ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - เฉินหลง
หน้า: 1 [2] 3 4
41  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ปฏิบัติ และ เรียน แบบไหน จึงจะพ้นจากสังสารวัฏ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2012, 08:53:24 am
การปฏิบัติที่จะพ้นจากสังสารวัฏ นั้น จัดว่าเป็นการฝึกจิตขั้นสูง คนธรรมดาให้เหตุผลอย่างไร ก็คงจะอธิบายกันยาก

  ศีล  สมาธิ ปัญญา เท่านั้นที่จะทำให้พ้นจากสังสารวัฏได้

    ผมว่าบางครั้ง คนก็คิดเรื่องนิพพาน แต่ก็ทำตัวสวนทางกับการไปนิพพาน

 :s_hi:
42  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / พระนันทกเถระ เอตทัคคะในทางผู้ให้โอวาสภิกษุณี เมื่อ: มกราคม 10, 2012, 08:50:45 am

พระนันทกเถระ เอตทัคคะในทางผู้ให้โอวาสภิกษุณี

พระนันทกเถระ เกิดในตระกูลพราหมณ์ เมืองสาวัตถี เมื่อเจริญวัยเติบโตขึ้นมาได้มี โอกาสไปฟังพระธรรมเทศนา จากพระบรมศาสดาแล้ว เกิดศรัทธาเลื่อมใส กราบทูล ขออุปสมบท ในพระพุทธศาสนา ตั้งใจบำเพ็ญเพียรเจริญสมณธรรม ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์

ท่านก็เป็นอีกรูปหนึ่ง ที่มีความชำนาญเป็นพิเศษ ในการระลึกชาติในอดีตของตนเอง และ สัตว์อื่น ๆ ได้ นอกจากนี้ท่านยังมีความเชี่ยวชาญในการแสดงธรรม แก่พุทธบริษัททั้ง ๔ สามารถ ชี้แจงยกอุปมาอุปไมย อธิบาย จนทำให้ผู้ฟังเข้าใจแจ่มแจ้ง

ท่านเคยแสดงธรรมแก่ภิกษุณี จำนวนถึง ๕๐๐ รูป จนได้บรรลุพระอรหัตผล ณ วัดราชการาม ซึ่งเป็นวัดที่พระเจ้าปเสนทิโกศล สร้างถวายตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองสาวัตถี แคว้นโกศล ซึ่งในครั้งนั้น ขณะที่พระบรมศาสดาประทับอยู่ ณ พระเชตะวันมหาวิหาร พระ มหาปชาบดีเถรี ได้พาภิกษุณีประมาณ ๕๐๐ รูป มาเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา เพื่อรับฟังพระธรรม เทศนา และพระพุทธองค์ได้ทรงมอบหมายให้พระภิกษุณีเหล่านั้น และในบรรดาภิกษุสาวกเหล่า นั้น ก็มีพระนันทกะรวมอยู่ด้วย

หลีกเลี่ยงแสดงธรรมแก่ภิกษุณี
พระสาวกรูปอื่น ๆ เมื่อถึงวาระของตน ก็ไปแสดงธรรมตามหน้าที่ ด้วยดีทุกองค์ แต่พอ ถึงวาระของพระนันทกะ ท่านไม่ไปแสดงธรรมเอง แต่ให้พระภิกษุรูปอื่น ไปแสดงธรรมแทน เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะท่านระลึกชาติในอดีตได้ว่า “ภิกษุณีเหล่านั้น ในอดีตชาติเคยเป็นบาท จาริกา ข้ารับใช้ของท่านมาก่อน” ดังนั้น ท่านจึงเกรงว่า “ถ้าพระภิกษุพุทธสาวกรูปอื่นที่ สามารถระลึกชาติในอดีตได้ ทราบความแล้ว อาจจะตำหนิท่านว่า ยังมีความผูกพันกับภิกษุณีเหล่า นั้นอยู่ก็ได้”

เรื่องนี้ทรงทราบถึงพระบรมศาสดา จึงทรงมีพระบัญชารับสั่งด้วยพระองค์เอง ให้พระนันทกะ ไปแสดงธรรมแก่นางภิกษุณีเหล่านั้น ท่านไม่อาจจะขัดพระบัญชาได้ จึงต้องไป เมื่อถึงวาระของตน

ท่านแสดงธรรม ว่าด้วยเรื่องอายตนะภายใน คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ และอายตนะภาย นอก คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ เมื่ออายตนะภายนอกสัมผัสกันแล้ว ทำให้ เกิดเวทนา ถ้าชอบใจ ก็เกิดสุขเวทนา ถ้าไม่ชอบใจ ก็เกิดทุกขเวทนา ถ้าไม่เกิดความรู้สึกชอบใจ หรือไม่ชอบใจ ก็เป็นอุเบกขาเวทนา ท่านได้ชี้แจงให้เห็นว่าสิ่งเหล่านั้น ไม่เที่ยงแท้ ย่อมผันแปร เปลี่ยนไป ไม่มีตัวตนที่ควรจะยึดถือได้

ท่านพระนันทกะ ได้แสดงธรรมแก่ภิกษุณีเหล่านั้นในวันแรก ภิกษุณีทั้งหลาย ได้บรรลุ เป็นพระโสดาบัน พากันชื่นชมโสมนัสยินดี ในธรรมกถาของท่าน พระบรมศาสดาทราบความนั้น แล้ว จึงรับสั่งให้ท่านไปแสดงธรรมอีกเป็นครั้งที่สอง ซึ่งท่านก็ได้แสดงในเรื่องเดียวกัน เมื่อจบ ลงแล้วนางภิกษุณีเหล่านั้น ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ด้วยกันทั้งหมด ด้วยอานิสงส์ ที่สามารถ ควบคุมจิต ให้สงบจากความรักความผูกพันในอดีตชาติได้

ด้วยเหตุนี้ พระบรมศาสดาจึงทรงยกย่องท่าน ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้ง หลาย ในทางผู้ให้โอวาทภิกษุณี

ท่านดำรงอายุสังขาร สมควรแก่กาลเวลาแล้วก็ดับขันธปรินิพพาน

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม :
- ประวัติพระนันทกเถระ หนึ่งในอสีติมหาสาวก (พระมหาสาวก ๘๐)


43  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: อยากทราบวิธีการ วางอุเบาขา ครับ เมื่อ: มกราคม 10, 2012, 08:38:47 am
พระพุทธเจ้าตรัสแก่ปริพาชกว่าทรงได้ตรัสรู้ความจริง  หนึ่งในนั้นคือ ในความเป็นจริง  ไม่มีใครเป็นอะไรของใคร   เมื่อทราบความจริงในข้อนี้ได้  ก็จะดำเนินอยู่ท่ามกลางความไม่มีอะไรให้กังวล


ตรัสว่า :-

                "เราย่อมไม่มีในอะไรๆ (ไม่มีเราในขันธ์ เช่นรูปขันธ์เป็นต้น)


                 เราย่อมไม่มีในความเป็นอะไรๆ ของใครๆ


                 อนึ่ง ใครๆ ย่อมไม่มีในอะไรๆ (ไม่มีความเป็นบุคคล เป็นใครในขันธ์)


                 ความเป็นอะไรๆ ของใครๆ ย่อมไม่มีในความเป็นอะไรๆ ของเรา"


                 เมื่อเขากล่าวดังนี้ ชื่อว่ากล่าวจริง มิใช่กล่าวเท็จ และด้วยการกล่าวจริงนั้น เขาย่อมไม่สำคัญตัวว่า เราเป็นสมณะ เราเป็นพราหมณ์ เราเป็นผู้ประเสริฐกว่าเขาเราเป็นผู้เสมอเขา เราเป็นผู้เลวกว่าเขา อนึ่ง เขารู้ยิ่งสัจจะในความปฏิบัตินั้นแล้ว

                  ย่อมเป็นผู้ดำเนินปฏิปทาอันหาความกังวลมิได้ทีเดียว(1)



คำอธิบาย -

              พระขีณาสพ(พระอรหันต์)ไม่เห็นตนว่ามีกังวลอยู่ในสิ่งไหนๆ ของใคร และความกังวลในสิ่งไหนๆ ในใคร ..ไม่เห็นตนของคนอื่นควรนำเข้ามาด้วยความกังวลนี้ ไม่ว่าในฐานะไรๆ คือ พี่ชายในฐานะเป็นพี่ชายของตน สหายในฐานะเป็นสหาย บริขารในฐานะเป็นบริขารดังนี้. เพราะเหตุที่พราหมณ์นี้เป็นอย่างนี้ ฉะนั้นจึง ไม่เห็นตนในที่ไหนๆ ไม่เห็นตน ที่ควรนำไปในความกังวลของตน. ไม่เห็นตนของคนอื่นที่ควรนำเข้าไปในความกังวลของตน.

              บทว่า อิติ วทํ พฺรหฺมโณ พึงทราบความว่า พราหมณ์ผู้เป็นขีณาสพ แม้กล่าวสุญญตาความสูญทั้ง ๔ เงื่อน ชื่อว่ากล่าวความจริงทั้งนั้น เพราะรู้แจ้งโดยชอบปฏิปทานั้นแล้ว มิได้กล่าว เท็จเลย ทั้งไม่สำคัญ เพราะตนละความสำคัญทั้งหลายในทุกวาระได้แล้ว.

