ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - Jojo
หน้า: 1 ... 4 5 [6]
201  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: สำหรับท่านที่จะไปร่วมงานศพ หลวงตามหาบัว ควรอ่านคะ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 22, 2011, 07:16:14 am


คัดลอกจากข่าวครับ ..

    ที่บริเวณหน้าประตูทางเข้าวัด มีป้ายขนาดใหญ่ เขียนข้อความเป็นลายมือของหลวงตามหาบัว ว่า "ที่นี่เป็นวัด เป็นสถานที่ภาวนาเพื่อความสงบใจ ไม่มีกิจจำเป็นไม่ควรมาเที่ยวเพ่นพ่าน กูจะฟ้องท่านเปา มันมาเที่ยวเพ่นพ่าน" สร้างความสนใจให้กับประชาชนพากันมายืนดูพร้อมกับสอบถามด้วยความงุนงง

จาก การสอบถามพระนพดล นันทโน รองผู้อำนวยการจัดงานพระราชทานเพลิงศพหลวงตามหาบัว เปิดเผยถึงข้อความในแผ่นป้ายดังกล่าวว่า เป็นปริศนาธรรมที่หลวงตาคอยปรามพวกชอบมาเที่ยววัด เห็นวัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เพราะหากเข้ามาเที่ยววัดกันมาก จะเป็นการ รบกวนพระสงฆ์ที่ตั้งใจเข้ามาปฏิบัติธรรม ส่วนที่กูจะฟ้องท่านเปานั้น หลวงตาสื่อความหมายว่า เมื่อก่อนนี้วัดป่าบ้านตาดไม่ค่อยมีเจ้าหน้าที่มาดูแล จนเมื่อคนเข้ามาวัดมากขึ้น ก็มักจะเกิดปัญหามีคนเข้ามาเที่ยวกันมาก จึงประชดด้วยอารมณ์ขันว่า จะไปฟ้องท่านเปาบุ้นจิ้น แค่นั้น

เนื้อหาจากเว็บ
http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y10245985/Y10245985.html
202  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / สำหรับท่านที่จะไปร่วมงานศพ หลวงตามหาบัว ควรอ่านคะ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 22, 2011, 07:11:49 am


- ที่กางเต๊นท์เยอะค่ะ   ห้องน้ำก็เยอะ เค้าจะจัดโซนที่พักโยมไว้หลายที่ โซนจอดรถก็หลายที่ โซนที่พักกางเต๊นท์จะไม่ไกลทางเข้านัก  พอเดินได้  และจะมีทหาร หรือ ตำรวจอยู่ไม่ไกลจากโซนที่พัก เท่าที่เห็นมีทหารเฝ้าทุกโซน  เมื่อวานเห็นมีรถรางเขียนว่ารถรางชมเมืองสุโขทัยมาวิ่งรับส่งคนจากที่จอดรถ ไปหน้าวัดค่ะ
 จากแผนที่ ถ้าไปช่วงนี้ จะได้กางเต๊นท์แถวห้องน้ำ ก่อนถึงคลอง จะมีเต๊นท์ของคนที่ไปทำโรงทานกางกันเยอะ แต่วันงานคาดว่าน่าจะได้ออกไปด้านนอกกำแพงนอกกันหมด  โรงทานตามแผนที่ได้ย้ายไปอยู่ริมถนนที่เขียนว่าไปบ้านสุขสมบูรณ์หมดแล้ว

   - ช่วงนี้อากาศตอนเช้าๆ กับตอนกลางคืนจะเย็น-หนาว ตอนกลางวันแดดร้อน และบางวันเช่นวันนี้ ฟ้าครึ้มๆ เหมือนฝนทำท่าจะพรมลงมาด้วย ฉะนั้นคนจะกางเต๊นท์ต้องหาวัสดุปูพื้น + หลังคาดีๆ 
   - อาหารการกิน น้ำดื่ม ไม่ต้องห่วงเลย โรงทานเยอะ และอยากทำบุญกันทั้งนั้น มีอาหารกินทั้งวันค่ะ

จากคุณ    : ดรีมเมอร์

ตอนงานหลวงปู่ขาว  ประมาณว่าคนก็ล้านกว่าหรือเกือบสองล้านคน    สมัยนี้งานหลวงตาน่าจะมากกว่านั้น   เดาไม่ออกว่าคนจะมากมายขนาดไหน   คิดว่า  คงจะแน่นล้นมาถึงถนนใหญ่อุดร-ขอนแก่น นั่นแหละ   ในรัศมีรอบวัดป่าบ้านตาด  ในระยะ ๓-๔ กม.  คงเต็มไปด้วยคน  อาจจะประมาณ ๑ ใน ๓  ของคนตามถนนต่างๆในกรุงเทพ  ไม่น่าจะต่ำกว่า ๓ ล้านคนกระมัง   งานนี้

จากคุณ    : ศิษย์พระป่า

ที่ศาลานอก ถ้าใกล้วันที่ 5 คิดว่าคงไม่สามารถกลางเต๊นท์ได้แล้วค่ะ เพราะว่ามีการเคลียร์พื้นที่และถ้ามีคนมานอนพักเยอะ ทางวัดจะไม่ให้กลางเต๊นท์ เนื่องจากมันกินพื้นที่  ตอนที่ไปก็มีผู้ชายมานอนที่ศาลาใหญ่เหมือนกันน่าจะนอนได้นะคะ แนะนำการเดินทางขึ้นรถมาเองจะสะดวกกว่าเพราะไม่ต้องหาที่จอดรถ มีรถตู้ ตำรวจ รับส่งอยู่ค่ะ เพราะวันที่ 5 รถคงติดมากและเห็นมีการแจ้งว่ารถต้องจอดข้างนอก ส่วนสถานที่อาบน้ำ มีห้องน้ำให้อาบอยู่ค่ะ เรื่องอาหาร มีโรงทานเยอะแยะมากมายเลยค่ะ มาวัดป่าบ้านตาดไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลยค่ะ
**รู้สึกดีมากๆค่ะ ที่ได้ไปกราบสรีระสังขารหลวงตามหาบัว ไปแล้วก็อยากไปอีกค่ะ

จากคุณ    : นู๋ตูนจอมบ๊อง

ที่ศาลาใหญ่เคลียพื้นที่ไม่มีกางเต้นท์แล้วนะคะ ทางเจ้าหน้าที่ที่ช่วยงานทางนั้นแจ้งว่าที่จอดรถไกลมาก กำลังคิดเหมือนกันจะอย่างไรดี พอดีไปกันแค่ 2 คนเหมือนกันค่ะ ใครพอแนะนำได้บ้างก็ดีค่ะ  ยิ่งวันงานสมเด็จพระนางเจ้าทรงเสด็จฯ ต้องเคลีย์พื้นที่ไม่ต่ำกว่า 6 ชม. คงไม่มีการขยับเคลื่อนไหว
ที่โล่งคือห้องน้ำเยอะ โรงทานไม่ต่ำกว่าพันโรง

จากคุณ    : Tiger Bood

......ไปเถอะ  เรื่องที่กางเต๊นต์อย่าไปห่วงกังวล  เจอตรงไหนเหมาะๆก็เอาตรงนั้น  สมบุกสมบันหน่อย  สนุกดีออก...แบบคล้ายๆเราฝึกไปธุดงค์ทำนองนั้น ....หาเอาตามรอบๆบริเวณวัดนั่นแหละ  ห่างออกมานิดหน่อยก็ได้  ตรงไหนที่พวกกางเต๊นต์ไปชุมนุมกันมากๆ  ก็ไปกางรวมๆกับพวกนั้น  พวกนั้นจะชำนาญในเรื่องนี้  คงช่วยเหลือกันได้   อย่าห่วงเลย ยุงก็ไม่มีมารบกวนหรอก ไม่เหมือนในกรุงเทพที่ยุงชุม   และช่วงนี้เป็นปลายหน้าหนาวเข้าหน้าร้อน  ฝนก็ไม่มี ... ฝึกๆไว้  ต่อๆไป  ถ้าไปงานศพครูบาอาจารย์รูปอื่นๆ ตามป่าเขา  จะรู้สึกตื่นเต้นกว่านี้  เพราะบ้านตาดเป็นทุ่งนาราบเรียบ ยังขาดความน่าตื่นเต้น น่าผจญภัยไปบ้าง   แต่ความ"สนุกในธรรม"  จะมีมากมายในใจ  คือจะได้ความดื่มด่ำในธรรมสังเวช  จิตจะสงบ นึกแต่ธรรมสัญญา

....กางเต๊นต์เสร็จก็ไม่ต้องเก็บ เวลาจะออกจากเต๊นต์ไปไหนก็ทิ้งเต๊นต์ไว้  แต่เอาของมีค่าติดตัว  ใส่กระเป๋าเป้ติดตัวไว้ตลอด   ใครจะมาขโมยเต๊นต์ก็ให้เขาไป  (คิดว่าไม่น่าจะโดนใครมาขโมย)  รอเก็บเต๊นต์วันกลับทีเดียว ...  แต่ก็นั่นแหละ  แม้งานแบบนี้  สมัยนี้พวกขโมยก็มักจะไปหากินกันไม่น้อยเหมือนกัน  ก็ระวังๆไว้บ้างก็ดี

แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 54 03:55:30

จากคุณ    : ศิษย์พระป่า

ที่มา

http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y10260890/Y10260890.html
203  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: วันมาฆบูชา โอวาทปาฏิโมกข์ สำคัญอย่างไร แล้วควรปฏิบัติตนอย่างไร สวดมนต์บทไหน เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2011, 05:35:11 am
[๙๓]  ในหมู่เทพนั้น  มีเทวดามากมาย  จำนวนหลายร้อย  หลายพัน  เข้ามา
หาเราถึงที่อยู่  อภิวาทแล้วยืนอยู่  ณ  ที่สมควร 

             ได้กล่าวกับเราดังนี้ว่า  ‘ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์  ในภัทรกัปนี้เอง  บัดนี้พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า  ได้เสด็จอุบัติขึ้นในโลก  มีพระชาติเป็นกษัตริย์  ได้เสด็จอุบัติขึ้นในตระกูลกษัตริย์  มีพระโคตรว่าโคตมะ  มีพระชนมายุเพียงเล็กน้อย  ผู้ที่มีอายุยืนก็เพียง  ๑๐๐  ปี  หรือเกินไปอีกเล็กน้อย 

             ตรัสรู้ที่ควงต้นอัสสัตถะ  ทรงมีคู่อัครสาวก  เป็นคู่ที่เจริญ  ได้แก่    พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ  มีการประชุมพระสาวกครั้งเดียว  มีภิกษุ  ๑,๒๕๐  รูป  พระสาวกที่เข้าประชุมล้วนแต่เป็นพระขีณาสพ  มีภิกษุอานนท์เป็นอุปัฏฐาก  เป็นอัครอุปัฏฐากมีพระเจ้าสุทโธทนะเป็นพระบิดา  พระนางมายาเทวีเป็นพระมารดาผู้ให้กำเนิด
มีกรุงกบิลพัสดุ์เป็นราชธานี 
การเสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ของพระองค์เป็นอย่างนี้ 
การบรรพชาของพระองค์เป็นอย่างนี้ 
การบำเพ็ญเพียรของพระองค์เป็นอย่างนี้   
การตรัสรู้ของพระองค์เป็นอย่างนี้ 
การแสดงธรรมจักรของพระองค์เป็นอย่างนี้   
พวกข้าพระองค์ประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค 
คลายความกำหนัดยินดีในกาม  จึงได้มาเกิดในที่นี้’

