ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ขึ้นเขาวงพระจันทร์ ภาค 3. "You'll Never Walk Alone." (๒)  (อ่าน 5622 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28436
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0







ภาพในตอนที่สอง เป็นภาพที่อยู่บนยอดเขาทั้งหมด
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28436
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ขึ้นเขาวงพระจันทร์ ภาค 3. "You'll Never Walk Alone." (๒)
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มีนาคม 28, 2015, 09:16:25 pm »
0






บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28436
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ขึ้นเขาวงพระจันทร์ ภาค 3. "You'll Never Walk Alone." (๒)
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มีนาคม 28, 2015, 09:29:36 pm »
0




สองภาพบนเป็นโรงอาหาร วันที่ไปมีข้าวต้มเลี้ยงครับ

      เมื่อเทียบกับสองครั้งแรกที่ผมไปมา วันนี้ถือว่าคนเยอะครับ อาจเป็นเพราะเป็นวันมาฆบูชาก็ได้ ทวนกันอีกทีนะครับ ภาพทั้งหมดถูกบันทึกเมื่อวันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๕๘ ใครยังไม่ได้ชมภาพตอนแรก กรุณาคลิกไปที่
     ขึ้นเขาวงพระจันทร์ ภาค 3. "You'll Never Walk Alone." (๑)
     http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=17053.0
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28436
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ขึ้นเขาวงพระจันทร์ ภาค 3. "You'll Never Walk Alone." (๒)
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มีนาคม 30, 2015, 11:50:34 am »
0



ห้าคนที่นั่งคุกเข้าในภาพ ขึ้นเขามาไล่ๆกับผม สามคนขวามือเป็นพ่อแม่ลูกกัน
ฝ่ายพ่อแข็งแรงมาก เดินนำมาตลอด ต้องรอแม่เป็นระยะๆ ส่วนลูกสาวแข็งแรงกว่าผม ดูไม่ค่อยเหนื่อย

บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28436
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ขึ้นเขาวงพระจันทร์ ภาค 3. "You'll Never Walk Alone." (๒)
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มีนาคม 30, 2015, 11:55:15 am »
0





อยากให้บรรยายภาพไหน เพื่อนๆร้องขอมาได้ครับ
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28436
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ขึ้นเขาวงพระจันทร์ ภาค 3. "You'll Never Walk Alone." (๒)
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มีนาคม 30, 2015, 12:04:11 pm »
0







บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28436
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ขึ้นเขาวงพระจันทร์ ภาค 3. "You'll Never Walk Alone." (๒)
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มีนาคม 30, 2015, 12:14:01 pm »
0






เชิญร่วมบวงสรวงท้าวมหาพรหม

ขอเชิญผู้ศรัทธาร่วมพิธีบวงสรวงสมโภชและประดิษฐานรูปปั้นท้าวมหาพรหมชินนะปัญชะระองค์ใหญ่ ที่ยอดเขาวงพระจันทร์ ห้วยโป่ง ลพบุรี

เมื่อวันที่ 2 พ.ย. นายอาดิษฐ์ กัลยาณมิตร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร เขต อ.สามง่าม ขอเชิญผู้ศรัทธาร่วมพิธีบวงสรวงสมโภชและประดิษฐานรูปปั้นท้าวมหาพรหมชินนะปัญชะระองค์ใหญ่ ที่ยอดเขาวงพระจันทร์ ต.ห้วยโป่ง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ตั้งแต่เวลา 21.00 น. ของวันที่ 6 พ.ย.-เวลา 24.00 น.ของวันที่ 7 พ.ย. นี้ โดยมีอาหารและน้ำดื่มเลี้ยงฟรีตลอดงานไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

สำหรับ ท้าวมหาพรหมชินนะปัญชะระ เป็นต้นตำนานของพระคาถาชินบัญชรอันลือลั่น ตามประวัติตั้งแต่สมัยพุทธกาลนั้น มีสิริโฉมงดงามและเป็นมหาเทพรูปร่างสูงใหญ่มาก เปรียบประดุจพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง ซึ่งขณะนี้ นายอาดิษฐ์ และผู้ศรัทธาร่วมกันเคลื่อนย้ายรูปปั้นขึ้นสู่ยอดเขาวงพระจันทร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงรอฤกษ์งามยามดีทำพิธีบวงสรวงสมโภชและประดิษฐานตามความเชื่อก็เป็นอันเสร็จสิ้น.





ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.dailynews.co.th/Content/regional/278168/เชิญร่วมบวงสรวงท้าวมหาพรหม
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28436
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ขึ้นเขาวงพระจันทร์ ภาค 3. "You'll Never Walk Alone." (๒)
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มีนาคม 30, 2015, 12:30:24 pm »
0

ท้าวมหาพรหมชินนะปัญชะระ ที่ยอดเขาวงพระจันทร์ ลพบุรี ถ่ายเมื่อวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๘

ประวัติท้าวมหาพรหมชินนะบัญชะระ

ในอดีตกาลครั้งองค์สมณะโคดมเจ้า ทรงตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ครานั้นอัครสาวกเบื้องซ้ายและเบื้องขวาของพระพุทธองค์ คือ พระโมคคัลลานะ ผู้เลิศในอิทธิฤทธิ์ และพระสารีบุตรผู้เลิศในปัญญา ณ แคว้นพาราณสี ปรากฏเด็กน้อยนามว่า ชินนะ บุตรของมะติโตพราหมณ์ และนางยะถานาพราหมณ์ โคตรบัญจะระ เลื่อมใสในพระพุทธศาสนาแห่งองค์พระศาสดาแต่ครั้งเยาว์วัย ได้บวชเป็นสามเณร และเป็นศิษย์ของพระโมคคัลลานะ สามเณรชินนะ ทรงภูมิปัญญาเป็นที่เฉลียดฉลาดเป็นยิ่ง ศรัทธาในการบิณฑบาตอย่างสงบขยันหมั่นเพียรเป็นนิจ ครั้นอายุได้เพียง 7 ขวบก็สำเร็จอรหันต์

สามเณร ชินนะ บัญชะระ นับว่ามีรูปงาม เสียงไพเราะ รู้พิธี เจ้าระเบียบ รอบคอบด้วยความสะอาด ตั้งอยู่ในศีลาจาวัตรอันงดงาม ครั้นย่างเข้าสู่วัยหนุ่ม รูปร่างของท่านชินนะ บัญจะระ ยิ่งสวยสดงดงาม ผิวขาวละเอียดประดุจหยก หน้าแดงระเรื่อสีชมพู คิ้วโก่งดังคันศร ไว้เกษาเกล้าจุก เยื้องย่างสง่างามประดุจราชสีห์ ด้วยรูปงามเป็นที่ต้องตาต้องใจของสตรีเพศ จึงมีสตรีเพศต่างหลงใหลในตัวของท่านชินนะเป็นอย่างยิ่ง ด้วยท่านชินนะนั้นยึดพรหมจรรย์เป็นสรณะจึงมีแต่ความสงบ


 :96: :96: :96: :96:

แล้ววันหนึ่ง ขณะที่ท่านชินนะได้ออกบิณฑบาตโปรดสัตว์ ได้มีหญิงผู้หนึ่งซึ่งแอบหลงรักท่านชินนะ มิอาจยับยั้งใจเอาไว้ได้จึงได้โผผวาเข้ากอดท่านชินนะอย่างลืมตัว ท่านชินนะ เห็นอาการของผู้หญิงคนนั้นกระทำแก่ท่านดังนี้ก็บังเกิดความสังเวชอย่างใหญ่ หลวง อันพรหมจรรย์ของท่านต้องมาแปดเปื้อนเสียดังนี้ ความยึดมั่นในพรหมจรรย์ของท่านต้องมาสะบั้นลง ท่านจึงดำริขึ้นว่า "ตัวท่านนี้มีรูปงามเช่นนี้ย่อมก่อให้เกิดอกุศลกรรมแก่อิตถีเพศ เป็นการสร้างบาปให้เกิดขึ้นด้วยมีกายรูปนี้เป็นเหตุ จะมีสักเท่าใดกันหนอที่ปรารถนาล่วงพรหมจรรย์ของท่านเช่นผู้หญิงคนนี้.."