              บทว่า อากิญฺจญฺญํเยว ปฏิปทํ ได้แก่ ปฏิปทาอันเว้นจากความกังวล ไม่มีห่วงใย ไม่ยึดถือนั้นเอง. บทว่า ปฏิปนฺโน โหติ ได้แก่ บำเพ็ญเต็มที่. (2)




**********************

(1) พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๑ อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต
โยธาชีววรรคที่ ๔
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=21&A=4617&Z=4990&pagebreak=0

(2)โยธาชีววรรควรรณนาที่ ๔ 
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=21&i=181

44  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: งานพระราชทานเพลิงสรีระสังขาร พระเทพวิสุทธิมงคล (หลวงปู่ศรี มหาวีโร) 14 ม.ค.55 เมื่อ: มกราคม 10, 2012, 08:32:42 am
อนุโมทนาสาธุ กับข่าวครับ

 :s_hi: :25:
45  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: มีปัญหา ค้างตอบ เยอะนะครับ ช่วยกันตอบดีหรือไม่ครับ ? เมื่อ: มกราคม 06, 2012, 11:10:45 am
ต้องการทำบุญ เหมือนกัน แต่เกรงว่า ตอบไปจะหาว่าอวดรู้ หรือ มีปัญหามาก เหมือนเว็บมาสเตอร์ วิจารณ์ไปเร็ว ๆ นี้ จึงขอเป็นผู้อ่าน ก่อนนะครับ

   :s_hi: :s_hi: :s_hi:
46  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / หนังสือประวัติท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และมุตโตทัย ดาวน์โหลดอ่านได้ที่นี่ครั เมื่อ: มกราคม 04, 2012, 10:48:23 am
หนังสือประวัติท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และมุตโตทัย

http://ebooks.in.th/ebook.aspx?bid=2890


ใครมีเฟสบุคกด like ที่นี่ก้อได้ครับ

มีหนังสือมากมายให้อ่านครับ

http://www.facebook.com/ebooksinth
47  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: สังยุตตนิกาย นิทานวรรค สัทธรรมปฏิรูปกสูตร เมื่อ: ธันวาคม 26, 2011, 10:15:22 am
ผมเห็นว่า..สัมมาทิฐิ..อีกนั้นแหละครับ...
เพราะทุกวันนี้...หาผู้ที่มีสัมมาทิฐิ...ยากมากครับ...
หลายๆคน..หลายๆรูป...ที่เป็นผู้ปฎิบัติธรรมเอง..ก็ไม่มี..สัมมาทิฐิ..ทั้งๆที่ศึกษา..พระไตรปิฎกเล่มเดียวกันครับ...
เช่น...
ผู้ปฎิบัติธรรมที่ไม่ใช่พระสงฆ์...
เข้าใจว่าการปฎิบัติ...ต้องได้ฌาณ..ต้องได้ญาณ...ได้นิมิต...ได้ปิติ..ได้อะไรต่อมิอะไร..แต่ลืมนึกว่าว่าพระพุทธเจ้าสอนให้ลดละกิเลส..จน..ดับกิเลสหมดสิ้นไปในที่สุด..ทั้งๆจริงๆแล้วสิ่งที่อยากได้เหล่านั้นจะต้องเกิดขึ้นจากเหตุปัจจัย...ของการลดละกิเลสหรือการปฎิบัติมรรค ๘ ให้ครบองค์แห่งมรรคในทุกๆผัสสะกระทบสัมผัสเท่านั้น...และส่วนใหญ่จะมองกิเลสผู้อื่นไม่เคยกระทำใจภายในใจดูกิเลสตัวเอง...ลดละกิเลสตัวเอง..อีกต่างหากครับ
พระสงฆ์ส่วนมาก...
ก็มีการพยายามตีความพระไตรปิฎกเข้าข้างกิเลสในตนโดยไม่รู้ตัว...ไม่ว่าจะเป็น..กฐิน(เงิน)..ผ้าป่า(เงิน)..รับเงินได้....ทำบุญ(เงิน)...พระเครื่อง(เงิน)...สรุปก็คืออยากได้เงินนะครับ..และยังสอนให้..ฆารวาสว่าให้เงินพระได้อีกต่างหาก..ครับ..แล้วศาสนาพุทธจะไม่เสื่อมได้อย่างไร..ในเมื่อพระสงฆ์สาวกส่วนใหญ่เป็นอย่างนี้อยู่...มีตำแหน่งบริหารสงฆ์ในประเทศนี้อยู่ครับ..ซึ่งก็ทำให้คนธรรมดาปกติที่มีปัญญาทางโลก(ฉลาดแกมโกง)..ก็ไปบวชเป็นพระสงฆ์..เพื่ออาศัยหาเงินโดยวิธีดังกล่าวข้างต้น..แต่หากยึดตามคำสอนพระพุทธเจ้า..คือพระสงฆ์รับเงินไม่ได้เกิด ๕ บาสก...เหตุการณ์เหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นครับ...ซึ่งจริงๆแล้วพระที่ปฎิบัติดี..ปฎิบัติชอบท่านไม่รับเงินครับ..ซึ่งเท่าที่ผมเห็นท่านก็บอกว่าไม่ได้ลำบากอะไร(เท่าที่ท่านบอกนะครับ..ส่วนหากผมคิดเองผมว่าท่านก็ลำบากครับ)

การที่โลกุตระจะเจริญได้..ไม่ว่าฆารวาส..พระสงฆ์ที่อยู่ในพุทธศาสนา..จะต้องลดละกิเลส...ลดละการสะสม..ลดละความใหญ่โต...การเจริญของโลกุตระ..จะวัดที่การทำงานเพื่อส่วนรวม..ไม่ใช่เพื่อตัวเพื่อตน...ซึ่งมันจะขัดกับใจเราเองทำได้ยากยิ่ง..จึงหาผู้ที่เป็นลักษณะนี้ยากครับ(หากมันง่ายคงมีพระโสดาบัน..พระอรหันต์เยอะแยะไปหมดแล้วครับ)...ซึ่งจะทำให้โลกก็เจริญ...โลกุตระก็เจริญ..โดยไม่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติเยอะจนทำลายล้างโลกอย่างปัจจุบันนี้ครับ

ตรงนี้เป็นความเห็น..ความรู้สึกต่อพระพุทธศาสนาในประเทศไทยนะครับ...แต่ก็ยังโชคดีอยู่ที่ยังมีพระสงฆ์บางส่วนที่ตั้งใจบวชเพื่อนิพพานจริงๆอยู่บ้างครับ

ความเห็นจากคุณ    : โกวิทย์ (โกวิทย์)
48  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / นั่งภาวนา กรรมฐาน แล้ว เห็น ร่างกายของตนเองเป็นร่าง กลวง ๆ ควรทำยังไงครับ เมื่อ: ธันวาคม 14, 2011, 09:42:11 am
ผมได้ฝึกเจริญกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ในขั้นที่ 1 อยู่เป็นเวลา เกือบ 2 ปีแล้วครับ จนเมื่อสองสามวันก่อนเห็นกายตัวเอง เป็นกายโพลง ๆ ซ้อนกายที่นั่งอยู่ ผมควรทำอย่างไรต่อไปครับ แต่ผมก็กำหนด พุทโธ ต่อไปนะครับ การเห็นแบบนี้ คือเห็นกายโพรง ๆ นี้ซ้อนกายที่นั่ง เป็น ๆ หาย ๆ ไปเป็นพัก กายที่เห็นนี้เป็นสีขาวครับ

   :smiley_confused1: :c017: :25:
49  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ปีใหม่ นี้ เพื่อน ๆ สมาชิก อยากทำอะไรกันบ้างครับ ? เมื่อ: ธันวาคม 13, 2011, 09:36:11 am


พักผ่อนอยู่ที่บ้านครับ
 :25:
50  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ร่วมอวยพร ส่งความสุข ด้วยการ์ด ดิจิตอล ต้อนรับปี 2555 / 2012 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2011, 02:50:31 pm
51  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: ถ้าเราโดนวิจารณ์ ด่า ต่อว่า ในทางเสียหาย ควรทำอย่างไรในการภาวนาคะ เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2011, 08:52:19 am
นับว่ามีคำที่ให้กำลังใจ และ แนะนำพร้อมดีมากครับ อยาก ให้ เพื่อน ๆ ที่กำลังประสบปัญหาเช่นนี้อยู่ได้อ่านกันครับ

อดทนไว้ ครับ ยิ้มให้ได้ ในความเป็นมนุษย์ ครับ

  :s_hi:

52  ธรรมะสาระ / บทสวดมนต์ มนต์พิธี / Re: บทปลงสังชาร อภิณหปัจจเวกขณ เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2011, 09:50:14 am
ชวนฟัง บทปลงสังขาร ครับ เพื่อจะได้เรียนรู้จากทุกข์ กันให้มากครับ

เมื่อครูอาจารย์ นำทางให้แล้ว ก็เป็นหน้าที่ของศิษย์ ที่ต้องทำความเข้าใจ

กับหลักธรรม กันเองครับ ผมคิดว่าบทนี้เป็น บทที่ทำให้เราเข้าใจใน ทุกข์ ได้มากขึ้น

อีกบท หนึ่งครับ



53  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: ขอแจ้งเรื่องการบวชนะครับ เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2011, 09:25:42 am
จำได้ว่าเห็นประกาศ ไปครั้งหนึ่ง โดย พระอาจารย์ ครับ
แต่ยังไม่ได้ร่วมอนุโมทนา ครับ

