ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - หมวยจ้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 28
81  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: เข้า ฌาน ได้ 100 ปี ไม่เท่ากับ เห็นพระไตรลักษณ์ เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2011, 04:25:11 pm
ความหมาย ก็อ่านแล้ว ก็ดู ตรง ๆ คร้า คือ ใช้ชีวิตอยู่ กับ ฌาน เป็น ร้อยปี สู้การพิจารณาเห็นพระไตรลักษณ์ ไม่ได้ แต่การพิจารณาเห็นพระไตรลักษณ์ นั้น เห็นแล้ว ได้อะไร ก็คงต้องตอบว่า เห็นแล้ว ก็เป็นพระอริยะบุคคล ซึ่งในทางพระพุทธศาสนา ให้ความสำคัญกับการเป็นพระอริยะบุคคลเป็นที่สุด

     :34: :bedtime2:
82  เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / Re: ฝากกลอน ด้วย คร้า เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2011, 04:18:47 pm
ดำเนินการแก้ไข ฝากภาพ เข้า www.kidmadchima.th.ht แล้วครับ

 :08:

อันนี้ก็หายหมด แล้ว คร้า วันนี้ หมวยจ้า แก้ไขเท่าที่มีให้แล้ว คร้า ..... เสียดาย จัง
83  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ระดับน้ำ ที่สระบุรี สูงเกินปีที่แล้ว นะครับ เมื่อ: ตุลาคม 08, 2011, 11:25:43 am
ก็ขอให้ทุกท่าน ผ่านภัยพิบัติ ด้วยความยืนหยัดในธรรม คร้า.

 ค่อย ๆ คิด แก้ไขปัญหา คร้า...

 ที่ อยุธยา บ้าน หมวย ก็ 2 เมตร กว่า ๆ คร้า...

  :s_hi:
84  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: อนุโมทนา กับผู้บริจาค เน็ตบุ๊ค ให้กับงาน สำันักงานส่งเสริมพระกรรมฐาน เมื่อ: กันยายน 24, 2011, 10:59:50 am
็ก็ขออนุโมทนา กับทุกท่านที่ร่วมกันสนับสนุน พระธรรม พระกรรมฐาน ในรูปแบบต่าง ๆ กันนะคร้า..

ชออนุโมทนาด้วยใจจริง คร้า..



 :25: :25: :25:

และขอแก้ตัวเรื่องคุณ รักหนอ แต่งกลอนไม่เป็นด้วย คร้า...
อะแฮ่ม แต่งเป็นแล้วใช่ไหม เธอ....

 :25: :s_hi: :13: :13: :13:

85  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: ถ้าเราโดนวิจารณ์ ด่า ต่อว่า ในทางเสียหาย ควรทำอย่างไรในการภาวนาคะ เมื่อ: สิงหาคม 09, 2011, 07:51:53 am
          ผมชื่นชมคุณ "miracle" และขอเป็นกำลังใจให้ เพราะคุณไม่ต่างไปจากผมเลยครับ ผมนั้นมีทั้งคุณเตี่ย

น้องชาย, น้องเขย, เพื่อน และผู้บังคับบัญชา เย้ยหยันหยามน้ำหน้าให้เจ็บใจ แต่ผมก็ต้องนิ่งทน วางเฉย ไม่มี

ประโยชน์ที่จะไปตอบโต้ อย่างไรเสียคุณ "miracle" ไม่โดดเดี่ยวหรอกนะครับ ยังมีผมร่วมชะตาเดียวกับคุณอยู่


  พระธรรม ไม่ใช่เป็นเรื่องง่าย ที่เราจะสามารถทำให้ ตัวเราเข้าใจ ( บรรลุ ) และคนอื่นเข้าใจได้ง่าย ๆคะ
ความเข้าใจชีิวิต ส่วนหนึ่ง จึงจะเห็นความสำคัญของพระธรรมคร้า...

  จากประสพการณ์ ที่ชักชวนเพื่อน ๆ ไปร่วมกันสร้างกุศล ภาวนา ชักชวน 20 ได้แค่ 2 คร้า.... ก็ัยังดี คร้า..


 :s_good: :s_good: :s_good:
86  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: ทำอย่างไรดี คะ กับ ความสัมพันธ์ ที่แตกออก คะ เมื่อ: สิงหาคม 09, 2011, 07:48:35 am

  :c017:


   "หมวยจ้า" ครับ อยู่ที่ไหน มาช่วยตอบหน่อย หลายคนคิดถึง



แทนความคิดถึง

ออกตัวก่อนคร้า.... ช่วงนี้ มีโปรเจ็กซ์ คร้า.... ต้องใช้เวลาเป็นปี กับการศึกษา คร้า
จึงมาโพสต์ไม่ได้เหมือนก่อนนะคร้า...


 ก็คิดว่า ภาพยนต์เรื่อง เรา สอง สาม คน ก็น่าจะมีคำตอบแล้วคร้า.....
 สำหรับ ปุถุชน คนธรรมดา ก็ดีคร้า....เป็นคำตอบที่ดี เลยคร้า.........

  ตัวละครในเรื่อง ก็มี หนึ่งผู้ชายที่หล่อ รักการขับรถ กับ เพื่อน ๆ ที่ รักการขับรถ ท่องเที่ยวขับรถไป ลาว เวียตนาม กับกลุ่มรักการขับรถ ในขณะเดียวกัน ก็มีสมาชิกติดไปในรถด้วย

    คือ สาวที่หนึ่ง หูตึง หน้าตาดี

        สาวที่สอง ตาฟาง หน้าตาดี

        ทั้งสองสาว เป็นเพื่อนรักกันมาตลอด แต่มาแตกคอกันตอนไป เพราะความเข้าใจผิด

   แต่การเลือก อิจฉา น้อยใจ เสียสละ อะไรปานนี้ ก็จะมีในเหตุการณ์ เลยทำให้ หนังชวนติดตาม

 คิดว่าให้ คุณ จินตนา ชมให้จบดีกว่า ชมฟรี ทาง youtube อยู่แล้ว คร้า...

 ความเข้าใจผิด เพียงเล็กน้อย เป็นหนทางสู่ ความเข้าใจผิด ที่ใหญ่หลวง คร้า....

 ใครจะรู้ ตัวตนก่อน ก็เท่านั้นเองคร้า.....
87  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: เมื่อจิตเศร้าหมองแล้ว ทุคติเป็นอันหวังได้...อุปกิเลส ๑๖ เมื่อ: สิงหาคม 09, 2011, 07:35:57 am
คุณฟ้าใส แสดงความเห็นได้ซึ้งดีคะ

 :s_hi:
88  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: เชิญร่วมปฏิบัติธรรม สิงหา ราชินี วันที่ 12 - 13- 14 ส.ค. 54 วัดราชสิทธาราม คณะ 5 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2011, 07:57:18 am
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนากับข่าวสารของวัดราชสิทธาราม ที่ยังคงมีกิจกรรมกุศล ภาวนาอย่างต่อเนื่องทุกเดือนคร้า


 :s_hi: :25:
89  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ถ้ากรูไม่ทำแล้วใครจะทำ เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2011, 07:55:08 am
ก็เป็นกำลังใจ ให้กับ หลวงพ่อคูณ คร้า.. เพราะท่านก็ทำงานแบบของท่าน ไม่ได้มามุ่้งเผยแผ่หลักธรรม คำสอนในทางพ้นทุกข์โดยตรง แต่ทำหน้าที่ แบบพระโพธิสัตว์ก่อน

อนุโมทนาด้วยคร้า

 :25: :25: :25:
90  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: กรณียเมตตสูตร กับอานิสงค์ เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2011, 05:18:10 pm
อนุโมทนา ด้วยคร้า... ขยัน ช่วยตอบปัญหา ดีจริง ๆ นะคร้า ...

 :25: :25: :25:
91  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / e-book content จำเป็นหรือไม่ ( ตอนนี้มีขายราคาตั้งแต่ 2000 บาท ขึ้นไป ) เมื่อ: กรกฎาคม 22, 2011, 07:21:16 am

ขอบคุณภาพประกอบจาก http://graphics.sci.ubu.ac.th

เมื่อคราวที่แล้วได้กล่าวถึงแท็บเล็ตพีซีและอีรีดเดอร์ ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ใช้ได้เข้าถึงเนื้อหาสาระความรู้ ต่าง ๆ ซึ่งมีมากมายหลายประเภทในระบบอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่รูปภาพ วิดีโอ ข้อความ เสียง ซึ่งขอรวมเรียกว่า คอนเทนต์ ตรงนี้ครับที่สำคัญมากเพราะการที่มีอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์แล้ว จำเป็นต้องมีคอนเทนต์มาพร้อม ๆ กันเพื่อให้ครบวงจร
   
ในปัจจุบัน ใครก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในภาษา HTML ก็สามารถสร้างคอนเทนต์ไปใส่ไว้บนโลกของอินเทอร์เน็ตได้ วิธีการไม่ต่างจากการพิมพ์เอกสารหรืออัพโหลดไฟล์ธรรมดา แต่การที่ใครก็ได้สามารถใส่คอนเทนต์ลงบนอินเทอร์เน็ต ทำให้เนื้อหานั้นอาจไม่ได้ผ่านการกลั่นกรอง และมาสู่คำถามถึงความน่าเชื่อถือของเนื้อหาดังกล่าว ซึ่งแตกต่างจากกระบวนการทำหนังสือซึ่งมีที่มาที่ไปชัดเจน มีการตรวจสอบคุณค่าเนื้อหาสาระโดยสำนักพิมพ์
   
บนโลกของอินเทอร์เน็ต ก็มีหนังสือเช่นกันซึ่งเราเรียกว่า อีบุ๊ก (eBook) ซึ่งเป็นการแปลงหนังสือที่อยู่ในรูปของกระดาษมาเป็นรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ อีบุ๊กจึงถือเป็นแหล่งความรู้ที่สำคัญอีกอันหนึ่ง อีบุ๊กมีข้อดีอยู่หลายประการคือ ไม่มีต้นทุนการพิมพ์ ไม่ต้องใช้กระดาษ ไม่ต้องใช้หมึก ซึ่งถือเป็นต้นทุนสำคัญของหนังสือเลยทีเดียว อีกทั้งยังลดการขนส่งหนังสือจากโรงพิมพ์ไปยังร้านขายหนังสือได้อีก ทำให้สามารถประหยัดต้นทุนการผลิตหนังสือไปได้มาก ลดการตัดต้นไม้ ลดพลังงานและมลพิษที่เกิดจากการขนส่ง ดังนั้นต้นทุนส่วนใหญ่ของอีบุ๊กจึงไปอยู่ที่ค่าลิขสิทธิ์ และผู้อ่านก็ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปร้านขายหนังสือ สามารถค้นหาหนังสือผ่านทางออนไลน์ได้ สร้างความสะดวกสบายในการซื้อหาหนังสือ
   
ถ้าไปดูตัวเลขจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเมื่อปี พ.ศ. 2551 ที่ได้สำรวจการอ่านหนังสือของประชากร เกี่ยวกับวิธีการรณรงค์ให้คนรักการอ่านหนังสือพบว่า อันดับแรกคือ หนังสือควรมีราคาถูกลงถึงร้อยละ 28.7 ดังนั้นราคาของหนังสือจึงเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึง อีบุ๊กจึงถือเป็นโอกาสอีกอันหนึ่งที่จะทำให้หนังสือนั้นมีราคาที่ถูกลง
     
ถ้าหากเข้าไปในเว็บอเมซอนจะพบว่ามีอีบุ๊กนับล้านเล่ม อีกทั้งยังมี อีแม็ก กาซีน (eMagazine) อีกมากมาย แต่เราลองมาดูในประเทศไทย อีบุ๊ก ที่เป็นภาษาไทยนั้นยังไม่ค่อยมีให้เห็นกันสักเท่าไรนัก
 
ดังนั้นการที่จะส่งเสริมประชาชนให้เข้าถึงความรู้บนโลกอินเทอร์เน็ต นอกจากจะคำนึงถึงตัวอุปกรณ์เช่นแท็บเล็ตหรืออีรีดเดอร์แล้ว ยังจะต้องส่งเสริมอีบุ๊กให้มีปริมาณเพิ่มขึ้นและมีราคาถูกด้วย.

ดร.โชคดี เลียวพานิช
ภาควิชาไอที คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.อัสสัมชัญ
chokdee@scitech.au.edu
92  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เกิดแต่กรรมใดหนอ สำหรับคนที่เกิด ( บางคนอยากมีลูก บางคนไม่อยากมี ) เมื่อ: กรกฎาคม 22, 2011, 07:18:33 am
อ่านกระทู้ คุณ saiphone แล้ว มี หญิงชาย ที่อยากมีลูก แต่โลกเรานี้อะไรคือความพอดี
พอได้อ่านข่าวนี้แล้ว ก็เห็นว่า ความพอดี บนความอยากนั้นไม่มี คร้า...



แม่ใจยักษ์จับลูกเพิ่งเกิดยัดถุงทิ้งสวนหย่อมห้างดัง โชคดี รปภ.ผ่านมาเห็นแจ้งตำรวจช่วยชีวิตเอาไว้ได้ทัน(ชมคลิป)

เมื่อ วันที่  21 ก.ค.  พ.ต.ท.สมาน เสมี พนักงานสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ รปภ.ห้างฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต ว่าพบเด็กทารกแรกเกิดถูกใส่ถุงพลาสติกนำมาทิ้งไว้กลางสวนหย่อม เกาะกลางถนนด้านข้างห้างฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี  โดยเด็กยังมีชีวิตอยู่ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อมหน่วยแพทย์กู้ชีพเทศบาลเมืองรังสิต และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พบเด็กทารกแรกคลอด เพศหญิง ตามตัวยังมีคราบเลือดและสายรกติดอยู่ ถูกจับใส่ถุงพลาสติกสีขาว ก่อนมัดปากถุงแล้วนำมาทิ้งเอาไว้ที่สวนหย่อม โดยพลเมืองดีช่วยเหลือนำตัวเด็กทารกคนดังกล่าวออกมาจากถุงพลาสติกแล้ว ก่อนนำตัวส่งรพ.ปทุมธานีให้ความช่วยเหลือ
   

สอบสวนนายบุญทัน หยาดประโคน รปภ.ห้างฯ ให้การว่า ระหว่างเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ก็สังเกตเห็นรถกระบะไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน มีลักษณะหลังคาสูง มีผ้าใบปิดมิดชิด คล้ายรถสองแถว มาจอดตรงจุดที่พบเด็กทารกอยู่เป็นเวลานาน แต่ไม่ได้เอะใจเพราะคิดว่าเป็นรถที่มาส่งของที่ห้าง กระทั่งได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบเด็กทารกถูกใส่ถุงนำมาทิ้งไว้ เมื่อมาตรวจสอบพบว่าเด็กยังมีชีวิตอยู่ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า แม่ของเด็กน่าจะเป็นวัยรุ่น นักศึกษา หรือสาวโรงงานที่เกิดตั้งท้องทั้งที่ยังไม่พร้อมมีลูก เมื่อคลอดออกมาจึงนำใส่ถุงมาทิ้ง อย่างไรก็ดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบสวนติดตามแม่ใจยักษ์รายนี้มาดำเนินคดี ต่อไป

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=419&contentID=152504

93  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / วิหารธรรม คือ อะไรคะ เหมาะแก่ใครบ้างคะ เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2011, 05:21:35 am

ขอบคุณภาพจาก http://www.dhammada.net

วิหารธรรม คือ อะไรคะ เหมาะแก่ใครบ้างคะ ตามหัวข้อกระทู้เลยคร้า...

มิได้มาลองภูมิ นะคร้า....

แต่เป็นเพราะยังไมทราบ คร้า....

ช่วยอธิบาย กันหน่อย นะคร้า.....



 :88: :58: :c017: :25:
94  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / http://www.wattanen.org/ วัดตาลเอน เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2011, 05:14:57 am


http://www.wattanen.org/

วัดตาลเอน
95  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เคืองมะกันต้อนรับองค์ “ดาไลลามะ” เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2011, 05:01:53 am
จีนตำหนิสหรัฐ ที่ยอมให้มีการพบหารือกันระหว่างผู้นำสหรัฐกับองค์ดาไลลามะ

สำนัก ข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ว่า สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานถ้อยแถลงของนายหม่า เจ้าซือ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนว่า รัฐบาลจีนขอตำหนิอย่างรุนแรงต่อรัฐบาลสหรัฐ หลังจากที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ได้ต้อนรับ องค์ดาไลลามะ ผู้นำด้านจิตวิญญาณแห่งทิเบต ที่ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งการกระทำเช่นนี้จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างสองประเทศ โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนระบุว่า สหรัฐทำการเช่นนี้เท่ากับเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีน ทำร้ายจิตใจของประชาชนชาวจีน และยังกระทบความสัมพันธ์ทวิภาคีของสองประเทศอีกด้วย เพราะจีนถือว่าทิเบตเป็นส่วนหนึ่งที่แยกออกไม่ได้อย่างเด็ดขาดของจีน และองค์ดาไลลามะคือผู้ต้องการแยกดินแดนออกมา จึงเกิดให้เกิดประท้วงหลายต่อหลายครั้งในการเดินทางไปเยือนต่างประเทศของ องค์ดาไลลามะ.
96  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / รร.วัดโพทะเลจัดสุขภาพก้าวหน้า เก้ากิจกรรมสร้าง 'ดีเจน้อย' ดูแล4มิติ เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2011, 04:55:24 am
ที่โรงเรียนวัดโพทะเล อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร นักเรียนส่วนใหญ่มีฐานะค่อนข้างยากจน พ่อและแม่ต้องไปทำงานรับจ้างยังต่างจังหวัด หลายคนต้องอยู่กับปู่ย่าตายายหรือญาติ ทำให้ขาดการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด ทำให้ขาดความรู้และทัศนคติในการดูแลรักษาสุขภาพของตนเอง รวมไปถึงขาดความรู้ในการตัดสินใจเลือกแนวทางการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ส่งผลให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ ทั้งปัญหาฟันผุ โภชนาการ ปัญหาเรื่องของการบริโภคสื่อสมัยใหม่ที่ไม่เหมาะสม ปัญหาด้านศีลธรรมและจริยธรรม รวมถึงปัญหาด้านอบายมุขและยาเสพติดที่ส่งผลให้เยาวชนในพื้นที่ดำเนินชีวิตไป ในทางที่ไม่เหมาะสม
   
จากปัญหาที่เกิดขึ้นทางคณะผู้บริหารและครูของโรงเรียนวัดโพทะเล จึงได้ร่วมกันจัดทำโครงการ “สุขภาพก้าวหน้าด้วยเก้ากิจกรรม” ขึ้นเพื่อส่งเสริมให้เด็กนักเรียนมีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดีขึ้นในทุกมิติ และมีภูมิคู้มกันในการดำรงชีวิตได้ในสังคมอย่างมีความสุข โดยได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยกิจกรรมต่าง ๆ ทั้ง 9 กิจกรรมประกอบไปด้วยกิจกรรมเยาวชนรุ่นใหม่ใส่ใจคุณธรรม, กิจกรรมกีฬากีฬาเป็นยาวิเศษ, กิจกรรมแอโรบิกเพื่อสุขภาพ, กิจกรรมยิ้มหวานฟันสวย, กิจกรรมเด็กไทยห่างไกลจากอบายมุขและยาเสพติด, กิจกรรมร้านค้าสะอาดอาหารปลอดภัยและมีคุณค่า และกิจกรรมอาคารและสิ่งแวดล้อมสะอาดปราศจากมลพิษ โดยยังมีอีกสองกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นและสอดแทรกสาระความรู้ในด้านต่าง ๆ ที่นอกเหนือไปจากเรื่องของสุขภาพให้กับนักเรียนได้อย่างต่อเนื่องนั่นก็คือ “กิจกรรมสื่อสีขาว” ที่มุ่งเน้นให้เด็กรู้จักการบริโภคสื่ออย่างถูกต้อง และร่วมกันผลิตสื่ออย่างสร้างสรรค์เพื่อขยายความรู้ออกไปสู่เพื่อน ๆ ผ่าน “หนังสือพิมพ์จิ๋ว” ที่เหล่าบรรดาดีเจรุ่นเยาว์จาก “กิจกรรมดีเจน้อย” จะหยิบยกความรู้ต่าง ๆ จากสื่อเหล่านี้มาบอกเล่าผ่านเสียงตามสายช่วยกระจายความรู้ออกไปสู่สมาชิก ทุกคนในโรงเรียนเป็นประจำทุกวันตั้งแต่เวลา 11.30-11.45 น.
   
นายประเสริฐ กลิ่นหอม ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดโพทะเล และหัวหน้าโครงการฯ เปิดเผยว่า จากปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับเด็กนักเรียน ถ้าหากปล่อยไว้จะขยายกลายเป็นปัญหาต่าง ๆ ของสังคมเกิดขึ้นตามมาจึงได้ให้มีกิจกรรมทั้ง 9 ขึ้นเพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรมในด้าน ต่าง ๆ ของเด็ก
   
“กิจกรรมต่าง ๆ เหล่านั้นจะส่งผลดีต่อระบบการเรียนการสอนของเด็ก เพราะเป็นความรู้ที่ถูกนำไปปฏิบัติจริง อย่างน้อยก็จะเป็นทักษะที่ติดตัวไปตลอด เป็นพฤติกรรมในการใช้ชีวิตให้ถูกต้องเพราะเด็กหลายคนอาจจะไม่ได้เรียนต่อใน ระดับสูง เนื่องจากส่วนใหญ่มีฐานะยากจน แต่ความรู้ที่ได้รับจะทำให้เขาสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย ปลอดโรค มีสุขภาพที่แข็งแรง และเมื่อจบออกไปแล้วทำให้เขาสามารถอยู่ในสังคมนี้ได้อย่างมีความสุข” หัวหน้าโครงการฯกล่าวสรุป.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=420&contentID=151771
97  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เหตุใกล้ตัว หมอนรองกระดูกทับเส้น เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2011, 04:53:45 am
'หมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท' เป็นอีกอาการป่วยที่ได้ยินกัน บ่อยๆ ใครโชคไม่ดีได้เป็นแล้วก็จะปวดหลัง บางรายลามลงขา ถึงขั้นชาและหมดแรง เกิดจากหมอนรองกระดูกซึ่งมีหน้าที่รองรับแรงกระแทกของกระดูกสันหลังเกิด เสื่อมสภาพจนสูญเสียความยืดหยุ่น เมื่อมีแรงกระแทกก็จะทำให้หมอนรองกระดูกเกิดการนูนหรือฉีกปลิ้นออกมากดทับ เส้นประสาทที่อยู่ด้านหลัง

สำหรับสาเหตุนั้น นพ.นันทเดช หิรัณยัษฐิติ ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ รพ.บำรุงราษฎร์ เผยว่า หมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทอาจเกิดขึ้นได้จากพฤติกรรมใกล้ตัวที่ หลายๆ อาจไม่เคยคาดคิดมาก่อน

คุณหมอนันทเดช ยกตัวอย่างเรื่องใกล้ตัวมากๆ ให้ฟังว่า เพียงแค่การจามแรงๆ แบบไม่ทันตั้งตัว คนท้องผูกที่ออกแรงเบ่งเพื่อขับถ่ายจนเกิดความดันในช่องท้อง หรือแม้กระทั่งการเดินทางไกลที่ต้องนั่งหรือนอนนานๆ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนล้า พอถึงที่หมายก็รีบยกกระเป๋าสัมภาระน้ำหนักมาก ทั้งๆ ที่ขณะนั้นกล้ามเนื้อหลังหรือแม้กระทังกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ ยังคงอ่อนล้า ไม่พร้อมกับการใช้แรง ด้วยเหตุนี้อาจส่งผลให้หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท ทำให้รู้สึกปวดแปลบๆ

หากไม่อยากให้หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท แสดงว่า ก่อนจะจามต้องตั้งตัวให้ดี หรือห้ามท้องผูก ห้ามยกของหนักๆ เด็ดขาดหรือ? คุณหมอนันทเดช ไขข้อสงสัยว่า พฤติกรรมใกล้ตัวดังตัวอย่างอาจทำให้หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทได้ก็ต่อ เมื่อร่างกายของคนๆ นั้นกำลังอ่อนแออยู่ด้วย

กรณีที่โชคไม่เข้าข้าง เกิดป่วยด้วยอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทจะทำอย่างไร ต้องผ่าตัดเปิดหลัง กลายเป็นเรื่องใหญ่เชียวหรือ? คุณหมอนันทเดช  บอกแนวทางการรักษาว่า มีหลายวิธีทั้งกินยา ทำกายภาพ ฉีดยา  ผ่าตัดผ่านกล้องเอ็นโดสโคป ที่มีรอยแผลเล็กแค่ 8 มิลลิเมตร และการผ่าตัดเปิดหลังแบบเก่า ซึ่งขึ้นอยู่กับอาการของโรคและความชำนาญของแพทย์ด้วย

และนับจากนี้ไป คนไทยที่ป่วยจากหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท หรือปวดหลังจากสาเหตุอื่นๆ คงพอเบาใจในด้านการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในประเทศ เนื่องจาก รพ.บำรุงราษฎร์ ลงนามบันทึกข้อตกลงกับ รพ.เซนต์ แอนนา ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นผู้คิดค้นเทคนิคใช้กล้องเอ็นโดสโคปผ่าตัดหมอนรองกระดูกสันหลัง และบริษัท ริชาร์ด วูล์ฟ ผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์ระดับสูงของเยอรมนี ในการแต่งตั้งศูนย์ฝึกอบรมการผ่าตัดกระดูกสันหลังผ่านกล้องฯ ของภูมิภาคเอเชียที่ รพ.บำรุงราษฎร์ ให้แพทย์ในสถาบันกระดูกสันหลังบำรุงราษฎร์สามารถฝึกอบรมเทคนิคดังกล่าวให้ กับแพทย์ทั้งในและต่างประเทศ อย่างนี้แสดงว่า ต่อไปบ้านเราจะมีแพทย์รักษาหมอนรองกระดูกสันหลังด้วยเทคนิคเอ็นโดสโคปมาก ขึ้นนั่นเอง.

ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
takecareDD@gmail.com

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=457&contentId=151666
98  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เล่นไสยศาสตร์ดับปริศนาคาเตียง โดนของแน่ ๆ ( เป็นไปได้อย่างไร ) เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2011, 04:52:13 am
หนุ่มใหญ่หัวหน้าคนงานก่อสร้างเล่นไสยศาสตร์ดับปริศนาคาเตียง แพทย์ไม่ฟันธงหัวใจวายเฉียบพลัน เร่งส่งศพชันสูตร

วันนี้ (18ก.ค.) พ.ต.ท.พูลทรัพย์ ทหราวานิช  สารวัตรเวร สภ.เมืองจันทบุรี  รับแจ้งพบศพคนเสียชีวิตอยู่ใน อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น เลขที่ 547/4-5 ถนนท่าแฉลบ ต.ตลาด ไปตรวจสอบพร้อมด้วย แพทย์เวร รพ.พระปกเกล้าจันทบุรี และ หน่วยกู้ภัยสว่างกตัญญู  ที่เกิดเหตุอยู่ระหว่างต่อเติมตกแต่ง พบศพนายธนพล มะเทศ อายุ 46 ปี หัวหน้าคนงาน นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่บนเตียงไม้บริเวณชั้น 2  ที่คอห้อยสร้อยผ้าร่มแขวนพระ 1 องค์  และ จี้ไม้กางเขน  1 อัน  ในกระเป๋ากางเกงพบเงินสด  420 บาท  และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ใกล้กันมีไฟแช็ค  หนังสือดูดวง  และหนังสือคุณไสย ไทย – เขมร ตกอยู่

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=419&contentID=151780

สอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นคอสุรา และชอบนั่งท่องบริกรรมคาถาไสยศาสตร์อยู่เป็นประจำ ก่อนพบศพช่วงเย็นวันที่ผ่านมาเพิ่งตั้งวงดื่มสุราอยู่กับลูกน้อง กระทั่งรุ่งเช้ามีคนมาพบเป็นศพนอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพดังกล่าว  เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้ตายอาจจะหัวใจวายอย่างเฉียบพลัน ซึ่งจะได้สอบวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.
99  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ืำทำไมต้องกรวดน้ำให้มาร ด้วย ในเมื่อมาร..... เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2011, 04:29:32 am
อาจจะเป็นว่า พระพุทธเจ้า ต้องการสอนให้เราภาวนาด้วยการ อภัยทาน นะคร้า
เพราะว่า พระอริยะเจ้า อยู่เหนือเรื่องพยาบาท โกรธ โทสะ แล้ว การอภัยทานเป็นบันไดก้าวหนึ่งของ
ผู้ภาวนา คร้า... ผิดถูก อย่างไร ต้องยกให้พระอาจารย์นะคร้า เคยถามทางเมล คล้าย ๆ กัน คร้า

 :s_hi:
100  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / เขียนเรียงความเฉลิมพระเกียรติ เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2011, 05:38:34 am
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่สำนักงานศาลยุติธรรม นายสราวุธ  เบญจกุล  รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ในฐานะประธานอนุกรรมการจัดประกวดเรียงความฯ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา เปิดเผยว่า ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในวันที่ 5 ธ.ค. นี้ สำนักงานศาลยุติธรรมได้จัดประกวดเรียงความภายใต้แนวคิด “ศาลยุติธรรมกับคำสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” โดยการอัญเชิญพระบรมราโช วาทหรือพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานแก่คณะผู้พิพากษาศาลยุติธรรมในโอกาสต่าง ๆ มาเป็นแนวคิดสำคัญในการเขียนเรียงความ เพื่อเป็นการร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัวด้านความยุติธรรม ชิงเงินรางวัลชนะเลิศ 100,000 บาท รองชนะเลิศ 50,000 บาท 30,000 บาท  พร้อมโล่รางวัลและใบประกาศเกียรติคุณ และรางวัลชมเชย 10,000  บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ
   
ทั้งนี้ สำนักงานศาลยุติธรรม ขอเชิญชวนนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ที่สนใจสามารถส่งเรียงความเข้าประกวดได้คนละ 1 เรื่อง โดยพิมพ์ในกระดาษขนาด  A4  ด้วยตัวอักษรขนาด 16 พอยท์  ไม่จำกัดจำนวนหน้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 31 ต.ค. ส่งมาที่ กองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์  สำนักงานศาลยุติธรรม  อาคารศาลอาญา  ชั้น 4  ถนนรัชดาภิเษก  เขตจตุจักร  กทม. 10900 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2541-2188 และ 0-2541-2329 ในวันและเวลาราชการ
หรือติดตามรายละเอียดได้ที่ www.coj.go.th/iprd.
101  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เปิดตัวกองทุนออมแห่งชาติอาชีพอิสระสะสมเงินยามแก่ เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2011, 05:36:37 am
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ว่า กระทรวงการคลังได้ขับเคลื่อนแนวคิดที่ให้ประชาชนที่มีอาชีพอิสระ เช่น พ่อค้า แม่ค้า มีเงินบำนาญไว้ใช้ในยามชรา เช่นเดียวกับพนักงานบริษัท ซึ่งจากนี้ไปจะเป็นการเตรียมความพร้อมในการดำเนินการต่าง ๆ ก่อนจะเปิดรับสมาชิกตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. 55 เป็นต้นไป เชื่อว่า กอช.จะเป็นการลดภาระของรัฐบาลในอนาคต ในการดูแลประชาชนในวัยชรา และเป็นการส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่ระบบเศรษฐกิจระดับรากหญ้า ด้วย         
   
ทั้งนี้ ผู้มีอาชีพอิสระที่มีสิทธิส่งเงินสมทบเข้ากองทุนฯ รวมทั้งสิ้น 25-26 ล้านคน คาดว่าปีแรก จะมีผู้ส่งเงินเข้าสมทบ 10% หรือคิดเป็น 2.5 ล้านคน โดยรัฐบาลได้จัดเตรียมงบประมาณเบื้องต้น ด้วยการตั้งงบสำรองในปี 55 ไว้ 2,000-3,000 ล้านบาท ซึ่งหากผู้มีสิทธิทั้งหมดส่งเงินสมทบเข้ากองทุนฯ รัฐบาลจะต้องส่งเงินสมทบอีกปีละ 20,000 ล้านบาท
   
“สิ่งสำคัญของกอช.คือ ห้ามถอนเงิน เพราะเราต้องการสะสมเงินออมไว้ให้ใช้ยามชรา แต่หากสมาชิกจะถอนเงิน ก็ทำได้ แต่สิทธิที่รัฐบาลส่งเงินเข้าสมทบไว้ รัฐบาลจะเอาคืน เพื่อให้ประชาชนมีวินัยในการออม”
   
สำหรับผู้ที่จะเป็นสมาชิกกอช.ได้ ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย อายุ 15-60 ปี ไม่เป็นสมาชิกกองทุนอื่นใด ที่ได้รับเงินสมทบจากรัฐหรือนายจ้าง และไม่ได้อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญภาครัฐหรือเอกชน สมาชิกต้องสะสมเงินเข้ากองทุนไม่ต่ำกว่าครั้งละ 50 บาท แต่ไม่เกินปีละ 13,200 บาท และรัฐบาลจะให้เงินสมทบตามช่วงอายุของสมาชิก ซึ่งเป็นอัตราส่วนกับจำนวนเงินที่สมาชิกสะสมเข้ากองทุน ตั้งแต่ 50-100% โดยไม่เกินเงินสมทบสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด.
102  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ความหมายตามลายมือ ลายมือก้นหอย เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2011, 05:34:44 am
ความหมายตามลายมือ

ลายมือก้นหอยเป็น เครื่องหมายที่ดี เพื่อไม่ให้เกิดความยุ่งยากต่อการจดจำก้นหอยจะเกิดขึ้นเป็นลักษณะเลข ๑ ไทยวงเวียนกลมเหมือนก้นหอยจึงจะเป็นการดีที่สุด แต่ถ้ากลับกันกับเลข ๑ ก็ถือว่าไม่ถูกต้อง ในที่นี้จะนำมาเฉพาะปลายนิ้วก่อน ดังนี้

หมายเลข ๑
ก้นหอยบนนิ้วหัวแม่มือ แสดงถึงการมีพลังกำลังใจเข้มแข็ง

หมายเลข ๒
ก้นหอยบนปลายนิ้วชี้ บ่งบอกถึงอำนาจวาสนาที่ดีเป็นผู้นำ

หมายเลข ๓
ก้นหอยบนนิ้วกลาง บ่งบอกถึงการเป็นนักคิดมีหลักฐานมาก

หมายเลข ๔
ก้นหอยบนนิ้วนาง บ่งบอกถึงความร่ำรวยมีเงินทองชื่อเสียงดี

หมายเลข ๕
ก้นหอยบนนิ้วก้อย บ่งบอกถึงการค้าขาย เป็นนักพูดวาทศิลป์ดี.