      ทรงสรุปพระธรรมเทศนา

  [๙๔]  ภิกษุทั้งหลาย  เพราะตถาคตมีปัญญาแทงตลอดธรรมธาตุดังกล่าวมานี้จึงเป็นเหตุให้ระลึกถึงพระ พุทธเจ้าทั้งหลายในอดีตกาล ผู้ปรินิพพานแล้ว


             ผู้ตัดธรรมเครื่องเนิ่นช้าได้แล้ว  ผู้ตัดทางได้แล้ว  ผู้ตัดวัฏฏะได้แล้ว  ผู้ล่วงทุกข์ทั้งปวงได้แล้วทั้งโดยพระชาติ  พระนาม  พระโคตร  พระชนมายุ  คู่พระอัครสาวก  และการประชุมพระสาวกว่า  ‘แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเหล่านั้นจึงมีพระชาติอย่างนี้  แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเหล่านั้นจึงมีพระนามอย่างนี้  แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเหล่านั้นจึงมีพระโคตรอย่างนี้  แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเหล่านั้นจึงทรงมีศีลอย่างนี้  แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเหล่านั้นจึงทรงมีธรรมอย่างนี้

                     แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเหล่านั้นจึงทรงมีปัญญาอย่างนี้  แม้เพราะเหตุนี้พระผู้มีพระภาคเหล่านั้นจึงทรงมีธรรมเป็นเครื่องอยู่อย่าง นี้  แม้เพราะเหตุนี้  พระผู้มีพระภาคเหล่านั้นจึงทรงมีธรรมเป็นเครื่องหลุดพ้นอย่างนี้
204  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ทำไมต้องฝึกสมาธิ ด้วยคะ.. เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2011, 09:35:52 pm
ทำไมต้องฝึกสมาธิด้วยคะ

สมาธิ มีความสำคัญต่้อการภาวนาอย่างไรคะ

ในเมื่อพระพุทธศาสนา เป็นศาสนาแห่งปัญญา ( ฟังพระมาตอนอบรม )

ในเมื่อเป็นศาสนาแห่งปัญญา แล้วทำไมต้องฝึกสมาธิ ด้วยคะ
 :c017:
205  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ขิง" ช่วยบรรเทาอาการเมารถเมาเรือได้ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2011, 10:13:32 pm


ขอบคุณภาพประกอบ http://www.skn.ac.th
206  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ถ้านอนดึก ตื่นสาย ปฏิบัติธรรมได้หรือไม่จ๊ะ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2011, 09:49:09 pm
สาธุ ขอบคุณ น้าๆ ทุกท่านที่ให้คำแนะนำ ชื่นใจจริง ๆ โพสต์วันแรกก็มีคนตอบเยอะแล้ว
มีกำลังใจภาวนา ขึ้นมาบ้างแล้ว

ถือว่าเป็นก้าวน้อย ๆ ก้าวแรก ของ Jojo คะ

 :25: :25: :25:
207  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: การดูหนังสือโป๊ และ หนังโป๊ ผิดศีลข้อสามหรือไม่คะ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2011, 10:38:39 pm
คนที่ดูหนังโป๊ หนังเอ็กซ์ และ สื่อ โป๊ สื่อ x นี้เขาเรียกว่า คน ลามก

 คน ลามก นี้อย่างไรเสีย ไม่ใช่เป็นคำที่ดี นะ

  ลา=โง่  มก=สกปรก ( ไม่รู้เกี่ยวกันหรือไม่ )

 สรุป ลามก กับ อุปกิเลส น่าจะเหมือนกัน เป็นจิตเศร้าหมอง


 ดังนั้น ผิดศีล คะ เพราะทำให้ จิต ผิดปกติ คะ

 :25:
208  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ชอบภาวนาในท่านอนคะ เพราะเป็นคนมีนิสัยหลับยากคะ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2011, 10:30:11 pm
ด้วยอุปนิสัย คือ ฟุ้งไปเรื่องต่าง ๆ หลับยากกว่าจะหลับบางคืนก็ตี 2 เลยทำให้นอนตื่นสาย
ติดนิสัยมาตั้งแต่เรียนหนังสือ ต้องดูสือ ดึก ๆ ทุกคืนคะ

