ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สุนทรภู่ ตามเสด็จ พระองค์เจ้าปฐมวงศ์ ไปนมัสการ รอยพระพุทธบาท สระบุรี  (อ่าน 3039 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28439
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


นิราศพระบาท : สุนทรภู่ตามเสด็จพระองค์เจ้าปฐมวงศ์ ไปนมัสการรอยพระพุทธบาท สระบุรี

บทนำ : นิราศพระบาทเป็นนิราศคำกลอนของ สุนทรภู่ มีความยาวถึง 462 คำกลอน นับเป็นนิราศที่ยาวมากเรื่องหนึ่งของสุนทรภู่ แต่งเมื่อปลาย พ.ศ. ๒๓๕๐ เมื่อครั้งที่สุนทรภู่เป็นมหาดเล็กอยู่ในพระองค์เจ้าปฐมวงศ์ ซึ่งทรงผนวชอยู่จังหวัดระฆังโฆสิตาราม ขึ้นไปนมัสการพระพุทธบาทเมื่อ วันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 3 ปีเถาะ พ.ศ. 2350 (วันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๓๕๐)

นอกจากจะได้ทราบเรื่องเกี่ยวกับชีวิตรักระหว่าง สุนทรภู่กับนางจันทร์ซึ่งเป็นภรรยาจากนิราชเรื่องนี้เเล้ว ยังทำให้เรารู้เรื่องการเดินทางไปพระพุทธบาทและสภาพของพระพุทธบาทในสมัยนั้นเป็นอย่างดี

คำอธิบาย นิราศพระบาทของสุนทรภู่

นิราศพระบาท สำนวนของ พระสุนทรโวหาร (สุนทรภู่) เป็นวรรณคดีนิราศที่รู้จักกันเป็นอย่างดี แต่งขึ้นเมื่อพ.ศ. ๒๓๕๐ คราวเมื่อสุนทรภู่เป็นมหาดเล็กตามเสด็จพระองค์เจ้าปฐมวงศ์ พระโอรสในสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์ กรมพระราชวังบวรสถานพิมุข ไปนมัสการรอยพระพุทธบาท สระบุรี

วรรณคดีเรื่องนี้พิมพ์ครั้งแรกเมื่อพ.ศ. ๒๔๖๕ รวมอยู่ในหนังสือ ประชุมกลอนนิราศต่าง ๆ ภาค ๑ ของสุนทรภู่ ครั้นถึงพ.ศ. ๒๕๐๓ กรมศิลปากรได้ตรวจสอบชำระใหม่ โดยเพิ่มเติมเชิงอรรถ รูปภาพและแผนผังประกอบ

นิราศพระบาทประกอบด้วยกลอนสุภาพ ๒๓๑ บท เนื้อหากล่าวถึงการเดินทางจากกรุงเทพฯ โดยทางเรือ ออกจากท่าวัดระฆังโฆสิตาราม ไปตามแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านคลองบางจาก พระบรมมหาราชวัง สามเสน บางพลัด บางซื่อ บางซ่อน บ้านวัดโบสถ์ ตลาดแก้ว ตลาดขวัญ ปากเกร็ด บางพูด บางพัง วัดเทียนถวาย บ้านใหม่ บางหลวง บ้านกระแซง สามโคก ปทุมธานี วังตำหนัก (วัดตำหนัก) บ้านกระบือ เกาะราชคราม บางไทร บ้านสีกุก เกาะเกิด

บางเกาะอิน เกาะพระ เกาะเรียน ท่าเสือ คลองตะเคียน วัดธารมาใหม่ คลองสระปทุม วัดแม่นางปลื้ม คลองหัวรอ ท่าศาลาเกวียน บ่อโพง ปากจั่น บางระกำ ปราสาทนครหลวง บ้านแม่ลา บ้านอรัญญิก บ้านตะเคียนด้วน ศาลาลอย วังตะไล จากนั้นจึงเปลี่ยนพาหนะเป็นช้าง เพื่อขึ้นฝั่งและเดินทางต่อทางบก ผ่านป่านาประโคน บางโขมด บ่อโศก หนองคนที ศาลเจ้าสามเณร เขาตก สระยอ จนถึงวัดพระพุทธบาท

ขณะที่เดินทางไปนั้นตรงกับเทศกาลสมโภชพระพุทธบาทประจำปี จึงมีการแสดงและการละเล่นสนุกสนาน ซึ่งกวีได้สอดแทรกรายละเอียดงานสมโภชพระพุทธบาทลงในนิราศเรื่องนี้ กวีบรรยายภาพงานรื่นเริง มีการละเล่นชนิดต่าง ๆ มีปี่ระนาด ฆ้องกลอง เครื่องดนตรีประโคม มีไฟตะเกียงจุดรอบบริเวณมณฑปพระพุทธบาท สุนทรภู่ได้สักการะรอยพระพุทธบาทและเที่ยวชมความสวยงามของรมณียสถานรอบพระพุทธบาท

