ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าคุณพบและรู้ว่าจับได้ว่า ลูก ของคุณ เก เรียน หนังสือ หนีเที่ยว คุณจะทำอย่างไร  (อ่าน 5058 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

saichol

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 247
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ถ้าคุณพบและรู้ว่าจับได้ว่า  ลูก ของคุณ เก เรียน หนังสือ หนีเที่ยว คุณจะทำอย่างไร?

 วันนี้ได้ประสพ คุณแม่ ท่านหนึ่งเป็นทุกข์ เพราะตามลูกสาว ลูกชาย ทั้งสองคน ที่หนีเรียน

ไปไหน ไม่ทราบ


 สมมุติ ว่า ถ้าเป็นลูกคุณ ๆ จะทำอย่างไร ดี คะในวิธีการ ที่เป็นทำนองคลองธรรม

 สมกับฐานะ ชาวพุทธ

  :67: :014:
บันทึกการเข้า

GodSider

  • ผู้อุปถัมภ์
  • กำลังแหวกกระแส
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 121
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ก็ต้อง ทำใจเราให้เย็น สงบ ก่อน ที่จะแก้ปัญหา ..... สำคัญที่สุด การควบคุม อารมณ์

  ความรัก ลูก พัฒนา เป็นความโกรธ และ อารมณ์ ชั่ววูปได้

  สิ่งสำคัญที่สุด ต้องประคอง สติ ไว้ก่อน

    ใครที่เจออย่างนี้ ร้อย ทั้ง ร้อย ไม่โกรธไม่มี แต่ 95 เปอร์เซ็น จบลงด้วยการใส่อารมณ์ ด้วยเหตุผล ของตน

ทั้ง พ่อ แม่ และ ลูก

    ปัญหา เกิดจากอะไร ?

     1. ลูก เห็น เพื่อน แฟน ดีกว่า พ่อแม่

     2. พ่อ แม่ ไม่มีเวลาให้กับ ลูก

     3. ขาดการเอาใจใส่ ด้านคุณธรรม

     4. ไม่มีให้ ก็ไปหาข้างนอก ด้วยการคบ เสพ เช่น พ่อแม่ ไม่มี คอม ให้ ก็ไปร้านเน็ต เป็นต้น

     5. ลูก ถูกรังแก หรือ ถูกกดขึ่ โดยที่ ครู พ่อ แม่ ไม่ทราบ มีเรื่องระหว่าง เพื่อน ที่เป็นแก็งค์ เรื่องนี้เดี๋ยวนี้
มีจริง ผมจับได้ในโรงเรียน แก็งค์ ขู่กรรโชก ทรัพย์ ในห้องน้ำ หลังโรงเรียน เรื่องนี้มีิจริง รวมทั้งขายยา ส่วนมากจะเป็นกับ เด็ก ม 5 - ม 6 ขึ้นไป

     6. อีกหลายสาเหตุ ที่มี ก็ต้องค่อยคิดวิธีแก้ปัญหา กำหนด เงื่อนไข

   รักวัว ให้ผูก รักลูก ให้ ตี สมัยนี้ใช้ไม่ได้แล้ว ครับ

   ครู ตีินักเรียน ยังโดนเลยนะครับ พ่อ แม่ ตีลูก ยังโดนแจ้งความเลยนะครับ

   ดังนั้น ค่อย ๆ หาปัญหา ตั้งสติ ภาวนา เุถอะครับ ลูก ก็ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตนของเรา ถ้าถึงที่สุดแล้วแก้ไม่ได้ ก็ควรจะเป็นอย่างนี้

   ทุก ๆ ชีวิต มีกรรมเป็น ของ ๆ ตน 

   แต่ขอให้เป็น วิธีสุดท้าย นะครับ

   :s_hi: :s_hi: :s_hi:
บันทึกการเข้า
สุดเขต เสลดเป็ด ไกลสุดกู่ ใกล้แค่ ปลายจมูก

SRIYA

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 199
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เห็นใจ คะ เพราะในฐานะ คนที่มีลูก เป็น ลูกสาว เหมือนกันคะ

 ถ้าเป็นดิฉัน เอง ก็คงต้องหงุดหงิด คะ แต่ ในใจ ก็ เพราะรัก หวังจะให้เขาได้เลี้ยงตัวเอง รอด นะคะ