จึงอยากขอเรียน กรรมฐานในท่านอน ที่จะทำให้หลับง่าย ๆ มีหรือไม่คะ ต้องทำอย่างไรบ้างคะ
ไปที่วัดท่านสอนให้นอนภาวนาพุทโธ ๆๆๆๆ แต่ภาวนาไปสักพัก ก็ฟุ้งซ่าน และก็ไม่ภาวนาอีกมี
วิธีการที่ได้ผลมากกว่านี้หรือไม่คะ

 :25:
209  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ถ้านอนดึก ตื่นสาย ปฏิบัติธรรมได้หรือไม่จ๊ะ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2011, 10:19:26 pm
ถ้านอนดึก ตื่นสาย ปฏิบัติธรรมได้หรือไม่จ๊ะ

ปกติจะนอนดึก ตื่นสักประมาณ 7 โมง ที่ทำงานกับหอพักอยู่ติดกันเลยไม่รีบร้อนคะ

ปกติไม่ค่อยเข้ามาเว็บธรรมะ นะจ๊ะ แต่เมื่อเข้ามาแล้ว ถามความเห็นโดยรวมว่า สมาชิกธรรมะ มีความเห็น

อย่างไรกับคนที่นอนดึก ตื่นสาย จะพอปฏิบัติธรรม ได้หรือไม่จ๊ะ

 :25:
210  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / 9 เรื่องห้ามเมาท์ กับเพื่อนร่วมงาน เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2011, 10:13:19 pm
9 เรื่องห้ามเมาท์ กับเพื่อนร่วมงาน

เรื่องต้องห้ามในออฟฟิศที่ห้ามแชร์ เล่า หรือบอกต่อกับเพื่อนร่วมงาน เพราะว่ามันอาจจะมีผลเสียตามมาแบบคาดไม่ถึงได้

พื้นฐานของคนไทย มักเล่าเรื่องที่เราได้ไปประสบพบเจอมาให้เพื่อนๆ ฟังอย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่เราได้อยู่ในสังคมที่แน่นแฟ้น ไม่เป็นตัวของตัวเองจนเกินไป ตามแบบฉบับของชาวตะวันตก แต่เมื่อเราได้เข้ามาทำงานที่มีเนื้องาน และเม็ดเงินเป็นคานคาบเกี่ยวระหว่างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน จึงมีการขอตั้งกฏเล็กๆ เอาไว้ว่า เรื่องเล่าต่อไปนี้ ไม่ควรเมาท์หรือแชร์กับเพื่อนๆ เพราะมันจะส่งผลร้ายมากกว่าผลดีน่ะ

 fwd mail จ้า

1. เก็บเงินเดือนเป็นความลับ

มันเป็นเรื่องระหว่างคุณ หัวหน้า และฝ่ายบุคคล คุณไม่ควรเก็บไปเล่าให้ใครฟัง เพราะว่ามันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และคนอื่นๆ อาจจะตั้งคำถามกับหัวหน้าหรือตัวคุณได้ ไม่ว่าคุณจะได้เงินเดือนมากน้อยเพียงใดก็ตาม

2. ประวัติการเจ็บป่วย

จริงอยู่ที่ไม่มีใครมาสนใจหรอกว่า คุณมีโรคประจำตัวอะไรบ้าง หรือว่าผ่าตัดครั้งสุดท้ายเมื่อไร แต่ทว่าเมื่อใดที่หัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานของคุณทราบ เขาสามารถคิดได้ว่า คุณเป็นบุคคลากรที่มีความเสี่ยงที่จะไม่สบายสูง ไม่แข็งแรง อาจจะมอบหมายงานสำคัญให้คนอื่นแทน

