ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สมาธิชาวบ้าน : ปัญญาพระนิพพาน  (อ่าน 1225 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
สมาธิชาวบ้าน : ปัญญาพระนิพพาน
« เมื่อ: เมษายน 12, 2014, 08:16:57 pm »
0


สมาธิชาวบ้าน : ปัญญาพระนิพพาน

การอบรมจิตนั้น เมื่อถึงระดับหนึ่งก็จะมีอาการคล้ายกัน ปัญญาก็ได้มาจากการอบรมจิตจนเกิดสติ พอสติเกิดแล้วต่อจากสติมันก็คือปัญญา พระพุทธเจ้าจึงได้สอนถึงการทำสมาธิที่ไม่ใช่สมาธิที่อยู่ในความว่าง เพราะความว่างนั้นไม่ได้ทำให้เข้าถึงพระนิพพาน

ความว่างและพระนิพพานนั้น ทั้ง 2 สิ่งมันไม่เกี่ยวกัน เพราะความว่างแล้วจิตนิ่งลงไป จมลงไปในความว่าง ความว่างอย่างนี้ไม่มีประโยชน์ กับว่างแล้วมันเกิดสติ สตินั้นจะส่งให้เกิดปัญญา ปัญญาเท่านั้นที่จะทำให้เกิดพระนิพพาน เพราะฉะนั้นอาการที่เรียกว่ากิเลสดับ สิ้นกิเลส จริงๆ แล้วกิเลสไม่ได้ดับ แต่ว่าจิตมันเกิดปัญญาที่เท่าทันกิเลสในทุกรูปแบบต่างหาก

กิเลสมันไม่ได้มีอะไรดับไป ถ้าปัญญาเกิดเท่าทันกิเลสเมื่อไร กิเลสนั้นยังคงมีอยู่เช่นเดิม แต่จิตมันอยู่กับความเท่าทันต่างหาก จริงๆ แล้วมันไม่มีอะไรดับ ที่ว่าดับได้ด้วยปัญญา แต่จริงๆ แล้วมันไม่ได้ดับ

 :25: :25: :25:

อาการของพระนิพพานคืออาการของการเท่าทัน เช่น เราเท่าทันสิ่งใดมันถึงเป็นการหลุดพ้นจริง การดับบางครั้งเป็นการข่มด้วยซ้ำไป เช่น เราอยากได้อย่างใดอย่างหนึ่ง เราก็ข่มมันไว้เท่านั้นเอง แต่ว่ามันไม่ได้เป็นการเท่าทันความอยาก มันเป็นการข่ม เหมือนการเอาหินไปทับหญ้าไว้ ไม่อยากให้หญ้างอกขึ้นมาก็เอาหินทับไว้ พอยกหินออกหญ้ามันก็ขึ้นมาใหม่ แต่ว่ามันไม่ใช่ปัญญาเท่าทัน ปัญญาเท่าทันคือมันไม่มีหญ้าอีกต่อไปแล้ว

ดังนั้นปัญญาการเท่าทันกับสิ่งที่ปฏิบัติไปแล้ว จิตเจอสิ่งที่เรียกว่าเป็นอาการดับ มันไม่ถูกต้อง ยังไม่ใช้พระนิพพาน พระนิพพานคืออาการที่มีสติ และมีปัญญาที่ไปเท่าทันกิเลส

ถ้ามีสติแล้ว มีปัญญาไปเท่าทันสิ่งใดก็ตามในทุกเรื่อง ทุกสิ่งในชีวิตปัจจุบัน แล้วมันดับแบบดับสูญ มันไม่ได้ดับด้วยอาการ แต่มันดับด้วยการที่เรามีสติและปัญญา พอเรามีปัญญาที่เท่าทันมัน ปัญหามันก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปแล้ว แต่ต้องเท่าทันมันไม่ใช่ดับ ดับอย่างไม่เท่าทัน มันไม่ดับจริง

 st12 st12 st12

พระนิพพานคือสิ่งนี้ คือการอบรมจิตจนเกิดสติ พอมีสติมันก็เกิดปัญญา ซึ่งปัญญาพระนิพพานคือปัญญาแห่งความหลุดพ้น เป็นปัญญาที่ดวงจิตวิญญาณ มันรู้ทางกลับบ้าน มันเท่าทันอวิชชาความหลงปรุงแต่ง แต่ตัวความละเอียดที่ซ้อนลงไปมันพูดง่ายๆ แต่เข้าใจยาก เพราะว่าคำพูดมันไปอธิบายได้แค่จุดหนึ่งแต่ว่ามันไปไม่ถึง
พระพุทธเจ้าถึงบอกว่าเราต้องรู้สองทาง อันหนึ่งคือรู้สุดทางของรูป อีกอันหนึ่งคือรู้สุดทางของนาม รูปหยาบที่สุดรู้หมด ละเอียดที่สุดถึงนามรู้หมด รู้ถึงที่สุดของทั้งสองด้านแล้ว แล้วไม่ยึดถือ ตรงกลางระหว่างความรู้ในเรื่องรูปและเรื่องนาม จิตจะเจอตัวรู้

ตัวรู้สิ่งนี้แหละคือพระนิพพาน พอรู้ถึงตัวสุดท้ายแล้ว มันก็ใกล้แล้ว เป็นการถอดถอนความเป็นตัวตน ดวงจิตนั้นก็จะกลายเป็นดวงจิตที่ไม่มีเจ้าของ ทุกวันนี้มันยังมีดวงจิตของเรา วิญญาณของเรา

คำว่าของเรานี่เองที่ยังมีตัวมีตนอยู่ พอรู้ไปจนสุดทั้งรูปและนาม รู้ตรงกลางทั้งสองด้าน ปล่อยวางความเป็นเจ้าของตรงกลางลงไป ความเป็นอัตตาตัวตนต่างๆ จิตมันก็จะถึงซึ่งพระนิพพาน อันนี้ยังอยู่ในความเข้าใจ ถ้าจะให้เข้าถึงต้องปฏิบัติไปด้วยอย่างต่อเนื่อง เมื่อมีความเข้าใจ เห็นแนวทางก็จะส่งผลให้สามารถที่จะปฏิบัติได้ง่าย.


ที่มา http://www.thaipost.net/tabloid/060414/88577
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: สมาธิชาวบ้าน : ปัญญาพระนิพพาน
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 13, 2014, 05:52:55 pm »
0
สอุปาทิเสสนิพพาน

     สติหทัยตั้งดับปรุง       กรรมทัณฑ์ย่างยุ่งนั้นสลาย   
เกิดดับอนิจจังกลาย       ชาติภพหทัยตั้งไม่มี.                     

                                                              ธรรมธวัช.!

 :25:           st11           :41:           st12           :03:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 13, 2014, 05:54:55 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา