ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: 6 กิจกรรมสร้างสติ ให้เป็นนิสัย ในชีวิตประจำวัน  (อ่าน 724 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28409
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



6 กิจกรรมสร้างสติ ให้เป็นนิสัย ในชีวิตประจำวัน

เวลาหลับตาและนั่งสมาธิในห้องที่เงียบสงัด เรารู้สึกโล่ง โปร่ง สบาย… แต่เมื่อลืมตาขึ้นมาทีไร โลกใบนี้ก็ต่างออกไป มีภารกิจมากมายกําลังรอเราอยู่… มาร่วม กิจกรรมสร้างสติ ให้เป็นนิสัยในชีวิตประจำวันกันดีกว่า

หลายคนบอกว่า นี่เป็นเหตุผลที่ทําไมเราไม่มีเวลาและพื้นที่ใจสําหรับการมีสติรู้ในแต่ละวัน…และต้อง “รอ” เวลาไปเข้าคอร์สปฏิบัติธรรมที่วัดจริงหรือที่การฝึกสติเป็นเรื่องที่ต้อง “รอ” และต้อง “กะเกณฑ์” ทั้ง “เวลา” และ “สถานที่” ในเมื่อเราฝึกสติกันก็เพื่อให้รู้ อยู่กับปัจจุบัน…ไม่ว่าที่ไหน…หรือเวลาใด ที่จริงแล้วสติก็เสมือนนิสัยที่สร้างได้… โดยการหมั่นกลับมาสนใจและใส่ใจกับสิ่งที่กําลังทําอยู่ในปัจจุบัน สติสร้างได้โดยการใช้ชีวิต…เพื่อการใช้ชีวิต…อย่างมีชีวิตแท้จริง หากเรามัวแต่คิดว่ายากแล้วไม่ลองดูสักที คงรู้แล้วสินะว่าความยากที่แท้จริงอยู่ที่ไหน

@@@@@@

1. เริ่มจากการแปรงฟัน
เราแปรงฟันกันจนเป็นนิสัย…(หรือใครตอบว่าไม่ค่ะ) ทีนี้ลองให้สติเป็นเพื่อนเราไปพร้อมกับการแปรงฟัน ต่อจากนี้การแปรงฟันทุกครั้งอาจไม่เหมือนเดิม แต่จะเป็นประสบการณ์ใหม่หลายคนไม่เคยสนใจและใส่ใจ ได้แต่ใช้แปรงถูไปมาในปากอย่างรีบร้อน…โดยอัตโนมัติ พลางคิดไปว่า…เช้านี้จะทําอะไรกินดี จะไปส่งลูกทันไหมนะ เช้านี้จะพูดอย่างไรในที่ประชุม ลองหันมาสนใจและใส่ใจความรู้สึกแข็งหรืออ่อนนุ่มของขนแปรง ที่ปัดขึ้นลงซ้ายขวากระทบกับฟัน เหงือก กระพุ้งแก้ม และลิ้น แม้ในซอกเล็ก ๆ ระหว่างฟันที่ขนแปรงเข้าไปสัมผัส บางทีเราอาจสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในช่องปากมากกว่าที่เคย

2. อาบน้ำให้สบายใจ
เป็นโชคดีที่เราอยู่เมืองร้อนและต้องอาบน้ําวันละ 2 เวลาเป็นอย่างน้อย นั่นเพราะเรามีโอกาสชําระกายให้สะอาด และสดชื่นไปพร้อมกับใจถึงสองช่วงเวลา…ก่อนและหลังตื่นนอน หากเราสนใจสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างอาบน้ำ ใส่ใจว่าแต่ละส่วนของร่างกายมีความรู้สึกอุ่นร้อน หรือเย็นจากอุณหภูมิของน้ำ ขณะถูสบู่และสัมผัสส่วนต่าง ๆ ของร่างกายนั้นลองรู้สึกถึงพื้นผิวความหยาบ ความอ่อนนุ่ม ความลื่นไหลตามส่วนโค้งมนกลมรีของแขนขา และลําตัว…รู้สึกถึงร่างกายที่อยู่ในสายน้ำ…ผ่อนคลาย…สบายใจ

@@@@

3. “ตื่น”ด้วยการยืดเส้นยืดสายยามเช้า
แน่ใจนะว่าคุณตื่นแล้วไม่ได้เดินละเมออยู่ ไม่ว่าเราจะชอบออกกําลังกายแบบไหน…โยคะ วิ่ง หรือเพียงแค่ยืดเส้นยืดสาย ลองเริ่มสนใจ ร่างกายที่กําลังเคลื่อนไหวชะลอความคิดให้ช้าลงใส่ใจในทุกการเหยียดตึงของกล้ามเนื้อ ผ่อนคลายหรือเกร็ง สัมผัสที่ได้รับจากน้ำหนักตัวซึ่งกดทับลงบนพื้นผิว ยิ่งในจังหวะที่ต้องเกร็งตัวหรือทรงตัวถ่ายน้ําหนักให้สมดุลขณะเคลื่อนตัว โดยธรรมชาติแล้วเราจะสนใจและใส่ใจ การจัดวางตําแหน่งอวัยวะร่างกายและกล้ามเนื้อส่วนที่เกร็งโดยอัตโนมัติ เช่น การทรงตัวในท่าต่าง ๆ หรือการยืนตรงยืดลําตัวและแขนจนสุดแล้วเอนไปด้านหลัง หากกําลังวิ่งลองสนใจ ภาพรวมของมวลร่างกายที่เคลื่อนไปข้างหน้าฝ่าม่านอากาศ ใส่ใจกับความรู้สึกบนใบหน้าขณะปะทะกับลม…เย็นหรือร้อน…ชื้นหรือแห้ง แม้กระทั่งลมที่ผ่านเข้าออกสัมผัสโพรงจมูก ซึ่งสัมพันธ์กับอกและท้องที่กําลังกระเพื่อม ความรู้สึกที่สัมผัสได้ชัดเจนเหมือนมีเพียงตัวเราเวลาวิ่งจนเหนื่อยหอบ… “ตื่น” ให้ทั่วทั้งใจและกายพร้อมรับกับชีวิตในวันใหม่อย่างแท้จริง