3. ห้ามนินทากาเล

อยากจะเม้าท์คนในออฟฟิตคุณต้องเม้าท์กับคนอื่นๆ นอกออฟฟิศ ที่ไม่สามารถสาวมาถึงตัวคุณได้ เพราะเรื่องนี้เป็นประเด็นสำคัญ ที่อาจจะทำให้คุณไม่สนิทใจกับเพื่อนร่วมงานอีกต่อไป รวมทั้งคนอื่นอาจฝังความคิดเกี่ยวกับนิสัยที่ไม่ดีของคุณไว้ในความทรงจำ

4. ติบ่นเรื่องงาน

หยุดกับการพูดถึงงานของคุณในแนวทางที่ไม่สร้างสรรค์ เพราะอาจจะมีบางคนที่ไม่เข้าใจในงานของคุณ เอาไปพูดลับหลังว่า คุณไม่ชอบ และไม่ยินดีกับงานที่ทำอยู่ หากคุณอยากจะบ่นให้พูดกับคนที่ไว้ใจได้ เข้าให้ถูกช่องทางดีกว่าที่จะบ่นไปโดยไม่ได้ดูทิศทางลม

5. ศาสนา และการเมืองห้ามคุย

อย่างที่เคยได้ยินกันว่ามีคนขัดแย้งกันระหว่างคุยเรื่องการเมือง จนถึงขนาดฆ่ากันตาย เชื่อพวกนี้เป็นเรื่องความความเชื่อ และความศรัทธาส่วนบุคคล ถ้าจะเถียงกันเพื่อเอาชนะไม่มีวันจบสิ้น เปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่าจะมองหน้ากับเพื่อนร่วมงานไม่ติด

6. ข้อมูลส่วนตัวอย่าเล่าต่อ

เรื่องบางเรื่องก็ไม่จำเป็นที่จะต้องให้เพื่อนร่วมงานของคุณรู้ก็ได้ อย่างเช่น เงินเก็บ ยอดขาย การวางแผนมีลูก หรือข้อมูลอะไรก็ตามที่อาจจะส่งผลเสียมาถึงเราได้ โดยเฉพาะเรื่องเที่ยวหรือเวลา Hang Out ของคุณ ถ้าคุณเล่าเมื่อวันอาทิตย์ได้ไปปาร์ตี้ที่สนุกสุดเหวี่ยงมา เพื่อนคุณจะจับสังเกตว่าคุณมีประสิทธิภาพในการทำงานน้องลงเพียงไร หากคุณไม่บอกเขาก็คงไม่จับตามองเป็นพิเศษ

 

7. เก็บบล๊อกห่างเพื่อนร่วมงาน

สาวๆ คนไหนเล่นบล๊อก จงระวังให้ดี เพราะข้อมูลออนไลน์ของคุณ จะบอกได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นความสุข หรือความทุกข์ ยิ่งถ้าเพื่อนร่วมงานของคุณเข้ามาเห็นคุณเขียนไว้ว่า Today is so bad day. เขาสามารถเดาได้ว่า คุณไม่พอใจเรื่องอะไรในที่ทำงาน หรือไม่พอใจในตัวเขาที่เข้ามาร่วมงานกับคุณ การตีความแปรสภาพไปได้หลายแบบ ดังนั้นไม่ควรให้สังคมออนไลน์เข้ามาปะปนกับชีวิตการทำงานของคุณนัก

 

8. ตั้งกำแพงความสัมพันธ์

ไม่ว่าคุณกำลังมีเรื่องกับสามี หรือกำลังอินเลิฟกับหนุ่มข้างกายคนใหม่ อย่าปล่อยให้ความรู้สึกเหล่านั้น ผ่านเข้ามาให้ที่ทำงานของคุณ อย่างน้อยเมื่อเหตุการณ์เหล่านั้นเปลี่ยนไป แล้วเราไม่อยากพูดถึง เพื่อนๆ อาจจะให้ความเป็นห่วงและถามถึงเรื่องนั้นไม่เว้นวัน (ความจริงอาจจะอยากรู้เรื่องราวตอนต่อไป) จนเหมือนว่าเรื่องภายนอกออฟฟิตส่งผลมาถึงการทำงานของเราด้วย

