ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สอุปาทิเสสบุคคล 9 ที่พ้นจาก อบาย  (อ่าน 2773 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

arlogo

  • 1.บรรพชิต
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +101/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 1176
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
สอุปาทิเสสบุคคล 9 ที่พ้นจาก อบาย
« เมื่อ: เมษายน 10, 2013, 08:39:04 am »
0
  พระสุตตันตปิฎก  อังคุตตรนิกาย  นวกนิบาต  [๑.ปฐมปัณณาสก์]
              ๒.สีหนาทวรรค  ๒.สอุปาทิเสสสูตร หน้าที่ 456- 458 ฉบับจุฬา


   พระผู้มีพระภาคตรัสว่า    “สารีบุตร    อัญเดียรถีย์ปริพาชกผู้เขลาไม่เฉียบแหลมเป็นพวกไหน    และพวกไหนจักรู้จักบุคคลผู้เป็นสอุปาทิเสสว่าเป็นสอุปาทิเสส    หรือจักรู้จักบุคคลผู้เป็นอนุปาทิเสส๑ว่าเป็นอนุปาทิเสส
            สารีบุตร    บุคคล    ๙    จำพวกนี้    เป็นสอุปาทิเสส    เมื่อตายไป    ก็พ้นจากนรกได้พ้นจากกำเนิดสัตว์ดิรัจฉานได้    พ้นจากเปรตวิสัยได้    พ้นจากอบาย    ทุคติ    และวินิบาตได้

บุคคล    ๙    จำพวกไหนบ้าง    คือ

       ๑.    บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้มีปกติทำศีลให้บริบูรณ์    มีปกติทำสมาธิให้บริบูรณ์    มีปกติทำปัญญาพอประมาณ    เพราะสังโยชน์เบื้องต่ำ  ๕    ประการสิ้นไป    เขาจึงเป็นอันตราปรินิพพายี    นี้เป็นบุคคลจำพวก ที่    ๑    ผู้เป็นสอุปาทิเสส    เมื่อตายไป    ก็พ้นจากนรกได้    พ้นจากกำเนิด  สัตว์ดิรัจฉานได้    พ้นจากเปรตวิสัยได้    พ้นจากอบาย    ทุคติ    และ วินิบาตได้

       ๒.    บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้มีปกติทำศีลให้บริบูรณ์    มีปกติทำสมาธิให้บริบูรณ์    มีปกติทำปัญญาพอประมาณ    เพราะสังโยชน์เบื้องต่ำ ๕    ประการสิ้นไป    เขาจึงเป็นอุปหัจจปรินิพพายี    ฯลฯ

       ๓.    บุคคลบางคนในโลกนี้    ฯลฯ    จึงเป็นอสังขารปรินิพพายี    ฯลฯ

       ๔.    บุคคลบางคนในโลกนี้    ฯลฯ    จึงเป็นสสังขารปรินิพพายี    ฯลฯ

       ๕.    บุคคลบางคนในโลกนี้    ฯลฯ    จึงเป็นอุทธังโสตอกนิฏฐคามี    ฯลฯ


       ๖.    บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้มีปกติทำศีลให้บริบูรณ์    มีปกติทำสมาธิ  พอประมาณ    มีปกติทำปัญญาพอประมาณ    เพราะสังโยชน์    ๓ ประการสิ้นไป    และเพราะราคะ    โทสะ    และโมหะเบาบาง    เขาจึงเป็น สกทาคามี    มาสู่โลกนี้อีกครั้งเดียว    ก็จะทำที่สุดแห่งทุกข์ได้    นี้เป็น บุคคลจำพวกที่    ๖    ผู้เป็นสอุปาทิเสส    เมื่อตายไป    ก็พ้นจากนรกได้ ฯลฯ    พ้นจากอบาย    ทุคติ    และวินิบาตได้

       ๗.    บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้มีปกติทำศีลให้บริบูรณ์    มีปกติทำสมาธิ พอประมาณ    มีปกติทำปัญญาพอประมาณ    เพราะสังโยชน์    ๓  ประการสิ้นไป    เขาจึงเป็นเอกพีชี    เกิดเป็นมนุษย์อีกเพียงครั้งเดียว  ก็จะทำที่สุดแห่งทุกข์ได้    นี้เป็นบุคคลจำพวกที่    ๗    ผู้เป็นสอุปาทิเสส    เมื่อตายไป    ก็พ้นจากนรกได้    ฯลฯ    พ้นจากอบาย    ทุคติ    และ   วินิบาตได้

       ๘.    บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้มีปกติทำศีลให้บริบูรณ์    มีปกติทำสมาธิ  พอประมาณ    มีปกติทำปัญญาพอประมาณ    เพราะสังโยชน์    ๓ประการสิ้นไป    เขาจึงเป็นโกลังโกละ    ท่องเที่ยวไปสู่ตระกูล    ๒    หรือ  ๓    ตระกูล    ก็จะทำที่สุดแห่งทุกข์ได้    นี้เป็นบุคคลจำพวกที่    ๘    ผู้เป็น สอุปาทิเสส    เมื่อตายไป    ก็พ้นจากนรกได้    ฯลฯ    พ้นจากอบาย    ทุคติ   และวินิบาตได้

       ๙.    บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้มีปกติทำศีลให้บริบูรณ์    มีปกติทำสมาธิ    พอประมาณ    มีปกติทำปัญญาพอประมาณ    เพราะสังโยชน์    ๓  ประการสิ้นไป    เขาจึงเป็นสัตตักขัตตุปรมะ    ท่องเที่ยวไปในเทวดา   และมนุษย์อย่างมาก    ๗    ครั้ง    ก็จะทำที่สุดแห่งทุกข์ได้    นี้เป็นบุคคล  จำพวกที่    ๙    ผู้เป็นสอุปาทิเสส    เมื่อตายไป    ก็พ้นจากนรกได้    พ้นจาก  กำเนิดสัตว์ดิรัจฉานได้    พ้นจากอบาย    ทุคติ    และวินิบาตได้
 
           สารีบุตร    พวกอัญเดียรถีย์ปริพาชกผู้เขลา    ไม่เฉียบแหลม    เป็นพวกไหน    และพวกไหนจักรู้จักบุคคลผู้เป็นสอุปาทิเสสว่าเป็นสอุปาทิเสส    หรือจักรู้จักบุคคลผู้เป็นอนุปาทิเสสว่าเป็นอนุปาทิเสส    สารีบุตร    บุคคล    ๙    จำพวกนี้แล    เป็นสอุปาทิเสสเมื่อตายไป    ก็พ้นจากนรกได้    พ้นจากกำเนิดสัตว์ดิรัจฉานได้    พ้นจากเปรตวิสัยได้พ้นจากอบาย    ทุคติ    และวินิบาตได้



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 10, 2013, 08:51:56 am โดย arlogo »
บันทึกการเข้า
แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแต่เรา ปัญญาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา วิชชาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา