ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ไอธรรมนำไอที (1)  (อ่าน 1003 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28436
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ไอธรรมนำไอที (1)
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 22, 2014, 08:22:21 pm »
0


ไอธรรมนำไอที (1)
โดย...ว.วชิรเมธี ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย&

เจริญพรสาธุชนผู้มาร่วมงานธรรมะในสวนทุกท่านทุกคน เช้าวันนี้เป็นวันที่ท้าทายบุญญาบารมีของพวกเรามาก เพราะว่าเรามาจัดงานอยู่กลางสวนจริงๆ ก็ลุ้นกันว่าฝนจะตกหรือไม่ตก ถ้าตกอาตมาก็เปียกอยู่ดีนะ พวกเราก็คงเปียกด้วย แต่ไม่เป็นไร แต่ฝนข้างนอกไม่น่ากลัว มีฝนชนิดหนึ่งที่น่ากลัวกว่านั้น นั่นก็คือ ฝนที่ชื่อ “โลกธรรม”

 ans1 ans1 ans1

โลกธรรม : ธรรมประจำโลก

รู้จักโลกธรรมมั้ย โลกธรรม 8 คือ ธรรมอันมีอยู่ประจำโลก หรือธรรมที่เป็นกฎ กติกา สามัญประจำโลกเราทุกคนที่เกิดมาในโลกต้องพบกับโลกธรรม ถ้าเราพบกับโลกธรรมแล้ว เราสามารถรับมือได้โลกธรรมก็ยังคงเป็นโลกธรรม คือ ธรรมดาของโลก

แต่ถ้าเรารับมือไม่ได้ เจ้าโลกธรรมนี้จะกลายเป็น “โลกกระทำ” คือ มันจะกระทำให้เราทุกข์แทบล้มประดาตาย ทีนี้ถ้าโลกมันกระทำเราแทบล้มประดาตายแล้ว เรายังไม่ตื่น ยังไม่โต ยังไม่เต็ม ไม่ตื่น คือ ไม่ตื่นรู้ขึ้นมาให้เท่าทันว่ามันเป็นธรรมดาของโลก

ไม่โต คือ ยังไม่มีวุฒิภาวะว่า อยู่ในโลกมันก็เป็นอย่างนี้แหละ แล้วก็ยังไม่เต็ม คือ ยังไม่ได้เต็มไปด้วยความเข้าอกเข้าใจจากโลกธรรมธรรมดา กลายเป็นโลกกระทำ แล้วจากโลกกระทำจะกลายเป็นโลกกระทืบ คือมันจะเล่นงานเรา เอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ก็เพราะว่าช่วงนี้อาตมภาพก็งานเข้าหลายเรื่องเหมือนกัน ทำวิทยานิพนธ์ไว้ตั้ง 10 ปี จู่ๆ คนก็มาอ่านเอาปีที่ 10 อ่านกันที ก็อ่านทั้งประเทศเลย


 :49: :49: :49:

วันนี้ก็มีลูกศิษย์ลูกหา น้องแพนเค้กเขมนิจ จามิกรณ์ ก็มาทำบุญตักบาตรฟังเทศน์ฟังธรรมด้วย น้องมะนาวศรศิลป์ มณีวรรณ์ มิสทีนไทยแลนด์ ก็มาเป็นธรรมอาสาสมัครด้วย ลูกศิษย์ลูกหาทั้งสองท่านนี้และอาตมภาพเอง ญาติโยมก็มักจะเรียกว่าเป็นบุคคลสาธารณะ คืออยู่ในฐานะที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันได้ง่ายๆ แต่อาตมภาพก็มักจะบอกญาติโยมเสมอว่า เราเป็นบุคคลสาธารณะ แต่ไม่ใช่ของสาธารณะ

บุคคลสาธารณะ คือ อยู่ในที่แจ้ง เป็นบุคคลที่สังคมรู้จัก แต่ของสาธารณะก็หมายความว่า ใครจะมาใช้ร่วมกันก็ได้ เช่น ห้องน้ำในสวนลุมฯ นี่เป็นห้องน้ำสาธารณะ แต่บุคคลสาธารณะไม่ใช่ของสาธารณะอย่างนั้น

ฉะนั้น วิพากษ์วิจารณ์บุคคลสาธารณะได้ แต่ต้องทำด้วยความเคารพ ด้วยความให้เกียรติ ด้วยความเกรงอกเกรงใจ ไม่ใช่เห็นคำพูดบางคำ หยิบมารุมจิก รุมกัด รุมด่า รุมประณาม เห็นภาพบางภาพหยิบขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์แทบล้มประดาตาย บางคนเป็นนักวิจารณ์ตัวยง มาเล่าเรื่องนั้น มาเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง


 :41: :41: :41:

อย่างโยมคนหนึ่งมาเล่าเรื่องเจนนี่ให้ฟัง รู้จักมั้ย เจนนี่ เจนนี่ไอเลิฟยู อาตมาก็เลยถามว่า
“นี่โยมข้อมูลลึกขนาดนี้อยู่ในเหตุการณ์หรือเปล่า”
“เปล่า”
“แล้วทำไมเล่าได้ขนาดนี้”
“ในอินเทอร์เน็ตค่ะ”
เล่าจนปากเปียกปากแฉะ เล่าด้วยความสนุกสนานบันเทิง