9. ปกปิดราคาสินค้า

ความจริงแล้วดูเหมือนไม่น่าจะต้องปกปิดอะไร แต่เมื่อคุณซื้อของมาสักชิ้นแล้วบอกราคามันให้คนอื่นๆ ฟัง เพื่อนร่วมงานของคุณอาจจะคะเนได้ว่า คุณมีกำลังซื้อของขนาดนี้ อาจจะได้เงินเดือนหรือเงินรายได้อื่นๆ มากกว่าพวกเขา ดังนั้นมีอะไรดีอย่าอวดเพื่อนๆ ในที่ทำงานกันข้อครหา


211  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: 10 กฏข้อบังคับ ของการเป็น ศิราณี เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2011, 10:08:05 pm
ทดสอบ test โพสต์นะ
emotion ไม่จ๊าบเลย ไม่คิขุ
 :13:
212  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / 10 กฏข้อบังคับ ของการเป็น ศิราณี เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2011, 10:03:08 pm

ขอบคุณภาพประกอบจาก http://campus.sanook.com


ศิราณี หรือที่เรารู้จักกันดีว่าเป็นที่ปรึกษาปัญหาหัวใจนั้น นับว่ามีความสำคัญต่อชีวิตสาวๆหรือไม่ว่าใครต่อใครก็ต้องเคยพึ่งพา หรือตกที่นั่งเป็นศิราณี อย่างน้อยก็สักครั้งในชีวิต และบางครั้ง "ศิราณี" จำเป็นก็อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จนเผลอทำร้ายจิตใจเพื่อนได้ง่ายๆ เหมือนกัน

มาลองดูกันค่ะว่า ศิราณีที่ดี ควรมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง เมื่อถึงคราวต้องรับบทที่ปรึกษา จะได้ทำหน้าที่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

1. เป็นกระจกสะท้อนปัญหา
พยายามป้อนคำถามให้เธอ อาศัยช่วงเวลาที่เล่าปัญหาให้เราฟัง เป็นการคิดทบทวนไปในตัวด้วย เพื่อช่วยขุดไปจนเจอต้นตอของปัญหา และยังทำให้เธอเข้าใจความรู้สึกตัวเอง จนมองเห็น ทางออกได้ในที่สุด

2. ให้ทางเลือก ไม่ใช่ให้คำตอบ
อย่าตัดสินใจแทน เพื่อน เพราะถึงอย่างไร เธอย่อมรู้ตื้นลึกหนาบางดีกว่าคุณอยู่แล้ว แถมบางทียังเล่าไม่หมด เพื่อหวังให้เราเข้าข้างอีกต่างหาก ทางที่ดี คุณก็เพียงชี้ทางให้เพื่อนได้รู้ว่า พอมีตัวเลือกอะไรบ้าง เพราะเธอย่อมหาคำตอบที่ดีที่สุดให้กับตัวเองได้อยู่แล้ว และในบางครา ทางออกที่ว่า ก็ไม่ได้อยู่ในตัวเลือกที่คุณเสนออีกต่างหาก

3. อย่าบังคับจิตใจ
อย่าบังคับจิตใจให้เธอทำตาม เพราะเราหวังดี ถ้าไม่ทำจะงอน หรือคิดว่า ถ้าไม่เชื่อแล้วมาถามฉันทำไม (ถ้าคิดแบบนี้ให้กลับไปอ่านข้อ 1-2 ใหม่) เพราะจะกลับกลายเป็นการเพิ่มปัญหาให้เพื่อนเสียอีก แต่หากหวังดีจริงๆ ก็แค่อยู่เคียงข้าง คยรับฟังเวลาที่เธอต้องการกำลังใจจะดีกว่า

