และเป้าหมายของเราก่อนเป็นเบื้องต้นก็จะเห็นว่ากรรมฐานนั้น ไม่ได้เป็นเรื่องที่เข้าใจยาก
อ่านวิธีการที่ ภาวนาง่าย ๆ ก่อนก็จะเข้าใจ นะจ๊ะ
ไม่สบายใจ รู้สึก วิตกกังวล ควรทำอย่างไรดีครับ
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=3199.0เจริญธรรม