ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: Self Love โอบกอดตัวเองรับปีใหม่ เพราะไม่มีใครรักเราเท่าตัวเราเอง  (อ่าน 419 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28439
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




Self Love โอบกอดตัวเองรับปีใหม่ เพราะไม่มีใครรักเราเท่าตัวเราเอง

Summary

    • ส่งท้ายปี 2022 ด้วยบทความที่จะขอชวนทุกคนมาทบทวนเรื่องราวในปีที่ผ่านมา พร้อมโอบกอดตัวเองด้วยความรัก เพราะถึงแม้เรื่องราวที่เจอจะหนักหนา แต่เห็นไหมว่า เราก็ผ่านมาได้จนถึงสิ้นปี

    • การรักตัวเอง คือพลังที่ขับเคลื่อนจากภายใน ผ่านการกระทำที่มีความหมายต่อตนเอง 4 ด้านด้วยกัน คือ การตระหนักรู้ (Self-awareness), การเห็นคุณค่าในตัวเอง (Self-worth), การภูมิใจในตัวเอง (Self-esteem) และการดูแลตัวเอง (Self-care) ซึ่งหากขาดด้านใดด้านหนึ่งไป ความรักตัวเองของเราก็ย่อมไม่สมบูรณ์

    • การศึกษาในต่างประเทศ พบว่า การรักตัวเองอย่างถูกวิธี ส่งผลดีต่อร่างกายในองค์รวมหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น สุขภาพจิตดีขึ้น รู้จักยอมรับตัวเองและให้อภัยตัวเองเมื่อผิดพลาด เรียนรู้และก้าวต่อไปโดยไม่จมอยู่กับความผิดหวัง มีแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต กล้าตัดสินใจ รู้เท่าทันอารมณ์ตัวเอง ลดความวิตกกังวล และนอนหลับได้ดีขึ้น




Illustration : Nuttal-Thanatpohn Dejkunchorn

“รักตัวเองสิ” 

วลีนี้ทุกคนคงเคยได้ยิน ไม่ว่าจะเป็นการบอกกล่าวกับตัวเองโดยตรง เราเป็นฝ่ายบอกคนอื่น หรือกระทั่งจากการอ่าน-การฟังที่ผ่านมาในชีวิต แน่นอนว่า การรักตัวเองเป็นสิ่งดี และใครๆ ก็พูดกัน แต่ในทางปฏิบัติแล้ว คนส่วนใหญ่รักตัวเองได้อย่างถูกต้องหรือเปล่า.?

คนเรากินอาหาร เพราะรู้ว่าร่างกายต้องการพลังงานเพื่อให้ชีวิตดำรงอยู่ต่อไป การรักตัวเองก็เป็นเช่นนั้น แต่น่าเสียดายที่หลายคนอาจคิดไม่ถึงว่า ขณะที่เราตามหาความรักดีๆ ต่อสู้เพื่อความสำเร็จ หรือกระทั่งมองหาความสงบสุขในชีวิต สิ่งต่างๆ เหล่านี้จำเป็นต้องมีรากฐานมาจากการรักตัวเองที่ถูกต้อง 

อาหารที่มีประโยชน์ทำให้ร่างกายแข็งแรงฉันใด การรักตัวเองอย่างถูกวิธีก็ทำให้ร่างกาย อารมณ์ และจิตใจเราสุขสงบ และนำไปสู่การมีชีวิตที่ดีได้ฉันนั้น

ส่งท้ายปี 2022 ด้วยบทความที่จะขอชวนทุกคนมาทบทวนเรื่องราวในปีที่ผ่านมา พร้อมโอบกอดตัวเองด้วยความรัก เพราะถึงแม้เรื่องราวที่เจอจะหนักหนา แต่เห็นไหมว่า เราก็ผ่านมาได้จนถึงสิ้นปี 

ว่าแล้วก็มา ‘รักตัวเอง’ กันเถอะ.!

@@@@@@@

Self Love ‘รักตัวเอง’ คืออะไรกันแน่.?

