ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: วิชชา ว่าด้วยการเจริญ ปฐมมรรค จน ถึง จตตถมรรค มีข้อความปรากฏที่ไหน ?  (อ่าน 4536 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
 ask1
วิชชา ว่าด้วยการเจริญ ปฐมมรรค จน ถึง จตตถมรรค มีข้อความปรากฏที่ไหน ?

 ans1

นับว่าเป็น คำถาม ที่ดี อีกคำถามหนึ่ง แต่ คำถาม นี้นับว่า ลึกซึ้ง เพราะตอบให้ทั้งหมดไม่ได้ จะเป็นการเปิดเผยเคล็ดวิชชา นี้มากเกินไป สำหรับท่านที่ไม่ใช่ ศิษย์ เป็นข้อห้าม ของครูอาจารย์ ที่ส่งต่อกันมา

  ยิ่งในปัจจุบัน มีกลุ่มคนที่ พยายามยึดแต่หลักพุทธวจนะ ด้วยอีก ก็ยิ่งต้องปฏิเสธ วิชชา เหล่านี้ออกไป เพราะวิชชา นี้ เป็นวิชชา การเดินจิต รวมมรรค ขั้นสูง ที่มีข้อความปรากฏใน พระอภิธรรม ปิฏก เป็นส่วนใหญ่

  สำหรับ ข้อความที่ปรากฏ ใน พระวินัย และ พระสูตร ก็เป็น การอนุมาน เอาจากคำแปล และ สารัตถะ จากคำแปล เช่น

  สัมโพธิปรายณะ จะสำเร็จสัมโพธิในวันข้างหน้า คือ อุปริ มคฺคตฺตยํ อวสฺสํ สมฺปาปโก... ปฏิลทฺธ- ปฐมมคฺคตฺตา จะบรรลุมรรค ๓ ชั้นสูงขึ้นไปแน่นอน เพราะได้ปฐมมรรค(คือโสดาปัตติมรรค)แล้ว (วิ.อ. ๑/๒๑/
   ๒๐๓); อุปริมคฺคตฺตยสงฺขาตา สมฺโพธิ สัมโพธิ คือ มรรค ๓ (สกทาคามิมรรค อนาคามิมรรค อรหัตตมรรค)
   ที่สูงขึ้นไป (สารตฺถ.ฏีกา. ๑/๒๑/๕๕๙).

 การบรรลุ  ในที่นี้หมายถึงการบรรลุปฐมมรรค  กล่าวคือ  โสดาปัตติมรรคนั่นเอง  (สํ.นิ.อ.  ๒/๘๔/๑๔๗)

 ทัศนะ  ในที่นี้เป็นชื่อของปฐมมรรค  (โสดาปัตติมรรค)  (สํ.สฬา.อ.  ๓/๒๔๕/๑๑๕)

ธรรมเป็นที่ดับการแสวงหา  แยกเป็น  ๓  ระดับ  คือ  (๑)  ปฐมมรรค(โสดาปัตติมรรค)  เป็นที่ดับการแสวงหา
   พรหมจรรย์  (๒)  อนาคามิมรรค  เป็นที่ดับการแสวงหากาม  (๓)  อรหัตตมรรค  เป็นที่ดับการแสวงหาภพ
   (ขุ.อิติ.อ.  ๕๔/๒๒๔)  และดู  อภิ.วิ.  (แปล)  ๓๕/๙๑๙/๕๗๕  ประกอบ

ความหลุดพ้นที่เกิดขึ้นโดยลำดับนับแต่ปฐมมรรค(โสดาปัตติมรรค)เป็นต้นไปจนถึงอรหัตตผล  (ขุ.เถรี.อ.
   ๑๐๕/๑๒๖)

   อันนี้เป็นข้อความ ที่ปรากฏใน พระวินัย และ พระสูตร ซึ่งจัดเป็น อรรถกถา และ ฏีกา ด้วย อธิบายเพิ่มเติม จากคำบาลี เพื่อให้เห็น เข้าใจความหมาย ของ ปฐมมรรค ในแบบความเข้าใจ

