ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: จันทกินรีชาดก-ชาดกว่าด้วยความผูกพันจงรักภักดี  (อ่าน 2677 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

นิรตา ป้อมนาวิน

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1212
  • อย่างน้อยชาตินี้ขอปิดอบายภูมิ
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์

จันทกินรีชาดก-ชาดกว่าด้วยความผูกพันจงรักภักดี

 ครั้งเมื่อพระพุทธศาสดาเสด็จสู่แคว้นสักกะแห่งศากยวงศ์ พร้อมพระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร อัครสาวกเบื้องซ้ายและขวาและสังฆสาวกทั้งมวล พุทธกาลครั้งนั้นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จไปยังกรุงกบิลพัสดุ์นครหลวงของแคว้นสักกะ เพื่อแสดงธรรมโปรดพระเจ้าสุทโธทนะพระราชบิดา
 เมื่อพระองค์เสด็จมาถึงพระเจ้าสุทโธทนะและพระประยูรญาติทูลนิมนต์เสด็จเข้าประทับยังพระราชนิเวศน์ตามประเพณี “ศากยวงศ์ของเราเตรียมพระพุทธอาสน์ไว้เป็นอันดีแล้วยังพระราชฐานชั้นในพระพุทธเจ้าคะ” “ขออาราธนาพระพุทธองค์เสด็จโปรดยังเขตระโหฐานชั้นในด้วยเถิดพระเจ้าคะ”
 การทูลนิมนต์ให้เสด็จโปรดราชนิกูลเขตระโหฐานชั้นในครั้งนั้นเพราะพระประยูรญาติต้องการดับทุกข์โศกแห่งพระนางยโสธราพิมพาผู้เคยเป็นมเหสีในพระสิทธัตถะนั่นเอง “อันยโสธราพิมพานั้นมีจิตใจภักดีมั่นคงเหลือเกิน ขณะที่พระศาสดาเจ้าออกผนวชนั้น ก็มิได้มีความสุขสำราญได้สักวันเดียว
เธอเก็บพระองค์เงียบอยู่แต่ในพระราชฐานที่ประทับ ทุกทิวาราตรีก็ไม่มีเสียงเพลงพิณขับกล่อมดังที่เคยเป็น แม้ความงดงามและจริยาวัตรเป็นที่เลื่องลือมานานปี แต่พระนางก็หาได้ใยดีไม่ และไม่เคยแม้สักครั้งที่พระองค์จะยินดีต่อเจ้าชายเมืองใด” “ทำไม?..พระนางยโสธราพิมพาช่างไม่สนใจใยดีเราแม้สักนิด”
 “เฮ้ย เราก็ดูสง่างามภูมิฐานขนาดนี้ พระนางก็ยังไม่เหลียวแล” “พระนางซื่อสัตย์และมั่นคงน่ายกย่องยิ่งนัก เฮ้อ..เราคงหมดหวังแล้วสิเนี่ย” เมื่อพระบรมศาสดาเสด็จถึงพระตำหนักชั้นใน พระนางยโสธราพิมพาก็ทรุดองค์ลงกราบแทบพระบาท กรรแสงร่ำไห้ต่อหน้าพระพักตร์ตามวิสัยสตรี
 “หม่อมชั้นดีพระทัยที่พระองค์เสด็จมาเพคะ” เพื่อบรรเทาความเสียใจ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสถึงความดีของพระนางขึ้นเป็นข้อสังเกต แล้วตรัสถึงอดีตชาติหนึ่งที่เคยใช้ชีวิตคู่กันยังภูเขาคันธมาส ซึ่งพระนางพิมพาขณะนั้นก็จงรักภัคดีต่อพระองค์มิได้ด้อยกว่ากาลเวลานี้เลย
