ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: คนใดทำความชั่วไว้ ละได้ด้วยการทำดี คนนั้นย่อมทำโลกนี้ให้สว่างไสว  (อ่าน 915 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28431
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




สูตรสำเร็จในชีวิต (19) : การงดเว้นจากบาป (2)

คราวที่แล้วได้พูดถึงบาปในแง่พุทธกับแง่คริสต์ศาสนาไม่เหมือนกัน คริสต์ถือว่ามนุษย์มีบาป ที่พระเจ้าสาปติดตัวมาตั้งแต่เกิด และไม่สามารถขจัดบาปนั้นออกด้วยตนเองได้ นอกจากพระเจ้าจะกรุณานำออกให้ พุทธศาสนาถือว่าบุญหรือบาปมนุษย์ทำด้วยตัวเอง ตนทำบาปเองก็เศร้าหมองเอง ตนทำดีเองก็ผ่องแผ้วเอง ตัวเราเป็นที่พึ่งของตัวเราเอง พูดอีกนัยหนึ่งก็ว่า มนุษย์เป็นพระเจ้าตัวเองนั่นแล

มีผู้ถามว่า คนเราทำดีลบล้างความชั่วได้หรือไม่ หลายท่านคงตอบว่า ไม่ได้ ทำดีก็ต้องดี ทำชั่วก็ต้องชั่ว ทำดีแล้วจะกลายเป็นชั่ว หรือทำชั่วจะกลายเป็นดีได้อย่างไร ดูเผินๆ ก็น่าจะอย่างนั้น แต่ถ้าคิดอีกที ทุกอย่างเป็นอนิจจัง ไม่คงที่ กฎแห่งกรรมก็เป็นอนิจจังเช่นเดียวกับสิ่งอื่น นั่นคือ กรรมดีย่อมเปลี่ยนแปลงเป็นกรรมชั่วได้ กรรมชั่วย่อมเปลี่ยนแปลงเป็นกรรมดีได้

หากทุกอย่างเที่ยงแท้ไม่เปลี่ยนแปลงแล้วไซร้ คนเราก็ไม่มีโอกาสพัฒนาให้เปลี่ยนแปลงไปในทางดีขึ้นจนบรรลุมรรคผลนิพพานน่ะสิ นี่เพราะทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ คนจึงเปลี่ยนพฤติกรรมของตนให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ได้

@@@@@@@

สมมุติว่าน้ำในสระสกปรก วิธีที่จะทำน้ำในสระให้สะอาดอาจทำได้โดยไขน้ำที่สะอาดเข้าเป็นจำนวนมาก ปริมาณน้ำที่สะอาดเข้าไปมากเข้า ก็จะทำให้น้ำเดิมที่สกปรกจางหายไป น้ำในสระก็จะใสสะอาดขึ้น ถ้าถามว่า ความสกปรกที่มีอยู่ในสระเดิมหายไปไหน ตอบว่าไม่ได้หายไปไหน ก็อยู่ในนั้นแหละ แต่ได้จางหายไปรวมเป็นเนื้อเดียวกับน้ำที่เข้ามาใหม่นั้นเอง

บาปหรือความชั่วที่คนทำก็อยู่ในตัวคนนั้นแหละ ถ้าคนนั้นทำดีอย่างอื่นเพิ่มขึ้นมากเข้าๆ ความดีนั้นจะไปละลายบาปหรือความชั่วนั้นให้จางลงจนลบหายไปในที่สุด อย่างนี้ไม่เรียกทำดีล้างความชั่วแล้วจะเรียกอะไรเล่าครับ พระพุทธองค์ยังตรัสเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า


     ยสฺส ปาปํ กตํ กมฺมํ กุสเลน ปหียติ โสมํ โลกํ ปภาเสติ อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา
     คนใดทำความชั่วไว้ ละได้ด้วยการทำดี คนนั้นย่อมทำโลกนี้ให้สว่างไสว ดุจพระจันทร์พ้นจากเมฆหมอกฉะนั้น


@@@@@@@

พระองคุลิมาลเป็นตัวอย่างของคนที่ทำชั่วมามาก แต่ในที่สุดละได้ด้วยการทำความดี คนเช่นนี้เข้าตำรา “ต้นคดปลายตรง” คืออดีตเหลวแหลก แต่ปัจจุบันทำแต่สิ่งดีงามน่าสรรเสริญ องคุลิมาลหลังจากบวชแล้วได้รำพึงความในใจออกมาเป็นบทกวีว่า

เมื่อก่อนฉันคือโจรองคุลิมาลผู้ดุร้าย เวียนว่ายลอยคอกลางกระแสตัณหาใหญ่ ได้อาศัยพระพุทธองค์เป็นที่ยึดเกาะอันมั่นคงและปลอดภัย บัดนี้ฉันนั่งเป็นสุข นอนเป็นสุข พ้นเงื้อมมือมารร้าย อโห น่าอัศจรรย์ใจ! พระกรุณาอันยิ่งใหญ่ของพระศาสดา ครับ งดเว้นบาปได้ ไม่ว่าบาปใหญ่บาปน้อย ดำเนินชีวิตในทางแห่งความดีแล้วชีวิตจะประสบความสุข


ที่มา : มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 10-16 กรกฎาคม 2563
คอลัมน์ : เสฐียรพงษ์ วรรณปก
ผู้เขียน : เสฐียรพงษ์ วรรณปก
เผยแพร่ : วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2563
ขอบคุณ : https://www.matichonweekly.com/column/article_326352
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