ต้อย ตุลา

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=492&contentId=149790
103  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ร่วมทำบุญสร้างวิหาร'พระพุทธอุดมมงคลเวฬุวัน' เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2011, 05:33:19 am


สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) หรือพุทธศาสนิกชนทั่วไปคุ้นเคยในสมญา “สมเด็จโต” นั้น เป็นพระเถราจารย์ผู้ทรงคุณทางด้านสรรพวิชาต่าง ๆ ครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นพุทธมนต์อาคมขลัง เมตตามหานิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัตถุมงคลที่ท่านสร้างแจกญาติโยมในอดีตก็คือ “พระสมเด็จวัดระฆัง” พระผงรูปทรงสี่เหลี่ยมชิ้นฟัก ด้านหน้าเป็นรูปองค์พระนั่งสมาธิหรือปรกโพธิ์ด้านหลังเรียบ ได้รับความนิยมกว้างขวางและเป็นที่ต้องการของผู้คนจำนวนมาก จนถูกจัดเข้าในทำเนียบพระเบญจภาคี ๑ ใน ๕ ของสุดยอดพระเครื่อง มูลค่าการเช่าบูชาหลายล้านบาท ด้วยปฏิปทาจริยาวัตรและคุณวิเศษอัศจรรย์ของท่านที่เล่าขานกันมา คนไทยทั่วไปนับถือว่าท่านในฐานะสุดยอด “อมตะเถราจารย์” รูปหนึ่งของเมืองไทย

ประวัติโดยย่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) เกิดเมื่อเวลา ๐๗.๐๐ น. ของวันพฤหัสบดี เดือน ๕ ขึ้น ๑๕ ค่ำ ปีวอก ตรงกับวันที่ ๑๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๓๓๑ ณ ต.ไก่จัน อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ในรัชสมัยต้นแผ่นดินรัตนโกสินทร์ มารดานามว่า เกสรคำ เมื่อวัยเยาว์ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดระฆังโฆสิตารามมหาวรวิหาร จังหวัดธนบุรี ทรงประพฤติอยู่ในเพศพรหมจรรย์โดยตลอด จนพระชนมายุครบ ๒๐ พรรษา จึงได้ทรงอุปสมบท ณ วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพมหานครนั่นเอง และอยู่ในสมณเพศจนสิ้นอายุขัย ในเช้าตรู่ของวันอาทิตย์เวลา ๐๖.๐๐ น. ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะเมีย ตรงกับวันที่ ๑๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๑๕ สิริอายุนับรวมได้ ๘๔ ปี กับ ๒ เดือนเศษ ถือว่าเป็นพระสงฆ์ ๕ แผ่นดิน ในยุคต้นแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น สมเด็จพระพุฒาจารย์ องค์ที่ ๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีชวด พุทธศักราช ๒๔๐๗

อย่างไรก็ตามมีข้อมูลบางส่วนยังขัดแย้งกันอยู่ เกี่ยวกับการบรรพชาเป็นสามเณรของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) บ้างก็ว่าบรรพชาตั้งแต่วัย ๕ ขวบ บางข้อมูลว่าบรรพชาอายุ ๑๓ ปี แต่จากหลักฐานจากการสร้างพระเป็นรูปไก่ ของ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (สุก ไก่เถื่อน) ทรงบันทึกข้อความไว้ว่า “ไก่ ตัวนี้ สุก ไก่ เถื่อน เป็นผู้สร้าง ประสม ทอง เงิน นาน (นาก) ปลุกเสก ๓ พรรษา พ.ศ. ๒๓๓๒ พอ พ.ศ. ๒๓๓๕ หัวโต วัดระฆังก็ขอไปเลี้ยง” ปัจจุบันหลักฐานชิ้นนี้เก็บรักษาไว้ที่สำนักธรรมพรหมรังสี หากอ้างอิงตามบันทึกของสมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) บ่งชี้ว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) น่าจะบรรพชาเป็นสามเณรตั้งแต่สิริอายุ ๕ พรรษา ที่วัดระฆังโฆสิตาราม ซึ่งข้อมูลนี้ยังต้องค้นคว้าข้อเท็จจริงกันต่อไป

ครั้นบรรพชาเป็นสามเณรแล้ว สามเณรโต ก็เริ่มศึกษาด้านปริยัติ ปฏิบัติและปฏิเวธ ศึกษาพระไตรปิฎกจนแตกฉาน ตลอดจนเร่งฝึกวิปัสสนาพระกรรมฐานความรู้แจ้งเห็นจริงก็ปรากฏขึ้นในดวงจิตที่ มุ่งมั่นสะอาดและบริสุทธิ์ จวบจนอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ฝึกฝนจนจิตกล้าแกร่งก็ธุดงค์จาริกแสวงบุญตามป่าเขาและสถานที่เงียบสงัด หนึ่งในสถานที่ที่ท่านเคยไปคือ ถ้ำอิสีคูหาสวรรค์ จ.กำแพงเพชร ซึ่งมีการค้นพบของเก่าและที่สำคัญคือใบลานเก่าชำรุด เขียน “พระคาถาชินบัญชร” เป็นภาษาสิงหล ท่านได้นำกลับมาเรียบเรียงแก้ไขเป็นภาษามคธ-บาลี เพื่อให้อ่านง่ายและเข้าใจง่าย และได้แปลความหมายของพระคาถาที่ขลังและศักดิ์สิทธิ์เป็นร้อยแก้ว สามารถนำไปใช้ได้ ๑๐๘ ประการด้วยการสวดท่องและอธิษฐานให้ขจัดทุกข์และบำรุงสุขได้อย่างมหัศจรรย์ ได้รับความนิยมตกทอดมาจนถึงทุกวันนี้

สิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญพระคาถาและพลังจิตอันเป็นหนึ่งของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) คือ การทำผงวิเศษต่าง ๆ ด้วยดินสอพอง โดยเขียนลงกระดานชนวนลงอักขระเลขยันต์ตามสูตรและลบกลายเป็นผงวิเศษ คือ ผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผงตรีนิสิงเห ผงมหาราช นำมาผสมคละเคล้ากับ เกสรร้อยแปด ดินเจ็ดโป่งเจ็ดท่า ดินใจกลางเมือง ดินกำฤาษี ผงวิเศษตามป่าตามเขา ตามถ้ำต่าง ๆ ไคลเสมา ไคลโบสถ์ ดินใจกลางเมือง ว่านยาต่าง ๆ ที่ท่านเก็บรวบรวมมาจาก จ.กาญจนบุรี สุพรรณบุรี สุโขทัย กำแพงเพชร เป็นต้น เพื่อนำมาทำพระสมเด็จวัดระฆังอันเลื่องลือ

ปัจจุบันนี้ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า “พระสมเด็จวัดระฆัง” ของท่านมีกี่พิมพ์ กี่เนื้อหากันแน่ แต่ตามสากลนิยม โดยสมาคมผู้นิยมพระเครื่อง พระบูชาไทย ได้แบ่งพิมพ์มาตรฐาน ได้แก่ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์ทรงเจดีย์ พิมพ์เกศบัวตูม และพิมพ์ฐานแซม นอกเหนือจากนี้ยังมีพิมพ์ปรกโพธิ์ (มีจำนวนน้อยมาก)

ทั้งนี้ท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) นอกจากเชี่ยวชาญด้านวิปัสสนาธุระแล้ว ท่านยังเป็นนักเทศน์ที่มีชื่อเสียงและไม่ปรารถนาลาภ ยศ สมณศักดิ์ใด ๆ จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ท่านจึงยอมน้อมรับสมณศักดิ์โดยดี

ในปี พ.ศ. ๒๓๙๕ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งพระมหาโตเป็นพระราชาคณะที่พระธรรมกิติ เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ในปีขาล พ.ศ. ๒๓๙๗ ได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะผู้ใหญ่ที่พระเทพกวี ศรีนายกตรีปิฎกปรีชามหาคณฤศร บวรสังฆราชคามวาสี ครั้นสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สน) วัดสระเกศ มรณภาพ ได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์ รูปที่ ๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวันพฤหัสบดี เดือน ๑๐ ขึ้น ๙ ค่ำ ปีชวด ตรงกับวันที่ ๘ กันยายน พุทธศักราช ๒๔๐๗

สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) ได้สร้างวัดและสิ่งปลูกสร้างในพระพุทธศาสนาไว้มากมาย เช่น หลวงพ่อโต วัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม หลวงพ่อโตนั่งกลางแจ้งวัดไชโย จังหวัดอ่างทอง พระเจดีย์นอน วัดลครทำ เป็นต้น

ด้วยคุณวิเศษอันอเนกอนันต์ของ สมเด็จพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) ที่กล่าวทั้งหมดในข้างต้น สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน) แห่งวัดบวรนิเวศวิหาร ก็ทรงศรัทธาในสมเด็จพระพุฒาจารย์เป็นอันมาก ทรงศึกษาประวัติและบทสวดมนต์ต่าง ๆ รวมทั้ง พระคาถาชินบัญชร จนเชี่ยวชาญและพระองค์ท่านทรงรวบรวมบทนิพนธ์เป็นประวัติพระคาถาชินบัญชรขึ้น ซึ่งใช้เป็นพระคาถาศักดิ์สิทธิ์ที่พุทธศาสนิกชนนิยมสวดเพื่อความเป็นสิริ มงคลในทุกวันนี้

เมื่อกล่าวถึงสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) และสมเด็จพระสังฆราช (เจริญ สุวฑฺฒโน) แล้ว ทั้ง ๒ องค์ ซึ่งเป็นพระมหาเถระที่ต่างยุคสมัยกัน แต่หากพิจารณาปฏิปทาจริยาวัตรและทรงคุณด้านวิชาคาถาอาคมแล้ว ในปัจจุบันนี้พระพุทธศาสนิกชนได้มีความศรัทธาในเจ้าประคุณสมเด็จทั้ง ๒ องค์ยิ่งนัก

ด้านประวัติการสร้างวัตถุมงคลนั้น สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงสร้างพระพุทธพิมพ์ และพระกริ่งเอาไว้เป็นส่วนมาก แต่มีที่พิเศษคือเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๖ คราวพระองค์ท่านยังพระพลานามัยแข็งแรง ได้ทรงสร้างรูปหล่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) เอาไว้ ประกอบด้วย รูปหล่อบูชา ขนาดหน้าตัก ๕ นิ้ว มี ๓ เนื้อ คือ เนื้อเงิน เนื้อสัตโลหะ และเนื้อทองเหลืองรมดำ นอกจากนี้ยังได้สร้างเหรียญสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) มีลักษณะเป็นเหรียญกลม ด้านหลังเป็นรูปพระพรหม มี ๔ เนื้อ คือ เนื้อผง เนื้อทองแดงนอก เนื้อเงิน และเนื้อทองคำ อีกด้วย

ในการสร้างรูปเหมือนสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) ครั้งนั้น เจ้าประคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงประกอบพิธีเททอง และพิธีมังคลาภิเษกด้วยพระองค์เอง ทรงจุดเทียนชัยและนั่งอธิษฐานจิตตลอดพิธี เมื่อวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๓๖ เวลา ๑๕.๑๙ น. โดยมีพระเกจิที่มีชื่อเสียงยุคนั้นทั่วประเทศเป็นจำนวนมากเดินทางมาร่วมนั่ง ปรก โดยมีสมเด็จพระมหาธีราจารย์ (นิยม) วัดชนะสงครามประกอบพิธีดับเทียนชัย วัตถุมงคลรุ่นนี้จึงได้รับความนิยมกันมากเป็นพิเศษ เนื่องจากเปี่ยมล้นด้วยพุทธคุณและความเข้มขลัง

นับเป็นเรื่องที่น่ายินดี พระรูปหล่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) รุ่นนี้ยังเหลือเก็บไว้ที่วัดบวรนิเวศวิหาร เนื่องจากท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระญาณสังวรฯ โปรดให้เก็บรักษาเอาไว้บางส่วน และพระองค์ท่านทรงมีดำริมอบให้สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชฯ นำออกมาให้ผู้มีจิตศรัทธาเช่าบูชาในปี ๒๕๕๔ เพื่อหาทุนทรัพย์ร่วมก่อสร้างพระพุทธวิหารพระพุทธอุดมมงคลเวฬุวัน ณ วัดเวฬุวัน จ.บึงกาฬ เพื่อให้แล้วเสร็จตามโครงการที่ทรงดำริไว้

ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อโดยตรงได้ที่ สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชฯ โทร.๐-๒๒๘๑-๒๘๓๑-๒, ๐๘-๑๕๕๒-๙๙๖๗.