ขออนุโมทนาบุญครั้งนี้ด้วยครับ ผมเองก็อยากบวชให้ พ่อหลวงสักครั้งครับ

 :25: :25: :25:
54  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / วิถึธรรมพระโสดาบัน ในพระไตรปิฏก ชวนกันเป็นพระโสดาบันกันก่อน ครับ เมื่อ: ตุลาคม 26, 2011, 08:57:20 am
โสดาบัน ๓ ระดับ
๑. เอกพีชี  เกิดอริยชาติอีกเพียงส่วนเดียว แล้วจักทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ (พระบาลีไม่มีคำว่าชาติ หรือเป็นการเกิดแบบเป็นตัวๆ เลย)
๒. โกลังโกละ (เกิดในสุคติภพอีก ๒-๖ส่วน ก็จักทำที่สุดแห่งทุกข์ได้)
๓. สัตตักขัตตุปรมะ (เวียนเกิดในสุคติภพหรืออริยชาติอีกเพียง ๗ ส่วน  ก็จักทำที่สุดแห่งทุกข์ได้
 (พตปฎ. เล่ม ๒๐  ข้อ ๕๒๘)

 ญาณ ๗ ของ.พระโสดาบัน
๑. รู้จักปริยุฏฐานกิเลส (ได้แก่ นิวรณ์๕ , การทะเลาะวิวาทกันด้วย หอกคือปาก ฯลฯ)  แม้ละยังไม่ได้ก็รู้   ไม่มีที่จะไม่รู้
๒. อาเสวนา (เสพคุ้นไม่หนีโจทย์แต่ทบทวนเผชิญโจทย์)   ภาวนา(ทำให้มีผลเจริญ)    พหุลีกัมมัง (ทำให้มาก)
๓. เชื่อมั่นในธรรมวินัยนี้ ไม่ดาษดื่นทั่วไปกับสาธารณะปุถุชน
๔. มีธรรมดาของผู้สำนึกรีบออกจากอาบัติ เปรียบเหมือนกุมารอ่อนนอนหงาย  ที่ถูกถ่านไฟด้วยมือ  หรือด้วยเท้าเข้าแล้ว    ก็ชักหนีเร็วโดยฉับพลัน
๕. อาริยสาวกถึงความขวนขวายในกิจใหญ่น้อยที่ควรทำอย่างไร  ของเพื่อนสพรหมจารีโดยแท้  ถึงอย่างนั้นความเพ่งเล็งกล้าในอธิศีลสิกขา  อธิจิตสิกขา  และอธิปัญญา-สิกขา ของอาริยสาวกนั้นก็มีอยู่ 
เปรียบเหมือนแม่โคลูกอ่อนย่อมเล็มหญ้ากินด้วย  ชำเลืองดูลูกด้วย ฉันนั้น
๖. มีพลังทำประโยชน์  ทำไว้ในใจ  กำหนดด้วยจิตทั้งปวง   เงี่ยโสตฟังธรรมวินัยของตถาคต  อันบัณฑิตแสดงอยู่
๗. ได้ความรู้อัตถะ-รู้ธรรม  ปราโมทย์  รู้จริงครบถ้วนธรรม 
(โกสัมพีสูตร  พตปฎ. เล่ม ๑๒   ข้อ ๕๔๓ - ๕๕๐)

องค์คุณ ๘ ส่วน ของพระโสดาบัน
ส่วนที่ดับไปจากจิต
๑. ขีณนิรยะ (สิ้นจากนรก, ปิดนรก ดับความเร่าร้อนได้) 
๒. ขีณปิตติวิสยะ (สิ้นจากวิสัยความอยากอย่างเปรต) 
๓. ขีณติรัจฉานโยนิ (สิ้นจากความโง่ ที่ขวางเจริญ)
๔. ขีณาปายทุคติวินิปาตะ (สิ้นจากอบาย ทุคติ วินิบาต)

ส่วนที่เกิดทางจิต (โอปปาติกโยนิ)
๕. โสตาปันนะ (เข้าสู่กระแสโลกใหม่คือโลกุตระ)
๖. อวินิปาตธัมโม (ไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา)
๗. นิยตะ (เที่ยงแท้แน่นอนสู่มรรคผลที่สูงขึ้น)
๘. สัมโพธิปรายนะ (มุ่งตรัสรู้ในภายหน้า)
(พตปฎ. เล่ม ๑๙  ข้อ ๑๔๗๕)

โสดาบันติดแป้น
วัฏฏภิรตโสดาบัน ผู้ยังติดแป้นในฐานแห่งสุขอยู่  โดยไม่ยอมเลื่อนฐานให้เกิด “อภิชาตจิต” 
จน มี วุฒฑิภาวะ ที่สูงขึ้น จึงจัดอยู่ใน ฐีติบุคคล  ที่แม้จะรู้ทางไปสู่ที่สูง  ก็ไม่ยอมลำบากที่จะละทิ้ง วัฏฏะอันน่าภิรมย์นี้ (ภิรตา)
พระพุทธเจ้าไม่สรรเสริญความหยุดอยู่  แต่สรรเสริญผู้ที่ ตั้งตนอยู่บนความลำบาก  กุศลธรรมจึงจะเจริญยิ่ง

โสดาบันผู้ไม่ย้อนกลับ
อนิ วัตตโสดาบัน คือ  ผู้ที่ไม่มีวันเวียนกลับไปสู่ที่ต่ำใดๆ อีกอย่างเด็ดขาด แม้เพียงชาติเดียว  โดยจิตจะไม่เกิดการยึดภพ ยึดชาติ อีกเลยแม้แต่ดวงจิตเดียว


จากคุณ    : toi (castertoi)


55  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ได้ขึ้นกรรมฐาน ที่วัดราชสิทธาราม แล้ว ถ้าไปพบพระอาจารย์ต้องขึ้นกรรมฐาน อีก... เมื่อ: ตุลาคม 17, 2011, 09:30:38 am
อยู่ที่ความศรัทธา และ ความเคารพ แล้วครับส่วนนี้
 ทำกี่ครั้งก็ได้บุญ ครับ การถวายอามิสบูชา แด่พระรัตนตรัย ทำบ่อย ๆ ก็ดีครับ
 :25:
56  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: พระธรรม เป็นของให้ฟรี สำหรับ ผู้ที่ต้องการไปสู่ คำว่า ฟรีด้อม ( freedom ) เมื่อ: ตุลาคม 17, 2011, 09:29:22 am
อ่านแล้ว รู้สึกถึงความต้องการของผู้ปฏิบัติ กันตอนนี้ ต้องการวิธีการใหม่ มากกว่า ที่จะยึดตามหลักการเดิม
ในพระไตรปิฏก ล้วนแล้วจะกล่าวถึง ขั้นตอนการปฏิบัติกรรมฐาน โดยเฉพาะอานาปานสติ กับ โพชฌงค์ 7
มากที่สุด ส่วนการดูจิต ระวังอายตนะ สติ หรือสติปัฏฐาน นั้น ล้วนแล้วผนวกกับ วิธีการทั้ง 2 แบบครับ

 การเจริญสติ เป็นเรื่องดี อนุโมทนา ครับ

 แต่หลังจากเจริญ สติ แล้วนี่สิครับ เอาเวลานั้นไปทำอะไร ที่มีสติ

 ดังนั้นใน มหาสติปัฏฐาน จึงกล่าวเรื่อง บรรพ ต่าง ๆ ตั้งแต่

  อานาปานบรรพ
  สัมปชัญญบรรพ
  อิริยาปถบรรพ
  ธาตุบรรพ
  อาทีนวบรรพ
 เป็นต้นไป เพื่อให้สติ มั่นคง ในขณะที่เจริญไปนั้น สมาธิ ก็ต้องมั่นคงไปด้วย

  พิจารณาให้ดีครับ สติ สัมปชัญญ สมาธิ วิิิริยะ เป็นสิ่งที่ต้องไปด้วยกันครับ

  :49:
57  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: สนใจ ไฟล์เสียง ที่บรรยายกรรมฐาน มาก คะ เมื่อ: ตุลาคม 14, 2011, 09:00:11 am
ผมว่าฟัง ช่วง ทุ่ม ถึง 2 ทุ่มเอาก็ได้ครับ

   :25: :coffee2:
58  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ทราบว่า พระอาจารย์ นั่งกรรมฐาน ช่วงเข้าพรรษา... เมื่อ: ตุลาคม 14, 2011, 08:59:00 am
ก็็อีกแค่ เดือนเดียวครับ
ไม่นาน ไม่นาน ไม่นาน

  :25:
59  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: นั่งสมาธิ แต่ได้ยินเสียงด้านนอก ตลอดเวลา ทำให้ไม่เป็นสมาธิ เมื่อ: กันยายน 23, 2011, 09:18:04 am
ผมว่าเริ่มแรก อาศัย ไปฝึกกับครูอาจารย์ ก่อนดีกว่านะครับ

เช่นที่ คณะ 5 วัดราชสิทธาราม ไปอาศัยฝึกนั่ง แจ้งกรรมฐาน ที่นั่นก่อนก็ได้ครับ

 :s_hi: :93:
60  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: อนุโมทนา กับผู้บริจาค เน็ตบุ๊ค ให้กับงาน สำันักงานส่งเสริมพระกรรมฐาน เมื่อ: กันยายน 21, 2011, 11:25:11 am
อนุโมทนา ในบุญกุศล ให้กับ สถานีออนไลน์ด้วยครับ