ท่านชินนะ คิดดังนี้ เห็นกายเป็นเหตุ กายทำให้พรหมจรรย์จิตเสื่อมสลาย กายก่ออกุศลจิตให้เกิดเป็นบาปกับอิตถีเพศผู้ยังมัวเมาในรูป ท่านจึงถอดกายทิพย์ออกจากร่าง ทิ้งสังขารไว้เมื่อยังไม่ถึงกาล เมื่ออายุท่านเพียง 23 ปี 6 เดือน กายทิพย์ของท่านจึงไปได้แค่ชั้นพรหมโลก ท่านชินนะ นับว่าเป็นผู้รอบรู้พิธีการต่างๆของโลกวิญญาณ ท่านสามารถสวดพระคาถาคลายพระเวทย์ได้อย่างเยี่ยมยอดยามท่านสวดพระคาถาไม่ว่า บนโลกหรือบนสวรรค์เสียงของท่านจะก้องกังวานไปทั่วนรกภูมิ และสวรรค์สามสิบสามชั้นเทพพรหมได้ยินจะสะเทือนจิตออกจากสมาบัติหมดสิ้น เพื่อรับทราบพิธีการที่ท่านชินนะจัดขึ้น


 :25: :25: :25: :25:

ท่านชินนะบัญจะระ มีกายละเอียดอยู่ในชั้นพรหม ขณะนี้เป็นชั้นหัวหน้ารูปพรหม 16 ชั้น ควบคุมทั้งหมด ดังด้วยว่าสตรีเพศเป็นผู้ทำลายความบริสุทธิ์ของท่านเสียก่อนดังนี้ ทำให้ท่านละสังขารก่อนถึงกาลเวลาแห่งอายุดังนี้ จึงทำให้ท่านมีกำลังบุญอยู่ในแค่ชั้นพรหม ดังนั้นท่านจึงต้องสร้างบุญในโลกมนุษย์เพื่อสร้างบุญบารมีนำท่านขึ้นไปสู่ แดนอรหันต์ ดังนั้น ชินบัญชรคาถา หากท่านได้ภาวนาเป็นประจำสม่ำเสมอจักก่อให้เกิดผลดียิ่งแก่ผู้ภาวนา เพราะท่านท้าวมหาพรหม ชินนะบัญจะระ จะทรงแผ่อำนาจลงมาช่วยท่านตลอดเวลาคิดหวังอะไรย่อมสมหวังยิ่ง


ท้าวมหาพรหมชินนะปัญชะระ ที่ยอดเขาวงพระจันทร์ ลพบุรี ถ่ายเมื่อวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๘


คุณลักษณะท้าวมหาพรหมชินะปัญชะระ

ยิงใหญ่... เทพพรหมนั้นมีมากมายกว่าเมล็ดทรายในท้องมหาสมุทร แต่มีพรหมที่มีตบะแรง พรหมที่มีอวุโส มีตำแหน่งในพหรมโลกนั้นมีไม่กี่องค์ ในพรหมโลกมีพระพรหม ๔ องค์ที่เป็นใหญ่ในพรหมโลก มีหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับพรหมโลก คือ
    1. ท้าวมหาพรหมชินะปัญชะระ
    2. ท้าวอัปราพรหม
    3. ท้าวจตุรพรหม
    4. ท้าวมหาพรหมสามภพ


พระพรหมชินนะนี้ เป็นผู้พร้อมทุกอย่าง เขาเรียกว่าเป็นผู้สำเร็จสมัยองค์สมณโคดม และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นพรหมที่ไม่ขึ้นต่อพรหมโลก เขาเรียกว่าเป็นพรหมเอกเทศในพรหมโลกและมีบารมีแห่งฌานสมาบัติอันแก่กล้า พรหมองค์นี้ไม่ใช่พรหมที่จะติดสินบนกับมนุษย์ ทรงไว้ด้วยความยุติธรรม และเป็นผู้รอบรู้สรรพสิ่ง เรียกว่าเจ้าพิธีการของโลกวิญญาณ เป็นหัวหน้ารูปพรหมทั้ง ๑๖ ชั้น เป็นพระพรหมที่เรียกว่าเทวดาผู้หญิงหล พรหมผู้หญิงที่ฝึกยังไม่ถึงชั้น ๕ พรหมชั้น ๔ ยังติดกาเม ก็ยังหล แต่มีกฎว่าผู้ใดถูกแม้แต่เท้าพระพหรมชินนะ ผู้นั้นจะต้องถูสาปมาเป็นเกิด