4. ให้กำลังใจ อย่าซ้ำเติม
คุณเองก็คงเคยมีอาการ "เตือนแล้วไม่ฟัง" เหมือนกัน และเมื่อทำพลาด คุณก็คงเสียใจพออยู่แล้ว วินาทีนั้น คุณอยากได้ยินคำว่าอะไรล่ะ นั่นล่ะ คือสิ่งที่เพื่อนเองก็กำลังอยากได้ยินจากคุณ

5. ทำตัวเป็นกลาง
ตอนที่เพื่อนฟูมฟายก็ปลอบใจไป ก่อน เมื่อเธอสงบแล้วค่อยชี้ให้เห็นจุดที่เธอผิดจริง แล้วค่อยลูบหลังว่า ถึงอย่างไรเราก็เข้าข้างเธออยู่ดี แต่เพราะรักก็ต้องบอกกันนะเพื่อนจ๋า

6. เก็บความลับไว้กับตัว
แม้คุณอยากระบายให้ใครสัก คนฟังว่า เพื่อนของฉันช่างน่าสงสารอะไรอย่างนี้ ก็ช่วยเก็บไว้ในใจ เพราะถ้าเรื่องส่วนตัวนั้นห่วนมาหาเพื่อนสาวเมื่อไร ก็อาจต้องเคลียร์กันยาว

7. อย่าอินเกินไป
เพื่อนคงเหวอเหมือนกัน ถ้ากำลังบ่นเรื่องชีวิตรักอันแสนรันทดอยู่ดีๆ แม่ศิราณีกลับน้ำตาซึมเสียก่อน ประมาณว่าอินจัด แล้วถ้าอารมณ์อ่อนไหวขนาดนี้ จะมีสติให้คำปรึกษาเพื่อนได้อย่างไร

8. อย่าใส่สีตีไข่
ไม่ต้องไปย้ำว่า ที่เขาแอบไปเดินควงสาวอกตู้มคนนั้น ช่างหยามเกียรติลูกผู้หญิงสิ้นดี เธอช่างเป็น หญิงสาวผู้โชคร้ายอะไรขนาดนี้ ฟังแล้ว แทนที่ปัญหาจะคลี่คลาย กลับเป็นการทำเรื่องเล็กให้ดูเป็นเรื่องใหญ่โดยใช่เหตุ

9. อย่าขโมยซีน
เคยไหม เวลาที่เราเล่าปัญหาไปด้สักพัก แล้วก็มีเสียงแทรก "เหมือนกันเลย ชั้นก็เคยเจอ แบบนี้ๆๆๆ" คุณคงจะหมดอารมณ์น่าดู แทนที่จะได้ระบายความอึดอัด กลับต้องมานั่งฟังปัญหาของอีกฝ่ายเสียนี่ รู้แล้วก็อย่าทำเองเสียล่ะ

10. อย่ายุส่ง
"ผู้ชายแบบนี้เลิกไปเลย" ประโยคแบบนี้ฟังคุ้นๆ หรือเปล่าคะ แต่ลองคิดถึงในเวลาที่เพื่อนกลับไปคืนดี กับแฟนหนุ่ม และเล่าให้เขาฟังว่า ตอนที่มีปัญหากัน เธอได้ไปปรึกษาใครมาบ้าง คุรคงเข้าหน้าเขาไม่ ติดไปอีกนาน หรือถ้าเธอต้องเลิกกับแฟนเพราะคำยุของเรา แล้วต้องมานั่งเสียใจว่า เธอยังรักเขาอยู่
คุณก็คงไม่แฮปปี้เท่าไรหรอก

ไม่ว่าคุณจะหวังดีกับเพื่อนสักแค่ไหน แต่เธอก็ควรเป็นผู้ตัดสินใจในทางเลือกทางเดินของหัวใจด้วยตัวเอง และหากเพื่อนตัดสินใจผิดพลั้งไป เราก็เพียงคอยอยู่ข้างๆ เวลาเธอต้องการก็พอ
หน้า: 1 ... 4 5 [6]