   แต่สำหรับ วิชชา การเดินมรรค รวมมรรค และ เข้าญาณ แห่ง มรรค เป็น วิชชา ปรากฏข้อความ ในพระไตรปิฏก ส่วนพระอภิธรรม ตั้งแต่ เล่ม ที่ 40 อันนี้เป็นหลักวิชชา แต่ ไม่ใช่หลักภาวนาโดยตรง แต่ เค้าโครง คล้ายคลึงกัน เพราะการเดินจิต ในขั้นนี้ หมายความ ผู้เดินจิต ต้องมีคุณสมบัติ สำเร็จ รูปฌาน ขึ้นไป และ มีแนวโน้มเป็น พระอรหันต์ ฉฬภิญโญ ขึ้นไปด้วย เพราะจะได้สำเร็จ ปฏิสัมภิทา 4 ทั้งหมด หรือ อย่างใด อย่างหนึ่ง
 
   มีข้อความปรากฏ ในพระไตรปิฏกดังนี้


( รูปภาพประกอบการเดินจิต รวมมรรค ปฐมมรรค สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์

มัชฌิมา แบบลำดับ สำหรับศิษย์ สายตรง เท่านั้น ไม่เหมาะแก่บุคคลทั่วไป
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=15680.0 )

  ยถากัมมูปคญาณเป็นปัจจัย แก่อนาคตังสญาณ
  โดยอุปนิสสยปัจจัย
  บริกรรมปฐมมรรค เป็นปัจจัยแก่ ปฐมมรรคโดยอุปนิสสยปัจจัย   
  บริกรรมทุติยมรรค เป็นปัจจัยแก่ทุติยมรรคโดยอุปนิสสยปัจจัย   
  บริกรรมตติยมรรคเป็นปัจจัยแก่ตติยมรรค โดยอุปนิสสยปัจจัย   
  บริกรรมจตุตถมรรคเป็นปัจจัยแก่จตุตถมรรคโดยอุปนิสสยปัจจัย
  ปฐมมรรคเป็นปัจจัยแก่ทุติยมรรคโดยอุปนิสสยปัจจัย   
  ทุติยมรรคเป็นปัจจัยแก่ ตติยมรรคโดยอุปนิสสยปัจจัย   
  ตติยมรรคเป็นปัจจัยแก่จตุตถมรรคโดยอุปนิสสยปัจจัย
  พระเสขะอาศัยมรรคทำสมาบัติที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น เข้าสมาบัติที่เกิดขึ้นแล้ว  เห็นแจ้งสังขารโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง  เป็นทุกข์  เป็นอนัตตา 
   มรรคของพระเสขะเป็นปัจจัยแก่อัตถปฏิสัมภิทา ธัมมปฏิสัมภิทา นิรุตติปฏิสัมภิทา ปฏิภาณปฏิสัมภิทา และความเป็นผู้ฉลาดในฐานะและมิใช่ฐานะโดยอุปนิสสยปัจจัย
   สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดยอุปนิสสยปัจจัยมี ๒ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะและปกตูปนิสสยะ

พระอภิธรรมปิฎก  ธัมมานุโลม  [ติกปัฏฐาน]
 ๑.  กุสลติกะ  ๗.  ปัญหาวาร




 และมีข้อความปรากฏไปจนถึง เล่ม สุดท้าย อีกมาก ซึ่งมีวิธีการ เดินจิต โคตรภูญาณ อันนี้ท่านพึงศึกษา อ่านกันเอาเอง มี วาสนา ก็จะเข้าใจ แต่ในที่นี้ ฉันจะไม่สอน สำหรับผู้ที่ไม่ใช่ศิษย์
 