อาราธนานัง รายงาน

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=502&contentId=149794
104  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / พิษรัก และความไม่เข้าใจชีวิต คืออะไร ( ในสังคมที่ยังมีอยู่อีกมาก ) เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2011, 05:30:37 am
หนุ่มรับจ้างขับรถบรรทุก ก่อเหตุทุบหัวเมียรักที่กำลังตั้งครรภ์ก่อนตัดสินใจผูกคอตายตาม หนีปัญหาชีวิต

วันนี้ (8 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ร.ต.อ.พรนรินทร์ เปรื่องกระโทก พนักงานสอบสวน สภ.พระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา  รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ภายในห้องเช่า บ้านเลขที่ 24 ม.9 ต.เชียงรากน้อย จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.อดุลย์ เม่นบางผึ้ง ผกก. แพทย์เวร รพ.บางปะอิน  และมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุบนที่นอนพบศพ น.ส.ปิยฉัตร กิจเกษม อายุ  23 ปี สภาพสวมชุดนอนสีเทายาว มีบาดแผลถูกทุบด้วยของแข็งที่ศีรษะและใบหน้าเป็นแผลฉกรรจ์ ใกล้กันพบศพนายศราวุธ ไทยอุสาห์ อายุ29 ปี สภาพสวมเสื้อโปโลสีขาว กางเกงขาสั้นสีขาวดำ  ใช้สายไฟผูกคอกับช่องระบายอากาศเสียชีวิต แพทย์ระบุทั้งคู่เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1-2 วัน นอกจากนี้ที่ฝาผนังห้องมีข้อความเขียนด้วยปากกาเมจิก ว่า “ขอโทษพี่ถามเราแล้ว แต่เราก็ไม่ว่าอะไร  นี่แหละที่บอกว่าถ้าพี่ตายจะเอาเราไปอยู่ด้วย ขอโทษทุกคนเราเลือกทางออกไม่ได้”

ต่อมาแพทย์ได้ทำการชันสูตรศพ น.ส.ปิยฉัตร ถึงกับต้องผงะเมื่อพบว่าที่บริเวณช่องคลอดพบถุงน้ำคล่ำไหลออกมาและมีก้อน เนื้อคล้ายทารกคาอยู่ โดยนายชัยพันธุ์ ฉายศรีรุ่งศิริ  อายุ 48 ปี เจ้าของห้องเช่าเปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน เป็นสามีภรรยากันมาเช่าห้องอยู่ได้ประมาณ 1 เดือนครึ่ง โดยนายศราวุธ มีอาชีพขับรถบรรทุก ส่วนภรรยาไม่ได้ทำงานอะไรแต่จะออกติดตามสามีไปด้วยทุกครั้ง และไม่เคยได้ยินเสียงหรือเห็นว่าทั้ง 2 คนมีปากเสียงกัน เมื่อช่วงเช้ามีลูกน้องมาบอกว่าได้กลิ่นเหม็นโชยออกมาจากห้องจึงสั่งให้เปิด ประตู จึงพบว่าทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว

พ.ต.อ.อดุลย์  เปิดเผยว่า เบื้องต้นสันนิษฐานว่า นายศราวุธก่อเหตุทำร้ายร่างกายภรรยาตนเองจนเสียชีวิต จากนั้นได้ผูกคอฆ่าตัวตายตาม ส่วนสาเหตุคาดว่าคงมีปัญหาเรื่องชีวิตคู่ หรือปัญหาเรื่องของลูกที่อยู่ในท้อง และหาทางออกไม่ได้ โดยเขียนข้อความระบายออกมาไว้ที่ฝาผนังก่อนที่จะจบชีวิต อย่างไรก็ตามมอบศพให้เจ้าหน้าที่นำไปชันสูตร ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์ รังสิต เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=561&contentId=149935
105  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: อานิสงส์ถวายผ้าอาบน้ำฝน เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2011, 05:28:09 am
ปกติ เคยแต่ไปทำบุญ ไม่เคยได้อ่านประวัติความเป็นมา

อนุโมทนากับเนื้อเรื่อง ด้วย คร้า..

 :25:
106  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: การ เดินจงกรมดอกบัวเจ็ดดอก เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2011, 05:27:01 am
พึ่งเคยได้ยินเหมือนกัน คะ กับวิธีการ น่าสนใจ คงต้อง Email แล้วกระมังคะ

 :s_hi:
107  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: สมาชิกคิดอย่างไร ถ้าผมกำลังจะแต่งงาน กับเด็กอายุ 18 ปีครับ เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2011, 05:26:07 am
ถ้าถามความเห็นก็แสดงความยินดี ด้วยคะ คนจะรักกัน อายุ ฐานะ การศึกษา นั้นเป็นเรื่องที่พึงมองข้าม

แต่ที่จะให้อยู่กันยืด ก็ต้องมีศีล และ ทิฏฐิ ที่เสมอกันด้วยคะ ถึงจะอยู่กันยาว

ความเป็นผู้ใหญ่กว่า อาจจะทำให้ ความต่างของอายุเป็นอุปสรรค กับความรักบ้างนะคะ

สำหรับ ที่เห็นมาสำหรับคนที่มีอายุมาก กับเด็กที่มีอายุน้อยกว่า อยู่ด้วยกัน แบบสามี ภรรยา นั้น

เห็นอยู่กันไปไม่ตลอดรอดฝั่งคะ อยู่ได้ 10 ปี ก็ต้องเลิกรากัน คะ

 :s_hi:
108  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: มีใครเคยคิดว่า ตนเอง เป็นพระโสดาบัน บ้างครับ ? เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2011, 04:28:46 am
ก่อนอื่นต้องมาดูก่อนว่าการเป็นโสดาบันจะเอาเกณฑ์อะไรมาวัด  กันนะคร้า...

พระอริยะขั้นพระโสดาบัน นั้นละสังโยชน์ 3 ข้อ ได้แก่

1. สักกายทิฏฐิ ( ความเห็นว่าเป็นเรา เป็นของเรา เป็นตัว เป็นตนของเรา )

   ผล ที่พระโสดาบันบรรลุ คือมีความเห็นแจ้งชัดว่า ร่างกาย คือขันธ์ 5 นั้น มิใช่เรา มิใช่ของเรา มิใช่ตัว มิใช่ตนของเราความทุกข์ทั้งปวงเกิดจากความยึดมั่น ถือมั่น ต่อง สังขาร คือ ร่างกาย และ จิตใจ

2. วิจิกิจฉา ( ความสงสัยในเรื่องวัฏฏะสงสาร )
   
   ผลที่พระโสดาบันบรรลุ คือ สิ้นความลังเล สงสัย ในวัฏฏะสงสาร มีความศรัทธา เชื่อมั่นต่อพระรัตนตรัย

3. สีลัพพตปรามาส ( การปฏิบัติ ยึดถือ ในแบบที่ผิด อันเป็นไปภายใต้วังวนแห่งวัฏฏะ )

   ผลที่พระโสดาบันบรรลุ คือ เป็นผู้มั่นคงต่อศีล เรียกว่า มีศีลเป็นพื้นฐาน คือ กุศลกรรมบถ 10 ประการ

หมวยจ้า ค่อนข้างเชื่อว่าหลายคนที่เคยพิจารณากฏเกณฑ์นี้อาจมีความคิดเอนเอียงว่าตนได้บรรลุธรรมชั้นใดชั้นหนึ่งแล้ว แต่เชื่อเ้ถอะคร้า... เป็นความเข้าใจผิดมากคร้า...

  เพราะการบรรลุธรรม จริง ๆ นั้น ไม่ใช่เพียงความคิดว่า บรรลุ นะคร้า ต้องประกอบด้วย ญาณ คือความเห็นแจ้งรู้จริง ซึ่งจะปรากฏชัดเด่นแจ้ง ในเมื่อจิตของผู้ภาวนามีความสงบระงับ จาก นิวรณ์ 5 ประการไปแล้วคร้า

   :25: :25: :25:
109  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / จับหลักสมาธิ เป็นบันทึกที่น่าอ่านอีกเล่ม คร้า... เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2011, 04:17:38 am
http://www.xlsiam.com/meditationkey.pdf

จับหลักสมาธิ เป็นบันทึกที่น่าอ่านอีกเล่ม คร้า...

110  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ถามเรื่องเกี่ยวกับ การนั่งสมาธ ครับ เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2011, 04:10:55 am
การนอนเพื่อความเป็นสติ-สัมปชัญญะ

[๒๙๖]  ดูกรภิกษุทั้งหลาย  ประการอื่นยังมีอีก 

ภิกษุย่อมเป็นผู้ทำความ  รู้สึกตัวในเวลาก้าวไปและถอยกลับ 

ในเวลาแลดู  และเหลียวดู  ในเวลางอแขนและเหยียดแขน 

ในเวลาทรงผ้าสังฆาฏิ  บาตร  และจีวร  ในเวลา  ฉัน  ดื่ม  เคี้ยว  และลิ้ม 

ในเวลาถ่ายอุจจาระและปัสสาวะ 

ในเวลา  เดิน  ยืน  นั่ง นอนหลับ  ตื่น  พูด  และนิ่ง

เมื่อภิกษุนั้นไม่ประมาทมีความเพียร  ส่งตนไปในธรรมอยู่อย่างนี้ 

ย่อมละความดำริพล่านที่อาศัยเรือนเสียได้  เพราะละความดำริพล่านนั้นได้ 

จิตอันเป็นไปภายในเท่านั้น  ย่อมคงที่  แน่นิ่ง  เป็นธรรมเอกผุดขึ้น  ตั้งมั่น 

ดูกรภิกษุทั้งหลาย  แม้อย่างนี้  ภิกษุก็ชื่อว่า เจริญกายคตาสติ  ฯ

อุปริ.ม. ๑๔/๑๖๒/๒๙๖

http://www.etipitaka.com/read?language=thai&number=161&volume=14


ตรัสแก่พระอานนท์ เนื่องจากงานเยอะ(พระอุปัฏฐาก)
อานนท์ ! ฐานะที่ตั้งแห่งอนุสสติ มีเท่าไร ?
“มี ๕ อย่าง พระเจ้าข้า !”
ดีละ ดีละ อานนท์ ! ถ้าอย่างนั้น เธอจงทรงจำ ฐานะที่ตั้ง แห่งอนุสสติที่ ๖ นี้ไว้ คือ ภิกษุในกรณีนี้
มีสติก้าวไป
มีสติถอยกลับ
มีสติยืนอยู่
มีสตินั่งอยู่
มีสติสำเร็จการนอนอยู่
มีสติอธิษฐานการงาน
อานนท์ ! นี้เป็นฐานะที่ตั้งแห่งอนุสสติ ซึ่งเมื่อ
บุคคลเจริญกระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อ สติสัมปชัญญะ.
ฉกฺก. อํ. ๒๒/๓๖๓/๓๐๐.


ตั้งจิตน้อมไปเพื่อการนอน
อานนท์ ! ถ้าเมื่อภิกษุนั้น จิตน้อมไปเพื่อ การนอน
เธอก็นอนด้วยการตั้งใจว่า
บาปอกุศลธรรมทั้งหลาย กล่าวคือ อภิชฌาและโทมนัส จักไม่ไหลไปตามเราผู้นอนอยู่
ด้วยอาการอย่างนี้ ดังนี้ ในกรณีอย่างนี้ ภิกษุนั้น ชื่อว่า
เป็นผู้มีความ รู้สึกตัวทั่วพร้อมในกรณีแห่งการนอนนั้น
อุปริ. ม. ๑๔/๒๓๘/๓๔๘.
111  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ถามเรื่องเกี่ยวกับ การนั่งสมาธ ครับ เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2011, 04:09:00 am
นอนทำสมาธิ..โอกาสที่จะผล็อยหลับหมดสติมีสูงกว่าจะฝึกสติ...หลายเท่า
การนอนสมาธิเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการฝึกสติครับ
คือเรานั่ง..เดิน..ยืน..พอสมควรแก่เวลา..เราจึงนอนเพื่อจะหลับพักผ่อน

พยายามประคับประคองสติที่เราได้ฝึกมา..จดจ่อกับมันจนลมหายใจสุดท้ายก่อนหลับ
คงไม่มีใครตั้งหน้าตั้งตาฝึกสติด้วยการนอนเพียงอย่างเดียว
ยกเว้นเวลาที่เราขี้เกียจ..ความพากเพียรเป็นศูนย์
อันนี้ผมเป็นครับ..รู้เลยว่ามันเป็นข้ออ้างเวลาที่เราขี้เกียจ

เราฝักสติเพื่อเผากิเลสให้มันร้อน..
แต่การเอาแต่ความสบายเคลิบเคลิ้ม...นอกจากกิเลสไม่รู้ร้อนแล้ว
มันยังแอบยิ้มชอบใจอีกต่างหาก..???