ใครๆ ก็อยากเป็นคนที่ถูกรัก แต่ก่อนจะถูกรักและได้รับความรักดีๆ เราก็ควรรักตัวเองให้เป็นก่อน เพราะการรักตัวเองนั้นคือพื้นฐานของสุขภาพกายใจที่เป็นสุข 

ข้อมูลจาก Brain & Behavior Research Foundation องค์กรที่สนับสนุนงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิต ในสหรัฐอมเริกา ให้นิยามคำว่า ‘รักตัวเอง’ หรือ Self Love ว่าหมายถึง ความรู้สึกซาบซึ้งในคุณค่าของตัวเอง อันก่อเกิดจากการหมั่นดูแลร่างกาย อารมณ์ และจิตใจอย่างลึกซึ้ง ซึ่งการรักตัวเองไม่ใช่เพียงแค่รู้สึกมีความสุขที่ได้ใส่เสื้อผ้าสวยๆ ได้รับคำชม หรือได้เป็นที่รัก กระทั่งการได้อ่านหนังสือดีๆ หรือดูหนังที่สร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งทำให้เรามีความสุข อิ่มเอมใจนั้น เป็นเพียงรางวัลชีวิต แต่ไม่อาจทำให้เกิดการรักตัวเองได้

การรักตัวเอง คือ พลังที่ขับเคลื่อนจากภายใน ผ่านการกระทำที่มีความหมายต่อตนเอง 4 ด้านด้วยกัน คือ การตระหนักรู้ (Self-awareness), การเห็นคุณค่าในตัวเอง (Self-worth), การภูมิใจในตัวเอง (Self-esteem) และการดูแลตัวเอง (Self-care) ซึ่งหากขาดด้านใดด้านหนึ่งไป ความรักตัวเองของเราก็ย่อมไม่สมบูรณ์

การตระหนักรู้ (Self-awareness) คือ การเท่าทันกระบวนการคิดของตัวเอง รู้ว่าความคิดนั้นทำให้รู้สึกอย่างไร และตัวเรามีพฤติกรรมตอบสนองต่อความรู้สึกที่เกิดขึ้นอย่างไร ทั้งอารมณ์เชิงลบและอารมณ์เชิงบวก ความตระหนักรู้ตัวเองนี้ คือกุญแจสู่ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) ที่ทำให้แม้เราจะยังมีอารมณ์เชิงลบ โกรธ โมโห เสียใจ ฯลฯ แต่เมื่อรู้เท่าทัน เราจะตอบสนองอย่างมีประสิทธิภาพ หรืออาจเลือกไม่ตอบสนอง หากมองว่าการตอบโต้ไม่มีประโยชน์ – ผู้ที่มีความฉลาดทางอารมณ์ไม่ได้หมายความว่า ไม่รู้สึกโกรธหรือเสียใจ แต่พวกเขารู้ว่าค้องตอบสนองและรับมืออย่างมีประสิทธิภาพอย่างไรต่างหาก

๐๐๐๐๐๐๐๐๐

    "ใครๆ ก็อยากเป็นคนที่ถูกรัก แต่ก่อนจะถูกรักและได้รับความรักดีๆ เราก็ควรรักตัวเองให้เป็นก่อน เพราะการรักตัวเองนั้นคือพื้นฐานของสุขภาพกายใจที่เป็นสุข"

การเห็นคุณค่าในตัวเอง (Self-worth) เมื่อเรื่องราวร้ายๆ และทัศนคติเชิงลบมากมายในสังคม อาจทำให้คนเรารับแนวคิดเชิงลบเข้ามาสะสมไว้โดยไม่รู้ตัว และในวันที่เกิดความผิดพลาดในชีวิต ก็ยิ่งตอกย้ำความคิดลบๆ ในตัว จนยากที่จะมองเห็นคุณค่าในตัวเอง ทั้งที่จริงแล้ว คุณค่าของเรานั้นมีอยู่ตั้งแต่เราเกิด และจะคงอยู่ตลอดไป ทุกคนมีสิ่งดีๆ เกี่ยวกับตัวเอง การเห็นคุณค่าในตัวเองไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก เราทุกคนมีสิ่งนี้ ไม่ว่าคนอื่นจะมองเห็นหรือไม่ก็ตาม

การภูมิใจในตัวเอง (Self-esteem) ก็เป็นผลต่อเนื่องมาจากการเห็นคุณค่าในตัวเอง เพราะเมื่อใดที่คนเราเริ่มเห็นคุณค่าในตัวเอง ความภูมิใจในตัวเองก็จะค่อยๆ เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งมักเกิดขึ้นจากสิ่งที่เรามี หรือสิ่งที่เราทำ ขณะที่การเห็นคุณค่าในตัวเอง มักเกิดขึ้นเองจากภายใน และเป็นพื้นฐานสำคัญของการรักตัวเอง

