พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [๗.เสขิยกัณฑ์]
๗.ปาทุกาวรรค สิกขาบทที่ ๙
ครั้งนั้น มีต้นมะม่วงของหลวงให้ผลทุกฤดูอยู่ต้นหนึ่ง
ภิกษุทั้งหลาย
ครั้นแล้วบุรุษจัณฑาลจึงไปถึงที่ต้นมะม่วง ครั้นถึงแล้วได้ขึ้นไปแฝงกายอยู่บนต้น พอดีพระราชาเสด็จไปถึงที่ต้นมะม่วงพร้อมกับพราหมณ์ปุโรหิต ครั้นถึงแล้วจึงประทับนั่งบนอาสนะแล้วทรงเรียนมนต์
ภิกษุทั้งหลาย ทีนั้น บุรุษจัณฑาลได้มีความคิดดังนี้ว่า
‘พระราชาองค์นี้ประทับนั่งบนอาสนะสูงเรียนมนต์ ชื่อว่ามิใช่พระราชาผู้ทรงธรรม พราหมณ์คนนี้ที่นั่งบนอาสนะตํ่าสอนมนต์แก่ผู้นั่งบนอาสนะสูง ก็ชื่อว่ามิใช่ผู้ประพฤติธรรม และเราผู้ที่ลักมะม่วงของหลวงเพราะภรรยาเป็นเหตุ ก็ชื่อว่ามิใช่ผู้ประพฤติธรรม แท้จริงการกระทำดังนี้ล้วนตํ่าทราม’
จึงไต่ลงมา ณ ที่นั้นกล่าวว่า
‘คนทั้ง ๒ คือ พราหมณ์ผู้สอนมนต์ และพระราชาผู้ทรงเรียนมนต์โดยไม่เคารพธรรม ย่อมไม่รู้อรรถและไม่เห็นธรรม
พราหมณ์กล่าวว่า
‘เพราะเรากินข้าวสาลีผสมแกงเนื้อที่สะอาด ฉะนั้น จึงไม่ประพฤติธรรมที่พระอริยเจ้าสรรเสริญ’
บุรุษจัณฑาลกล่าวว่า
‘เราตำหนิการได้ทรัพย์และการได้เกียรติยศเพราะ พฤติกรรมเช่นนั้น
นั่นเป็นวิถีชีวิตอันเป็นเหตุให้ตกตํ่า และเป็นการครองชีพโดยมิชอบ การครองชีพอย่างนั้นไม่มีประโยชน์ท่านมหาพราหมณ์ ท่านรีบไปเสียเถิดแม้คนเหล่าอื่นก็ยังรู้จักหุงหากินได้ ความอาธรรม์ที่ท่านประพฤติอย่าได้ทำลายท่าน เหมือนหม้อนํ้าแตก’๑