 หลายภพหลายชาติผ่านมาเธอเคยร่วมทุกข์สุขแม้กระทั่งเสียสละชีวิตให้กันก็เคยมาสิ้นแล้ว ตรัสดังนั้นพระเจ้าสุทโธทนะพระประยูรญาติฝ่ายศากยวงศ์และพระนางยโสธราพิมพาจึงใคร่ทราบเรื่องราวในอดีตนั้นยิ่งนัก “ขออาราธนาพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงธรรมนี้เพื่อประโยชน์แห่งปัญญาของปวงข้าด้วยเถิด”
 “ชาดกนั้นเป็นเช่นไรเพคะ” สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงระลึกชาติด้วยบุพเพนิวาสนุสติญาณตรัสจันทกินรีชาดกขึ้น ไกลจากคงคามหานทีไปทางเหนือ ยังมีป่าใหญ่ไพรกว้างอันอุดมสมบูรณ์อยู่นอกพระนครไปจรดภูผาสูง เจ้าเมืองผู้ครองนครยังหนุ่มฉกรรจ์ และโปรดปรานการล่าสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ ฆ่าสัตว์ได้ก็ทำอาหารกินในป่า
 “วันนี้อากาศสดชื่นท้องฟ้าสดใส ล่านกมาย่างดีกว่า ฮะฮ่าฮาฮ้า...มีความสุขจริงๆ” ครั้งหนึ่งเจ้าเมืองผู้โหดร้ายออกล่าสัตว์ไปยังป่าเชิงเขาคันธมาส ที่นี่มีสัตว์ป่าชุกชุมเพราะชาวป่าที่อยู่บนภูเขาไม่นิยมฆ่าสัตว์ตัดชีวิต การมาของนักฆ่าผู้นี้จึงเป็นเรื่องเลวร้ายอันปรากฏขึ้นที่นี่ “อือ..อร่อยจริงๆ ตัวก็ใหญ่ เนื้อก็หวาน”
  บนภูเขาสูงที่ชื่อว่าคันธมาสนั้นอบอวลด้วยกลิ่นสมุนไพรหอมเป็นที่อยู่ของคนภูเขาซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเผ่าพันธุ์กินรี ทุกครอบครัวอยู่กินกันอย่างมีความสุข ในฤดูฝนจะพากันเก็บตัวอยู่บนนั้น เข้าสู่ฤดูหนาวถึงจะพากันทยอยกันลงมาหาอาหารยังผืนป่าเบื้องล่าง กินรีเหล่านี้ยังมีสามีภรรยาคู่หนึ่งวิวาห์อยู่กินกันมาไม่นานนัก
ฤดูหนาวครั้งนี้ทั้งสองเพิ่งลงมาพักผ่อนหย่อนใจด้วยกันเป็นครั้งแรก ต่างคลอเคลียเจรจาภาษารักไพเราะป่านนกป่าขับเพลงแห่งพงไพร “แม่คุณของพี่ ขอพี่สัมผัสแก้มหอมๆ อีกหน่อยนะจ๊ะ พี่อยากรู้ว่าดอกไม้ช่อนี้ยังจะสู้กลิ่นแก้มของน้องได้ไหม๊” “อุ๊ย!..ไม่ได้หรอก พี่นะต้องไปหาดอกไม้มาให้เยอะกว่านี้ก่อนจ๊ะ น้องถึงจะยอม
 พี่จ๊ะสวมพวงมาลัยนี้ซิ น้องทำให้พี่ถือว่าเป็นพวงมาลัยสัญญาระหว่างเรา ว่าเราจะมีความสุขด้วยกันอย่างนี้ตลอดไป ทุกฤดูเราจะดูแลกันและกันอย่างนี้นะจ๊ะ” “ได้ซิจ๊ะ พี่สัญญาต่อเจ้าป่าเจ้าเขาเทพดาผู้รักษาป่าไว้แล้วจ๊ะ ว่าจะเป็นกินนรกินรีที่คู่กันจนตายจาก” “พี่อย่าพูดเป็นลางอย่างนี้ซิจ๊ะ ที่นี่ร่มรื่นดีจังเลยนะพี่ นกร้องขับขาน ฟังแล้วมีความสุข พี่ว่าไหม๊จ๊ะ”
  “ที่ไหนที่ที่มีน้องอยู่ด้วย พี่ก็มีความสุขทั้งนั้นแหละจ้า” สาวหนุ่มยามหัวใจเบิกบานด้วยความรัก ป่าเขาลำเนาไพรก็กลายเป็นสวรรค์ ทั้งสองขับเพลงแห่งความสุขมาประสานกันเสียงระงมไพร สาวขับร้อง หนุ่มตีเกราะเคาะไม้เป็นดนตรีโดยไม่มีใครสัมผัสกับภัยร้ายที่พานมาพบเข้าเลยสักน้อย มหาภัยผู้นี้ก็คือเจ้าเมืองนักล่าสัตว์ที่เคราะห์กรรมชักนำมานี่เอง