4. เติมพลังใจด้วยมื้อเช้าแสนสงบ
ในอาหารมื้ออื่น การทานอาหารอย่างสงบอาจเป็นเรื่องยาก เมื่อต้องอยู่ในวงเพื่อนฝูงพร้อมกับบทสนทนาที่น่าสนใจ มื้อเช้าจึงเป็นโอกาสสําคัญที่เราจะได้สละเวลา ให้กับการกินอย่างมีสติ… มื้อเช้านี้ไม่มีทีวี ไม่เช็กข่าวสารทางมือถือ ไม่อ่านหนังสือพิมพ์…บอกตัวเองว่า ข่าวสารยังรอได้หลังกินเสร็จลองสนใจเรื่องราวที่กําลังเกิดขึ้นในช่องปาก การกัด บด เคี้ยวอาหารโดยฟันบนและล่างที่สบกัน การเคลื่อนไหวของกรามกับลิ้นที่สัมพันธ์กัน ใส่ใจผิวสัมผัสและรสชาติของเนื้ออาหาร เคี้ยวให้ละเอียด จนกระทั่งกลืนผ่านลําคอเข้าไปจนหมด แม้แต่กระทั่งความคิดที่ผุดขึ้นในระหว่างนั้นอร่อย…หรือไม่อร่อย…ในระหว่างกินให้ทั้งกายและใจได้เติมพลังตั้งแต่เริ่มต้นวัน

@@@@

5. สะอาดทั้งจาน…สะอาดทั้งใจ
โชคดีที่เราไม่ใช้เครื่องล้างจาน เพราะเราอาจจะได้เห็นความขี้เกียจตัวโตยืนกั้นอยู่ระหว่างจานกองสูงกับตัวเรา โยนทัศนคติเดิมที่เคยมีต่อการล้างจานทิ้งนี่เป็นช่วงนาทีทองของวันที่เราจะฝึกสติกัน ลองสนใจประสบการณ์จากความรู้สึกของมือที่สัมผัสความมัน ความลื่น เศษอาหารที่ติดแข็งบนจาน ความเย็นของน้ำ ประสบการณ์ที่ต่างกันไปในทุกขณะที่ล้างจานแต่ละใบอย่างใส่ใจ เราอาจทดลองทําแบบเดียวกัน ขณะทําความสะอาดอย่างอื่น เช่น กวาด ถูบ้าน ขัดล้างห้องน้ำ… เสร็จสิ้นภารกิจแล้ว…เราก็อาจพบความสะอาดทั้งภายนอกและภายใน

6. สแกนร่างกายผ่อนคลายก่อนนอน
ก่อนหลับตาในคืนนี้ลองมาสํารวจร่างกายที่ผ่านการใช้งานมาทั้งวันดูไหม นอนอย่างผ่อนคลาย หลับตา สนใจประสบการณ์ที่จะเกิดขึ้นจากการนอน… รู้สึกถึงน้ำหนักของร่างกายที่กดทับกับที่นอน…รู้สึกถึงอวัยวะทุกส่วนที่ประกอบกันเป็นร่างกาย ลองใส่ใจเริ่มจากปลายเท้า นิ้วเท้า ทั้งสองข้าง เราอาจลองขยับไปมา เหยียด เกร็ง…แล้วผ่อน ก็จะสังเกตความรู้สึกได้ชัดเจนมากขึ้น ใส่ใจแต่ละพื้นที่ในร่างกายว่ารู้สึกอย่างไร เกร็งหรือปวดเมื่อยไหม ถ้าเกร็งก็ให้รู้ แล้วปล่อยคลายเคลื่อนความ รู้สึกขึ้นมาที่ข้อเท้า ปลีน่อง เลื่อนขึ้นมาที่ต้นขา ช่วงลําตัว ทั้งด้านล่างและด้านบน แผ่นหลังบริเวณหัวไหล่ ลําคอ จนถึงศีรษะ ช่วงขมับและหัวคิ้วเกร็งอยู่หรือไม่รู้สึกแล้ว ก็ค่อย ๆ ผ่อนคลาย…จนหลับไป


@@@@@@

ท้ายแล้ว…สิ่งที่เราได้รับอาจไม่ใช่อะไรนอกจาก “การเปิดใจ” ให้กับประสบการณ์ใหม่อย่างเต็มที่ในทุกขณะ… เหมือนกับเด็กแรกเรียนรู้ซึ่งสนใจและใส่ใจ กับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าและคงไม่มีคําตอบที่ตายตัวว่าจะต้องรู้สึกอย่างไร… นั่นเพราะประสบการณ์ที่แต่ละคนได้รับย่อมแตกต่างกัน


ข้อมูลจาก นิตยสาร Secret ปี 2557 ฉบับที่ 133 (10 ม.ค. 57) หน้า 64-65
http://goodlifeupdate.com/healthy-mind/92315.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