   เพราะเป็นศิษย์ ต้องสอบก่อน ๆ ที่จะเรียน วิชชา เดินมรรค ( อันเรียกว่า กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ) อันนี้ครูอาจารย์ ถ่ายทอดฉันไว้ มาสองปี และ สองปีนี้ ฉันจึงถึง บางอ้อในวิชชา ด้วยความเพียร ด้วยเนสัชชิกธุดงค์ สองปี ที่ฉันต้อง เข้า สุขสัญญา และลหุสัญญา เพื่อการเดินจิต รวมมรรค เพื่อ รับ ลัญจกร อันสำคัญ ดังนั้น เรื่องที่จะสอนต่อไปนี้ จึงมิอาจที่เผยแผ่ สู่ บุคคล ที่ไม่ใช่ศิษย์ เพราะผิดวินัยสงฆ์ เพราะในหลักวิชชา มีแนวโน้ม ต้องพูดเรื่อง อุตตริมนุสสธรรม ด้วย เช่นเรื่องการเข้าฌาน หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า และ อรูปฌาน ด้วย

    อันเรื่อง อุตตริมนุสสธรรม ถ้าไม่มีในตนจริง ทางวินัย ปรับอาบัติ พระ คือ ขาดจากความเป็นพระ
    อันเรื่อง อุตตริมนุสสธรรม ถ้ามีในตนจริง ถ่ายทอดบอกกล่าว แก่ บุคคลที่ไม่ใช่ศิษย์ อันนี้ ปรับอาบัติ ทุกกฏ
    อันเรื่อง อุตตริมนุสสธรรม ถ้ามีในตนจริง ถ่ายทอดแก่ศิษย์ ไม่ปรับอาบัติ


    มันเป็นเรื่อง ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อเวลาสอน ต้องนำสภาวะจิต ของท่านเข้าสู่ ฌาน และ ญาณ ตามกันไป เพราะการสอนกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ก็คือ การนำศิษย์ ไปตามลำดับ ของจิต
   
    ดังนั้น การที่ท่านเป็นศิษย์ สายตรงเท่านั้น จึงจะมีสิทธิ์ ได้เรียน เพราะระหว่างที่สอนอยู่นั้น จะทำให้ ครูอาจารย์ ไม่ต้องอาบัติ คือ วินัย

    ยกตัวอย่าง ท่าน จูฬปันถก ท่านเหาะขึ้นในอากาศ แล้ว สอนนางภิกษุณี อันนี้เป็นการแสดงฤทธิ์ ทำให้นางภิกษุณี อยู่ในโอวาท ไม่ลบหลู่ ท่านถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้สอนนางภิกษุณี สมัยนั้น แต่ครั้นบ่อยเข้า ก็ปรับอาบัติ ให้สอนได้เฉพาะแก่ศิษย์ เท่านั้น ไม่สามารถแสดงแก่ ชนที่ไม่เป็นศิษย์ หากแสดงอย่างนั้นให้ปรับ อาบัติ ทุกกฏ ที่จริงการปรับอาบัติ สำหรับ พระอรหันต์ เป็นข้อยกเว้น อยู่แล้ว แต่ อย่างไร พระอรหันต์ ก็ไม่ละเมิดบัญญัต ที่พระพุทธเจ้าพระองค์ ทรงบัญญัติไว้ ด้วยเหตุผลแห่งการรักษา อายุพระพุทธศาสนา ให้ถึง 5000 ปี ตามสมควร

    ดังนั้น วิชชา การเดินจิตรวมมรรค นั้น จึงไม่สามรถ ถ่ายทอดให้แก่ท่านที่ไม่ได้เป็นศิษย์ได้