วรรณคดีเรื่องนี้สะท้อนภาพวิถีชีวิตของคนไทยในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น เช่น ภาพการแต่งกายของชาววังที่อยู่ในขบวนเสด็จ ลักษณะท่าทางและอุปนิสัยของสาวชาววัง การแต่งกายและวิถีชีวิตของชาวมอญที่สามโคก ปทุมธานี ลักษณะที่อยู่อาลัยของคนไทยตามแต่ละท้องถิ่น นอกจากนี้สุนทรภู่ได้สอดแทรกคติธรรมบางประการที่ใช้เป็นหลักดำเนินชีวิต เช่น ความกตัญญ ความซื่อสัตย์สุจริต การเลือกคบคน เป็นต้น


ขอบคุณที่มา :-
https://vajirayana.org/ประชุมวรรณคดีเรื่อง-พระพุทธบาท/คำอธิบาย-นิราศพระบาทของสุนทรภู่ 



ขอยกบางส่วนของนิราศพระบาทมาแแสดงดังนี้...

บ่ายประมาณโมงหนึ่งพอถึงวัด   ออกแออัดผู้คนอยู่ล้นหลาม
ลงหยุดปลงไอยราริมอาราม   สมภารตามเชิญเสด็จให้คลาไคล
ขึ้นกุฎีฝากระดานสำราญรื่น   ก็ครึกครื้นครอบครัวเข้าอาไศรย
ทั้งไพร่นายรายเรียงกันเรียดไป   ตัดใบไม้มุงเหมือนหลังคาบัง

ประจวบจนสุริยนเย็นพยับ   ไม่ได้ศัพท์เซ็งแซ่ด้วยแตรสังข์
ปี่ระนาดฆ้องกลองประโคมดัง   ระฆังหงั่งหงั่งหง่างลงครางครึม
มโหรีปี่ไฉนจับใจแจ้ว   วิเวกแว่วกลองโยนตะโพนกระหึม
ทุกที่ทับสัปรุษก็พูดพึม   รุกขาครึ้มครอบแสงพระจันทร


@@@@@@

เสนาะเสียงเทศนาปุจฉาถาม   ในสนามเสียงสนั่นเนินสิงขร
เปนวันบรรณรสีระวีวร   พระจันทรทรงกลดรจนา
ไฟตะเกียงเรียงรอบพระมณฑป   กระจ่างจบจันทร์แจ่มแอร่มผา
ดอกไม้พุ่มจุดงามอร่ามตา   จับศิลาแลเลื่อมเปนหลายลาย

พระจันทร์ส่องต้องยอดมณฑปสุก   ในน่ามุขเงางามอร่ามฉาย
นกบินกรวดพรวดพราดประกายพราย   พลุกระจายช่อช่วงดังดวงเดือน
ดอกไม้ร้องป้องปีบสนั่นป่า   ในแหล่งหล้าใครไม่มีเสมอเหมือน
แต่คนเดินพัลวันออกฟั่นเฟือน   จนจันทร์เคลื่อนรถคล้อยลับเมฆา

@@@@@@

สงัดเสียงคนดังระฆังเงียบ   เย็นระเยียบยามนอนริมเนินผา
เมื่อยามแกนแสนทุเรศเวทนา   ต้องไสยาอยู่กลางน้ำค้างพราว
ทั้งต้องน้ำอำมฤกเมื่อดึกเงียบ   แสนยะเยียบเนื้อเย็นเปนเหน็บหนาว
ทั้งหนาวลมหนาวพรมน้ำค้างพราว   ไหนจะหนาวซากผาศิลาเย็น

โอ้หนาวอื่นพอขืนอารมณ์ได้   แต่หนาวใจยากแค้นนี้แสนเข็ญ
ทั้งหนาวนอนไกลนุชสุดจะเย็น   ใครปะเปนเหมือนหนึ่งข้าจะว่าจริง
ถึงผ้าผ่อนซ้อนห่มเปนไหนไหน   ไม่อุ่นใจเหมือนกอดแม่ยอดหญิง
แต่ตรอมใจไสยาศน์หวาดประวิง   จนไก่ชิงกันขันกระชั้นยาม

@@@@@@

ได้เพลินอุ่นฉุนเคลิ้มสติหลับ   ก็ฝันยับไปด้วยรักไม่พักถาม
ในนิมิตรว่าได้ชิดพงางาม   เหมือนเมื่อยามยังสำราญอยู่บ้านน้อง
สบายนิดหนึ่งที่ฝันก็พลันรุ่ง   ตื่นสดุ้งเขาประดังระฆังก้อง
พอลืมตาก็ผวาคว้าประคอง   ไม่พบน้องสุดแค้นแสนรำคาญ