 ขนาดดิฉันได้อ่านแล้ว นึกถึงว่าถ้าเป็นลูก เราเป็นอย่างนี้ แล้วเรารู้สึกอย่างไร แบบความรู้สึกที่คิดว่าเป็นลูกเราคะ

 ก็นึกอยู่ในครั้งแรกว่า ทำไม ? เราไม่ดีอย่างไร ? คือ ยังไม่โทษลูกที่ทำอย่างนั้น นะคะ แต่กลับมองกลับมาว่า

เราเป็นคุณแม่ แบบไหน ที่ลูกถึงได้เป็นอย่างนั้น

   เชื่อคำครูอาจารย์ ว่า ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น อุปนิสัยของเด็ก ชัดเจนที่ 3 ขวบนะคะ

 จะดี จะฉลาด จะโง่ อบอุ่น จะมองได้ตั้งแต่ 3 ขวบคะ ดังนั้น ต้องย้อนกลับมาดูตัวเราว่า

   1. เราบกพร่อง อะไร ?

   2. เมื่อรู้ข้อบกพร่อง ก็ เจรจาแบบผู้ใหญ่ กับลูก คะ ( ต้องระวังอารมณ์ คะ ) เพราะส่วนใหญ่ จะระเบิด

ความกราดเกรี้ยว บางครั้งเราก็มักจะลืมไปว่า เขาเป็นเด็กไม่ได้ มีประสพการณ์ อย่างเราที่เป็นผู้ใหญ่

 แต่บางเรื่อง จะปล่อยให้เิกิดก่อนไม่ได้ คะ เพราะบางคนคิดว่า รอให้เกิดก่อน แล้วค่อยแก้ นะคะ โดยเฉพาะ

สำหรัีบส่วนตัวแล้วคะ เรื่อง ยาเสพติด การมีเพศสัมพันธ์ อันนี้รอให้เกิดก่อนไม่ได้นะคะ เพราะจะสายเกินแก่นะ

ได้อ่าน กระทู้ คุณมาลี แล้วก็เข้าใจความรู้สึก นี้คะ

   3. อภัย พ่อแม่ ทุกคนส่วนใหญ่ จะรักลูกอยู่แล้ว แต่การอภัย ต้องมีขอบเขตคะ

   คงแนะนำเบื้องต้นไว้ได้เท่านี้ก่อนนะคะ.....

   จะให้ดี จขกท. ควรมาเล่าต่อนะคะ ว่าดำเนินการอย่างไรไปบ้างแล้ว

 :88: :49:
บันทึกการเข้า
อยากให้ทุกชีวิต มีความอบอุ่น

Hero

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 557
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เบื้องต้น ก็คงจะตอบว่า ใจเย็น ๆ ๆ ๆ ค่อย ๆ พูด ค่อย ๆ กล่าว

แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า จะทำให้ ใจเย็นลงได้อย่างไร ? ก็ในเมื่อใจของฉัน มันโกรธ มันผิดหวัง มันถูกทรยศ จากคนที่ฉันรัก ทีี่เรียกว่า ลูก  เรื่องมันก็เช่นนี้ แต่ก็เป็น เช่นนั้นด้วยเพราะ บทนี้เป็น บท มาตรฐาน ของผู้ที่กำลังประสพกับความไม่สมหวัง ผิดหวัง ประสพกับสิ่งที่ไม่เป็นที่รัก ที่พอใจ ผลสุดท้าย ก็แบกความทุกข์ คือ ความเครียด น้ำตานองหน้า ประมาณนี้ นึกเอาว่า เหมือน ละคร ที่รู้บทกันดี ดังนั้น พระพุทธเจ้า พระองค์ ทรงตรัสสอนไว้แล้วนะครับว่า ที่ใดมีรัก ที่นั่นก็มีทุกข์ อยากหมดทุกข์ ก็ต้องหมดรัก

      สำนวนอีกแล้ว พูดอย่างก็ทำได้ง่าย ๆ นะ เพราะไม่ใช่ลูกคุณ สิ คุณถึงได้พูดได้อย่างนั้น   คำพูดนี้สะท้อนกลับเข้ามาทันที เหมือนบทละครที่ถูกเตี๋ยมไว้ว่า จะต้องเถียงมาอย่างนี้ ใช่ครับ คำพูดดูง่าย ๆ อย่างนี้

