ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: "ภาษาคนปนภาษาธรรม" | จำเป็นต้องแยกแยะ และทำความเข้าใจให้ถูกต้อง  (อ่าน 678 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28439
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



"ภาษาคนปนภาษาธรรม" | จำเป็นต้องแยกแยะ และทำความเข้าใจให้ถูกต้อง

การสอนธรรมะในประเทศไทยในระยะประมาณเกือบ ๑๐๐ ปีที่ผ่านมา เกิดมีคำว่า “ภาษาคน – ภาษาธรรม” ขึ้นมา ซึ่งถ้าไม่ทำความเข้าใจให้ดีก็จะชวนให้ขัดแย้งกันได้

“ภาษาคน” หมายถึง พูดตามที่คนทั่วไปเข้าใจกันหรือตามความเข้าใจของชาวบ้านทั่วไป
“ภาษาธรรม” หมายถึง พูดตรงไปถึงนามธรรมหรือสัจธรรมที่มีอยู่ในสิ่งนั้นๆ ไม่เอาวัตถุหรือรูปธรรมมาคิดคำนึง

เมื่อมองในแง่ภาษาธรรม แม้แต่พระรัตนตรัยตามความเข้าใจของภาษาคน ก็กลายเป็นสาเหตุแห่งความขัดแย้งกันได้ ยกตัวอย่าง เมื่อเสร็จพิธีทำบุญ ปัจจุบันพิธีกรหลายๆ สำนักนิยมเชิญผู้ร่วมพิธีไหว้พระอีกครั้งหนึ่งโดยใช้คำว่า “ขอเชิญลาพระรัตนตรัย”

คำว่า “ขอเชิญลาพระรัตนตรัย” ความหมายของ “ภาษาคน” ก็มีเพียงแค่ต้องการจะลาพระก่อนจะแยกย้ายกันไป ตามวัฒนธรรม “ไปลา-มาไหว้” เท่านั้น แต่ใช้คำพูดที่ฟังแล้วผิดความหมายของ “ภาษาธรรม” เพราะคำว่า “ลาพระรัตนตรัย” นักภาษาธรรมตีความว่า หมายถึงลาขาดจากพระรัตนตรัย คือไม่นับถือพระรัตนตรัยอีกต่อไป ซึ่งผู้พูดว่า “ขอเชิญลาพระรัตนตรัย” ไม่ได้มีเจตนาจะให้หมายถึงเช่นนั้นเลย

@@@@@@@

ยังมีถ้อยคำอื่นๆ อีกมากที่เอาภาษาคนไปปนกับภาษาธรรม ช่วยกันนึกดูเถิด แม้แต่วิธีคิดที่เอาภาษาธรรมเข้ามาชี้นำภาษาคนก็มี เช่น กรณีมีผู้กระทำการบางอย่างอันเป็นการลบหลู่พระพุทธปฏิมา แล้วมีผู้แสดงความเดือดร้อน เอะอะโวยวาย เรียกร้องให้จัดการกับผู้กระทำเช่นนั้น ก็จะมีผู้ออกมาบอกว่า จะต้องเดือดร้อนไปทำไม พระพุทธเจ้าท่านสอนให้ปล่อยวาง

ความหมายของคำบอกนี้ก็คือ ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบไม่ต้องทำอะไร ใครลบหลู่ดูหมิ่นศาสนาของคนอื่น ก็ปล่อยให้ทำกันไปตามสบาย กฎหมายหรือกติกาการอยู่ร่วมกัน มารยาทสังคมว่าด้วยการไม่ลบหลู่ดูหมิ่นกันก็ไม่จำเป็นต้องมี เพราะพระพุทธเจ้าท่านสอนให้ปล่อยวาง

หรือเวลาใครยกปัญหาความเสื่อมโทรม ความอ่อนด้อย การปล่อยปละละเลย การไม่เอาใจใส่ ในการศึกษาและปฏิบัติตามพระธรรมวินัยของพระสงฆ์ขึ้นมาพูด ก็จะมีผู้ออกมาบอกว่า ทุกอย่างเป็นอนิจจัง

