ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: วอนเห็นใจตำรวจ วิสามัญคนร้าย จนแพทย์หญิงโดนลูกหลง  (อ่าน 1932 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

saichol

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 247
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

จากเหตุการณ์สุด ระทึกกลางกรุง ที่หนุ่มคลั่งใช้มีดจี้ชิงรถยนต์ และแทงตำรวจพร้อมแย่งอาวุธปืนจ่อยิงจนเสียชีวิต ก่อนจะไปก่อเหตุชิงรถโตโยต้า แคมรี่ ของพญ.พิภัทรา สายโลหิต และจับตัวของแพทย์หญิงเป็นตัวประกัน อีกทั้งยังได้ยิงคนขับแท็กซี่พลเมืองดีจนเสียชีวิต ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องวิสามัญคนร้าย จนทำให้ พญ.พิภัทราโดนลูกหลงด้วยนั้น

ล่า สุด พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เปิดเผยว่า เรื่องนี้ต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่เพราะคนร้ายได้ก่อ เหตุอย่างอุกอาจ หากไม่เร่งสกัดคนร้ายให้ได้คงอาจจะไปก่อเหตุกับบุคคลอื่นอีก

อีก ทั้งรถคันดังกล่าวก็ติดฟิล์มทึบ ไม่มีใครทราบว่าจะมีแพทย์หญิงพิภัทราอยู่ในรถด้วย การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจถือเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้าเพื่อไม่ให้คนร้ายไปก่อ เหตุรุนแรงขึ้นอีก

พล.ต.ต. วิชัย ยังกล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางญาติและพญ.พิภัทรา ต่างก็เข้าใจเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจำเป็นต้องปฏิบัติหน้าที่ในลักษณะดังกล่าว ซึ่งตนวอนประชาชนอยากให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ มิฉะนั้นจะทำให้คนทำงานเสียกำลังใจ
ขอบคุณภาพจาก จส.100

โฆษก สตช.ระบุ เตรียมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญคนร้าย จนกระสุนอาจพลาดไปถูกแพทย์หญิงได้รับบาดเจ็บสาหัส

จาก กรณีที่ นายธาดา อินทมาศ อายุ 37 ปี ได้ก่อเหตุจี้ชิงรถยนต์ และยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจและแท็กซี่พลเมืองดีเสียชีวิต พร้อมจับตัวแพทย์หญิงพิภัทรา สายโลหิต อายุ 28 ปี แพทย์ประจำโรงพยาบาลค่ายสุรนารี เจ้าของรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า ไว้เป็นตัวประกันภายในรถ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิสามัญคนร้ายเสียชีวิต และแพทย์หญิงพิภัทราได้รับบาดเจ็บตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

พล.ต.ต. ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการวิสามัญคนร้ายจนเสียชีวิต ขณะที่มีตัวประกันอยู่ในรถด้วยนั้น เรื่องนี้จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ว่าการดำเนินการดังกล่าวเหมาะสมหรือไม่อย่างไร และจะต้องตรวจสอบด้วยว่า ขณะเข้าทำการวิสามัญคนร้ายนั้น จะทำให้ตัวประกันเป็นอันตรายหรือไม่ด้วย ซึ่งเหตุการณ์นี้ถือว่าคนร้ายมีอาการคลุ้มคลั่งและไม่สามารถที่จะสงบสติ อารมณ์ได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตัดสินใจทำการวิสามัญ

"ส่วนกรณีที่ทางมารดา ของแพทย์หญิงพิภัทร ออกมาระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้อาวุธปืนยิง
ขณะ ที่ แพทย์หญิงพิภัทร ยังคงนั่งอยู่ในรถ จนทำให้ถูกกระสุนปืนด้วยนั้น เรื่องนี้จะต้องขอตรวจสอบอีกครั้ง เพราะมีกล้องวรจรปิดอยู่หลายที่ โดยจะต้องนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบด้วย จากนั้นจึงจะดำเนินการในขั้นตอนอื่นต่อไป" โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าว

ขอบคุณ http://www.cmprice.com/forum/?content=detail&wb_type_id=20&topic_id=89458

http://www.pilok4u.com/read.php?tid=3285
บันทึกการเข้า