ถึงว่า ทางสถานี ถึงเสียงเงียบไปหลายวัน ที่แท้ก็มีอุปสรรค

ตอนแรกผมนึกว่า ถูกตัดไฟ เนื่องจากน้ำท่วม


   อนุโมทนา กับลูกศิษย์ พระอาจารย์ทุกคน ที่เสียสละในทาน ครั้งนี้ด้วยครับ

 และอนุโมทนา กับผู้จัดรายการ ในช่วงที่สถานี ยังอยู่ในช่วง โอนถ่ายข้อมูล อยู่ด้วยนะครับ

 สาธุ สาธุ สาธุ

 :25: :25: :25:
61  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ขอเชิญฟังธรรมบรรยาย "สมาธิบำบัด เพื่อแก้วิกฤตสุขภาพ" 16 ก.ย.54 เมื่อ: กันยายน 14, 2011, 10:21:56 am
สมาคมนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ โรงเรียนเทพศิรินทร์ โดย ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลสวัสดิ์ ที่ปรึกษาสมามฯ ขอเรียนเชิญท่านร่วมฟังธรรมบรรยายโดย

 พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ วัดดอยเกิ้งอ.เเม่สะเรียง จ.เเม่ฮ่องสอน

 เรื่อง “สมาธิรักษาโรคโดยพลังพิรามิด & การเตรียมรับกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่กำลังจะเกิดขึ้น”

วันศุกร์ที่ 16 ก.ย. 54 เวลา 13.00-16.00 น.
ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารเทิดพระเกียรติ์ ร.ร.เทพศิรินทร์ .
(ไม่มีค่าใช้จ่าย/เเต่งกายสุภาพ)

และ พระ ดร.ศรัณย์ รุ่น 09-11

จะมาเล่าประสบการณ์ที่หายป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายจากการปฏิบัติได้โดยไม่ต้องผ่าตัด

ผู้สนใจกรุณาเเจ้งจำนวน & สำรองที่นั่งก่อน 30 ส.ค.54 นี้
ที่คุณสุขุม มหาวัจน์ ผู้จัดการสมาคม โทร. 02-2528978, 080-6064046


จากคุณ : ซามูไรหมูตอน
62  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / นายถาวร พรหมมีชีย ผู้ว่า จังหวัดสระบุรี ให้สัมภาษณ์ สระบุรี เตรียมพร้อมรับภัยน้ำ เมื่อ: กันยายน 12, 2011, 09:14:09 am
http://videolink.nationchannel.com/data/11/2011/08/25/di9igbggjje6dd79kdgbi.mp4


กมลรัฐ(เสรี)/สระบุรี 089-9052714

       นายถาวร พรหมมีชีย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ให้สัมภาษณ์ สระบุรี เตรียมพร้อมรับภัยน้ำท่วม

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=528627
63  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / สระบุรี ชุมชนเขาคูบา เขตเทศบาลเมืองสระบุรี ย้ายสิ่งของหนีน้ำเอ่อล้นแม่น้ำป่าสัก เมื่อ: กันยายน 12, 2011, 09:09:02 am
กมลรัฐ(เสรี)/สระบุรี 089-9052714

http://videolink.nationchannel.com/data/11/2011/09/11/cakh7Ab7k5dfAga6b56fe.mp4


      ชุมชนสะพานดำ เขตเทศบาลเมืองสระบุรี ขนย้ายสิ่งของ หนีน้ำท่วม

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากฝนตกมาหลายวันที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมถนน ริมถนนหลานท้องที่ใน จ.สระบุรี เช้าวันที่ 11 2554 ชาว ชุมชนเขาคูบา ในเขตเทศบาลเมืองสระบุรี ต้องระดมช่วยกันค้นย้ายสิ่งของ บ้านพักที่อยู่ริมแม่ป่าสัก เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักเพิ่มระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ ทางเทศบาลเมืองนำเต็นท์มากางให้ ตั้งอยู่ริมถนนในชุมชนพ้นจากภัยน้ำท่วม พร้อมจัดเวรยามเฝ้าดูระดับน้ำตลอด 24 ชั่วโมง

http://77.nationchannel.com/playvideo.php?id=173339
64  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ศภช.เตือน 14 จังหวัดรับมือฝนตกหนัก 10-12 กย. ( สระบุรี ดัวย ) เมื่อ: กันยายน 12, 2011, 09:06:47 am
10 กย. 2554 14:26 น.

    ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ(ศภช.) แจ้งว่า ระหว่างวันที่ 10-12 ก.ย.นี้ จะมีฝนตกชุกหนาแน่น โดยเฉพาะ จ.ตาก จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ จ.ลพบุรี จ.สระบุรี จ.ชัยภูมิ จ.บุรีรัมย์ จ.สกลนคร จ.นครราชสีมา จ.กาฬสินธุ์ จ.สระแก้ว จ.ระยอง จ.ระนอง และจ.พังงา จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมจากภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม และแจ้งเตือนประชาชนให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการพร้อมติดตามข่าวอย่าง ใกล้ชิด

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=528627
65  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / รพ.มวกเหล็ก สระบุรี ระดมถุงทรายกั้นน้ำป่า เมื่อ: กันยายน 12, 2011, 09:03:49 am
10 กย. 2554 22:36 น.

    เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 10 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากฝนตกตลอดทั้งวัน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากท่วมริมถนนมิตรภาพ ระหว่าง กม.ที่ 22-23 หมู่ 5 และ 9 ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี รถยังสามารถวิ่งผ่านได้อย่างช้าๆ

    หน่วยกู้ภัยสว่างรัตนตรัยธรรมสถาน จุด อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ร่วมกับ กู้ภัยร่วมกตัญญู สระบุรี พร้อมอาสาของอำเภอมวกเหล็ก เจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลมวกเหล็ก ช่วยกันบรรจุทรายใส่ถุงปุ๋ย นำไปวางกั้นกันน้ำป่าที่เริ่มไหลทะลักเข้ามาล้นคลองน้ำที่ไหลผ่านกลางโรง พยาบาล

    โดยทางพยาบาล เจ้าหน้าที่ ที่เข้าเวร ของโรงพยาบาล อ.มวกเหล็ก ต่างเตรียมพร้อมเฝ้าระวังนำท่วมตลอด 24 ชั่วโมง หากมีปัญหาเกิดขึ้น ได้เตรียมแผนการย้ายผู้ป่วย จำนวน 30 เตียง ไปยังโรงพยาบาล อ.แก่งคอย และโรงพยาบาลสระบุรี ไว้แล้ว หากถึงเวลานั้นจริงๆ จะไปปลุกเจ้าหน้าที่ที่ออกเวรมาช่วยกันขนย้ายผู้ป่วยด้วย

    ต่อมาเมื่อเวลา 19.30 น. อ่างเก็บน้ำเขารวก ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามกลั่น ต.หนองปลาไหล อ. เมือง จ.สระบุรี ขนาดบรรจุน้ำประมาณ 7,500 ลูกบาศก์ เป็นอ่างดิน เกิดแตกทำให้น้ำไหลทะลักลงสู่เบื้องล่าง เบื้องต้นทราบว่า มีบ้านถูกน้ำพัดสูญหายไป 1 หลังคาเรือน มีอีกหลังคาเรือนหนึ่งยังไม่ทราบชะตากรรม กำลังตรวจสอบ เพราะได้แจ้งปิดกระแสไฟฟ้าทั้งหมดในบริเวณน้ำตกสามกลั่นหมดแล้ว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=528667

66  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ดินสไลด์ทับหอพักสระบุรี ตายแล้ว2-เจ็บ1 เมื่อ: กันยายน 12, 2011, 09:01:42 am
12 กย. 2554 08:50 น.

    เมื่อเวลา 07.32 น. เกิดเหตุอาคารพาณิชย์หลังรพ.เกษมราษฎร์ จ.สระบุรี ทรุดตัวลงหลายคูหา เนื่องจากฝนตกหนักทำให้ดินสไลด์ บริเวณเชิงเขาตระกร้า เจ้าหน้าที่รุดตรวจสอบเป็นอาคารหอพัก 2 ชั้น 10 ห้อง พังลงมา มีคนติดอยู่ภายในอาคารหลายคน และมีกลิ่นแก๊ส เร่งช่วยเหลือเป็นการด่วน

    ล่าสุด เวลา 08.30น. ผู้ว่าราชการจ.สระบุรีแจ้งว่าพบแล้ว 2 ศพ ผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คนคาดว่ายังติดอยู่ภายในอีก2คน

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=528800
67  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ฝนที่ตกหนักติดต่อกัน ทำให้น้ำเอ่อล้นจากอ่างเก็บน้ำสามหลั่น สระบุรี เมื่อ: กันยายน 12, 2011, 08:58:31 am
http://61.90.201.187/ch72008/1/2/376/20110911/0922369382500.flv