จนแจ่มแจ้งแสงสายไม่วายโศก   บริโภคโภชนากระยาหาร
แล้วเลือกธูปเทียนจัดไปนมัสการ   เข้าในลานแลเลื่อมละอองทราย
มีร่มโพธิ์รุกขังเปนรังรื่น   พิกุลชื่นช่อบังพระสุริฉาย
แสนระโหโอฬาน่าสบาย   ทั้งหญิงชายกลาดกลุ้มประชุมกัน

@@@@@@

ทวาราที่ตรงน่าบันไดนาค   มีรูปรากษษสองอสูรขยัน
แสยะแยกโอษฐ์อ้าสองตามัน   ยืนยิงฟันแยกเขี้ยวอยู่อย่างเปน
บันไดนาคนาคในบันไดนั้น   ดูผกผันเพียงจะเลื้อยออกโลดเล่น
ขย้ำเขี้ยวขบปากเหมือนนาคเปน   ตาเขม้นมองมุ่งสดุ้งกาย

มีต้นกำมพฤกษ์ทานในลานวัด   ลูกหมากยัดเงินทิ้งอุทิศถวาย
คนประชุมกลุ้มชิงทั้งหญิงชาย   บ้างกอบปรายเบี้ยโปรยอยู่โกรยกราว
ทิศประจิมริมฐานมณฑปนั้น   มีดาบศรูปปั้นยิงฟันขาว
นุ่งหนังพยัคฆาชฎายาว   ครังเคราคราวหนวดแซมสองแก้มคาง

@@@@@@

ชั้นบันไดจะขึ้นไปมณฑปนั้น   สิงโตตันสองตัวกระหนาบข้าง
ดูผาดเผ่นเหมือนจะเต้นไปตามทาง   พี่ชมพลางขึ้นบนบันไดพลัน
ทั้งสาวหนุ่มเข้าประชุมกันแออัด   ประนมหัดถ์ทักษิณเกษมสันต์
แต่เวียนเดินเพลินชมมาตามกัน   ตามช่องชั้นกำแพงแก้วอันแพรวพราย

ทั้งซุ้มเสามณฑปกระจกแจ่ม   กระจังแซมปลายเสาเปนบัวหงาย
มีดอกจันทน์ก้านแย่งสลับลาย   กลางกระจายดอกจอกประจำทำ
พื้นผนังหลังบัวที่ฐานบัตร   เปนครุธอัดยืนเหยียบภุชงค์ขยำ
หยิกขยุ้มกุมวาสุกรีกำ   กินรรำรายเทพประนมกร

@@@@@@

ใบระกาหน้าบันบนชั้นมุข   สุวรรณสุกเลื่อมแก้วประภัศร
ดูยอดเยี่ยมเทียมยอดยุคุนธร   กระจังซ้อนแซมใบระกาบัง
นาคสดุ้งรุงรังกระดึงห้อย   ใบโพร้อยระเรงอยู่เหง่งหงั่ง
เสียงประสานกังสดาลกระดึงดัง   วิเวกวังเวงในหัวใจครัน

บานทวารลานแลล้วนลายมุก   น่าสนุกในกระหนกดูผกผัน
เปนนาคครุธยุดเหนี่ยวในเครือวัล   รูปยักษ์ยันยืนกอดกระบองกุม
สิงโตอัดกัดก้านกระหนกเกี่ยว   เทพเหนี่ยวเครือกระหวัดหัดถ์ขยุ้ม
ชมภูพาลกอดก้านกระหนกรุม   สุครีพกุมขรรค์เงื้อในเครือวง


@@@@@@

รูปนารายน์ทรงขี่ครุธาเหิร   พรหมเจริญเสด็จยังบัลลังก์หงษ์
รูปอมรกรกำพระธำมรงค์   เสด็จทรงคชสารในบานบัง
ผนังในกุฎีทั้งสี่ด้าน   โอฬ่าฬารทองทาฝาผนัง
จำเภาะมีสี่ด้านทวารบัง   ที่พื้นนั่งดาดด้วยแผ่นเงินงาม

มณฑปน้อยสวมรอยพระบาทนั้น   ล้วนสุวรรณ์แจ่มแจ้งแสงอร่าม
เพดานดาดลาดล้วนกระจกงาม   พระเพลิงพลามพร่างพร่างสว่างพราย
ตาข่ายแก้วปักกรองเปนกรวยห้อย   ระย้าย้อยแวววามอร่ามฉาย
หอมควันธูปเทียนตระหลบอยู่อบอาย   ฟุ้งกระจายรื่นรื่นทั้งห้องทอง