    ประกาศไว้ให้ทราบไว้ ณ ที่นี้ ด้วยเพื่อความเข้าใจ
   
    ดังนั้นหนทาง ที่เห็นว่า สมควร จึงจำเป็นต้องรับศิษย์ ขึ้นกรรมฐาน และสอบกรรมฐาน ซึ่งการกระทำอย่างนี้ ต้องมีสถานที่ รองรับอันเป็นที่สมควรแก่ ธรรม ฉันจึงรับคำสั่งจากครู ให้หาพื้นที่ สร้าง ศูนย์ ส่งเสริม พระกรรมฐาน ให้ได้ โดยไว นั่นเอง แต่ อย่างไร ก็ตาม คำว่า ไว ของฉัน นั้น ก็เป็นเพียงแค่ ความคิด อยู่ตอนนี้ แท้ที่จริง ฉันก็ยัง อยู่ในช่วงกักกันตนเอง ด้วยวิเวก ซึ่งต้องถูกสอบ จากครูอาจารย์ อยู่เข่นกัน

    เจริญธรรม  / เจริญพร


 







 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 10:16:56 pm โดย ธัมมะวังโส »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

ปฐมมรรค ( พระโสดาปัตติมรรค และ พระโสดาปัตติผล )
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=16691.


มัชฌิมา แบบลำดับ สำหรับศิษย์ สายตรง เท่านั้น ไม่เหมาะแก่บุคคลทั่วไป
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=15680.0
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

นิรตา ป้อมนาวิน

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1212
  • อย่างน้อยชาตินี้ขอปิดอบายภูมิ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

     สาธุติ อนุโมทนา ครับ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

Akira

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 653
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 st11 st12 st12 st12

  อ่านแล้ว รู้สึกว่า เรื่องนี้ ไม่ใช่ ใครที่ไม่ใช่ ศิษย์จะได้เข้าใจแล้ว และ อ่านแล้ว รู้สึกชวนสนใจมาก คะ เพราะว่า รู้สึกว่า มีอะไรที่เป็นความหวังของเราอยู่ สนทนากับพระ ที่ใกล้บ้าน ท่านก็บอกว่า พึ่งจะได้ยินแบบนี้ คะ คิดว่า แนวการสอนนี้ ถ้าจะยังไม่มีที่ไหน คะ

 อยากตามฟัง และ ตาม อ่าน ( ด้วยกิเลส อยากรู้ มากคะ )

   :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า
เครดิต ยายกบ มาศึกษาธรรมะจ้า แก๊งค์ อ๊บ อ๊บ

ประสิทธิ์

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +14/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 639
  • จิตว่าง ก็เป็นสุข
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เรื่องนี้ หลังจาก ผม อ่านข้อความ ที่โยงกันไปมา 3 กระทู้ แล้ว ก็เห็นว่า ลึกซึ้งมากครับ และ เหมือนจะสำคัญด้วย นะครับ คิดว่า ศิษย์พระอาจารย์ คงจะต้องเตรียมตัวอะไร กันเพื่อรับฟังธรรมนี้แน่ ๆ นะครับ ส่วนผมเองก็ใคร่อยากฟัง ด้วยเช่นกัน และสนใจมาก ๆ เลยครับ ในเรื่องนี้

  st11 st12 st12
บันทึกการเข้า
ใครชอบ ใครชัง ช่างเถิด
ใครเชิด ใครชู ช่างเขา
ใครด่า ใครบ่น ทนเอา
ใจเรา ร่มเย็น เป็นพอ

:;

ฟ้าใหม่แจ่มใส

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 226
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ในบรรดา กระทู้ ทั้งหมด ที่อ่านมา สนใจเรื่องนี้ มากคะ พยายาม อ่านกลับไปกลับมาหลายรอบ ทั้ง สามกระทู้ที่เกี่ยวกัน นั่นเป็นสัญญาณ ว่า ถ้าไม่ได้ขึ้นกรรมฐาน กับพระอาจารย์ ตรง ๆ เลย ในส่วนนี้ไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้เลย ใช่หรือไม่ คะ ? คือ อ่านแล้ว รู้สึกความหมายว่าเป็นอย่างนั้น

  ถ้าอย่างนี้ เรียกว่าเป็นกรรมฐาน ที่ปิด ไว้ ใช่หรือ ไม่ คะ
  ถ้าปิดบังอย่างนี้ พระธรรม จะเป็นสากล ได้หรือไม่ คะ

