ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สยบฤทธิ์เหล็กไหลทำร้ายคน "หลวงปู่มั่นและหลวงปู่เสาร์" ตัดเหล็กไหลจนสิ้นฤทธิ์  (อ่าน 1552 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออนไลน์ ออนไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



อภินิหาร..สยบฤทธิ์เหล็กไหลทำร้ายคน.!! "หลวงปู่มั่น" และ "หลวงปู่เสาร์" ตัดเหล็กไหลถึง 6 ครั้ง..กว่าจะสิ้นฤทธิ์.!!

เหล็กไหล เชื่อกันว่าเป็นธาตุศักดิ์สิทธิ์ชนิดหนึ่ง โดยชนิดที่เป็นทีความนิยมหามาสะสมกันอย่างแพร่หลายมาก มีสีดำคล้ายนิล สามารถลนไฟให้ยืดออกได้ที่สุดจะฝังตัวอยู่ในถ้ำ  มีความเชื่อเพิ่มเติมกันอีกว่า การจะนำเอาเหล็กไหลไปใช้นั้นจะต้องใช้น้ำผึ้งชโลมก้อนเหล็กไหล จากนั้นใช้ไฟลนเพื่อให้เหล็กไหลยืดตัวออกมากินน้ำผึงพร้อมกับเล่นไฟไปด้วย ลนไฟเหล็กไหลเอาไว้จนกระทั่งมีขนาดบางเท่าเส้นด้ายถึงจะตัดให้ขาดออกจากกันได้

การเดินทางไปนำตัดเหล็กไหล คนธรรมดาไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีเทพเจ้า เจ้าป่าเจ้าเขา พญานาค หรือยักษ์คอยปกปักรักษาอยู่ และพร้อมจะเข้าทำร้ายผู้ที่เข้าไปเอาได้ทุกเมื่อ หากคนผู้นั้นไม่ใช่คนดี มีบุญ หรือมีวิชาอาคมที่แกร่งกล้ามากพอ อีกทั้ง ตัวเหล็กไหลก็มีฤทธิ์ขัดขืนคนที่จะเข้าไปตัดได้ด้วย จากเรื่องเล่าที่ว่า เคยมีคนเดินทางเข้าไปตัดเหล็กไหลโดยเอามือไปสัมผัสกับเหล็กไหลโดยตรง จากนั้นเกิดอาการคล้ายกับถูกฟ้าผ่า หรือถูกไฟฟ้าแรงสูงดูดเข้า เป็นเรื่องที่ใครก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าจริง หรือเท็จอย่างไร

โดยเรื่องที่จะนำมาเล่าให้ฟังต่อไปนี้ เป็นเรื่องของการเดินทางไปตัด “เหล็กไหล” ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จากเกร็ดชีวิตพระอาจารย์ เสาร์ กันตสีโล  มาให้เราอ่านกัน โดยมีข้อความดังนี้



“...ผู้เขียนรู้เรื่องราว พระอาจารย์ เสาร์ กันตสีโลน้อยมากรู้แต่เพียงว่าเป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่ มั่น ภูริทัตโต เท่านั้น เมื่อสองสามวันมีคนนำหนังสือหลวงปู่จันทร์ดี เกสาโร มาให้อ่านในนั้นกล่าวถึงพระอาจารย์ เสาร์ไว้หลายตอน

...ด้วยกลัวสูญหายไปตามกาลเวลา ผู้เขียนจึงขอนำมาเผยแพร่ต่อเพื่อสืบต่อพระพุทธศาสนาต่อไป

...ที่ถ้ำขามแห่งนั้น หลวงปู่ชม หลวงปู่เสาร์และหลวงปู่ขาวทุกองค์ต่างรอ หลวงปู่มั่น อยู่สาเหตุก็คือต้องการธุดงค์ข้ามไปฝั่งลาวด้วยกัน ไปถึงแวะเยี่ยม พระมหาปาน เจ้าอาวาสโคกเรือในฝั่งลาวเพราะท่านได้ไปมาหาสู่กันอยู่บ่อยๆพอไปถึงโคกเรือก็ได้รับคำบอกเล่าจากพระมหาปานว่า..

..มีคนตื่นเหล็กไหลที่ถ้ำสระบัว ในเขตภูควายและทำอันตรายต่อคนมามากต่อมากแล้ว สำหรับผู้ที่ไปตัดเอาเหล็กไหล

...หลวงปู่จันทร์ดี เกสาโรเล่าถึงการเดินธุดงค์ไปกับหลวงปู่มั่น หลวงปู่เสาร์และหลวงปู่ชม เพื่อข้ามไปยังฝั่งลาวเพื่อดูเหล็กไหลที่ถ้ำสระบัวบนภูเขาควายว่า

@@@@@@

...กลุ่มของพระอาจารย์เสาร์ได้ลงมติว่าขืนปล่อยให้มีเหล็กไหลปรากฏอยู่เช่นนี้ ก็คงจะทำลายต่อผู้ที่โลภโมโทสันอยู่ตลอดไปจึงพากันเดินทางไปที่ถ้ำสระบัว ภูเขาควายเพื่อไปดูเหตุการณ์และตัดไฟเสียแต่ต้นลม

...การเดินทางไปภูเขาควายครั้งนี้ ระหว่างทางหลวงปู่จันทร์ดี (ขณะนั้นยังเป็นสามเณร)ก็ได้เล่าเรื่องราวการตัดเหล็กไหลและการเสียชีวิตของพระอาจารย์ทั้ง 5ให้หลวงปู่มั่นฟัง ท่านได้แต่หัวเราะและบอกว่า..

