ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: “เช็งเม้ง” ยังมาไม่ถึง แต่ทำไมไปไหว้บรรพบุรุษกัน “เทศกาลกตัญญู” เริ่มแล้ว  (อ่าน 224 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28409
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



บรรยากาศไหว้เช็งเม้ง ที่สุสานในจังหวัดชลบุรี เมื่อ พ.ศ. 2529 (ภาพจากห้องสมุดภาพนิตยสารศิลปวัฒนธรรม)


“เช็งเม้ง” ยังมาไม่ถึง แต่ทำไมไปไหว้บรรพบุรุษกัน “เทศกาลกตัญญู” เริ่มแล้ว

เมื่อพูดถึงการเซ่นไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วของคนจีน คนส่วนใหญ่มักนึกถึง “เช็งเม้ง” ซึ่งจะเป็นวันที่ 4 หรือ 5 ของเดือนเมษายน แต่ในทางปฏิบัติทำไมหลายคนหลายบ้านเริ่มไหว้บรรพบุรุษก่อนหน้านั้นประมาณ 2 สัปดาห์ และอีกหลายบ้านก็ไปไหว้หลังจากนั้นก็มี

เพราะกลัวรถติดงั้นหรือจึงหนีด้วยการรับไหว้เสียก่อน แล้วยังไม่ถึงเช็งเม้งเลยไหว้ได้อย่างไร

การเซ่นไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับของลูกหลานจีนจริงๆ แล้วเริ่มไหว้กันได้ตั้งแต่วันชุงฮุง (20-21 มีนาคม)-วันเช็งเม้ง (4-6 เมษายน) ชุงฮุงและเช็งเม้ง เป็น 1 ใน 24 ปักษ์ย่อยที่แบ่งตามฤดูกาล ซึ่งแต่ละปักษ์มีช่วงเวลา 14-16 วัน เป็นการแบ่งตามการโคจรรอบดวงอาทิตย์ของโลก เพื่อจัดทำขึ้น “ปฏิทินเกษตร” สำหรับใช้เป็นคู่การทำนา ปฏิทินดังกล่าวใช้ทั้งจันทรคติและสุริยคติควบกัน ซึ่งขออธิบายแต่ส่วนปักษ์ชุงฮุงและเช็งเม้งเท่านั้น

ชุงฮุง เป็นปักษ์ที่ 4 แปลว่า กึ่งฤดูใบไม้ผลิ โลกโคจรมาถึงจุด 0 องศา ตรงกับวันที่ 20 หรือ 21 มีนาคม อากาศหายหนาว เย็นสบาย วันนี้กลางคืนกลางวันจะยาวเท่ากัน และหลังจากวันนี้ไปช่วงเวลากลางวันก็จะยาวขึ้น ส่วน เช็งเม้ง เป็นปักษ์ที่ 5 แปลว่าแจ่มใส สดชื่น เย็นสบาย (ตามสภาพอากาศในประเทศจีน แต่เมืองไทยร้อนสุดๆ) โลกโคจรมาถึงจุด 15 องศา วันที่ 4-6 เมษายน แต่ส่วนมากจะตรงกับวันที่ 5 เมษายน

@@@@@@

นอกจากนี้ยังมีบางครอบครัวที่ไปเซ่นไหว้บรรพบุรุษในวันที่ 3 เดือน 3 ตามปฏิทินทางจันทรคติของจีน ที่เรียกกันทั่วไปว่า “กู่เช็งเม้ง-เช็งเม้งเก่า” ซึ่งที่จริงคือ “เทศกาลซ่างสื้อ” อันเป็นต้นเค้าของเทศกาลเช็งเม้งจากวรรณกรรมในอดีตและบันทึกเก่า พอสรุปได้ว่า เทศกาลชุงฮุงน่าจะเริ่มมีแต่สมัยราชวงศ์โจว (503 ปีก่อนพุทธศักราช-พ.ศ. 322) เทศกาลซ่างสื้อมีในยุคชุนชิว (227 ปีก่อนพุทธศักราช-พ.ศ. 67) ส่วนเช็งเม้งเพิ่งเกิดในราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (พ.ศ. 551-763)

ในสมัยโบราณในทั้ง 3 เทศกาลนี้ ราชสำนักและประชาชนมีพิธีบวงสรวงเซ่นไหว้อื่นด้วย ในที่นี้ขอละไว้ ด้วยเป็นเรื่องค่อนข้างไกลตัว และมีรายละเอียดมาก (ท่านที่สนใจโปรดอ่านเพิ่มเติมจากหนังสือ “เทศกาลจีน และการเซ่นไหว้”) แต่ทั้ง 3 เทศกาลมีกิจกรรมหนึ่งที่เหมือนกันคือ “การเซ่นไหว้บรรพบุรุษ” ที่ยังคงสืบทอดจนถึงปัจจุบัน

การไปเซ่นไหว้บรรพบุรุษในเทศกาลนี้มักไปไหว้ที่หลุมศพของท่านตามสุสานต่างๆ ด้วยอาหารคาวหวาน ผลไม้ และเครื่องกระดาษ ฯลฯ แต่บางบ้านที่ผู้ตายท่านสั่งไว้ให้ฌาปนกิจแล้ว ตั้งป้ายชื่อท่านไว้ที่สื่อตึ๊ง (สมาคมตระกูลแซ่ของท่าน), วัดจีน, โรงเจ ฯลฯ ก็ไปสถานที่นั้นๆ แทน หรือแม้ในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในปี 2563 ที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน หลายท่านก็ปรับเปลี่ยนด้วยการไหว้ที่บ้านแทนเพื่อความปลอดภัยก็เป็นอีกวิธีที่ดี

สำหรับปี 2566 นี้ วันชุงฮุงตรงกับวันที่ 21 มีนาคม, วันเช็งเม้งตรงกับวันที่ 5 เมษายน และกู่เช็งเม้งตรงกับวันที่ 22 เมษายน การไปไหว้บรรพบุรุษที่สุสานจึงมีก่อนและหลังวันเช็งเม้ง และมีอีกหลายบ้านที่ไปไหว้ก่อนและหลังที่จะถึงช่วงเวลาดังกล่าว ตามเหตุปัจจัยของแต่ละครอบครัว


@@@@@@@

แต่ไม่ว่าจะไปไหว้บรรพบุรุษวันไหน สำหรับเมืองไทยแล้วก็ร้อนเหลือเกิน ขณะที่เมืองจีนเป็นช่วงอากาศแจ่มใส เย็นสบาย เกาจี๋ว์ชิง กวีสมัยราชวงศ์ซ่ง (พ.ศ. 1503-1822) ถึงกับจิบสุราแต่งกลอนชมธรรมชาติไว้ว่า

สุสานร้างรายอยู่ภูเหนือใต้   เช็งเม้งคนมาไหว้เดินสับสน
ผีเสื้อขาวเถ้ากระดาษบินว่อนวน   อัสสุชลหลั่งไหลฤทัยครวญ
สายัณห์จิ้งจอกนอนหน้าหลุมหลับ   ราตรีกลับเคหาคลายว่ายกำสรวล
ยามมีเหล้าเมาปลื้มดื่มตามควร   ตายแล้วล้วนชวดลิ้มรสแม้หยดเดียว

อ่านเพิ่มเติม : -

    - ทำไมกำหนดให้ไหว้เช็งเม้งเดือนเมษา เดือนหนึ่งที่อากาศร้อนตับแตก
    - เช็งเม้ง ไหว้บรรพบุรุษผิดตัว ไม่ใช่แค่ปัญหาภาษาจีน แต่เป็นเพราะอะไร?






ขอขอบคุณ :-
ข้อมูลจาก : ถาวร สิกขโกศล. เทศกาลจีนและการเซ่นไหว้, สำนักพิมพ์มติชน มีนาคม 2557
ผู้เขียน : วิภา จิรภาไพศาล
เผยแพร่ : วันอังคารที่ 21 มีนาคม พ.ศ.2566
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก : เมื่อ 21 มีนาคม 2562 และปรับปรุงครั้งล่าสุดเมื่อ 21 มีนาคม 2566
URL : https://www.silpa-mag.com/history/article_29621
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