ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ประเภทของผู้ภาวนา ใน พุทธศาสนา 5 แบบ  (อ่าน 1824 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
ประเภทของผู้ภาวนา ใน พุทธศาสนา 5 แบบ
« เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2016, 07:36:46 pm »
0
เหตุเกิดเพราะมีคำถามจากหลายท่านว่า ข้าพเจ้าดำเนินชีวิตอยู่อย่างไรก่อน ที่จะต้องการออกบวช และทำอย่างไร จึงได้อารมณ์เป็นผู้ต้องการออกบวช ดังนั้นจึงจะเล่าการภาวนาที่ผ่านมาเพื่อเป็นเครื่องส่งเสริมความศรัทธา ให้ท่านทั้งหลายผู้ที่กำลังมีความเพียร ให้ไม่รู้สึกว่าการภาวนาเป็นเรื่องยาก และ ปฏิบัติไม่ได้นั้น เพื่อทำลายความคิดเช่นนี้ออกไป เพราะถ้าทุกท่านคิดว่าการภาวนาเป็นเรื่องยาก ลำบาก เป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ จะเป็นเหตุให้ส่งผลเป็นนิสัยไปชาติภพต่อไปด้วย ความยากลำบากก็จะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณจนกระทั่ง แม้ได้เจอพระพุทธศาสนาอีก ก็จะเพียงทำได้เพียงแค่การไหว้ แล้วผ่านไปเหมือนพวกคนชาวต่างชาติ ที่มาไหว้กันแล้วก็จากไป จึงเป็นเหตุให้ผมผู้ห่วงใยเพื่อนร่วมทุกข์ ร่วมสุขกันทุกท่าน ขอให้ท่านมีจิตตั้งมั่นในธรรมอย่างเหนียวแน่น เพราะพระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า “ตราบใดที่ยังมีผู้ประพฤติปฏิบัติธรรมกันอยู่ ตราบนั้นพระอรหันต์จะไม่สิ้นไปจากโลก” และ “ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นชื่อว่าเห็นเราตถาคต”
ขึ้นชื่อว่าการปฏิบัติธรรม ในพระพุทธศาสนา ย่อมมีเป้าหมาย แตกต่างกันตามระดับ ดังนี้

• การปฏิบัติธรรม เพื่อความเป็นเทวดา เพื่อเป็น หรือ ไปเกิดเป็นเทวดา นางฟ้า เป็นเป้าหมายชั้นต้น อันนี้เกิดจากรักษา ศีล และ ให้ทาน เรียกว่า “ทานศีลภาวนา” ในความเข้าใจของผม ศัพท์ทางธรรม เรียกว่า ทานมัย และ สีลมัย

• การปฏิบัติธรรมเพื่อเป็นพระโพธิสัตว์ หรือ เป็นพระพุทธเจ้า คือผู้บำเพ็ญบารมี 30 ทัศ อย่างเหนียวแน่น ซึ่งผู้ปฏิบัติเช่นนี้ ย่อมเป็นผู้ต้องการอยู่ในพุทธภูมิ หัวข้อนี้จะไม่ขอกล่าวเพราะว่าเป็นเรื่องของบุคคลที่ความปรารถนาอย่างสูง เพราะต้องมีการบำเพ็ญบารมี 3 ระดับ คือ1.สามัญญะบารมี 2.อุปะบารมี และ 3.ปรมัตถะบารมี จึงจะสมบูรณ์ได้

• การปฏิบัติธรรม เพื่อความเป็นพรหม คือปฏิบัติ เพื่อเป็น หรือ ไปเกิดเป็นพรหม เป็นเป้าหมายชั้นกลาง อันนี้เกิดจากการบำเพ็ญจิต ให้ตั้งมั่น เรียกว่า “สมาธิภาวนา” ในความเข้าใจของผม ศัพท์ทางธรรมเรียกว่า ภาวนามัยชั้นต้น