การดูแลตัวเอง (Self-care) คือ สิ่งที่เราทำเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ทั้งกายและใจ อย่างการออกกำลังกาย การกินอาหารมีประโยชน์ และการพักผ่อนเพียงพอ นอกจากนี้ ยังหมายถึงสิ่งที่เราดูและฟังด้วย ไม่ว่าจะเป็นเพลง ภาพยนตร์ ซีรีส์ หรือโซเชียลมีเดีย ที่ควรมีเนื้อหาจรรโลงจิตใจ รวมถึงผู้คนใกล้ตัวที่ช่วยกันแบ่งปันพลังงานบวก การดูแลตัวเองถือเป็นข้อที่ทำได้ง่าย และเป็นรูปธรรมมากที่สุด จึงเหมาะสำหรับการเริ่มต้นฝึกการรักตัวเองให้ถูกวิธี




รักตัวเองอย่างไรให้ใจอุ่น

การศึกษาในต่างประเทศพบว่า การรักตัวเองอย่างถูกวิธี ส่งผลดีต่อร่างกายในองค์รวมหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น สุขภาพจิตดีขึ้น รู้จักยอมรับตัวเองและให้อภัยตัวเองเมื่อผิดพลาด เรียนรู้และก้าวต่อไปโดยไม่จมอยู่กับความผิดหวัง มีแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต กล้าตัดสินใจ รู้เท่าทันอารมณ์ตัวเอง ลดความวิตกกังวล และนอนหลับได้ดีขึ้น 

ข่าวดี ก็คือ แม้ว่าบางคนอาจเติบโตมาพร้อมกับบาดแผลทางใจที่ทำให้การรักตัวเองเป็นเรื่องยาก แต่มีงานวิจัยที่ระบุว่า ทุกคนฝึกฝนความรักตัวเองให้เกิดขึ้นได้ แม้จะเร็ว-ช้าต่างกัน แต่ไม่เกินฝันอย่างแน่นอน

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

วิธีปลูกฝังการรักตัวเองที่ทุกคนทำได้ คือ

    • ไม่คิดเชิงลบกับตัวเอง : ลองสังเกตว่า เราพูดกับตัวเองอย่างไรเมื่อเจอเรื่องไม่ดี หรือทำผิดพลาด เราดูถูกตัวเอง หรือเห็นอกเห็นใจตัวเอง หากเราเป็นคนที่ชอบวิพากษ์วิจารณ์ตัดสินเมื่อทำสิ่งผิดพลาด คำตัดสินที่เราบอกตัวเองทำให้รู้สึกอย่างไร การสนใจเสียงในหัวที่สื่อสารกับตัวเอง แล้วค่อยๆ ปรับเปลี่ยนเสียงนั้นให้เห็นอกเห็นใจตัวเองมากขึ้น ถือเป็นขั้นแรกที่นำไปสู่การรักตัวเอง

    • ดูแลตนเองอย่างมีเป้าหมาย : หาเวลาดูแลตัวเองในแต่ละวัน ผ่านการออกกำลัง ฟังเพลง นั่งสมาธิ เลือกวิธีผ่อนคลายจิตใจที่เหมาะกับตัวเอง โดยไม่ได้ทำเพียงผ่านๆ เท่านั้น แต่ทำอย่างมีเป้าหมายเพื่อให้รางวัลกับตัวเอง หลังเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานหรือภาระหน้าที่ต่างๆ

    • ขีดเส้นแบ่งความเป็นส่วนตัว : คนเราจะรักตัวเองได้อย่างไร หากคนรอบกายไม่เคารพความเป็นส่วนตัว บางเวลาเราก็จำเป็นต้องปิดโหมดใจดีกับคนอื่น แล้วกลับมาใจดีกับตัวเองบ้าง เช่น เมื่อเพื่อนร่วมงานขอให้ไปส่งในทางที่เราไม่ได้ผ่าน ทั้งที่รู้ว่าเรามีธุระอื่น การฝึกปฏิเสธเพื่อปกป้องเวลาส่วนตัว เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ควรฝึกเพื่อนำไปสู่การรักตัวเอง

