ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ศูนย์วิปัสสนากรรมฐานที่ 'ยูเอสเอ'  (อ่าน 1605 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28439
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ศูนย์วิปัสสนากรรมฐานที่ 'ยูเอสเอ'
« เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2014, 12:08:13 pm »
0


ศูนย์วิปัสสนากรรมฐานที่ 'ยูเอสเอ' : เยือนถิ่นเรือนธรรม โดยพาบุญมา

      ในระยะเวลาประมาณ ๓๐ ปี คนในซีกโลกตะวันตก นำโดยประเทศสหรัฐอเมริกา ได้หันมาสนใจภูมิปัญญาทางพุทธศาสนา และได้นำวิธีเจริญสติ (Mindfulness Meditation) หรือวิปัสสนากรรมฐาน (Vipassana Meditation) หรือ ปัญญาภาวนา (Insight Meditation) มาใช้ในการแก้ปัญหาความทุกข์ อันเกิดขึ้นจากทั้งสุขภาพกายและจิต โดยจัดเป็นการฝึกอบรม เรียกว่า "การเจริญสติเพื่อลดความเครียด" (Mindfulness-Based Stress Reduction หรือ MBSR)

      รวมทั้งการฝึกอบรมในรูปแบบอื่นที่คล้ายกัน โดยปรับให้ไม่มีรูปแบบทางศาสนา (non-religious) และไม่ทำให้เป็นเรื่องที่ลี้ลับ (non-esoteric) ให้แก่ทั้งผู้ที่เจ็บป่วยทางกายและจิต และผู้ที่มิได้เจ็บป่วย


      นอกจากนี้ ชาวตะวันตกยังนำการเจริญสติ หรือวิปัสสนากรรมฐาน ไปใช้เพื่อพัฒนาวุฒิภาวะทางอารมณ์ (Emotional Quotient หรือ EQ) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ การทำงาน การพัฒนาอาชีพ การสร้างปฏิสัมพันธ์ และมนุษยสัมพันธ์ อีกด้วย

       st12 st12 st12

     พระโสภณวชิราภรณ์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มจร. และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม หรือ "เจ้าคุณไสว" บอกว่า การเปิดสอนวิปัสสนากรรมฐานเป็นนโยบายหลักของ มจร. ในงานพระธรรมทูตสายต่างประเทศมาตั้งแต่รุ่นแรก ซึ่งสอดคล้องกับสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา ทำให้นโยบายดังกล่าวสัมฤทธิผลมากยิ่งขึ้น

     พระธรรมทูตที่มาปักหลักตั้งมั่นในอเมริกาทั้งในส่วนการพัฒนาศาสนวัตถุ และจิตใจ โดยเฉพาะวัดนวมินทรราชูทิศ คือสิ่งที่แสดงถึงความสำเร็จของคณะสงฆ์ไทยและเป็นหน้าตาให้แก่ประเทศไทย ที่สำคัญวัดไทยในอเมริกาเกือบทุกวัดมีการสอนวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งถือเป็นหัวใจของการปฏิบัติตามหลักพระพุทธศาสนา ให้ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติได้เรียนรู้





     เมื่อสมเด็จพระพุทธชินวงศ์มาดูแลพระธรรมทูต ท่านก็เน้นเรื่องนี้เป็นเรื่องหลัก จริงๆ แล้วมีการสอนวิปัสสนาทุกวัด ทั้งนี้เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๘ มจร.ได้มีโอกาสทำงานและเข้าร่วมประชุมกับสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา จึงมีการเสนอให้วัดในสังกัดเปิดสำนักวิปัสสนา แรกเริ่มมี ๒ วัด คือ วัดพุทธโอเรกอน และ วัดไทยกรุงวอชิงตัน ดีซี ซึ่งมีหลวงตาชี เป็นวิปัสสนาจารย์ใหญ่

     จากนั้นมีการขยายเพิ่มอีก ๑ แห่ง คือ วัดหทัยนเรศน์ และปีนี้ได้เปิดเพิ่มอีก ๑ แห่ง คือ ศูนย์วิปัสสนากรรมฐานนวมินทรราชูทิศ (The NMR Buddhist Meditation Center) ตั้งอยู่ภายในวัดนวมินทรราชูทิศ โดยมีแผนว่าจะเปิดเป็นศูนย์วิปัสสนานานาชาติ ภายใต้โครงการเฉลิมพระเกียรติ และความรับผิดชอบ ของ มจร. ณ เมืองเรย์นแฮม ใกล้เมืองเคมบริดจ์-นครบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา


      :96: :96: :96:

    "การเปิดสอนวิปัสสนากรรมฐาน เป็นนโยบายหลักของ มจร. ในงานพระธรรมทูตสายต่างประเทศมาตั้งแต่รุ่นแรก ซึ่งสอดคล้องกับสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา ทำให้นโยบายดังกล่าวสัมฤทธิผลมากยิ่งขึ้น ในฐานะที่เป็นกรรมการร่างหลักสูตรพระธรรมทูตตั้งแต่ต้น จนถึงรุ่นที่ ๒๐ ได้สัมผัสกับพระธรรมทูตมาตลอด ได้เห็นพัฒนาการของพระธรรมทูตที่ประสบผลสำเร็จหลายเรื่อง เช่น งานสอนวิปัสสนากรรมฐาน มีทั้งคนไทยและท้องถิ่นมาร่วมฝึกปฏิบัติ

    ในส่วนของงานเผยแผ่นั้น ประสบความสำเร็จยิ่งกว่า โดยมีเครื่องชี้วัด คือ คนท้องถิ่นเข้าวัดมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันสถาบันการศึกษาก็เข้ารับบริการมากขึ้น นอกจากนี้การสร้างเครือข่ายพระธรรมทูตให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น" เจ้าคุณไสวกล่าว


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20140627/187198.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