"เณรน้อยเอ๋ย..อันว่าเหล็กไหลนั้น พระพุทธเจ้าท่านตรัสห้ามไว้ว่า อย่าได้พยายามค้นหาเพราะมันเป็นเรื่องปัญหาอจินไตย"(คำว่าปัญหาอจินไตยคือ ห้ามมิให้คิดค้นหาข้อสรุปของเหล็กไหล ถ้าอยากรู้รายละเอียดก็ไปหาอ่านในโลกธรรมสูตร ฯ)



...พอถึงถ้ำสระบัว หลวงปู่มั่น หลวงปู่เสาร์หลวงปู่ชม ต่างก็ทำพิธีเตรียมตัวตัดเหล็กไหล โดยในขณะนั้นพระมหาปานได้นำน้ำผึ้งไปทาตามบริเวณผนังที่เหล็กไหลติดอยู่ ลักษณะการทาน้ำผึ้งของท่านทำอาการคล้ายๆฉาบปูนคือ ทาจนผนังเยิ้มไปด้วยน้ำผึ้งจากนั้นหลวงปู่เสาร์ก็ใช้เทียนชัยเล่มใหญ่มากหนักประมาณ 32 บาทไส้เทียน 108 เส้นลนไปรอบๆปุ่มเหล็กไหล3 รอบจากนั้นก็หยุดลนไฟแล้วนั่งทำพิธีกรรมภาวนาต่อ

...ทันใดนั้น คล้ายมีเสียงดังหนักๆและเหมือนมีวัตถุหนักๆถูกลากหรือเคลื่อนตัวมากับพื้นหินถึงขนาดทำให้พื้นถ้ำสั่นสะเทือนและมีเสียงดังเอี๊ยดๆๆแต่ดังยาวเยือกเย็นเฉียบไปถึงสันหลัง ดังออกมาเป็นระยะ จนกระทั่งเสียงเคลื่อนครืดๆมาถึงปุ่มเหล็กไหล

...ปรากฏปุ่มเหล็กไหลเยิ้มออกคล้ายยางมะตอยทะลักและเหมือนหัวงูแลบลิ้น 2 แฉกออกมาให้เห็นอยู่แวบๆ หลวงปู่เสาร์ ท่านพูดว่า “..ที่เจ้าสำแดงร่างปรากฏตัวออกมาแบบนี้ ไม่เป็นสิ่งที่ดีงามเลย ทำให้ทุกคนตระหนกตกใจกลัวและมีอาการเหมือนเป็นศัตรูกัน อันพวกเราที่มาที่นี่ก็เพื่อต้องการอยากจะช่วยผู้ที่โลภโมโทสัน ไม่ให้ได้รับอันตราย พวกเราไม่ต้องการให้มีการตายเกิดขึ้นอีก”



พอหลวงปู่เสาร์พูดจบหัวงูอันน่าสะพรึงกลัวนั้นก็หยุดนิ่งแต่แลบลิ้นสองแฉกอยู่แปลบๆ ตามเดิม โดยไม่ได้ล้ำหน้าออกมา ดังนั้นหลวงปู่เสาร์จึงนำเทียนชัยไปลนอีกครั้งปรากฏว่าปุ่มเหล็กไหลได้เยิ้มไหลลงมาที่โถลายเคลือบซึ่งหลวงปู่ชมท่านบรรจุน้ำผึ้งไว้ครึ่งโถ ถือรองรับคอยที่อยู่แล้ว

..หลวงปู่มั่นและพระมหาปานซึ่งนั่งสวดอยู่รอบๆก็ได้ลุกขึ้นมาพร้อมกันโดยพระอาจารย์มั่นได้ใช้ใบหญ้าคาซึ่งผ่านการชุบน้ำยาให้แข็งแกร่งและผ่านการปลุกเสกมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ นำไปตัดเหล็กไหลที่กำลังย้อยลงมากินน้ำผึ้ง

..เมื่อนำใบหญ้าคาลงไปจรดที่ตัวเหล็กไหลเท่านั้น เหล็กไหลขาดตกลงไปที่โถเคลือบ โถที่อยู่ในมือหลวงปู่ชมกระเด็นตกลงไปที่พื้นถ้ำน้ำผึ้งแตกกระจายแต่โถเคลือบไม่เป็นอะไร

..และมีก้อนสีดำๆขนาดนิ้วก้อย สงบนิ่งอยู่พื้นถ้ำท่ามกลางน้ำผึ้งที่แตกกระจายหลวงปู่เสาร์เดินไปหยิบก้อนเหล็กไหลที่ตัดได้นั้นใส่ไว้ในยามของท่าน ส่วนเหล็กไหลที่เหลือก็ดีดตัวกลับคืนผนังถ้ำ จนผนังถ้ำแตกร้าว เสียงดังสนั่นหวั่นไหวเหมือนเสียงฟ้าผ่า แผ่นดินแทบถล่มทลายจากนั้นก็เงียบสงบเหมือนเดิม

...ท่านทำพิธีตัดเหล็กไหลอยู่ ๖ ครั้ง จนเหล็กไหลราบเรียบไปกับผนังถ้ำ อันเป็นการบอกว่าเหล็กไหลหมดแล้วท่านจึงยุติ



เรียบเรียงโดยปิยะนัย เกตุทอง
http://www.tnews.co.th/contents/387106
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