 “โอ้โฮ้..นางฟ้านางสวรรค์ตกมาอยู่ในป่าหรืออย่างไร ช่างสวยงามจับใจข้ายิ่งนัก เฮ้ย..นางมีเจ้าของแล้วรึเนี่ย ขวางหูขวางตาข้าซะเหลือเกิน อย่างนี้ต้องกำจัดทิ้ง นางงามคนนี้จะได้เป็นของข้า ฮ้า ฮา ฮ่า ๆๆๆๆ” “โอ๊ะ!!” จากความคิดวูบเดียว เจ้าเมืองก็ทำลายชีวิตชายหนุ่มลงเพียงเพื่อจะแย่งภรรยาเขา “ว๊าย!..ใคร..ใครทำร้ายพี่” “เจ้าหนีไปเร็วๆ เข้า” “ไม่!...ข้าไม่ไป ข้าจะอยู่กับพี่”
 ความสุขทั้งหมดพลันสลายลง เมื่อหนุ่มชาวภูเขาล้มลงนอนในอ้อมกอดสาวคนรัก ตัวสั่นระริกอย่างเจ็บปวด “ฮือๆๆ พี่ต้องไม่เป็นไรนะ แล้วน้องจะช่วยพี่ยังไงดี ฮือๆๆๆ” นางงามกรีดร้องปานถูกกรีดดวงใจในบัดนั้น “ฮือๆๆ มันผู้ใดช่างใจร้ายนัก ข้าและสามีไม่เคยทำชั่วใยต้องรับกรรมเช่นนี้ ฮือๆๆ” “เจ้าจะคร่ำครวญไปใยเล่าน้องคนสวย”
 “เจ้าคนใจชั่ว เราไปทำอะไรให้เจ้า ทำไมต้องเอาชีวิตกันด้วย” “ตัดใจเถิดคนงามเอ๋ย ทิ้งเจ้านั้นเสียแล้วไปเป็นท่านผู้หญิงของข้าซะเถอะ ข้าจะดูแลเจ้าอย่างดี” “ไปตามทางของเจ้าไป คนใจบาปหยาบช้า สิ้นชายผู้นี้ไปเราก็ไม่ปรารถนาสิ่งใดอีกแล้ว” “เจ้าไม่สนใจแน่นะทั้งเสื้อผ้าแพรพันอย่างดีเลิศ เพชรนิลจินดาข้าทาสบริวารอีกมากมายในเวียงวังของข้านะ ฮ้า!...”
  “ปล่อยเราไว้ในป่านี้เถอะ นอกจากเขาแล้วเราไม่ขอแลกสิ่งใดอีกเลย” “ฮึ!..เล่นตัวจริงๆ เช่นนั้นก็ตามใจเจ้า จะอยู่เป็นเมียลิงค่างกลางป่าต่อไปก็ตามใจ นางในรั้วในวังสวยกว่าเจ้ามีตั้งเยอะตั้งแยะ ข้าไม่ง้อก็ได้” เจ้าเมืองผู้หยาบช้าหันหลังกลับไปทิ้งให้สาวกินรีโศกเศร้าคร่ำครวญและรำพรรณถึงชายผู้เป็นที่รักจนน้ำตาเหือดแห้งอยู่อย่างนั้น
  “ฮือๆ ดอกไม้ทั้งป่า น้ำตกลำธารใสดูไร้ค่าไปสิ้นแล้ว เสียงนกขับร้องกับเรไรที่เคยกล่อมเราสอง บัดนี้มิได้ไพเราะน่าฟังอีกแล้วเช่นกัน ฮือๆๆ เทวดาอารักเจ้าขา ข้าน้อยขอวิงวอน ขอเทพผู้ทรงฤทธิ์นำชีวิตคนรักแห่งข้ากลับมาด้วยเถิด เรามิควรต้องมาจากกันในวัยหนุ่มสาวเช่นนี้ ฮือๆๆ” ทุกข์เวทนานั้นสะท้อนสะท้านไปทุกอณูของพงไพร
 และความรักรักบริสุทธิ์นี้ก็เป็นที่เห็นใจยิ่งของเทพเจ้าองค์หนึ่ง อมรินทร์เทพหรือพระอินทร์ได้รับรู้ความทรมารแห่งดวงใจนั้น จึงได้นิรมิตรกายปรากฏเป็นเทพพิทักษ์ป่าขึ้นเบื้องหน้า “ในที่สุด คำภาวนาของข้าน้อยก็ได้รับเมตตา ท่านเจ้าขาช่วยสัตว์ผู้ยากให้พ้นทุกข์ด้วย” องค์อินทร์ให้สาวงามตั้งจิตเป็นกุศล อธิษฐานขอทำความดีไปตลอดชีวิต