    • มีเมตตาต่อตัวเอง : เรามักถูกสอนให้มีเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลก แต่มักไม่ค่อยมีใครพูดถึงการเมตตาต่อตัวเอง ทั้งที่มันเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้เราก้าวผ่านช่วงเวลาร้ายๆ ไปได้ การเมตตาตัวเอง คือ การรับรู้ว่าตัวเองมีทุกข์ แล้วพยายามเข้าใจและเห็นอกเห็นใจตัวเอง ให้เวลาค่อยๆ เยียวยารักษา โดยไม่กดดันหรือตัดสินตัวเอง ให้โอกาสตัวเองได้เรียนรู้จากความผิดพลาด และเติบโตจากสิ่งนั้น

    • สร้างพื้นที่สะท้อนตัวตน : หลายครั้งที่สิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปดั่งตั้งใจ แทนที่จะโทษตัวเองเมื่อเกิดความผิดพลาด ลองเปลี่ยนเป็นเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้น ด้วยการสะท้อนตัวเอง ผ่านการเขียนไดอารี่, รีวิวตัวเองในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา หรือพูดคุยกับเพื่อนสนิทเพื่อแบ่งปันประสบการณ์และความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เหมือนเป็นการทบทวนการกระทำที่ผ่านมาช้าๆ เพื่อหาถอดบทเรียนจากเหตุการณ์นั้นๆ

    • ใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมาย : เมื่อคนเรามีเป้าหมาย รู้ว่ามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร ก็มีแนวโน้มรักตัวเองมากขึ้น แม้ต้องเผชิญกับเรื่องร้ายแรง ก็จะผ่านพ้นไปได้ เป้าหมายไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ถึงขั้นเปลี่ยนแปลงโลก แต่อาจเป็นเป้าหมายระยะสั้น เช่น เดือนนี้จะออกกำลังกายทุกวัน ไปจนถึงเป้าหมายระยะยาว อย่างการเก็บเงินซื้อบ้าน เมื่อมีเป้าหมาย การกระทำและการตัดสินใจของเราส่วนใหญ่จะเป็นไปเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น และเมื่อทำสำเร็จ ก็จะเกิดความภูมิใจในตัวเอง และรักตัวเองเพิ่มขึ้น

@@@@@@@

Self Love รักตัวเอง ≠ เห็นแก่ตัว

อ่านมาถึงบรรทัดนี้หลายคนอาจมีคำถามว่า เมื่อเราหมกมุ่นเอาแต่ทำเพื่อตัวเอง อย่างนี้การรักตัวเองก็เหมือนกับการ ‘เห็นแก่ตัว’ หรือเปล่า.? 

ความจริงแล้ว การรักตัวเองและความเห็นแก่ตัว เป็นคนละเรื่องกันอย่างสิ้นเชิง แต่อาจเป็นเพราะค่านิยมและวัฒนธรรมการเลี้ยงลูกแถบเอเชีย รวมถึงประเทศไทย ที่เด็กๆ จะมีคุณค่าและเป็นที่รักของพ่อแม่ ก็ต่อเมื่อพวกเขาประสบความสำเร็จ หรือเสียสละทำเพื่อคนอื่นๆ โดยเรามักได้ยินคำสอนประมาณว่า พี่ต้องเสียสละให้น้อง น้องต้องยอมพี่ ลูกที่ดีต้องเสียสละเพื่อพ่อแม่ ฯลฯ แต่ในทางกลับกัน เด็กๆ ไม่เคยได้รับคำชื่นชมเมื่อพวกเขายืนหยัดเพื่อรักษาสิทธิ หรือความต้องการของตัวเอง

เรามักได้ยินผู้ใหญ่บอกเด็กๆ ว่า “ไม่แบ่งของเล่น ไม่มีน้ำใจเลย เดี๋ยวเพื่อนไม่คบนะ” แต่ไม่ค่อยมีใครบอกเด็กๆ ว่า “หากไม่อยากแบ่งของเล่นของตัวเองก็ไม่เป็นไรนะ แม่เคารพสิทธิของลูก” ผู้ใหญ่อาจคิดไม่ถึงว่าคำพูดธรรมดาที่เราพร่ำบอกเด็กๆ บ่อยๆ วันหนึ่งเมื่อเติบโตขึ้น คำพูดเหล่านั้นอาจกลายเป็นแนวคิดในการดำเนินชีวิตของพวกเขาก็เป็นได้ 