• การปฏิบัติธรรม เพื่อความเป็นพระอรหันต์ คือปฏิบัติเพื่อ ละสิ้นจาก ภพ จาก ชาติ จากการเวียนว่ายตายเกิด ในสังสารวัฏ เป็นเป้าหมายชั้นสูงของพระสาวก หรือเรียกง่าย ๆ ว่า สาวกภูมิ คือผู้ที่ต้องการเป็นพระสาวกของพระพุทธเจ้า เพื่อเข้าสู่พระนิพพาน อันนี้เกิดจากการบำเพ็ญ จิตให้สูงให้ละสิ้นจาก กิเลส ตัณหา อุปาทาน เรียกว่า “วิปัสสนาภาวนา” ในความเข้าใจของผม ศัพท์ทางธรรมเรียกว่า ภาวนามัยชั้นสูง เพราะประกอบด้วยการทำไว้ในใจโดยความแยบคาย และ ตรึกตรองอย่างถี่ถ้วน ทุกอิริยาบถ ทุกลมหายใจ เข้า และ ออก ด้วยความเพียรที่สม่ำเสมอ

ดังนั้นไม่ว่าท่านจะปฏิบัติธรรมด้วยเหตุผลใด ย่อมมีเป้าหมายเกื้อกูล และรวมกันไปสู่จุดมุ่งหมายเดียวคือพระนิพพาน ดังนั้นไม่ว่าท่านจะเริ่มแบบไหนหรือปฏิบัติด้วยเหตุผลใดก็ไม่มีความผิด ควรจะอนุโมทนากับการปฏิบัติธรรมทั้ง 4 แบบนั้น ส่วนการเข้าถึงธรรม ชั้นสูง ครูบาอาจารย์ ที่มาสอนผมนั้นท่านบอกว่าต้องทำให้ สมบูรณ์ ทั้ง 3 ประการ คือ ต้องประกอบ ด้วย ศีล สมาธิ และ ปัญญา พร้อมกับต้องดำเนินการภาวนาด้วยความเหมาะสม ไม่ตึง หรือ ไม่หย่อน ซึ่งท่านกล่าวเรียกว่า ทางสายกลาง หรือ มัชฌิมาปฏิปทา ซึ่งที่สำคัญที่สุด ของการทำวิปัสสนา นั้น ต้องมีอารมณ์ความรู้สึกแบบ สาวกภูมิ คือ เป็นผู้เบื่อหน่ายในสังสารวัฏ คือการเวียนว่าย ตายเกิด ทั้งสภาวะจิต และทั้งสภาวะภพ โดยมีอารมณ์ ดังนี้

• เห็นว่าการเกิดทั้งสภาวะ และ ภพ เป็นทุกข์ นำมาซึ่งการเวียนว่ายตายเกิด อย่างไม่รู้จักจบสิ้น ทั้งทางสภาวะ และ ภพ

• มีศรัทธาต่อพระรัตนตรัย ไม่มีความสงสัยต่อคุณของพระรัตนตรัย พิจารณาเห็นด้วยปัญญา และเคารพต่อพระรัตนตรัย อย่างเชื่อมั่น ไม่ง่อนแง่น คลอนแคลน

• ต้องมีใจนึกถึงความตาย ที่มีอยู่กับเรา และ ฉลาดด้วยการมองเห็น แท้ที่จริง กายก็ไม่มี เป็นของน่าเกลียด น่าชัง เป็นรังแห่งโรค เป็นที่รวม และที่ตั้ง แห่งกองทุกข์ทั้งปวง เป็นต้นตอ แห่งกิเลสทั้งหลาย และรู้ซึ้งถึง “คุณ และ ค่า” ของลมหายใจเข้า และ ออก
ถ้าอารมณ์ ทั้ง 3 นั้นไม่ปรากฏขึ้นเลย การภาวนาชั้นสูง ก็คงเป็นไปได้ยาก เพราะไม่มีมูลเหตุให้ต้องมาทำการภาวนา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ตัดมาจาก หนังสือ "ภาวนากถา"
ที่ระลึกในการอุปสมบถ ของ ธัมมะวังโส




ไฟล์เสียง เรื่อง ระดับผู้ภาวนาในพุทธศาสน์ 4 ประเภท
http://cloudbox.3bb.co.th/share3/MTYzNjN8ZmRlMDUxNmZkYzVhYWRiMGI2OGQ2YzE4NDA2N2U3Yzl8MzAyNTU=
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ประเภทของผู้ภาวนา ใน พุทธศาสนา 5 แบบ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2016, 09:34:24 pm »
0
ขออนุโมทนาสาธุ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ประเภทของผู้ภาวนา ใน พุทธศาสนา 5 แบบ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2016, 04:56:20 pm »
0
 st12 st12 st12
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ

intro

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 77
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ประเภทของผู้ภาวนา ใน พุทธศาสนา 5 แบบ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2016, 04:03:51 pm »
0
 st12 st12 st12
บันทึกการเข้า