ฝนที่ตกหนักติดต่อกัน ทำให้น้ำเอ่อล้นจากอ่างเก็บน้ำสามหลั่น และไหลหลากเข้าท่วมในชุมชนพระพุทธฉาย ตำบลหนองปลาไหล อำเภอเมืองสระบุรี ซึ่งความแรงของกระแสน้ำ ทำให้ข้าวของชาวบ้านได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เพราะน้ำที่ไหลมาอย่างรวดเร็ว ทำให้ขนย้ายไม่ทัน ชาวบ้านกว่า 50 หลังคาเรือนได้รับความเดือดร้อน และอยู่กันอย่างหวาดผวา นอกจากนี้สะพานเข้าออกวัดพระพุทธฉาย ถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนขาดใช้สัญจรไม่ได้

http://www.ch7.com/news/news_thailand_detail.aspx?c=2&p=376&d=156987
68  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ธรรมะ ธรรมะ ธรรมะ เมื่อ: กันยายน 08, 2011, 09:56:54 am
ธรรมะไม่ใช่ข้อคิด
ธรรมะไม่ใช่ข้อเตือนใจ
ธรรมะไม่ใช่สิ่งที่เราจะรู้และเข้าใจได้
แต่ธรรมะคือสิ่งที่ทำให้เรารู้และเข้าใจได้ต่างหาก

เหมือนเราอยู่ในที่มืด แล้วถือไม้ขีดไฟอยู่กล่องหนึ่ง
เราคลำดู สัมผัสดู ก็รู้ว่ากล่องไม้ขีดนั้นเป็นสี่เหลี่ยม
ข้างในมีก้านไม้ขีดอยู่กี่แท่งก็รู้ แต่ว่าเราไม่รู้วิธีนำมาใช้
เราก็สำคัญว่าเรารู้จักไม้ขีดไฟดีแล้ว


ต่อเมื่อใดเรานำก้านไม้ขีดนั้นถูไปกับข้างกล่อง
พลันไม้ขีดไฟนั้นก็สว่าง ทำให้เราเห็นทุกอย่างที่ไม่เคยเห็น
ไม่ว่าจะก้านไม้ขีด กล่องไม้ขีด แสงสว่าง มือของเรา ตัวของเรา และรอบ ๆ ตัวเรา

ธรรมะก็เช่นกัน หากเราคิดว่าเรารู้แล้ว แต่เราไม่รู้จักวิธีนำไปใช้
นั่นก็คือเรายังไม่มีธรรมะ และทำให้เรายังคงไม่รู้อยู่นั่นเอง

ธรรมะสามารถทำให้ปุถุชนคนธรรมดาเปลี่ยนเป็นพระอริยเจ้าได้
ฉะนั้น คำที่ว่าธรรมะเอาชนะใจปุถุชนไม่ได้จึงไม่ถูกต้อง
ที่ถูกคือปุถุชนเมื่อยังไม่มีธรรมะในใจ ก็จะไม่สามารถรู้และเข้าใจความจริงของโลก
แต่เมื่อใดน้อมนำธรรมะไปปฏิบัติ เมื่อนั้นย่อมมีธรรมะในใจ
และธรรมะในใจนั่นเองที่จะทำให้เรารู้ ทำให้เราเข้าใจในสัจธรรมที่แท้จริงขึ้นมา

การที่เราพิจารณาว่าธรรมะคืออะไร และเห็นว่าธรรมะช่วยอะไรไม่ได้
ก็เหมือนการที่เราถือกล่องไม้ขีดไปมา และไม่เห็นว่ามันจะช่วยอะไรเราได้
ตรงกันข้าม แม้เราจะไม่รู้ว่าธรรมะคืออะไร แต่เพียงเรานำไปปฏิบัติเราก็จะเข้าใจเอง
เหมือนเราไม่รู้ว่ากล่องไม้ขีดมันมีไม้ขีดกี่ก้าน แต่พอเราเอามาถูข้างกล่องเท่านั้น
เราก็เข้าใจทุกอย่างแจ่มแจ้ง

กายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต คือสิ่งที่ยังธรรมะให้เกิดขึ้นในใจ
ศีล หิริ โอตตัปปะ พรหมวิหาร สังคหวัตถุ อิทธิบาท ฆราวาสธรรม ฯลฯ
เพียงแต่เรานำสิ่งเหล่านี้ไปปฏิบัติอย่างจริงจัง แม้เราไม่เรียนธรรมะ
แต่เราก็จะเข้าใจว่าธรรมะคืออะไร มากกว่าคนที่เรียนมาแต่ไม่เคยทำสิ่งเหล่านี้เสียอีก

เพราะฉะนั้น ธรรมะไม่ใช่แค่การพิจารณา ไม่ใช่แค่หลักในการคิด
แต่ธรรมะคือสิ่งที่ควรน้อมนำมาปฏิบัติและควรทำให้มีขึ้นในตัวเอง

เมื่อใดเรามีศีลอันดีพร้อม เมื่อใดหิริโอตตัปปะอันผู้อื่นติเตียนไม่ได้
เมื่อใดเรามีคุณธรรมอันเกิดขึ้นแล้วแก่ตนเองจากความพยายามของตนเอง
เมื่อนั้นหากธรรมะยังช่วยเราไม่ได้ ถึงเวลานั้นค่อยมาพูดกัน

จากคุณ    : พักผ่อน

69  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: งดออกอากาศ RDN 4 ก.ย.2554 1 วัน คะ เมื่อ: กันยายน 04, 2011, 08:00:08 pm
ถึงว่า วันนี้ไม่มีเสียง เห็นว่า จะเปิด AutoDj ก็ไม่มีเสียง นะครับ

สาธุ สาธุ สาธุ

อย่าลืมเอาบุญมาฝากกันมาก ๆ นะครับ

 :25:
70  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / สมาธิ แค่เพียงนาทีเดียว ถือว่าเป็นกุศลใหญ่หลวงแล้ว เมื่อ: สิงหาคม 31, 2011, 09:10:22 am
สมาธิ แค่เพียงนาทีเดียว ถือว่าเป็นกุศลใหญ่หลวงแล้ว

ถ้าคุณจับหลักให้ถูก และทำให้เป็นสมาธิจริง ๆ สัก 3 นาที ก็มีผลแล้วครับ 5 นาที ก็ได้กำลังดี

ถ้าเราทำสมาธิแม้เพียง 5 นาทีแบบถูกต้อง ก็เหมือนกับ รีเซตสมอง เกิดความสดชื่นรวมจิตใหม่ขึ้นมาได้ไม่น้อยเลย

ผม สังเกตในสมัยที่ผมอ่านหนังสือเรียน จะมีบางช่วงที่เราคิดว่า อ่านไม่ไหวแล้ว อ่านไปก็ไม่เข้าหัว  อย่างน้อยต้องนอนก่อนคืนนี้ แล้วพรุ่งนี้ค่อยอ่านใหม่  จากการที่คิดว่าเราจะนอนก่อนแล้วค่อยกลับมาอ่านต่อนั้นเพราะอ่านไปก็ไม่ เข้าหัวแล้ว ถ้าเราทำสมาะิแค่เพียง 5 นาทีก็มีผลเท่ากับเรานอนไปแล้วหนึ่งคืนเลยทีเดียวในเรื่องนี้ สามารถกลับมาอ่านต่อได้แบบการเริ่มต้นใหม่เลยทีเดียว

ทีนี้การทำ สมาธินั้น อย่างน้อยเราต้องตั้งความมุ่งหมายไว้ก่อนทำสมาธิ ว่าเราจะทำสักเท่านั้นเท่านี้นาที คือเปรียบเหมือนวางแผนไว้ก่อนทำ  อย่าทำแบบเลื่อนลอยคืออยากจะทำก็ทำและไม่ได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะทำสักกี่นาที กันแน่ แบบนี้พอไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน พอเริ่มมีอกุศลเข้ามากระตุ้น เช่น ง่วง เหงา หาวนอน ก็จะเบื่อหน่ายแล้วพลันจะวางเป้าหมายเดิมไป


อย่าง ไรก็ตาม จะเปลี่ยนมาเป็นการสวดมนต์ให้มากขึ้นก็ได้ การสวดมนต์ เพื่อให้ได้ประโยชน์ในทางสมาธิด้วยในทางสติด้วยก็ได้  ก็เอาสติสมาธิรับรู้คำที่บริกรรมนั้น ไม่ว่าจะบริกรรมออกเสียงหรือบริกรรมในใจก้ได้ทั้งนั้น  หากเมื่อก่อนเราบริกรรมไปแบบนกแก้วนกขุนทองคือท่องตามความจำ    มาตอนนี้เปลี่ยนใหม่คือให้ใส่ใจมากขึ้น เอาสติไปจับในคำก็ได้ ในเสียงก็ได้ ในความหมายก็ได้ หรือในจังหวะการขยับปากก็ได้  คือเราสามารถฝึกสติหรือสมาธิกับกริยาใดๆของร่างกายหรือของจิตเราก้ได้ ตรงนี้จะมีประโยชน์มากครับ

เช่นเราท่องชิณบัญชร เราก็เอาสติไปจับที่คำที่เราท่อง หรือจับที่ความหมายก็ได้ ตรงนี้มันทำกันยาก ก็ทำได้ถือว่าเริ่มมีพัฒนาการด้านสติที่ดีขึ้นแน่นอนครับ เพราะหลายๆคนเคยทำมาอย่างนี้ นอกจากจะได้ผลตามอนิสงค์แห่งการสวดแล้ว ที่เป็นผลที่เห็นชัดเจนจริงๆคือ  ได้ผลด้านสติ และแน่นอนสมาธิก็จะมาควบคู่กันด้วย

การใช้สติมาจับเมื่อสวด ดร.บุญชัย เจ้าของโรงเรียน FAST ENGLISH สอนแนะนำเป็นประจำ ซึงท่านก็เป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมากคนหนึ่งเลยทีเดียว


