พิมพ์

[raponsan]

ทำบุญยามค่ำ วัดหัวลำโพง-มูลนิธิร่วมกตัญญู

บางทีอารมณ์อยากทำบุญไหว้พระของคนเราก็เกิดขึ้นได้ตอนกลางคืน “วัดหัวลำโพง” จึงเป็นสถานที่อันดับแรก ๆ ที่คนกรุงนึกถึง

บางทีอารมณ์อยากทำบุญไหว้พระของคนเราก็เกิดขึ้นได้ตอนกลางคืน “วัดหัวลำโพง” จึงเป็นสถานที่อันดับแรก ๆ ที่คนกรุงนึกถึง นั่นเพราะ เดินทางสะดวก และไม่จำกัดเวลาทำบุญแค่ตอนกลางวัน

วัดหัวลำโพง สร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ เป็นวัดราษฎร์ แต่ไม่มีหลักฐานปรากฎว่าใครคือผู้สร้าง วัดนี้เดิมชื่อว่า วัดวัวลำพอง เหตุที่ชื่อวัวลำพองเพราะว่า ตามความนิยมที่ชื่อของวัดจะพ้องกับชื่อหมู่บ้าน ชาวบ้านกับวัดส่วนใหญ่ของไทยเรา มักมีชื่อเหมือนกัน หรือมีความหมายเดียวกัน

ต่อมาถึงรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่5 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเส้นทางคมนาคม และสถานีรถไฟขึ้น โดยโปรดฯ ให้สร้างสถานีรถไฟสายหนึ่งขึ้น ที่ริมคลองผดุงกรุงเกษม จากนั้นทรงพระราชทานนามว่า หัวลำโพง ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 2447 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่5 ทรงเสด็จมาทอดผ้าพระกฐิน และได้โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อวัดเสียใหม่ พระราชทานนามว่า วัดหัวลำโพง

ด้วยการที่วัดหัวลำโพงอยู่ติดกับรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสามย่าน ทำให้เดินทางสะดวก และเป็นวัดให้ผู้ที่ต้องการทำบุญมาทำบุญในช่วงเย็นได้ จึงทำให้เป็นหนึ่งสถานที่ที่มีผู้คนให้ความสนใจมาทำบุญเป็นจำนวนมาก นอกจากการทำบุญไหว้พระภายในวัดแล้ว การทำบุญปล่อยวัว-กระบือ ก็เป็นอีกหนึ่งการทำบุญที่พบได้ในวัดหัวลำโพง

นอกจากนี้ ใกล้ ๆ วัดหัวลำโพงยังมี มูลนิธิร่วมกตัญญูที่เปิดให้ผู้ที่สนใจอยากทำบุญทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยการทำบุญไหว้เทพเจ้าแบบจีน และการเปิด24ชั่วโมง ทำให้มีผู้ที่อยากทำบุญแวะเวียนมาทำบุญอยู่ตลอดเวลา และสิ่งที่ได้รับความสนใจจากผู้ที่มาทำบุญของที่นี่คือการทำบุญซื้อโลงศพให้แก่ศพไม่มีญาติ ซึ่งการบริจาคโลงศพนั้น เชื่อกันว่าจะได้อานิสงส์แรง จะช่วยเสริมดวงชะตาให้แข็งแกร่ง สามารถต้านเคราะห์ภัยหนักต่าง ๆ และผ่อนหนักเป็นเบาได้

สำหรับการเดินทางมาวัดหัวลำโพงและมูลนิธิร่วมกตัญญูนั้น สามารถเลือกเดินทางมาได้ทั้งทางรถไฟฟ้าใต้ดิน ลงสถานีสามย่าน และออกประตู 1 จะเจอวัดหัวลำโพงทันที่ หรือจะนั่งรถเมล์มาลงที่ป้ายมาลงบริเวณป้ายหน้าจามจุรีสแควร์

ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.dailynews.co.th/Content/Article/218331/ทำบุญยามค่ำ+วัดหัวลำโพง-มูลนิธิร่วมกตัญญู

[kobyamkala]

 

[kobyamkala]

เห็นวัดรวย เป็น แถว ๆ ด้วยโครงการ ช่วยเหลือ โคกระบือ และ ทำบุญซื้อโลง

 แต่ความเป็นจริง โดยส่วนตัว ก็ยังเห็นคนซื้อโลง งานศพจริง ก็ยังซื้อกันเองอยู่ วัวควาย ก็ยังตายอยู่ทุกวัน อันนี้คิดตามรูปแบบนะคะ เพราะที่จริง ส่วนตัวก็รู้ว่า เราไม่สามารถ ช่วยเหลือ ใคร ๆ ได้ทั้งหมด ทั้งโลก ก็ต้องเลือกช่วยที่ช่วยได้ก่อน อย่างนี้ใช่หรือไม่ คะ

 

[saieaw]

 

[ธุลีธวัช (chai173)]

วัดเป็นศูนย์รวมของชุมชน ครั้นเมื่อวัดมีพระสงฆ์พ่อแม่ครูอาจารย์ที่มีอภิญญาบารมีก็เป็นที่พึ่งพาของชาวบ้านชาวช่อง ซึ่งก็เท่ากับวัดได้มีส่วนช่วยเหลือสังคมผู้คน แต่ครั้นวัดวาใดไม่มีพ่อแม่ครูอาจารย์เก่งพระสงฆ์เจ้าอารามนั้นก็ต้องขวนขวายสร้างกิจกรรมนำผู้คนจรรโลงสังคมได้ตำแหน่งฐานานุกรมกันไปสมควรบ้างไม่สมควรบ้างในรุ่นหลังหลัง มาวันนี้พระสงฆ์หลากหลายวัดกลับกลายมีกิจกรรมเสมือนเป็นค่านิยมที่พระสงฆ์ต้องมีบทบาทคืนกำไรสู่สังคมจากการที่ต้องอาศัยข้าวน้ำชาวบ้าน มีผลให้พระสงฆ์ต้องสร้างผลงานเอาตำแหน่งวิ่งหาเถระผู้ใหญ่จึงขาดการภาวนาไป เราท่านทั้งหลายสังเกตหรืออย่างไรไม่ว่าพระสงฆ์ถูกดึงออกมาสู่ความวุ่นวายมากขึ้น วัดถูกถล่ม ศิษย์โดนกระทืบ นี่เพียงเป็นจุดเริ่มที่ในไม่ช้าอะไรอะไรคงจะเปลี่ยนไปจนชินในความรู้สึก ครับ!

[Dotahon]

วัด ในปัจจุบัน นั้น พยายามแต่ให้คน บริจาค พระเณร ก็เอาแต่ หารายได้
การเรียน การศึกษา ปฏิบัติ ภาวนา กันจริง ผมไปเยี่ยมตรวจมาหลายวัด แล้ว ไม่มีกล่าวถึง การภาวนา มีแต่กล่าวแต่เรื่อง กิจกรรม ชาวบ้านคือ เทศน์ สอน นำคนทำบุญ  สร้างวัด สวด เสก

 ก็มีเท่านี้แหละ พระสงฆ์ในปัจจุบัน แม้สำนักปฏิบัติ อย่างธรรมยุต ผมก็เข้าไปคลุกคลี ก็ที่ปฏิบัติตั้งใจจริงในการภาวนานั้น ก็มีเพียง 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นแหละครับ นอกนั้นก็ติด ก่อสร้าง สอน เช่นกัน