พรหมองค์นี้เป็นพรหมที่มติสามโลกเอื้อมไปไม่ถึง ท่านเป็นคนเจ้าระเบียบ เป็นคนมีวินัย รักความสะอาด สงบเสงี่ยม สุขุมคัมภีรภาพ มีความเฉลียวฉลาด เป็นพรหมยิ่งใหญ่ของพรหมโลกที่ขจัดมารได้ทั่วภิภพ... ตอนออกรบจะพิชิตมาร หมายความว่าพรหมโลกเกิดเรื่องยุ่งก็ดี เทวโลกเกิดยุ่งก็ดี ยมโลกเกิดยุ่งก็ดี มารโลกเกิดมาเรื่องมาก เขาช่วยกันไม่ได้ เขาก็ต้องมาเชิญองค์พระพหรมชินนะ พระพหรมชินนะจะออกศึกก็มีพาหนะ

พาหนะ... เท้าขวาเหยียบเต่า ท้ายซ้ายเหยีบพญานาค เป็นพาหนะประจำตำแหน่ง พาหนะเหล่านี้เป็นวิญญาณทิพย์เป็นวิญญาณที่จำศีล เตรียมตัวเกิดเป็นสาวกในยุคพระศรีอริยเมตไตรย เต่ามีอายุยืนนานและแข็งแกร่ง ท้าวขวาท่านหนักมาก ถ้าเหยียบพยานาครับรองว่าแบน ก็เอาเต่ามารอง เท้าซ้ายไม่ค่อยหนักก็เอาพญานาคเหยียบ เต่านั้นถือว่าเป็นสัตว์บก พญานาคเป็นสัญลักษณ์ของน้ำ เหยีบพญานาคหมายถึงเหยียบสมุทร แสดงว่าทั้งบกทั้งน้ำอยู่ใต้ตีนข้า เวลาท่านประทานน้ำมนต์อาบคนใข้ สองหน่อนี้ก็มาช่วยอยู่

วรกาย... พระวรกายมีแสงดั่งพระอาทิตย์ จิตใจงามเหมือนพระจันทร์ คิ้วโก่งเหมือนคันศร นัยน์ตางามและคมเหมือนเหยี่ยว ผิวกายละเอียดเหมือนหยกขาว ผมเกล้าจุกขมวดไว้บนพระเศียร เศียรมีปิ่นเพชร ปิ่นเพชรมีสีทอง พระพรหมชินะ ไม่ยอมอธิษฐานแปลงกายแห่งกายทิพย์ของตนให้เป็นแปดหน้าสี่กร หรือสี่หน้าแปดกร การที่พระพหรมมีหลายๆหน้า เพราว่าท่านมีหน้าที่ดูแลความเป็นอยู่ของพรหมโลก และต้องดูแลในการจัดการที่จะมาต้านของเหล่ามาร ที่จะมารังควานในการนั่งสมาธิของพรหม อันนี้อาจจะถามว่า แล้วเหตุไฉนพระพรหมชินนะจึงไม่ต้องมีหลายหน้า เพราะว่าพระพหรมชินนะนั้นมีรังสีแห่งวรกายของแก้ว ๗ ชั้นคลุมอยู่ จึง ไม่ต้องใช้หน้ามาก เพียงแต่เปล่งรัศมีแผ่ไป พรหมเขาก็รู้พวกมารหรืออะไรเขาก็รู้นี่พรหมองค์นี้มา ก็คือสัญลักษณ์ของท้าวมหาพรหรหมองค์นี้มา ท่านจึงไม่ได้เนรมิตในร่างกายให้ผิดแปลกกว่าเขา