บ่อยครั้งแค่ไหน ที่คำพูดหรือการตอบสนองของผู้ใหญ่ เป็นไปในทางที่ตอกย้ำว่าเด็กๆ ต้องเสียสละความสุขของตัวเอง เพื่อให้เป็นที่รักและได้รับการยอมรับ และเมื่อไรก็ตามที่พวกเขาเลือกทำเพื่อตัวเอง (บ้าง) ก็มักถูกมองว่าเห็นแก่ตัว จนทำให้หลายคนอาจเติบโตมาพร้อมกับความสับสน และแยกไม่ออกว่า แบบไหนคือรักตัวเอง และแบบไหนคือเห็นแก่ตัวกันแน่ 

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

    "จะว่าไปแล้วเส้นบางๆ ที่แบ่งระหว่างความรักตัวเอง กับ ความเห็นแก่ตัว ก็คือ การรักตัวเองนั้นเป็นการทำให้ตัวเองมีความสุข ส่วนความเห็นแก่ตัวเป็นการทำให้ผู้อื่นมีความทุกข์"

จะว่าไปแล้วเส้นบางๆ ที่แบ่งระหว่างความรักตัวเอง กับ ความเห็นแก่ตัว ก็คือ การรักตัวเองนั้นเป็นการทำให้ตัวเองมีความสุข ส่วนความเห็นแก่ตัวเป็นการทำให้ผู้อื่นมีความทุกข์

เมื่อใดก็ตามที่การรักตัวเองของเรา ส่งผลกระทบเชิงลบกับคนอื่น นั่นอาจหมายความว่าเรากำลังเห็นแก่ตัว เช่น ออฟฟิศมีงานที่ต้องไปต่างจังหวัด ซึ่งเรามีส่วนรับผิดชอบ แต่เพราะรักตัวเองไม่อยากลำบาก จึงโดดงานนั้น ทำให้เพื่อนร่วมงานต้องรับภาระแทน เช่นนี้ย่อมไม่ใช่การรักตัวเองที่ถูกต้อง แต่ในทางกลับกัน หากเราทำงานที่มอบหมายเรียบร้อย แล้วลากิจเพื่อหยุดพัก บอกเพื่อนร่วมงานล่วงหน้าโดยไม่ทำให้ใครเดือดร้อน การให้เวลากับตัวเองบ้าง ก็ถือเป็นการรักตัวเองอย่างหนึ่ง 

จึงอาจกล่าวได้ว่า การรักตัวเองคือการรักษาสมดุลระหว่าง ‘ให้ผู้อื่น’ และ ‘ให้ตัวเอง’ ขณะที่การเห็นแก่ตัวนั้น เรามักให้ตัวเองก่อนเสมอ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อคนรอบกาย

ทุกคนที่เข้ามาในชีวิตเราล้วนจากไป ไม่ว่าเราจะรักพวกเขามากเพียงใดก็ตาม สุดท้ายแล้ว คนที่อยู่กับเราเสมอมีเพียงตัวเราเท่านั้น การรักตัวเองจึงอาจไม่ใช่การกระทำที่ยิ่งใหญ่อะไร แต่เป็นเรื่องที่ทุกคนควรทำให้ได้ เพราะเราไม่รู้ว่าโลกที่กว้างใหญ่ใบนี้จะพาเราไปพบกับบททดสอบอะไรบ้าง 

หากวันหนึ่งโลกเหวี่ยงเราไปเจอคนร้ายๆ เหตุการณ์แรงๆ ก็คงมีแต่ความรักตัวเองเท่านั้นที่จะช่วยโอบกอดจิตใจไว้ไม่ให้หล่นหายไปท่ามกลางมรสุมแห่งชีวิต 






Thank to :-
อ้างอิง : psychologytoday.com (1, 2), nesslabs.com, bbrfoundation.org
website : https://plus.thairath.co.th/topic/everydaylife/102589
Everyday, Life Living ,Lifestyle, 26 ธ.ค. 65
creator : สุภาวดี ไชยชลอ
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

nongyao

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 380
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ขอบคุณบทความดีๆค่ะ 
บันทึกการเข้า
กราบนอบน้อมพระพุทธเจ้าอันเป็นอดีต อนาคต แลปัจจุบัน ด้วยเศียรเกล้า
                 พุทธัง  ธัมมัง  สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
                       
                         ข้าพเจ้าจักขอทำเหตุที่ดี