   
 
 

จากคุณ : อารยัน
112  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Sleep Apnea : ง่วง นอนกรน นอนไม่อิ่ม เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2011, 04:00:38 am


ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ(sleep apnea) เป็นภาวะที่มีการหยุดหายใจเป็นระยะๆหรือมีการหายใจตื้นๆสลับกับการหายใจที่ เป็นปกติในระหว่างที่นอนหลับ ซึ่งช่วงการหยุดหายใจดังกล่าวอาจเป็นเพียงไม่กี่วินาทีหรืออาจยาวเป็นนาทีก็ ได้ โดยมักเกิด 5-30 ครั้งหรือมากกว่าในเวลา 1 ชั่วโมง ส่งผลให้นอนหลับได้ไม่เต็มที่ และมีอาการง่วงมากผิดปกติในช่วงระหว่างวันตามมา ซึ่งอาจนำมาสู่การเกิดอุบัติเหตุได้ เช่น การหลับขณะขับรถ เป็นต้น รวมทั้งสมาธิและความจำก็จะลดลง ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงไปด้วย

            โดยส่วนใหญ่แล้วภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่พบนั้นจะเป็นประเภทที่มีการอุดกั้น ของทางเดินหายใจ (obstructive sleep apnea) มีสาเหตุมาจากการคลายตัวของกล้ามเนื้อที่ทางเดินหายใจ การหนาตัวของเนื้อเยื่อผนังคอในผู้ที่มีน้ำหนักเกินมาก การโตของต่อมทอนซิลในเด็ก หรือภาวะเนื้องอกบริเวณทางเดินหายใจ เป็นต้น ซึ่งการที่อากาศต้องเดินทางผ่านทางเดินหายใจที่แคบลงสามารถก่อให้เกิด เสียงกรนขึ้นได้

            อีกประเภทหนึ่งที่พบได้น้อยกว่านั่นคือ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับเนื่องความผิดปกติของการสั่งงานของสมอง (central sleep apnea) ภาวะนี้สมองส่งสัญญาณควบคุมที่ผิดปกติไปยังกล้ามเนื้อในระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดการหยุดหายใจชั่วครู่

 อันตรายหรือไม่? หายานอนหลับมารับประทานเองได้หรือไม่?

            การหยุดหายใจขณะหลับทำให้ระดับออกซิเจนในเลือดลดลง ส่งผลให้สมองได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ จึงมีการกระตุ้นร่างกายให้ตื่นขึ้นมาเพื่อหายใจ เมื่อเกิดการหยุดหายใจบ่อยๆ ผู้ป่วยจึงหลับๆตื่นๆตลอดคืนและไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ ทำให้รู้สึกว่าตนเองนอนไม่หลับและตื่นขึ้นมาไม่สดชื่น จากระดับออกซิเจนในเลือดที่ลดลงประกอบกับการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ทำให้เกิดการหลั่งฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียด ส่งผลเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ และมีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงของภาวะความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นผิดจังหวะ และหัวใจวาย นอกจากนี้ภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่ไม่ได้รับการรักษายังสามารถนำไปสู่การใช้ พลังงานของร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป จึงเพิ่มความเสี่ยงของภาวะอ้วนและเบาหวาน

          จากที่กล่าวมาข้างต้น ผู้ป่วยบางรายที่รู้สึกว่าตนเองนอนไม่หลับนั้นจะพยายามหายานอนหลับมารับประ ทางเองเพื่อให้นอนหลับได้ดีขึ้น ซึ่งยานอนหลับบางชนิดที่ออกฤทธิ์กดประสาทแรง เช่น midazolam, alprazolam และ diazepamจะมีผลกดการกระตุ้นของร่างกายที่ทำให้ตื่นขึ้นเมื่อระดับออกซิเจนใน เลือดลดต่ำลง ดังนั้นการใช้ดังกล่าวอาจทำให้ผู้ป่วยถึงกับเสียชีวิตจากการหยุดหายใจได้ เพราะฉะนั้นแล้วจึงไม่ควรหายามาใช้เอง

 ปัจจัยเสี่ยงมีอะไรบ้าง?

            ภาวะหยุดหายใจขณะหลับพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง และมีการพบสูงขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น ผู้หญิงมักเริ่มมีภาวะนี้เมื่อตั้งครรภ์และเข้าสู่วัยทอง นอกจากนี้บุคคลที่มีโครงสร้างของระบบทางเดินหายใจแคบ ไม่ว่าจะเพราะโครงสร้างแต่กำเนิด ภูมิแพ้ หรือผลจากการใช้ยาบางชนิด มีแนวโน้มที่จะมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับมากกว่าปกติ

 จะสังเกตได้อย่างไร?

            ภาวะหยุดหายใจขณะหลับนี้ สามารถสังเกตเบื้องต้นได้จากอาการต่อไปนี้

    * การกรน ถือเป็นอาการหลักเนื่องจากการเกิดเสียงกรนเป็นลักษณะที่พบมากในผู้ที่มีภาวะ หยุดหายใจขณะหลับประเภทที่มีการอุดกั้นของทางเดินหายใจ และประเภทดังกล่าวเป็นประเภทที่พบได้มากดังที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น แต่มิได้หมายความว่าผู้ที่มีอาการกรนทุกคนจะมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ การกรนที่เกิดขึ้นอาจมีการหยุดเป็นช่วงๆร่วมกับการสำลักซึ่งการสังเกตดังกล่าวต้องอาศัยคนในครอบครัวหรือคนรอบตัวเป็นผู้สังเกต
    * อาการอ่อนล้าเมื่อตื่นนอนตอนเช้า หรือรู้สึกว่านอนไม่เต็มอิ่มทั้งๆที่นอนพักผ่อนเต็มที่แล้ว
    * อาการง่วงมากผิดปกติในช่วงระหว่างวัน จนทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานหรือเรียนลดลง
    * ในเด็กอาจหงุดหงิดง่าย สมาธิจดจ่อต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งสั้น ท่านอนผิดปกติ หรือปัสสาวะราดที่นอนในเวลากลางคืน

 ควรปฏิบัติตนอย่างไร?

            เมื่อเริ่มสังเกตหรือสงสัยว่าอาจมีภาวะดังกล่าว ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมต่อไป

 มีวิธีการรักษาหรือไม่? อย่างไรบ้าง

            วิธีการรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับมีหลากหลายตั้งแต่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การใช้เครื่องมือช่วยให้ทางเดินหายใจกว้างขึ้น ไปจนถึงการผ่าตัด ซึ่งการตัดสินใจเลือกใช้วิธีใดนั้นต้องพิจารณาตามความเหมาะสมตามแต่ละบุคคล จึงควรได้รับการดูแลจากแพทย์

            1. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

    * หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    * ห้ามใช้ยาที่มีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลางแรง เช่น ยานอนหลับ ยากล่อมประสาทบางชนิด
    * ควบคุมน้ำหนักหากมีภาวะน้ำหนักเกิน
    * เปลี่ยนท่าทางในการนอนเป็นท่านอนตะแคง หลีกเลี่ยงท่านอนหงาย เนื่องจากอาจทำให้เกิดการอุดกั้นของทางเดินหายใจได้ง่ายกว่าท่านอนตะแคง
    * เลิกการสูบบุหรี่

            2. การใช้เครื่องมือ

    * อุปกรณ์ mouthpieceช่วยปรับให้กรามล่างและลิ้นอยู่ในลักษณะที่ไม่ปิดกั้นทางเดินหายใจขณะนอนหลับ
    * เครื่องมือcontinuous positive airway pressure (CPAP) ลักษณะเป็นหน้ากากที่จะให้ลมที่ความดันเป็นบวกออกมา ทำให้ทางเดินหายใจไม่เกิดการอุดกั้น

            3. การผ่าตัด

                        ต้องอยู่ภายใต้ดุลยพินิจและการดูแลของแพทย์

 

บทความโดย: ภญ.กิตติมา วัฒนากมลกุล

ภาควิชาสรีรวิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล


http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/thai/knowledgeinfo.php?id=49
113  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ถามเรื่องเกี่ยวกับ การนั่งสมาธ ครับ เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2011, 03:59:22 am
โมคคัลลานสูตร

    [๕๘] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ป่าเภสกลา มิคทายวันใกล้สุงสุมาร
คีรน คร แคว้นภัคคะ ก็สมัยนั้นแล ท่านมหาโมคคัลลานะนั่งโงกง่วงอยู่ ณ บ้านกัลลวาลมุตตคามแคว้นมคธ พระผู้มีพระภาคได้ทอดพระเนตรเห็นท่านพระมหาโมคคัลลานะนั่งโงกง่วงอยู่ ณ บ้านกัลลวาลมุตตคาม แคว้นมคธด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุมนุษย์ ครั้นแล้วทรงหายจากเภสกลามิคทายวันใกล้สุงสุมารคีรนคร แคว้นภัคคะ เสด็จไปปรากฏเฉพาะหน้าท่านพระมหาโมคคัลลานะ ณ บ้านกัลลวาลมุตตคาม แคว้นมคธ เปรียบเหมือนบุรุษมีกำลังเหยียดแขนที่คู้ หรือคู้แขนที่เหยียด ฉะนั้น พระผู้มีพระภาคประทับนั่งบนอาสนะที่ปูลาดแล้ว ครั้นแล้วได้ตรัสถามท่านพระมหาโมคคัลลานะว่า ดูกรโมคคัลลานะ เธอง่วงหรือ ดูกรโมคคัลลานะ เธอง่วงหรือ ท่านพระมหาโมคคัลลานะกราบทูลว่า อย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ

    ดูกรโมคคัลลานะ เพราะเหตุนั้นแหละ เมื่อเธอมีสัญญาอย่างไรอยู่ ความง่วงนั้นย่อม
ครอบ งำได้ เธอพึงทำไว้ในใจซึ่งสัญญานั้นให้มาก ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้ถ้าเธอยังละไม่ได้ แต่นั้นเธอพึงตรึกตรองพิจารณาถึงธรรมตามที่ตนได้สดับแล้ว ได้เรียนมาแล้วด้วยใจ ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้ ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นเธอพึงสาธยายธรรมตามที่ตนได้สดับมาแล้วได้เรียนมาแล้วโดยพิสดาร ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้ ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นเธอพึงยอนช่องหูทั้งสองข้าง เอามือลูบตัว ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้ ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นเธอพึงลุกขึ้นยืน เอาน้ำล้างตา เหลียวดูทิศทั้งหลาย แหงนดูดาวนักษัตรฤกษ์ ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นเธอพึงทำในใจถึงเอาโลกสัญญา ตั้งความสำคัญในกลางวันว่า กลางวันอย่างไร กลางคืนอย่างนั้น กลางคืนอย่างไร  กลางวันอย่างนั้น มีใจเปิดเผยอยู่ฉะนี้ ไม่มีอะไรหุ้มห่อ ทำจิตอันมีแสงสว่างให้เกิด ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้ ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นเธอพึงอธิษฐานจงกรม กำหนดหมาย เดินกลับไปกลับมา สำรวมอินทรีย์ มีใจไม่คิดไปในภายนอก ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความ ง่วงนั้นได้

ถ้า ยังละไม่ได้ แต่นั้นเธอพึงสำเร็จสีหไสยา คือนอนตะแคงเบื้องขวา ซ้อนเท้าเหลื่อมเท้า มีสติสัมปชัญญะ ทำความหมายในอันจะลุกขึ้น พอตื่นแล้วพึงรีบลุกขึ้นด้วยตั้งใจว่า เราจักไม่ประกอบความสุขในการนอน ความสุขในการเอนข้าง ความสุขในการเคลิ้มหลับ ดูกรโมคคัลลานะเธอพึงศึกษาอย่างนี้แล ฯ



114  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ถามเรื่องเกี่ยวกับ การนั่งสมาธ ครับ เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2011, 03:56:06 am
เหตุเกิดของการง่วง...มีดังนี้คร้า....
๑.ความไม่ยินดี...ในการปฎิบัติธรรม
๒.ความเกียจคร้าน..ในการปฎิบัติธรรม
๓.ความเมาอาหาร...ไม่มีโภชเนมตันยุตา ...เลยเมาในอาหาร
๔.ความที่จิตหดหู่...ตรงนี้เกิดได้จากหลายๆเรื่อง..ครับ..เช่น..เหนื่อย...เป็นต้น

ดังนั้นนั่งสมาธิ ก็หลับได้นะคร้า....

