ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สปป.ลาว นำพระพุทธรูปโบราณขึ้นจากน้ำโขงสำเร็จแล้ว คาดเป็นสมัยเชียงแสนอายุ 800 ปี  (อ่าน 1371 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


สปป.ลาวนำพระพุทธรูปโบราณขึ้นจากน้ำโขงสำเร็จแล้ว คาดเป็นสมัยเชียงแสนอายุราว 800 ปี

เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าชาวประมงหาปลาในแม่น้ำโขงแล้วไปพบพระพุทธรูปโบราณขนาดใหญ่ในแม่น้ำโขง ริมตลิ่งบ้านร่มเย็น เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว อยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านสบกก ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย  ทำให้ทางคณะกรรมการหมู่บ้านร่มเย็ยและทางการลาว ได้นำเครื่องจักรและกำลังทำการเก็บกู้มาตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งในเบื้องต้นการกู้องค์พระขึ้นจากแม่น้ำโขงเป็นได้วยความลำบากเพราะกระแสน้ำไหลเชี่ยว ประกอบกับองค์พระผังอยู่ใต้หินทรายลึก จึงทำให้ไม่สามารถกู้ออกมาได้

ล่าสุด ทางการลาวได้จัดส่งกำลังคนและเครื่องที่ทันสมัยเช่นเครื่องตรวจหาวัตถุมาช่วยในการค้นหาและนำองค์พระออกจากน้ำโขงให้ โดยเฉพาะรถแบ็คโฮนำเข้าทำการขุดโดบรอบบริเวณซึ่งมีการพบเบื้องต้นเพียงส่วนบ่าขององค์พระเท่านั้น จนสามารถนำขึ้นมาไว้บนบกได้ โดยพบว่าเป็นพระปูนปั้นขนาดใหญ่หน้าตักกว้างไม่ต่ำกว่า 6-7 เมตร ภายในเป็นดินกี่ แต่ด้วยการที่มีอายุเก่าแก่แช่อยู่ในน้ำนาน ประกอบกับการไม่พร้อมของเครื่องมือในการนำเอาพระออกทำให้องค์พระแตกแยกชิ้นส่วนออกเป็นหลายส่วน

อย่างไรก็ตาม ยังคงเห็นสภาพว่าเป็นส่วนเศียร หน้าอก หัวเขาหรือแขน ซึ่งทันทีที่มีการนำองค์พระขึ้นมาจากน้ำได้ทำให้มีชาวบ้านที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนานำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้เพื่อขอพรเป็นสิรมงคลแก่ตนเองและครอบครัวเป็นจำนวนมาก เมื่อเจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องตรวจหาวัตถุมาช่วยในการค้นหาด้วยทำให้พบวัตถุมงคลเพิ่มเติมอีกเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่จะเป็นพระรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะพระปกโพธิ์ที่พบมากในสมัยเชียงแสน รวมทั้งที่เป็นส่วนเปรวรัศมีของพระพุทธนวล้านตื้อ

 :25: :25: :25:

ซึ่งเป็นพระที่มีชื่อเสียงสมัยเชียงแสน และประเทศไทยก็เคยมีเปลวรัศมีลักษณะนี้อยู่ชิ้นหนึ่งแต่มีขนาดใหญ่กว่า และเคยมีการออกค้นหาองค์พระในแม่น้ำโขงบริเวณหน้าที่ว่าการอผงเชียงแสนนานกว่า 1 สัปดาห์แต่ก็ไม่พบตัวองค์พระ  ล่าสุด ทางทางของสปป.ลาวได้จัดเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรมเข้ามาตรวจสอบเก็บบันทึกหลักฐานที่ค้นพบทุกชิ้นเพื่อนำไปเปรียบเทียบพระเหล่านี้เป็นพระอะไรกันแน่และสร้างขึ้นเมื่อสมัยใด

ดร.ทองฤทธิ์ หลวงโคตร  ผู้เชี่ยวชาญประจำกองโบราณคดีลาว กล่าวว่า ในการตรวจค้นพบเบื้องต้นยังได้ชิ้นส่วนขององค์พระไม่ครบ อย่างยิ่งส่วนที่เป็นฐานรากองค์ซึ่งจะระบุได้ว่าเป็นสมัยใด จึงบอกไม่ได้ว่าเป็นพระอะไรหรือสร้างขึ้นสมัยใด  ซึ่งจะต้องนำชิ้นส่วนต่าง ๆ ทั้งพระประธาน และพระขนาดเล็กหรือวัตถุมงคลไปประกอบลวดลาย แต่บริเวณนี้เป็นเมืองสุวรรณโคมคำหรือเมืองเชียงแสนมาก่อน ซึ่งมีอายุระหว่าง 400-800 ปี ก็น่าจะอยู่สมัยนั้น

ดร.ทองฤทธิ์ กล่าวด้วยวว่า ตอนนี้ทางการลาวได้ให้นำสิ่งที่มีค้นพบได้นำไปเก็บรักษาไว้ที่แขวงบ่อแก้วไว้ก่อน เพื่อสะดวกต่อการตรวจสอบ อีกทั้งป้องกันการถูกขโมย หากมีการตรวจพิสูจน์ได้ว่าเป็นพระอะไรและสร้างขึ้นสมัยไหน ก็จะมีการปรึกษาหารือกันหลายฝ่ายในระดับบริหารของประเทศ ซึ่งอาจต้องมีการบูรณะประกอบองค์พระขึ้นมาใหม่หรือมีการจัดสร้างเป็นรูปแบบพิพิธภันณ์ โดยอาจจะนำมาไว้ที่บริเวณบ้านร่มเย็น ซึ่งเป็นจุดที่มีการค้นพบ เพื่อให้ประชาชนทั้งชาวลาวหรือชาวไทยมากราบไหวเป็นสิรมงคล และศึกษาทางประวัติศาสตร์ ซึ่งการขุดค้นพบครั้งนั้นจะบ่งบอกประวัติศาสตร์ในอดีตได้เป็นอย่างดี


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1370492047&grpid=02&catid=&subcatid=
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