  แล้วทรงรินน้ำอมฤตหลั่งลงประพรมร่างของกินนรหนุ่ม ด้วยอานภาพแห่งเทพก็บังเกิดรุ้งรัศมีเรืองรองขึ้นอย่างสวยงาม ครอบคลุมร่างไร้ชีวิตนั้น และเมื่ออมรินทร์เทพโอมอ่านพระเวทย์อีกครั้งร่างอันแน่นิ่งแข็งเป็นศพของหนุ่มเคราะห์ร้ายก็นุ่มนิ่มมีสีสันแห่งชีวิตขึ้นทันที “เราคืนชีวิตให้แล้ว จงมีความสุขสวัสดีและอย่าได้ประมาทใช้สติพิจารณาทุกสิ่งให้ดีเถิด”
  “เกิดอะไรขึ้นเนี่ย แผลจากการโดนยิงหายไปแล้ว โอ้..ข้าเหมือนเกิดใหม่” “มหัศจรรย์เทวะ ท่านคืนชีวิตที่รักข้าคืนมาแล้ว” “นี่เพราะอานุภาพแห่งรักและภักดีของผู้เป็นคู่บุพเพสันนิวาสกัน เราจึงใช้น้ำทิพย์ของสวรรค์ช่วยเหลือให้ ขอให้ท่านทั้งสองครองรักกันจนหมดอายุขัยในชาติภพนี้เถิด จงกลับไปอยู่บนภูเขาคันธมาสที่อยู่ของเจ้า แล้วอย่าได้ลงมาข้างล่างนี้อีกเลย
 ความอุดมสมบรูณ์ข้างล่างนี้ มีผู้คนใจบาปยื้อแย่งแข่งกันมากมายนัก” กาลครั้งนั้น จึงเป็นครั้งเดียวที่สองสามีภรรยาลงจากภูเขามาหาพืชพันธ์สมุนไพรยังแผ่นดินเบื้องล่าง เพราะชีวิตที่เหลืออยู่ต่อไปของคู่รักนี้ คือความสุขที่รออยู่บนภูเขาสูงที่ได้จากมานั่นเอง “พักก่อนไหมจ๊ะ เจ้าคงจะเหนื่อยแล้ว” “ไม่หรอกจ้า เรารีบกลับกันดีกว่าพี่คงเหนื่อยมากแล้วเดี๋ยวน้องนวดให้นะจ๊ะ”
ทั้งสองครองชีวิตอยู่คู่ในศีลธรรมจนหมดอายุขัยจากชาติภพนั้นไปในเวลาใกล้เคียงกัน สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสชาดกจันทกินรีจบแล้วทรงแสดงอริยสัจสี่ พระนางยโสธราพิมพาเข้าถึงในพระธรรมนั้นโดยถ่องแท้ได้สำเร็จโสดาบัน

 
 
ในสมัยพุทธกาลนี้ เจ้าเมืองผู้โหดร้าย กำเนิดเป็น พระเทวทัต
พระอินทร์จอมเทพ กำเนิดเป็น พระอนุรุท
นางกินรีชาวป่า กำเนิดเป็น พระนางยโสธราพิมพา
กินนรหนุ่ม เสวยพระชาติเป็น พระพุทธเจ้า
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

นิรตา ป้อมนาวิน

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1212
  • อย่างน้อยชาตินี้ขอปิดอบายภูมิ
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: จันทกินรีชาดก-ชาดกว่าด้วยความผูกพันจงรักภักดี
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 08, 2015, 01:36:45 pm »
ชอบๆๆเรื่องนี้  like1 like1 :25: :25:
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
    • ดูรายละเอียด
Re: จันทกินรีชาดก-ชาดกว่าด้วยความผูกพันจงรักภักดี
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2015, 04:40:20 pm »
 thk56 thk56 thk56 like1 like1
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