    แต่เชื่อหรือไม่เ้ชื่อ บรรดามนุษย์ที่เกิดขึ้นมา ไม่มีใครไม่รู้หรอกครับว่า ฉันไม่ได้เป็นเจ้าของอะไร ทั้ง ๆ ที่ บรรดา ปู่ยา ตาทวด พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ สนิท มิตร สหาย ก็ล้มหายตายจากกันไปเป็นตัวอย่าง ให้เห็นอย่างมากมาย แต่จะมีสักกี่คนที่ จะมี สติ ระลึกได้ว่า เขาเหล่านั้น ไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย สักอย่างเดียว ที่มีอยู่ก็จบลงเป็นเพียง ธาตุ ทั้ง 4 ที่คงอยู่ 

    ดังนั้นถ้าจะถามผมว่า จะทำอย่างไรต่อไปดี กลับลูกที่เป็นอย่างนั้น ผมคงตอบวิธีการไม่ได้ แต่คงให้ได้แต่ธรรมที่เป็นเครื่องชะโลมใจ ให้ผ่องใส เพื่อให้ที่าน นั้นมีใจเย็น ๆ ค่อยพูด ค่อยกล่าว กันได้

   สิ่งสำคัญที่จะให้ใจ ที่มันถูกกระพือ ด้วยอารมณ์ ผิดหวัง เสียใจ โกรธแค้น สงบลงเย็น ได้ท่านก็ต้องมองเห็นความจริงแก่นสารเสียก่อนว่า แท้ที่จริง ไม่มีอะไรเป็นเรา เป็นของเรา เป็นตัวเป็นตนของเรา เลยด้วยความเข้าใจนี้จะทำให้ท่านมีอารมณ์ีที่แจ่มใส เพราะท่านมองเห็นความจริง อันเป็นสาเหตุหลัก แห่งความกราดเกรีียว โกรธ โมโห โกรธา เหล่านี้ ได้ด้วยใจที่สงบร่มเย็น

  เชื่อเถอะครับ ครูอาจารย์ ท่านสอนมาดีแล้ว เพียงแต่เรามักลืมครูอาจารย์กันนะครับ เพราะอวดดีว่าเราดีกว่าครูอาจารย์ ดังนั้นพระพุทธเจ้า ที่เป็นบรมครู พระองค์ท่าน นำอริยสัจจะ 4 ความจริงมาเปิดเผยให้เราได้ใช่แล้วครับ

  ส่วนเรื่อง อื่น ๆ เป็นเรื่องต่อไปนะครับ

   สรุป อันดับแรก ทำใจให้เย็น ลงก่อน นะครับ

 :25: :25: :25: :13: :13: :13:
บันทึกการเข้า
ทำไมต้องมีอินทรีแดง เพราะสังคมเราบางครั้งก็ตาบอด
ปล่อยให้คนดี เดือดร้อน ดังนั้นจึงต้องมีผู้ปกป้องคนดี
hero ไม่ได้มีแต่ในหนังเท่านั้น นะครับ

saichol

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 247
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
มาต่อวิธี แก้ไข เบื้องต้น สไตล์ saichol นะคะ

 เบื้องต้น ก็รู้ว่า คุณแม่ท่านนี้ ท่านทั้งโกรธ และ วิตก ทั้ง ๆ หลายอย่าง

   ดังนั้น วันนั้น saichol ก็หยุดงานไปเป็นเพื่อน คุณแม่ท่านนี้

  ซึ่งการไป เพื่อจะช่วยให้อารมณ์ ของเธอเย็นขึ้นระหว่าง ที่เธอเดินทาง เธอก็ร้องไห้บ้าง พูดด้วยโมโหบ้าง เราก็คล้อยตามบ้างแย้งบ้าง เพื่อชะลออารมณ์เธอในเบื้องต้น

  จนกระทั่งเจอลูกทั้งสองคน ขณะที่เธอกำลังระเบิดอารมณ์อยู่ เราก็เข้าไปขวางไว้ ใช้คำพูดเตือนสติ แน่ละต้องมีการตะคอกบ้าง ว่าทำอย่างนี้ไม่ดี ทำอารมณืให้สงบลง

  สุดท้าย 3 แม่ลูก ก็ได้คุยกันที่โต๊ะอย่างอารมณ์ที่สงบ คะ

 ก็เหนืื่อยอยู่เหมือนกันนะคะ

  เล่าไว้ แต่ความเห็นของทุทกท่าน มีประโยชน์คะ เมื่อถึงเวลาเช่นนี้อีก ส่วนตัวจะได้มีวิธี รับมือที่ดีขึ้นคะ

  :c017: :c017: :c017: :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า