อาตมาก็เลยบอกว่า “คุณโยมสมมติกลับกันนะ ถ้าโยมเป็นคนที่ตกเป็นข่าวเสียเอง แล้วคนอื่นเอาเรื่องของโยมมาเล่าอย่างนี้ เอามาตีความอย่างนี้ เอามาวิพากษ์วิจารณ์อย่างนี้ โดยที่ไม่มีข้อเท็จจริงรองรับเลย ถ้าโยมเป็นข่าวเสียเอง โยมเจ็บมั้ย”

“ก็น่าจะเจ็บนะคะ”
เห็นมั้ย คนจำนวนมากสนุกสนานเสมอเวลาพูดถึงคนอื่นในแง่ไม่ดีไม่งาม แต่ถ้าตัวเองตกเป็นข่าวบ้าง อยากจะฟ้องร้องคนอื่นทุกที


 :96: :96: :96:

ฉะนั้น ในยุคสังคมข่าวสารข้อมูลนี้ เราทุกคนมีสิทธิตกเป็นข่าว มีสิทธิถูกเข้าใจผิดเพราะใครๆ ก็เป็นนักข่าวภาคพลเมืองได้ เนื่องจากเราทุกคนมีอุปกรณ์ นั่นก็คือโทรศัพท์ ทุกวันนี้ฟรีทีวี ช่อง 3 5 7 9 คนไม่อยากดูข่าวจากตรงนั้นแล้ว คนเลือกที่จะดูข่าวจากเฟซบุ๊ก ดูจากทวิตเตอร์ ดูจากไลน์ ดูจากWhat’s App ง่ายกว่ากันเยอะ เร็วและแรง

แต่ในความเร็วและในความแรงนั้น ถ้าเราไม่เติมสติเข้าไป เราจะกลายเป็นผู้ถูกกระทำและเป็นผู้ที่ไปกระทำกับคนอื่น ฉะนั้นท่ามกลางสังคมข่าวสารข้อมูลอย่างนี้ ทุกคนต้องตั้งสติให้ดีๆ นะ อย่าไปทำให้ใครเจ็บช้ำน้ำใจง่ายๆ อย่าวิพากษ์วิจารณ์ใครโดยที่เราไม่มีข้อเท็จจริงอยู่ในมือ

พูดอีกอย่างหนึ่งว่า ทุกๆ ครั้งก่อนที่จะให้ความเห็น ต้องหาความรู้ก่อนเชิดชูความเห็น วิจัยก่อนทำการวิจารณ์ หรือวิจารณ์โดยมีการวิจัยรองรับ


 :03: :03: :03:

คนไทยเรานั้น มีอุปนิสัยชอบนินทา สมัยก่อนเรานินทากัน นินทาแล้วก็หายๆ แต่พอเราเข้าสู่ยุคของโซเชียลมีเดีย หรือโซเชียลเน็ตเวิร์ก เดี๋ยวนี้เราไม่ได้นินทาแล้ว นินทาหายไปกับสายลม เรานินทาอยู่บนเฟซบุ๊ก นินทาไว้บนทวิตเตอร์ นินทาไว้บนไลน์ นินทาไว้บนฟอร์เวิร์ดเมลแล้วมันไม่ได้หาย พอหลุดจากแป้นพิมพ์ของเรา คลิกนิดเดียว กระจายไปทั่วโลก

สิ่งที่เราคิด สิ่งที่เราเขียน สิ่งที่เรานินทานั้น บางครั้งจะจริงหรือเท็จไม่รู้ แต่ถ้าหลุดจากมือเราไปถ้าดีก็ส่งเสริมคนคนนั้น แต่ถ้าไม่ดี จะทำให้คนคนนั้นตกทุกข์ได้ยาก บางทีหมดอนาคต


ขอบคุณภาพและบทความจาก
www.posttoday.com/ไลฟ์สไตล์/ไลฟ์/278566/ไอธรรมนำไอที-1-
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Tumdee

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 51
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ไอธรรมนำไอที (1)
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 22, 2014, 09:21:21 pm »
0
ช่าง อคติ เสียจริง
 
 คนที่เขียน บทความนี้ นินทาใครไว้บ้าง มันส่อนิสัย

 ไอธรรม บัญญัติ ศัพท์ใหม่ ปู้ยี่ปู้ยำ อีกแล้ว

 คนใช้ ไอที มันก็ มีทั้งดี และ เลว ถึงใช้ หรือ ไม่ใช้ คนมันก็มี ทั้งดี และ ทั้งเลว ปะปนกันอยู่ จะเหมาขาดอย่างที่ผู้เขียน บัญญัติขึ้นมาก็ไม่ถูก เขาเรียกว่า มีอคติ แต่ดัดจริต ใช้ IT

  :49:
บันทึกการเข้า