@@@@@@

พี่เข้าเคียงเบื้องขวาฝ่าพระบาท   อภิวาทหัดถ์ประนังขึ้นทั้งสอง
กราบกราบแล้วก็ตรึกรำลึกปอง   เดชะกองกุศลที่ตนทำ
มาคำรบพบพุทธบาทแล้ว   ขอคุณแก้วสามประการช่วยอุปถัมภ์
ฉันเกิดมาชาตินี้นี้มีกรรม   แสนระยำยุบยับด้วยอับจน

ได้เคืองแค้นแสนยากลำบากบอบ   ไม่สมประกอบทรัพย์สินก็ขัดสน
แม้นกลับชาติเกิดใหม่เปนกายคน   ชื่อว่าจนแล้วจงจากกำจัดไกล
สัตรีหึงหนึ่งแพสยาหญิง   ทั้งสองสิ่งอย่าได้ชิดพิศมัย
สันชาติชายทรชนที่คนใด   ให้หลีกไกลร้อยโยชน์อย่าร่วมทาง


@@@@@@

ถ้ารักใครขอให้ได้คนนั้นด้วย   บุญจงช่วยปฏิบัติอย่าขัดขวาง
อย่ารู้มีโรคาในสารพางค์   ทั้งรูปร่างขอให้ราวกับองค์อินทร์
หนึ่งบิดรมารดาคณาญาติ   ให้ผุดผาดผาศุกเปนนิจสิน
ความระยำคำใดอย่าได้ยิน   ให้สุดสิ้นสูญหายละลายเอง

ทั้งหวายตรวนล้วนเครื่องที่ลำบาก   ให้ปราศจากทั้งคนเขาข่มเหง
ใครปองร้ายขอให้กายมันเปนเอง   ให้ครื้นเครงเกียรติยศปรากฎครัน
อธิฐานแล้วก็ลาฝ่าพระบาท   เที่ยวประพาศในพนมพนาสัณฑ์
ขึ้นเขาโพธิ์ลังกาศีลาชัน   มีสำคัญรุกขโพธิ์ลังกาเรียง


ขอบคุณที่มา :_
https://sites.google.com/site/wrrnkhdiniras/home/niras-phrabath/bth-praphanth/bth-praphanth1 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 26, 2020, 12:08:37 pm โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28439
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




คำอธิฐานของสุนทรภู่ เมื่อครั้งไปนมัสการ รอยพระพุทธบาท สระบุรี

พี่เข้าเคียงเบื้องขวาฝ่าพระบาท
อภิวาทหัดถ์ประนังขึ้นทั้งสอง
กราบกราบแล้วก็ตรึกรำลึกปอง
เดชะกองกุศลที่ตนทำ


มาคำรบพบพุทธบาทแล้ว
ขอคุณแก้วสามประการช่วยอุปถัมภ์
ฉันเกิดมาชาตินี้นี้มีกรรม
แสนระยำยุบยับด้วยอับจน

ได้เคืองแค้นแสนยากลำบากบอบ
ไม่สมประกอบทรัพย์สินก็ขัดสน
แม้นกลับชาติเกิดใหม่เปนกายคน
ชื่อว่าจนแล้วจงจากกำจัดไกล


สัตรีหึงหนึ่งแพสยาหญิง
ทั้งสองสิ่งอย่าได้ชิดพิศมัย
สันชาติชายทรชนที่คนใด
ให้หลีกไกลร้อยโยชน์อย่าร่วมทาง

@@@@

ถ้ารักใครขอให้ได้คนนั้นด้วย
บุญจงช่วยปฏิบัติอย่าขัดขวาง
อย่ารู้มีโรคาในสารพางค์
ทั้งรูปร่างขอให้ราวกับองค์อินทร์

หนึ่งบิดรมารดาคณาญาติ
ให้ผุดผาดผาศุกเปนนิจสิน
ความระยำคำใดอย่าได้ยิน
ให้สุดสิ้นสูญหายละลายเอง

ทั้งหวายตรวนล้วนเครื่องที่ลำบาก
ให้ปราศจากทั้งคนเขาข่มเหง
ใครปองร้ายขอให้กายมันเปนเอง
ให้ครื้นเครงเกียรติยศปรากฎครัน

อธิฐานแล้วก็ลาฝ่าพระบาท
เที่ยวประพาศในพนมพนาสัณฑ์
ขึ้นเขาโพธิ์ลังกาศีลาชัน
มีสำคัญรุกขโพธิ์ลังกาเรียง

.........................
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Luxyru

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สาธุอยากไปเห็นด้วยตาสักครั้ง
บันทึกการเข้า