การหลับในสมาธิ เป็นเรื่อง ปกติ ของผู้ปฏิบัติ เหมือนคนฟังธรรมะ แล้ว ก็หลับ ประมาณนี้คร้า....

ดังนั้น การป้องกันการหลับ ต้องให้งานแก่จิต คร้า...

 ตามหลักกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ต้องมีการวาง ปัคคาหะ จิต คร้า... เดินจิต บริกรรม วางอารมณ์


 :25: :25: :25:
115  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / Re: หลวงพ่อจรัญ สอนกรรมฐาน เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2011, 03:49:58 am
หลวงพ่อจรัญสอนกรรมฐาน 7/12



หลวงพ่อจรัญสอนกรรมฐาน 8/12



หลวงพ่อจรัญสอนกรรมฐาน 9/12



หลวงพ่อจรัญสอนกรรมฐาน 10/12

หลวงพ่อจรัญสอนกรรมฐาน 11/12



หลวงพ่อจรัญสอนกรรมฐาน 12/12     

116  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / หลวงพ่อจรัญ สอนกรรมฐาน เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2011, 03:46:58 am
หลวงพ่อจรัญ สอนกรรมฐาน 1/12



หลวงพ่อจรัญ สอนกรรมฐาน 2/12



หลวงพ่อจรัญ สอนกรรมฐาน 3/12



หลวงพ่อจรัญ สอนกรรมฐาน 4/12



หลวงพ่อจรัญ สอนกรรมฐาน 5/12



หลวงพ่อจรัญ สอนกรรมฐาน 6/12   




 
117  เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / สมาธิรักษาโรค เรื่องจริงของคุณพวงพิกุล ทิพย์สังวาลย์ เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2011, 03:43:20 am
สมาธิรักษาโรค

 

พวงพิกุล ทิพย์สังวาลย์

R13001

 

        แรงบันดาลใจที่ทำให้ดิฉันเขียนเรื่องนี้มา เพื่อที่จะให้เป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยด้วยโรคร้ายทั้งหลาย ได้มีกำลังใจต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บด้วยความอดทน พร้อมที่จะสร้างกำลังใจให้กับตนเอง โดยการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานเพื่อรักษาโรค

          ดิฉันโชคดีที่ได้เกิดมาในครอบครัวที่ดี คุณพ่อเป็นคนเก่งแต่ดุมาก คุณแม่เป็นคนดีมีเมตตากรุณา มีจิตใจงดงามมาก ดิฉันมีพี่น้องเป็นผู้หญิงทั้งหมด ๓ คน ปัจจุบันเสียชีวิตหมด ดิฉันจึงเป็นลูกคนเดียวที่ต้องดูแลคุณแมที่เจ็บป่วยด้วยการรักษาโดยการผ่าตัดมาแล้ว ๓ ครั้ง (คุณพ่อเสียชีวิตเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๗)

            ดิฉันเป็นข้าราชการครูธรรมดาคนหนึ่ง สามีก็รับราชการครูเช่นเดียวกัน ดิฉันมีลูก ๓ คน คนที่ ๑ และ ๒ เป็นผู้หญิง ได้เรียนต่อในระดับอุดมศึกษาพร้อมกัน ในมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) คณะบริหารธุรกิจ ส่วนคนสุดท้ายเป็นผู้ชาย

          ในวันธรรมดา ดิฉันจะดูแลคุณแม่ตลอด แต่วันเสาร์ – อาทิตย์ ดิฉันต้องเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปดูแลลูกเพื่ออบรมลูกเป็นคนดี เพราะดิฉันคิดว่า ถ้าเขาเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว โอกาสที่จะสอนเขาให้เป็นคนดีมีน้ำใจ มีเมตตากรุณาต่อผู้อื่นนั้นคงยาก

          ดิฉันได้ซื้อคอนโดใกล้มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญให้ลูกทั้ง ๓ คน พักอาศัยอยู่ด้วยกัน ลูกคนสุดท้องเรียนที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จากการที่ลูกเรียนมหาวิทยาลัยทั้ง ๓ คน จึงเป็นภาระที่หนักมาก เงินเดือน ๒ คนรวมกัน แม้จะไม่ถูกหักเลย ก็ไม่พอส่งลูกเรียน ดิฉันเริ่มเป็นหนี้ธนาคาร

          ในปี ๒๕๓๙ ลูกคนที่ ๒ ก็ป่วยมีอาการเหมือนเป็นไข้หวัด ตัวร้อนจัด หน้าซีด ได้พาส่งโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้คอนโด หมดให้ยาแก้ไข้ แต่อาการไม่ดีขึ้นเลย จึงพาส่งโรงพยาบาลภูมิพล พักรักษาในห้องพิเศษ ลูกอายุเกิน ๒๐ ปี จึงเบิกค่ารักษาพยาบาลไม่ได้เลย แต่ดิฉันก็ไม่เกี่ยงค่ารักษาพยาบาล อยู่ในโรงพยาบาลได้ ๒ วัน สามีก็โทรศัพท์มา บอกว่า แม่ไม่สบาย ดิฉันได้บอกให้สามีพาแม่เข้ารักษาในโรงพยาบาลประชาเวช จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ดีมาก เพราะดิฉันตั้งใจว่า ถ้าแม่ป่วยอีกครั้งหนึ่งจะพาแม่รักษาในโรงพยาบาลที่ดีที่สุด เพราะตอนนั้นแม่อายุเกือบ ๘๐ ปีแล้ว ดิฉันต้องขออนุญาตหมอพาลูกสาวซึ่งอาการหนักมาก และยังไม่รู้ว่าป่วยเป็นโรคอะไร มารักษาด้วยกันกับยาย หมอได้ให้สเตอร์รอยด์กับลูก และต้องผ่าตัดยายเป็นการด่วน เพราะมีนิ่วในท่อน้ำดี ถึง ๔ ก้อน ก้อนละ ๔ ซ.ม. ดิฉันกังวลมาก เพราะแม่อายุมากแล้ว แต่ก็ได้รับกำลังใจจากคุณหมอ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประชาเวช ได้ยืนยันว่าจะรักษาคุณแม่อย่างสุดความสามารถ หลังแม่ผ่าตัดออกมา ฟื้นเร็วมาก แม่เห็นดิฉันเป็นคนแรก ดิฉันได้ดูแลคนป่วยทั้ง ๒ คน ด้วยความเต็มใจและเอาใจใส่อย่างที่สุด

          ดิฉันกล้าพูดได้เลยว่า ดิฉันเป็นคนเฝ้าไข้ที่ดีที่สุด บางคืนดิฉันไม่ได้นอนเลย อาศัยหลับในสมาธิ มหัศจรรย์มาก ดิฉันสามารถอยู่ได้โดยในเวลากลางวันไม่ได้งีบหลับเลย ซึ่งในตอนหลังดิฉันได้นึกถึงคำสอนของหลวงพ่อจรัญที่บอกว่าผู้ให้ย่อมมีความสุขที่สุด ธรรมะของพระพุทธองค์ยิ่งใหญ่นัก ดิฉันได้ทำหน้าที่ของลูกและแม่ในเวลาเดียวกัน ลูกได้รับการรักษาในโรงพยาบาลได้ ๕ วัน อาการดีขึ้น แต่คุณแม่มีอาการแย่ลง กินอาหารไม่ได้เลย ทุกคนบอกว่าแม่ไม่รอดแน่ ลูกคนที่สองของดิฉันเห็นแม่มีภาระเรื่องของยายมาก จึงเดินทางกลับไปเรียนที่กรุงเทพฯ คนเดียว ดิฉันได้วิ่งเต้นสุดฤทธิ์เพื่อจะได้เงินมาซื้อสารอาหารที่แพงมาก ระยะเวลาที่แม่อยู่โรงพยาบาลก็ยืดออกไปอีก เป็นเวลาถึงเดือนเศษ ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก แต่ดิฉันก็ยินดีและเต็มใจเป็นอย่างยิ่งที่จะเสียเพื่อได้ หลังได้รับสารอาหารแม่มีอาการดีขึ้นมาก แต่ก่อนที่ไม่จะได้ออกจากโรงพยาบาล ลูกคนที่สอง มีอาการหนักมาก และกลับเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลประชาเวช อยู่ในห้องเดียวกันกับยาย ดิฉันได้พาแม่กลับบ้าน แต่ให้สามีและหลานดูแลแม่แต่อ ดิฉันได้กลับมาดูแลลูกในโรงพยาบาลต่อ หมดได้ตรวจลูกอย่างละเอียด จึงได้ทราบว่าลูกป่ายเป็นโรค S.L.E (โรคเดียวกับคุณพุ่มพวง) โดยลูกสาวของดิฉันมีอาการอักเสบที่ไตและหัวใจ และในวันที่ ๒๘ เมษายน ลูกก็มีอาการอักเสบที่สมอง คือ บ้าเลย ตาขวาง เดินเหมือนหุ่นยนต์ สุดท้ายนอนนิ่งไม่พูดไม่อ้าปาก ปัสสาวะรดที่นอนตลอดเวลา เหงื่อออกท่วมตัว แต่มีอาการหนาวสั่นต้องห่มผ้าถึง ๕ ผืน ลูกคงทรมานมาก คุณหมอบอกว่าอาการทางสมองนี้ต้องใช้เงินรักษาเป็นหลักล้าน ถ้าภายใน ๓ วัน ลูกไม่พูดไม่อ้าปากไม่สนองตอบด้วยอาการใด ๆ หมดจะช็อตด้วยไฟฟ้า ทุกคนไม่อยากให้ลูกถูกช็อตด้วยไฟฟ้า ดิฉันและสามีเข็นเตียงเข้าไปใกล้ลูกที่สุด นอนกอนเขาตลอดเวลา ๒ วัน น้องชายและพี่สาวก็จับขาเรียกเขาตลอดเวลา และนึกขึ้นมาได้จึงบีบจมูก พอเขาอ้าปากก็กรอกยาเข้าไป ลูกฟื้นขึ้นมาในตอนเช้าของวันที่ ๓ จิตแพทย์เริ่มเรียกความทรงจำเขาคืนมา โดยถามว่าเขาชื่ออะไร ลูกก็ตอบหมดได้ว่า ชื่อเล่นชื่อน้อยหน่า ชื่อจริงคือ น.ส.พิลาสินี ทิพย์สังวาลย์ เรียนที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ลูกบอกว่า ๓ วันที่เขานอนนิ่งอยู่เฉย ๆ นั้น รู้สึกว่าตัวเองไม่มีแขนขา เหลือแต่จิตดวงเดียว