กายนั้นเปล่งรัศมีรอบวรกายเป็นพระอาทิตย์ขาวขึ้น ในภาวการณ์ที่เรียกว่า ถ้าพระพหรมองค์นี้ไปไหน เทวดาเห็นเป็นพระอาทิตย์เคลื่อนที่มีรัศมี ๕๐๐ เส้น เทพพรหมจะรู้ว่าท้าวมหาพรหมชินนะมา แต่พวกอมรมนุษย์ เทพ พวกรุขเทวดาเหล่านี้ยังไม่รู้จัก เพียงแต่คิดว่า เอ๊ะ พรหมองค์นี้มีรัศมีมากเพียงพอหนอ


ท้าวมหาพรหมชินนะปัญชะระ ที่ยอดเขาวงพระจันทร์ ลพบุรี ถ่ายเมื่อวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๘


เครื่องแต่งกาย... การแต่งกายของโลกวิญญาณนั้น เสื้อผ้าที่แต่งนั้นเป็นของทิพย์ พอใจก็นุ่งชุดนี้ตลอดกาล ทีนี้การแต่งตัวของท้าวมหาพรหมชินนะเขาเรียกว่าแต่งแบบครึ่งกึ่งพระกึ่งพรหม คือ ทั้งชุดที่นุ่งนั้นเป็นสีขาวบริสุทธิ์ เพราะว่ากายเนื้อทิพย์ของพระพรหมชินนะเป็นเนื้อหยกขาว ชุดที่นุ่งนั้นก็เป็นชุดขาวละเอียด พระวรกายก็เป็นสีที่เรียกว่าขาวอย่างมีสีนวล เปล่งรัศมีไกลถึง ๕๐๐ เส้น

คฑา... มือขวาถือคทาเรียกว่า “คฑาพรหม” เป็นจามจุรีทิพย์หัวคทามีแสงพุ่งออกมาเป็นรัศมีเป็นรุ้ง ๓ สี

วิมาน... วิมาน ท่านอยู่พรหมโลกชั้นที่ ๑๓ วิมานนั้นเนรมิตสร้างขึ้นด้วยแก้วมรกต พื้นวิมานปูด้วยทองคำบริสุทธิ์รอบในหลังคามุงด้วยเพชร บรรทมด้วยสิงห์ ไม่มีคนใช้ไม่มีบริวาร ส่วนมากอยู่เอกเทศเพียงองค์เดียว ไม่ชอบพูดกับใคร ไม่มีใครกล้าเหยียบวิมานโดยพลการ
พหรมเอกเทศหมายความว่า ไม่ขึ้นกับพหรมโลก จะอยู่ในพรหมโลกก็ได้ ไม่อยู่ก็ได้ แล้วแต่ความพอใจ วิมานมีหลายแห่ง


ลัทธิชินโตโนะ... ในประเทศญี่ปุ่นนับถือท้าวมหาพรหมชินนะปัญชะระมาก เขานับเป็นพระอรหันต์ในตำราของเขา แล้วชินนะปัญจะระชินศรีเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง เพราะฉะนั้นในญี่ปุ่นเขานับถือท้าวมหาพรหมชินนะปัญจะระมาก แต่เขาเรียกเป็น “ชินโตโนะ” หรือ ศาสนาชินโตโนะ คือบูชาพระอาทิตย์ ที่เขาบูชาพระอาทิตย์เพราะ ท้าวมหาพรหมชินนะปัญจะระก่อนจะปรากฏร่าง จะต้องเป็นแสงอาทิตย์ เรียกว่ารัศมีพุ่งเป็นรุ้ง ฉะนั้นในญี่ปุ่นเขานับถือเป็นลัทธิหนึ่ง คือ ลัทธิชินโตโนะ

ผู้พิชิตมารทั่วพิภพ... ท้าวมหาพรหมชินนะ ท่านเป็นพระพรหมที่มีฤทธิ์เดช ที่เรียกว่าพญามารหรือมารทั้งหลายกลัว ในด้านของมารโลเก โลกของมารของพวกวิญญาณ ดังนั้นก็เรียกว่า ท่านมีรูปของท้าวมหาพรหมชินนะอยู่ในบ้านก็คิดว่าอุปสรรคในการกลั่นแกล้งของ วิญญาณ พวกที่เรียกว่ารุกขเทพก็ดี พวกอมรมนุษย์ก็ดี พวกผีเปรตอสุรกายก็ดี คิดว่าไม่กล้าย่างกราย