ความหมายของคำบอกนี้ก็คือ ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบไม่ต้องแก้ไขอะไร เจ้าคณะพระสังฆาธิการ ตลอดไปจนถึงองค์กรบริหารการคณะสงฆ์คือมหาเถรสมาคม ก็ไม่จำเป็นต้องมี ปล่อยให้ทุกอย่างเสื่อมทรามไปตามกฎอนิจจัง สบายดี

การปล่อยวาง ท่านสอนสำหรับการปฏิบัติการทางจิต หรือการ “ทำใจ” กฎอนิจจังหรือกฎไตรลักษณ์ ท่านสอนให้เข้าใจกฎธรรมชาติธรรมดา จะได้ไม่หลงผิด นี่เป็นเรื่องของภาษาธรรม แต่การทำงานตามหน้าที่ การแก้ปัญหา ความรับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้น นี่เป็นภาษาคน

@@@@@@@

พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้มนุษย์ละเลยเพิกเฉยต่อการทำหน้าที่ เช่นเดียวกับ-ทุกคนเกิดมาแล้วต้องตาย พระพุทธเจ้าก็ไม่ได้สอนว่า ให้ทุกคนนั่งนอนรอความตายอยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร

    ยังมีอีก ที่เกี่ยวกับพระรัตนตรัยโดยตรง
    ฝ่ายหนึ่งสร้างพระพุทธปฏิมา
    อีกฝ่ายหนึ่งบอกว่าพระพุทธเจ้าท่านไม่ได้สอนให้สร้างรูปเคารพ
    ฝ่ายหนึ่งชักชวนให้สร้างพระไตรปิฎก เรียนพระไตรปิฎก
    อีกฝ่ายหนึ่งบอกว่าพระพุทธเจ้าท่านสอนไม่ให้เชื่อคัมภีร์
    ฝ่ายหนึ่งนับถือพระสงฆ์ที่เป็นครูบาอาจารย์
    อีกฝ่ายหนึ่งบอกว่า พระพุทธเจ้าท่านสอนไม่ให้ยึดติดตัวบุคคล
    คนหนึ่งทำตามภาษาคน
    อีกคนหนึ่งเอาภาษาธรรมมาตัดสิน

    ถ้าเข้าใจเจตนาของภาษาคนและภาษาธรรม
    ก็ไม่ต้องทุบพระพุทธรูปทิ้ง จึงจะหมดเครื่องกีดขวางไม่ให้เข้าถึงความจริงแห่งพุทธคุณ
    ไม่ต้องเผาพระไตรปิฎกให้หมดทุกตู้ จึงจะไม่มีอะไรมาปิดกั้นไม่ให้เรียนรู้เข้าถึงพระธรรมคุณ
    ไม่ต้องฆ่าพระสงฆ์ให้หมดทั้งโลกหล้า จึงจะไม่มีอะไรมาขวางหน้าไม่ให้เข้าถึงพระสังฆคุณ

@@@@@@@

ปล่อยพระรัตนตรัยชนิดที่เป็นวัตถุนั้นไว้เถิด เพื่อให้เพื่อนมนุษย์ที่อินทรีย์ยังอ่อนได้อาศัยยึดเหนี่ยวไปก่อน แล้วช่วยแนะนำสั่งสอนกันไปพลาง เมื่อมีอินทรีย์แก่กล้าแล้ว เขาก็จะปล่อยวางสิ่งเหล่านั้นแล้วก้าวข้ามขึ้นสู่ไตรรัตนคุณที่เป็นสัจธรรมอันประเสริฐแท้จริงต่อไป

ดูก่อนภราดา.! ถ้ามีแต่แก่นล้วนๆ หมู่ไม้ทั้งมวลก็จะมีแต่ไม้ที่ยืนตาย





ขอขอบคุณ :-
ผู้เขียน : พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย .๒๓ กรกฎาคม ๒๕๖๕ ,๑๔:๒๕
website : dhamma.serichon.us/2022/07/24/ภาษาคนปนภาษาธรรม/
Posted date : 24 กรกฎาคม 2022, By admin,
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 28, 2022, 08:51:40 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