          ในการรักษาลูกครั้งนี้ ต้องใช้หมอผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรค ๒ คน จิตแพทย์อีก ๒ คน เสียค่าใช้จ่ายไปเป็นจำนวนมาก แต่ดิฉันไม่เคยคิดเสียดายเลย คนมีค่ามากกว่าเงินมากมายนัก แม่ดิฉันมีอาการดีขึ้นเป็นอย่างมาก แต่วันหนึ่งแม่นอนเล่นอยู่ที่เปลใต้ต้นมะม่วง มะม่วงลูกใหญ่หล่นมาถูกท้องแม่ เลยต้องส่งเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง และได้อยู่ในห้องเดียวกันกับลูกอีกครั้ง จากการรักษาอย่างดี อาการปวดท้องของแม่ก็ทุเลาลง แต่สำหรับลูกสาวของดิฉัน จิตแพทย์บอกว่า S.L.E. ไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ รักษาได้โดยวิธีเดียว คือ ฝึกสมาธิจนจิตสงบในระดับหนึ่ง แล้วกลับคำสั่งไม่ให้ภูมิคุ้มกันไปทำลายอวัยวะตัวเอง ทุกวันเวลา ๑๗.๐๐ น. จิตแพทย์จะมาพาลูกนั่งสมาธิ ตอนนั้นลูกพูดง่ายมาก บอกให้ทำอะไรก็ทำ พอฝึกได้ครบ ๕ วัน ก็เกิดโอภาสขึ้นเหนือสะดือขึ้นมา ๒ นิ้ว สามารถเขียนภาษาอังกฤษด้วยคำศัพท์ยาก ๆ ได้ ๔ – ๕ แผ่น จิตแพทย์บอกว่า ตอนที่เขาอักเสบทางสมองนั้น เท่ากับได้ไปกระตุ้นสมองให้เกิดความเป็นอัจฉริยะด้านภาษาขึ้น ประกอบกับเขาได้ฝึกนั่งสมาธิทุกวัน ทำให้อาการทางสมองที่ยังอักเสบอยู่ไม่ได้แสดงอาการทางกายเป็นที่น่าเกลียดเหมือนคนไข้รายอื่น นอกจากพอเดินผ่านเตียงคุณยายเขาจะเดินเร็ว ๆ เข้าไปหายายที่นอนป่วยอยู่เป็นประจำ จนดิฉันต้องเอาม่านมากั้นไว้กลัวยายจะตกใจ ดิฉันเกิดความเครียดสะสมที่เฝ้าไข้คุณแม่และลูก หลายเดือนเข้าก็เกิดแผลที่กระเพาะอาหาร ปวดท้องอย่างรุนแรงจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลไปอีกคน เลยกลายเป็นคนป่วยเฝ้าคนไข้ แต่ดิฉันก็สู้เสมอไม่ยอมถอย ถึงแม้จะไม่ได้หลับไม่ได้นอนเต็มที่ แต่ลึก ๆ แล้ว ดิฉันก็เป็นสุขใจที่ได้มีโอกาสทดแทนพระคุณของคุณแม่ที่เลี้ยงดูดิฉันมา แม่อาการดีขึ้นมาก ได้ออกจากโรงพยาบาลก่อนลูกสาว สามีดิฉันต้องทำหน้าที่ดูแล้คุณแม่อีกตามเคย

          คุณหมอทั้ง ๔ คนได้ทำการรักษาลูกอย่างสุดความสามารถ โดยบอกว่าอาการทางสมองนี้จะหายเร็วที่สุดประมาณ ๖ เดือน แต่จากการนั่งสมาธิทุกวันของลูกสาว ลูกก็หายจากอาการอักเสบทางสมองในเวลา ๑ เดือนกับ ๑ วัน กลับไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเดิมได้ตามปกติ แต่ต้องเปลี่ยนคณะใหม่คือ คณะศิลปศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ ลูกยังคงนั่งสมาธิทุกวันเพื่อรักษาตัวเองต่อ ตอนนี้ลูกต้องไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลทุกเดือน แต่ไม่ต้องนอนรักษาที่โรงพยาบาล อาการอักเสบทางสมองก็ไม่เกิดขึ้นกับลูกอีกเลยเป็นเวลากว่า ๓ ปีแล้ว จากการนั่งสมาธิอย่างสม่ำเสมอ ทำให้อาการของลูกดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะในด้านการเรียนภาษาอังกฤษดีขึ้นจนเห็นได้ชัด เกรดเฉลี่ยเพิ่มมากขึ้น ลูกเรียนหนังสืออย่างมีความสุข ลูกยังคงสวยเหมือนเดิม ผิวพรรณก็ผุดผ่อง วาจาไพเราะเสียงใส ลูกบอกว่าการฝึกสมาธิเป็นประจำ ทำให้หนูมีจิตใจที่ดีงาม รักเพื่อนมนุษย์ทุกคน มีเมตตาไม่อิจฉาริษยาใคร ดิฉันไม่เคยได้ยินลูกนินทาใครเลย เขาบอกว่าตามความคิดเห็นของลูก โรค S.L.E. น่าจะเกิดจากความเครียด และอาการที่ร้อนมากนั่นเอง เขาบอกว่าหนูโชคดีที่ป่วยด้วยโรคนี้ ทำให้หนูขยันนั่งสมาธิมากกว่าเดิม เพราะต้องนั่งเพื่อให้ตัวเองรอดจากโรคนี้ เลยเป็นผลพลอยได้ทำให้การเรียนดีขึ้นมาก และมีโอกาสที่จะจบเอแบคได้เท่ากับคนดี ๆ ที่ไม่ป่วย ถ้าไม่มีอุปสรรคอะไรลูกจะจบภายในเดือนตุลาคม ๒๕๔๒ นี้ ลูกบอกว่าในที่สุดความฝันของหนูก็เป็นความจริง เพราะตอนเด็ก ๆ เขาชอบภาษาอังกฤษมาก แต่เรียนได้ไม่ดีเท่าที่ควร หลังจากได้นั่งสมาธิแล้ว สารเอนโดฟิลได้หลั่ง ทำให้ช่วยรักษาโรค และสามารถช่วยให้ทำงานหรืออ่านหนังสือได้ทั้งวันโดยไม่เหนื่อย

          ลูกคนโตก็นั่งสมาธิเป็นประจำ บอกว่ามีประโยชน์มาก ทำให้เรียนภาษาได้ดี ลูกคนนี้มีความกตัญญูมาก เขามักพูดอยู่เสมอว่า เมื่อเขาเรียนจบแล้ว เขาจะส่งน้องชายคนสุดท้องเรียน แม่ไม่ต้องห่วง แม่เคยดูแลยายอย่างไรหนูก็จะดูแลแม่อย่างนั้น ลูกเป็นกำลังใจที่สำคัญมากสำหรับดิฉัน จากการต้องส่งลูกเรียนในมหาวิทยาลัยทั้ง ๓ คน และต้องรักษาคนป่วย ทำให้ดิฉันมีปัญหาเรื่องการเงิน มีหนี้สิน แต่ดิฉันก็ไม่เคยท้อถอย ดิฉันโชคดีมากที่มีโอกาสได้ตอบแทนพระคุณของแม่ ได้ซื้อชีวิตให้ลูก ได้ทำหน้าที่ของลูกและของแม่ในเวลาเดียวกัน

          การที่ดิฉันได้เฝ้ารักษาและดูแลคุณแม่ในขณะที่แม่เจ็บป่วยนั้น บุญกุศลได้ส่งผลเร็วมาก คือ คุณหมอผู้อำนวยการและคุณหมออื่น ๆ ในโรงพยาบาลนี้ได้ให้กำลังใจดิฉันในการรักษาแม่และลูก และได้ดูแลดิฉันในขณะที่ดิฉันเป็นโรคกระเพาะเป็นอย่างดี พระคุณครั้งนี้ดิฉันไม่มีวันลืม ลูกและแม่ประทับใจในความเอาใจใส่ของคุณหมอมาก ลูกบอกว่าหมอที่นี่คือเทวดา ไม่เคยเห็นหมอใจดีอย่างนี้เลย ถ้าเขาหายเด็ดขาดจากโรค S.L.E. คุณหมอได้ขอร้องลูกสาวไว้ว่า ให้มาช่วยบรรยายให้นักศึกษาแพทย์ฟัง เพื่อเป็นประโยชน์ต่อคนป่วยที่เป็นโรค S.L.E. เขาจะได้ไม่ตาย

          จากการดูแลคนป่วยทั้ง ๒ คน ทำให้ดิฉันได้ข้อคิดว่า ปัญหาทั้งหลายของมนุษย์นั้นสามารถแก้ได้เสมอ ถ้าเราพยายามแก้ไขปัญหานั้นด้วยสติ ใช้ความสามารถ ความมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี มีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีน้ำใจต่อผู้อื่น สำคัญที่สุดคือ มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณทั้งหลาย การที่ดิฉันได้ทุ่มเททั้งกำลังกาย และกำลังใจดูแลคุณแม่และลูกสาว ทำให้ดิฉันได้สมมุติฐานของโรค พร้อมที่จะบอกอาการของทั้ง ๒ คน กับคุณหมอได้ตลอดเวลา ทำให้ง่ายต่อการรักษา ในปีนั้นดิฉันได้ลางานถึง ๑๒ ครั้ง ในการดูแลคนป่วย ดิฉันได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว ไม่เสียทีที่เกิดมาเป็นคน ดิฉันได้อ่านหนังสือธรรมะของหลวงพ่อจรัญ เรื่อง กรรมฐานแก้ปัญหาชีวิตแล้ว รู้สึกซาบซึ้งในคำสอนนั้นมาก ๆ ขณะนี้โรคกระเพาะของดิฉันดีขึ้นมากโดยไม่ต้องใช้ยาเลย กรรมฐานรักษาโรคได้จริง ๆ

          ดิฉันได้น้อมระลึกถึงคำสอนของหลวงพ่อจรัญ ที่พร่ำสอนอยู่เสมอว่า จงเป็นผู้ให้โดยไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ แม้แต่คำขอบคุณ ให้เป็นคนดีมีน้ำใจ กตัญญูต่อบุพการี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รักได้แม่กระทั่งศัตรูตัวเอง ทุกครั้งที่ได้ฟังเทศน์ของหลวงพ่อจรัญ ดิฉันจะมีกำลังใจต่อสู้ชีวิตเสมอ ดิฉันโชคดีที่มีโอกาสมารับใช้ศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนเวฬุวัน (เป็นวิทยากรพิเศษ) ถือว่าเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้ขึ้นไปช่วยในโครงการอบรมบนศาลาพระราชสุทธิญาณมงคล พระอาจารย์พระครูสมุห์ธีรวัฒน์ ฐานุตตโร ท่านวิทยากร และทุกคนในศูนย์ปฏิบัติสวนเวฬุวันแห่งนี้ ได้ให้ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เห็นอกเห็นใจ ให้กำลังใจดิฉันในการต่อสู้ชีวิต พระคุณครั้งนี้ดิฉันจะไม่มีวันลืม ดิฉันจะขอรับใช้หลวงพ่อจรัญ และศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนเวฬุวัน เท่าที่โอกาสจะอำนวย ไม่มีที่พึ่งใดจะอบอุ่นเท่าธรรมะของพระพุทธองค์อีกแล้ว ดิฉันคิดว่าเดินมาถูกทางแล้ว และได้ตั้งใจไว้ว่าจะทำงานด้านพัฒนาจิตให้เกิดประโยชน์สูงสุด เท่าที่จะทำได้
นางพวงพิกุล ทิพย์สังวาลย์

อาจารย์ ๒ ระดับ ๗ โรงเรียนผดุงนารี จ.มหาสารคาม

http://www.alternativecomplete.com/jarun/j5.htm


118  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: อุตุฯ เตือนเหนือ-ตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตกฝนยังตกหนัก เมื่อ: มิถุนายน 29, 2011, 08:28:33 pm
ช่วงนี้ เกิด อุบัติภัย หลายอย่างทั่วโลก ประเทศไทย ก็ไม่เว้น น่าเป็นห่วงเหมือนกันนะคร้า...
โดยเฉพาะเรื่อง น้ำท่วม น่าจะเป็นปกติ ของ เมืองไทยแล้ว

แต่ที่เห็นแถมมา ก็ แผ่นดินไหว ที่ พังงา นี้สิ อาจจะทำให้เกิด ซึนามิ เหมือนที่ประเทศญี่ปุ่นได้นะคร้า...

 :'(
119  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: วันธงไชย ในปี 2554 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2011, 08:26:31 pm
ดูแลสุขภาพ ด้วยนะคร้า... ลุงกิตติศักดิ์ ...
ขอบคุณแทนเพื่อน ๆ ด้วยคร้า... ที่มานำเสนอ มิได้ขาดหายไป

 :s_hi: :25:
120  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: งาน "อาสาฬหบูชา ธรรมยาตราคุ้มครองโลก" ในช่วงเดือน มิ.ย. - ก.ค. 2554 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2011, 08:25:34 pm
เป็นกำลังใจ สำหรับเนื้อหา ข่าวสารที่นำเสนอ ด้วยคร้า...

และมีประโยชน์มากคร้า ... สนใจหลายงาน เลยคร้า...

 :25: :c017:
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 28