______________________________________________________
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.luangputo.com/Menu02/Menu01.htm
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28436
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ขึ้นเขาวงพระจันทร์ ภาค 3. "You'll Never Walk Alone." (๒)
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มีนาคม 30, 2015, 12:40:10 pm »
0






ans1 ans1 ans1 ans1
ตอนที่สองมีภาพให้ชมเท่านี้ครับ โปรดติดตามตอนต่อไป... ขอบพระคุณที่ติดตาม
 :welcome: :49: :sign0144: :25:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

bajang

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 325
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ขึ้นเขาวงพระจันทร์ ภาค 3. "You'll Never Walk Alone." (๒)
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มีนาคม 30, 2015, 08:05:09 pm »
0


 แปลกเนอะ ทำไม ปั้นท้าว มหาพรหม นี้ เหมือนพระพุทธเจ้าเลย ที่สำคัญ

  เหมือน เอาปาง พุทธลีลา มาเปลี่ยน หัว แล้ว เพิ่มไม้เท้า
  เปลี่ยนข้อเท้า
  ไม่ลงจีวร

  ที่สำคัญ เครื่องหมายธรรมจักรบนฝ่ามือ นั้น
 (เป็นเครื่องหมายของพระพุทธเจ้าเท่านั้น มิใช่หรือ )
 
  เจตนา ที่สร้าง ลักษณะนี้ ไม่เข้าใจ ส่วนตัว แล้ว มองแล้ว แปลก

  และก็แปลกใจ เรื่อง การรักษา พรหมจรรย์ เพียงแค่ผู้หญิงวิ่งมากอด ก็พรหมจรรย์เสีย ไม่เข้าใจ .... ไปใหญ่ การถูกต้องกายหญิง โดยไม่ได้เจตนา นั้นไม่น่าจะทำให้เสียพรหมจรรย์ เป็นผู้คล่องแคล่วในสมาบัติ มีฤทธิ์ ขนาดปลุกทวยเทพ ต่าง ๆ ได้ ไม่น่าที่จะ คิดไม่ออก

   การละสังขาร ในขณะนั้น จัดเป็น อัตกิลมถานุโยค หรือ ไม่ กรณีนี้


ลัทธิชินโตโนะ... ในประเทศญี่ปุ่นนับถือท้าวมหาพรหมชินนะปัญชะระมาก เขานับเป็นพระอรหันต์ในตำราของเขา แล้วชินนะปัญจะระชินศรีเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง เพราะฉะนั้นในญี่ปุ่นเขานับถือท้าวมหาพรหมชินนะปัญจะระมาก แต่เขาเรียกเป็น “ชินโตโนะ” หรือ ศาสนาชินโตโนะ คือบูชาพระอาทิตย์ ที่เขาบูชาพระอาทิตย์เพราะ ท้าวมหาพรหมชินนะปัญจะระก่อนจะปรากฏร่าง จะต้องเป็นแสงอาทิตย์ เรียกว่ารัศมีพุ่งเป็นรุ้ง ฉะนั้นในญี่ปุ่นเขานับถือเป็นลัทธิหนึ่ง คือ ลัทธิชินโตโนะ

ผู้พิชิตมารทั่วพิภพ... ท้าวมหาพรหมชินนะ ท่านเป็นพระพรหมที่มีฤทธิ์เดช ที่เรียกว่าพญามารหรือมารทั้งหลายกลัว ในด้านของมารโลเก โลกของมารของพวกวิญญาณ ดังนั้นก็เรียกว่า ท่านมีรูปของท้าวมหาพรหมชินนะอยู่ในบ้านก็คิดว่าอุปสรรคในการกลั่นแกล้งของ วิญญาณ พวกที่เรียกว่ารุกขเทพก็ดี พวกอมรมนุษย์ก็ดี พวกผีเปรตอสุรกายก็ดี คิดว่าไม่กล้าย่างกราย
   

 thk56
บันทึกการเข้า