 อยากให้พิจารณา ถ่ายทอดแก่ คนที่ไม่ได้เป็นศิษย์ ด้วยคะ

   st12 :25:
บันทึกการเข้า
เครดิต ยายกบ ถ้าไม่ถูกใจก็ต้องว่า ยายกบ เพราะชวนมาศึกษาธรรมะ

nirvanar55

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 305
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เรื่องนี้ เป็นเรื่อง ที่ผมสนใจมาก ๆ และเข้าไปอ่าน หลาย ๆ ครั้ง และเหมือนเป็นปริศนา
สำหรับผู้ที่ภาวนา เพื่อการไม่กลับมาเกิดอีก โดยกำลังแสวงหา ครูอาจารย์ หรือ หลักธรมที่เราสามารถปฏิบัติไปได้ นับว่าเป็นหัวข้อที่น่าสนใจ หลายครั้งที่คิดอยากขึ้นกรรมฐาน กับ ครูสายนี้ แต่ ก็ยังไม่โปรงใจ ว่าจะได้เรียนตรงนี้หรือไม่ แม้การสอบ ๆ อะไร ถ้าสอบไม่ผ่าน แล้ว ต้องทำอย่างไร เกรงว่าจะเคว้งคว้าง หาจุดหมายปลายทางไม่ได้ ถ้าสอบไม่ผ่าน เพราะผมมีนิสัยประจำตัว คือ หัวรั้น ซะด้วย มีครูระดับประเทศ หลายรูป ที่มีชื่อเสียงผมไป เรียนสอบถามกรรมฐาน ก็ยังไม่เป็นที่พอใจ สำหรับผมเลย นี่คือจุดหนึ่งที่ผม ยังตัดสินใจขึ้นกรรมฐาน ยังไม่ได้ นั่นเอง

  :49:
บันทึกการเข้า

modtanoy

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-5
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 213
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เรื่องนี้ เป็นเรื่อง ที่ผมสนใจมาก ๆ และเข้าไปอ่าน หลาย ๆ ครั้ง และเหมือนเป็นปริศนา
สำหรับผู้ที่ภาวนา เพื่อการไม่กลับมาเกิดอีก โดยกำลังแสวงหา ครูอาจารย์ หรือ หลักธรมที่เราสามารถปฏิบัติไปได้ นับว่าเป็นหัวข้อที่น่าสนใจ หลายครั้งที่คิดอยากขึ้นกรรมฐาน กับ ครูสายนี้ แต่ ก็ยังไม่โปรงใจ ว่าจะได้เรียนตรงนี้หรือไม่ แม้การสอบ ๆ อะไร ถ้าสอบไม่ผ่าน แล้ว ต้องทำอย่างไร เกรงว่าจะเคว้งคว้าง หาจุดหมายปลายทางไม่ได้ ถ้าสอบไม่ผ่าน เพราะผมมีนิสัยประจำตัว คือ หัวรั้น ซะด้วย มีครูระดับประเทศ หลายรูป ที่มีชื่อเสียงผมไป เรียนสอบถามกรรมฐาน ก็ยังไม่เป็นที่พอใจ สำหรับผมเลย นี่คือจุดหนึ่งที่ผม ยังตัดสินใจขึ้นกรรมฐาน ยังไม่ได้ นั่นเอง

  :49:
  อย่าแตกกลุ่ม ไปเลยน้อง ของที่เรียนมานั้นแหละดี อยู่แล้ว สายสวนโมกข์ นั้นไม่งมงาย นะ
  สายกรรมฐาน นี้ ดูค่อนข้างจะไปทาง งมงาม มีปลุกเสก เลขยันต์ ซึ่งผิดหลักการ ของพุทธศาสนา นะ เชื่อ พี่เหอะ เดี๋ยวจะงมงาย ไปอีก มาสว่าง แล้วไปสว่างดีกว่า
   
   :58:
บันทึกการเข้า