จากคุณ : มังกรจักรวาล

71  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ฝึกกรรมฐาน ไม่ต้องขึ้นกรรมฐาน ก็ได้ เมื่อ: สิงหาคม 30, 2011, 08:58:04 am
ต้องทำความเข้าใจ กับ หลักการ ขึ้นกรรมฐาน ให้ดีนะครับ

อ่านตามลิงก์ ที่แนบ แล้ว วิเคราะห์ ความเหมาะสม

 ธรระม ถึงจะเป็นการให้เปล่า

  แต่ คุณ ต้องนึกสภาพ ตามความเป็นจริง ว่า ถ้า คุณ จะรับศิษย์ ที่กระด้าง ไม่เชื่อฟัง ไม่เคารพ ในคุณ

 คุณจะสอน เขา หรือไม่ ดังนั้น หากพิจารณาให้ดี การขึ้นกรรมฐานนั้น ก็เป็นการลดมานะทิฏฐิ ของบุคคลที่จะเรียนกรรมฐาน ด้วย

 ดังนั้น หากเราไม่ต้องการมีครู ก็ต้องใช้ สติปัญญา แสวงหา ฟัง ตามดู ไป ก็เป็นเรื่องของบุคคล

 ส่วนคนที่มาฝึก ขึ้นกรรมฐาน ถึง ขึ้นกรรมฐาน แต่ไม่ปฏิบัติกรรมฐาน ก็ใช่ว่า จะสำเร็จ อะไรนะครับ

 :hee20hee20hee: :hee20hee20hee: :hee20hee20hee:
72  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: เวลาปฏิบัติกรรมฐาน จำเป็นต้องเกิดปีติ หรือไม่คะ เมื่อ: สิงหาคม 30, 2011, 08:53:46 am
เวลาปฏิบัติ ก็ควร จะเกิด ปีติ ครับ เพราะ ปีติ เป็น สภาวะธรรมบาทแรก ของ สมาธิ

 ในสมาธิ ประกอบ ด้วย องค์ หลัก ดังนี้ 1 ปีติ 2 สุข 3 สมาธิ ( เอกัคคตา ) 4 อุเบกขา

ดังนั้น การภาวนา กรรมฐาน ใช้ วิตก กับ วิจาร เข้าไปหา องค์ หลัก  ครับ

  ดังนั้น จิต ไม่เกิดปีติ ก็ไม่เกิด ฉันทะสมาธิ เมื่อไม่มี ฉันทะสมาธิ ก็ไม่มี ปราโมทย์ในสมาธิ

เมื่อไม่มีปราโมทย์ในสมาธิ ก็ย่อมไม่อยากปฏิบัติ สมาธิภาวนา หรือ สมถะวิปัสสนากรรมฐาน

 :67: :67: :67:
73  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ขอฝึกกรรมฐาน แค่ ขั้นแรก ห้องแรก เป็นไรหรือไม่คะ เมื่อ: สิงหาคม 30, 2011, 08:50:31 am
ผู้ฝึกภาวนา กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ

 ย่อมจะเข้าใจ ลำดับ ขั้นตอนอยู่แล้ว ครับ เพราะว่า อย่างน้อย ก็ต้อง รู้คร่าว ๆ ว่า

   ห้อง ที่ 1 มี  5 ขั้น และ รายละเอียด ปลีกย่อย

   ห้อง ที่ 2 มี 6 ขั้น และ รายละเอียด ปลีกย่อย

   ห้องที่ 3 มี 2 ขั้น  และ รายละเอียด ปลีกย่อย

   ห้องที่ 4 มี 16 ขั้น   และ รายละเอียด ปลีกย่อย

  หากพอใจที่อยู่ขั้นแรก ก็ได้ แต่แสดงให้เห็นว่า จิตไม่ได้ฝึกจริงแท้ จึงยังคงยึด รูป แบบเดียว การได้เปลี่ยน ฐาน จิตนั้น เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะทำให้ผู้ปฏิบัติไม่ติด สุข และมี การงานให้แก่จิต และอีกหลายประการ อันสนับสนุน สภาวะธรรม

  :25:

74  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: กามฉันทะ และ ฉันทะสมาธ ต่างกันอย่างไร เมื่อ: สิงหาคม 30, 2011, 08:46:21 am
กามฉันทะ คือ ความพึงพอใจ ใน รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส เรียกว่า กามคุณ 5

ฉันทะสมาธิ จะมีได้ เมื่อได้ผล สมาธิ ตั้งแต่ ปีติ ขึ้นไป เป็น ผล ให้เกิด ปราโมทย์ ในสมาธิ

ดังนั้น กามฉันทะ นั้น ถึงไม่ทำสมาธิ ก็เกิดขึ้นได้ ตามสภาพ ของสภาวะกิเลส

ส่วน ฉันทะสมาธิ จะเกิดได้ ต้องภาวนาปฏิบัติ กรรมฐานใด กรรมฐานหนึ่ง เจริญจิต เป็นสมาธิ จึงจะมีได้

ดังนั้น ความเหมือน ความต่าง ก็เป็นอย่างนี้

  แต่ กามฉันทะ หากอยู่กับ กามคุณ บ่อย ๆ มาก ๆ ก็มีผลให้เกิด ความทุกข์ได้

  ส่วน ฉันทะสมาธิ หากอยู่ด้วยกันบ่อยมากขึ้น ก็มีผลให้จิต เป็นสุข ๆๆๆๆ ยิ่งกว่า สุข ที่ปุถุชนเข้าใจ

 :s_hi: :s_hi:
75  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / http://khampramong.org/ วัดคำประมง เมื่อ: สิงหาคม 21, 2011, 12:08:58 pm


http://khampramong.org/
วัดคำประมง


วัดคำประมง
 
คัดย่อบางส่วน จากความเป็นมาของวัดคำประมง
 
พระปพนพัชร์ (พัลลภ) กล่าวว่า “เริ่มต้นตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๒๙ ช่วงนั้น หลวงตาไปภาวนาที่ถ้ำขาม ช่วงเดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๒๙ มาวันหนึ่งได้ทราบข่าวหลังจากไปวิเวกได้ลงมาข้างล่างที่วัดสันติฆาราม บ้านบัว ตำบลสว่าง อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ผู้ใหญ่บ้านสมัยนั้นชื่อนายเสริม มีจิตศรัทธาที่จะถวายที่ดินให้หลวงตาในนามของหลวงปู่สิม พุทธาจาโร หลวงตาก็บอกนายเสริมว่า ให้นายเสริมพาไปดูที่ พอไปดูที่แล้วมันไม่เหมาะสมที่จะสร้างวัด มันอยู่ใกล้บ้านเลยถามผู้ใหญ่เสริมว่ามีที่ใหม่อีกไหม คือตอนแรกจะยกที่ตรงนี้ให้หลวงปู่สิม หลวงตาก็บอกว่ามันไม่เหมาะสม เพราะที่มันไม่ใช่ทำเลที่ตั้งวัด นายเสริมก็ว่า “มีครับมันอยู่ที่ดอนขาม” ก็เลยพาหลวงตาไปดู ต้องเดินลัดเลาะป่าเข้าไป ไม่ได้เป็นทางอย่างที่เห็นปัจจุบันนี้ หลวงตาทำมาหมดแล้ว ถนนหนทาง ไฟฟ้า ประปา หลวงตามทำทั้งหมด เดินลัดทุ่งลัดรอยเกวียนเข้าไปจนถึงดอนขาม ติดแม่น้ำอูน เป็นป่าที่ไม่ได้พัฒนา เป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว หลวงตาก็ว่า “อย่างนี้แหละใช่เหมาะจะสร้างวัด” แกก็เริ่มถวายที่ดิน ครั้งแรก ๔๘ ไร่ เป็น นส. ๓ ก ให้หลวงตาสร้างวัด ก็ไม่มีอะไรเลยเป็นป่าโปร่งๆ ป่าโล่งๆ ที่ทำมาหากินไม่ได้ เป็นที่เข็ดที่ขามของชาวบ้าน มันจะมีจอมปลวกใหญ่ที่เรียกว่าดอนขาม สูงใหญ่มาก จะมีลานที่เขาปักหลักไม้ไว้ และเขียนเป็นอักษรธรรมไม่รู้ความหมายว่า คืออะไร มีความเป็นมาอย่างไร แต่ว่าตอนที่หลวงตาไป ปลวกกินไปแล้ว ไฟไหม้หมดแล้วจึงเหลือแต่ดอนขามปัจจุบัน จอมปลวกนั้นก็ยังอยู่ หลวงตาก็ไปปักกรด ภาวนาอยู่คนเดียว แบกกรดสะพายบาตรพอลงจากถ้ำขาม อำเภอพรรณานิคม ที่หลวงปู่มั่นท่านไปจำพรรษา มันไม่มีอะไรสักอย่าง มีเขียงนาร้างๆ เสาก็ร้าง หลังคาก็ร้าง ผู้ใหญ่เสริมก็ไปทำนาได้บ้างไม่ได้บ้าง ถ้าดีเขาคงไม่ให้ มันใช้อะไรไม่ได้เลย ก็เราชอบที่อย่างนี้ พอเดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๒๙ ผู้ใหญ่เสริมก็มากล่าวคำถวายที่ดิน หลวงตาก็นิมนต์พระมารับที่ดินตรงนี้หลายท่านหลายองค์ เป็นสักขีพยานว่าผู้ใหญ่แกถวายที่ดินตรงนี้แล้วนะ ให้กับหลวงตา หลวงปู่สิม ตอนนั้นหลวงปู่สิมอยู่ที่ถ้ำผาปล่อง ไม่ได้ลงมา หลวงตาก็จัดการรับเรียบร้อย”



เพื่อนได้พาคุณพ่อไปรักษาที่วัดคำประมง จ.สกลนคร  ที่วัดรักษาโดยใช้ยาสมุนไพรหลายอย่างซึ่งพระอาจารย์ทำพิธีสวดมนต์อธิฐานจิต ต้มยาหม้อให้ทุกๆ 2 อาทิตย์  และคนไข้ต้องทานอาหารมังสวิรัสอย่างเคร่งครัดพร้อมกับทานยาสมุนไพรทุกวัน  ทางวัดจัดบ้านให้อยู่ฟรี  ยาก็ฟรี  แต่ต้องมีญาติอยู่ดูแลคนไข้ 1 คน ทุกวันจะมีฟังเทศน์ตอนเช้า  พร้อมกิจกรรมสันทนาการบำบัด ออกกำลังกาย  แงเพลง  ร้องเพลง  ส่วนตอนเย็นก็มีการทำวัตรเย็น สวดมนต์ฟังเทศน์  ถ้าคนไข้อาการดีมีแรงก็เข้าร่วมกิจกรรมได้ แต่ถ้าไม่มีแรงก็อยู่ในห้องพักฟังเสียงตามสายแทนก็ได้  มีเสียงเพลงดนตรีไทยไพเราะบรรเลงโดยวงดนตรีพื้นบ้าน (วงไม้หอม) พระอาจารย์จะมาตรวจเยี่ยมอาการที่บ้านทุกวัน  ส่วนคนไข้อาการหนักมากๆในระยะสุดท้ายของชีวิต  ท่านก็จะบอกทุกคนให้มาอยู่กับคนไข้เพื่อสวดอิติปิโส และช่วยเป็นกำลังใจให้กับคนไข้ไปในภพภูมิที่ดี

ถ้าอยากดูภาพบรรยากาศในวัดก็ลองเข้าไปดูรายการคนค้นคน  ตอนอโรคยาศาล

มาถ่ายทอดสิ่งที่ได้พบ เผื่อได้เป็นประโยชน์ค่ะ
จากคุณ : ปันน้ำใจ
76  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: มารู้จักกับคนที่..."กล่าวตู่พระพุทธเจ้า" เมื่อ: สิงหาคม 16, 2011, 12:58:19 pm
อ้างถึง
๒. ผู้มีศรัทธาถือเอาผิด (จำผิด,เข้าใจผิด)

อันนี้ ถ้าจะต้องทำความเข้าใจ อีกมากเลยนะครับ

 :s_hi:
77  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: พระสงฆ์ที่ปฏิับัติภาวนา ได้ขั้นพระอริยะ ท่านฉัน มังสะวิรัติ หรือไม่ครับ เมื่อ: สิงหาคม 15, 2011, 08:47:23 am
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๕
มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์

                                                           หน้าที่ ๔๒


เนื้อที่ไม่ควรบริโภค และควรบริโภค ๓ อย่าง

[๕๗] พ. ดูกรชีวก ชนใดกล่าวอย่างนี้ว่า ชนทั้งหลายย่อมฆ่าสัตว์เจาะจงพระสมณโคดม
พระสมณโคดมทรงทราบข้อนั้นอยู่ ก็ยังเสวยเนื้อสัตว์ที่เขาทำเฉพาะตน อาศัยตนทำ ดังนี้
ชนเหล่านั้นจะชื่อว่ากล่าวตรงกับที่เรากล่าวหามิได้ ชื่อว่ากล่าวตู่เราด้วยคำอันไม่เป็นจริง

ดูกรชีวกเรากล่าวเนื้อว่า ไม่ควรเป็นของบริโภคด้วยเหตุ ๓ ประการ คือ เนื้อที่ตนเห็น
เนื้อที่ตนได้ยิน เนื้อที่ตนรังเกียจ ดูกรชีวก เรากล่าวเนื้อว่าเป็นของไม่ควรบริโภค
ด้วยเหตุ ๓ ประการ นี้แล

ดูกรชีวก เรากล่าวเนื้อว่า เป็นของควรบริโภคด้วยเหตุ ๓ ประการ คือ เนื้อที่ตนไม่ได้เห็น
เนื้อที่ตนไม่ได้ยิน เนื้อที่ตนไม่ได้รังเกียจ ดูกรชีวก เรากล่าวเนื้อว่า เป็นของควรบริโภค
ด้วยเหตุ ๓ ประการนี้แล
78  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / สมเด็จโต กับฝรั่ง เมื่อถูกถามว่า แกนโลกอยู่ตรงไหน สำนวนเล่า เมื่อ: สิงหาคม 09, 2011, 08:30:45 am
   สมเด็จโต กับฝรั่ง

(เป็นเรื่องเค้าโครงความจริง ที่เคยเกิดขึ้นจริงจากบันทึกเก่า ๆ  แต่ผมเอามาเล่าดัดแปลงสำนวนเล็กน้อย น่ะขอรับ คงไม่ว่ากัน)

    ที่ต้องวงเล็บระบุเป็นเหลี่ยมเพชร ก็เพราะว่าคำว่าเหลี่ยมคม บางสถานการณ์อาจจะไม่เหมาะกับพระภิกษุสงฆ์ แต่ในที่นี้ผมอยากจะให้เห็นว่า เหลี่ยมมุมต่าง ๆ ของเพชรนั้น ไม่อันตราย ไม่บาดเนื้อหนังใคร มีแต่จะส่องแสง แห่งสีสรร ที่สวยงาม และทรงคุณค่าในตัว

                                   ............................................................

   ครั้งหนึ่ง ฝรั่งที่เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยในยุคเดียวกับที่หลวงปู่โต หรือสมเด็จโต ยังมีชีวิตอยู่นั้น   ได้ข่าวว่าสมเด็จโตนั้น มีปัญญามาก มีไหวพริบปฏิภาณ จึงอยากจะไปตั้งคำถามลองภูมิ เพื่อให้หลวงปู่จนด้วยคำถาม จึงไปหาหลวงปู่ เห็นท่าน กำลังยืนดูแลพระเณรกวาดลานวัดอยู่พอดี

   ถามอยู่หลาย ๆ คำถาม หลวงปู่ก็ตอบได้หมด จนฝรั่งคิดว่า เอาล่ะ ไอจะลองถามเรื่องวิทยาศาสตร์ดีกว่า พระไม่มีความรู้แน่ ๆ จึงยิงคำถามถวายไปว่า..

  "ท่านหลวงพ่อรู้ทุกสิ่ง แล้วหลวงพ่อรู้ไหมว่า ใจกลางของโลก หรือจุดศูนย์กลางของโลก อยู่ที่ประเทศไหน?"

  หลวงปู่ ยิ้มน้อย ๆ ก่อนที่เอาปลายไม้เท้าชี้ลงไปที่พื้นดิน ที่ท่านยืนอยู่นั้น แล้วบอกฝรั่งว่า "อยู่ตรงนี้  อยู่ตรงนี้"

   ระฆังทำวัตรเย็นดังขึ้น หลวงปู่ต้องไปไหว้พระสวดมนต์ ท่านให้พร ทั้งฝรั่งทั้งคนที่พามา แล้วเดินจากไปทำกิจวัตรของสงฆ์ ตามปกติที่เคยทำเป็นนิตย์

    เล่นเอาฝรั่งยืนงง อยู่ตั้งนาน    ยืนมอง นั่งมอง ที่รอยไม้เท้า สักพัก ก็เอียงหน้าขึ้นมามองเพื่อนคนไทยที่พามา   เพื่อนคนไทยก็ แบมือแบไม้ แบะ แบะ ประมาณว่า "ตูไม่รู้เฟ้ย เรื่องแบบนี้ ยูไม่ต้องมาพึ่งพาอาศัยเลยนะ"  ฝรั่งก็เอามือจิ้ม ๆ ที่รอยไม้เท้า แล้วบ่นคร่ำครวญเบา ๆ ประมาณว่า..

 " Impossible  impossible ไอว่า มานเป็นไปม่ายด๋ายนะ ศูนย์กลางโลก จามาอยู๋ที่นี๋ ในวัดนี๋ ได้ยางงาย impossible "

  ทั้งฝรั่งทั้งเพื่อนคนไทย ก็งุนงง เดินทางกลับไป คนไทยคงไม่เท่าไหร่ แต่ทราบมาว่า ฝรั่งถึงกับนอนไม่หลับทั้งคืน รุ่งเช้าโน่นแหล่ะ ถึงเจอ เพื่อนฝรั่งอีกคน ที่มารับราชการเป็นอาจารยสอนวิชาวิทยาศาสตร์ ให้แก่ลูกหลานบุคคลชั้นสูงในสมัยนั้น

  ก็เลย เล่าเรื่องที่ยังสงสัยหาคำตอบไม่ได้ ให้อาจารย์วิทยาศาสตร์ท่านนั้น ที่เป็นเพื่อนคุ้นเคยกันฟัง

     อาจารย์ฝรั่ง ได้ยินแล้ว ถึงกับ... ฮ่า ฮ่า ฮ่า หัวเราะเป็นภาษาฝรั่งก่อน จากนั้นก็หัวเราะก๊าก ๆๆๆ เป็นภาษาไทย   เอามือกุมท้องจนเห็นว่าพอควรแก่การขำได้แล้ว เพราะเห็นว่า เพื่อนฝรั่งยิ่งทำหน้างงหนักเข้าไปอีก อาจารย์ฝรั่งก็ เอามือตบไหล่เพื่อนพร้อมทั้ง พูดแบบคุ้นเคยว่า...

  "ยู สติวปิ๊ด...พระหลวงพ่อพูดถูกแล้ว ถูกที่สุดเลย ...แอบโซลูทลี่ ไรท์ .. หากยูไม่เชื่อพระหลวงพ่อ ยูก็ลองสั่งเครื่องจักร เครื่องมือจากประเทศของพวกเรา แล้ว ลองขุดลงไปดูสิ ขุดจนมันทะลุโลกไปอีกด้าน แล้วยูก็เอา ไม้ไผ่มาต่อ ๆๆ กัน เสียบเข้าไป ให้ทะลุโลกไปโผล่ด้านโน้นของโลก  จากนั้น ไอก็จะช่วยสงเคราะห์ หาช้างมาเตะยู แบบว่าเตะอย่างแรง ๆ นะ เพื่อที่จะส่งยู ออกไปนอกอวกาศ ยูก็จะมองลงมาเห็นว่า ไม้ไผ่น่ะเสียบอยู่ตรงกลาง ของโลก ลูกกลม ๆ ใบนี้พอดีเลยแหล่ะ  มายเดียเฟรนด์ เพื่อนรัก ......ฮ่า ฮ่า ฮ่า กร๊าก ๆๆๆ เอิ๊กส์ เอื๊ก เอิ๊กสสสส์....หลวงพ่ออยู่วัดไหนล่ะเพื่อน ท่านรู้จริง ๆ นะ"

    ฝรั่งอาจารย์ พูดจบ ก็รีบตาลีตาเหลือกวิ่งออกไป ไม่วายหันมาบอกเพื่อนว่า

"ไอ สายแล้ว ไอสายแล้วเพื่อน  เดี๋ยวเข้าไปแลกเช่อร์ไม่ทัน ไปล่ะ  อย่าลืมขุดลงไปดูนะเพื่อน บาย"

ทิ้งให้เพื่อนยืนกึ่ง งง กึ่งว่าจะเริ่มเก๊ต และคราครวญกับตัวเองว่า...

  "...เออ..จริงของหลวงพ่อแฮะ  ก็โลกใบนี้มันกลม นี่หว่า ไม่ว่าขุดตรงไหนของลูกกลม ๆ  หากตั้งองศาชี้ไปตรง ๆ มันก็เป็นจุดศูนย์กลางของลูกกลม ๆ อยู่ดีนั่นแหล่ะ .......Opsss... สงสัยว่า ไอจะสติวปิด จริง ๆ นะนี่"

  ฝรั่งเดินช้า ๆ ยกมือขึ้นมากุมคาง กรีดนิ้วขยับสลับไปมาครุ่นคิด จากนั้นก็ยกมือขวาขึ้นมา กุมหน้าผากและปล่อยมือลงมา ในท่าที่ดูแล้วเหมือนกับปัดออกไปไกลตัว ในลักษณะทิ้งมือลง (ลักษณะที่เห็นกันอย่างคุ้นเคย ที่ฝรั่ง รู้สึกว่าเหมือนกับว่า ช่างเหอะ ๆๆๆ แล้วมักทำท่าอย่างนี้)  แล้วเดินลับไปในซอยซอยหนึ่ง ในเมืองบางกอกยุคต้น ๆ ของความศิวิไลซ์ ยุคนั้น
79  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: รวมปฏิบัติธรรม วันแม่ สำหรับ ผู้สนใจ ตั้งแต่ 1 - 14 ส.ค.54 ( มีหลายแห่ง ) เมื่อ: สิงหาคม 08, 2011, 10:53:18 am
ขอเชิญชวน ผู้ที่มีจิตศัทธา ตั้งใจปฎิบัติธรรม ในวันแม่แห่งชาติ ณ วันไทรงาม
สนใจ ติดต่อ ได้ ณ วัดไทรงาม ตั้งแต่วันที่ 12 สิหาคม 2554
ปล. แล้วแต่จิตศัทธา ว่าจะบวช กี่วัน




กิจวัตรประจำวัน
กำหนดเวลาปฏิบัติธรรม ภาคเช้า
เวลา ๐๔.๐๐ น. ลุกขึ้นทำความเพียร
เวลา ๐๕.๔๕ น. ออกโคจรบิณฑบาต
เวลา ๐๘.๐๐ น. ฉันภัตตาหารเช้า
เวลา ๑๐.๓๐ น. ฉันภัตตาหารเพล
กำหนดเวลาปฏิบัติธรรม ภาคกลางวัน
เวลา ๑๔.๐๐ น. ปฏิบัติอิริยาบถนั่งสมาธิ ๑ ชั่วโมง
เวลา ๑๕.๐๐ น. ปฏิบัติอิริยาบถยืนสมาธิ ๑ ชั่วโมง
เวลา ๑๖.๐๐ น. ปฏิบัติอิริยาบถเดินจงกรม ๑ ชั่วโมง
กำหนดเวลาปฏิบัติธรรม ภาคกลางคืน
เวลา ๑๘.๐๐ น. ทำวัตร สวดมนต์เย็น ถวายน้ำปานะ
เวลา ๒๐.๐๐ น. ฟังการบรรยายธรรม
เวลา ๒๑.๐๐ น. ปฏิบัติอิริยาบถเดินจงกรม ๑ ชั่วโมง
เวลา ๒๒.๐๐ น. พักผ่อนตามอัธยาศัย



http://www.watsai.net/
80  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: พระป่า กับ พระบ้าน ใครปฏิบัติธรรมได้ดีกว่ากัน เมื่อ: สิงหาคม 07, 2011, 09:20:24 am
การ ปฏิบัติธรรม หากเราพอมีพื้นฐานหรือแนวทางอยู่บ้าง อยู่ที่ไหนก็สามารถปฏิบัติได้

เพราะหลักการของการฝึกจิตคือ ทำได้ในทุกอิริยาบท ซึ่งมันไม่จำเป็นต้องใส่ชุดขาว หรือปฏิบัติที่วัดอย่างเดียว นั้นอาจจะหมายถึงผู้เริ่มต้น แต่สำหรับคนที่พอมีประสบการณ์แล้ว

การปฏิบัติธรรมที่แท้จริงคือ การรู้เท่าทันต่ออารมณ์ที่กระทบจิตของเราในทุกขณะ เช่น อารมณ์อันเกิดจากความโกรธหรือไม่พอใจ มันเกิดขึ้นเรารู้ตัวไหม ดับมันได้ไหม.. อารมณ์ความต้องการสิ่งต่างๆ มันเกิดขึ้นรู้ตัว และดับมันได้ไหม..หากเราปฏิบัติธรรมทุกวัน แต่เรายังไม่รู้เท่าทันอารมณ์ของตน มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะพระพุทธเจ้าสอนเรื่องมหาสติปัฏฐาน คือกำหนดรู้กาย-รู้ใจ..ในอิริยาบททั้งสี่ คือ ยืน เดิน นั่ง นอน..

 เราสามารถนำมาประยุกต์กับชีวิตประจำวันเราได้ เช่น ทำงานแทนที่เราจะปล่อยให้จิตคิดฟุ้งซ่าน แต่เรากำหนดจิตโดยบริกรรมภาวนาในใจ เช่น พุทโธ.ๆ และหากอารมณ์ขณะนั้นมีอะไรมากระทบ ก็ให้กำหนดเป็นปัจจุบันธรรม หรือปัจจุบันอารมณ์ ความรู้สึกเหล่านั้นมันดับไป เราก็เป็นนายของใจเรา..เพราะเรารู้เท่าทันมันได้ พูดแบบภาษาทั่วไปคือเราชนะใจตัวเองได้ไหม..

ของบางอย่างก็ต้องรู้จักฝืนจึงจะชนะมันได้.. จิตของเรามีสองด้าน คือด้านดี และด้านร้าย..หากเราไม่พยายามฝึก เราก็จะเชื่อด้านร้ายตลอด เพราะมันยุยงส่งเสริมให้เราเก่งมากๆ  ยุให้ทำในสิ่งที่ผิดเสมอ.. แต่ด้านดีมักจะไม่ค่อยจะได้ทำ เพราะอำนาจของฝ่ายร้ายสูงและเก่งกว่า..

เราก็ต้องพยายามฝึกฝ่ายดีให้มีกำลังบ้าง ให้สูสีกับฝ่ายร้าย จึงจะต่อสู้กันพอฟัดพอเหวี่ยง.. ถ้าเราไม่ฝึกใจของเรา มันก็มีแต่แพ้ เพราะอำนาจฝ่ายดีไม่มีกำลังเพียงพอ.. ดังนั้นฝากไว้ ชีวิตที่วุ่นวายนี่แล่ะ เป็นสนามฝึกฝนจิตใจได้เป็นอย่างดี.

ดังนั้นจะเป็น พระป่า หรือ พระบ้าน ถ้าปฏิบัติก็เสมอกัน ถ้าไม่ปฏิบัติ ก็ไม่ต่างกัน

 :97:
หน้า: 1 [2] 3 4