พิมพ์

[raponsan]

ชิลได้ไม่เบื่อ! เที่ยว 9 วัด บันดาลใจ ปรับโฉมใหม่ไฉไลกว่าเดิม!

พอได้ยินว่า 'ไปเที่ยววัด' หลายคนแอบทำหน้าเบื่อ คิดว่ามันร้อน ไม่น่าสนุก แต่จะบอกว่ามีวัดรูปแบบใหม่ ที่ได้รับการปรับภูมิทัศน์ให้เหมือนเป็นสวนพักผ่อนให้คนเมืองได้เป็นอย่างดี มีพื้นที่ทำกิจกรรมต่างๆ และสามารถไปเที่ยวได้ชิลๆ เหมือนที่เที่ยวแห่งอื่น คุณอาจเปลี่ยนความคิด อยากไปเที่ยววัดขึ้นมาก็ได้

เคยสังเกตไหม? ว่าทุกวันนี้บทบาทของวัดเปลี่ยนไป จากพื้นที่สงบร่มเย็น กลับถูกแทนที่ด้วยพื้นที่จอดรถ พื้นที่รองรับการจัดงาน บางแห่งก็ทรุดโทรม เงียบเหงา ขาดการดูแล กิจกรรมที่ส่งเสริมคุณธรรมค่อยๆ หายไป ด้วยเหตุนี้จึงเกิดโครงการ วัดบันดาลใจ ขึ้นมา เพื่อพลิกฟื้นวัดให้กลับมาเป็นพื้นที่แห่งชีวิต และจิตวิญญาณอีกครั้ง

วันนี้ ไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปชม 9 วัด ที่น่าสนใจทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ที่ได้มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ เพิ่มพื้นที่ใช้สอย สำหรับทำกิจกรรม และส่วนของสวนสาธารณะให้พักผ่อนหย่อนใจ เปลี่ยนโฉมให้วัดไม่ใช่สถานที่ที่น่าเบื่ออีกต่อไป นอกจากนี้ ยังได้รื้อฟื้นวิถีดั้งเดิมของคนไทยที่มีวัดเป็นศูนย์รวมจิตใจ และมีเจ้าอาวาสเป็นผู้นำของชุมชนอีกด้วย

แต่จะมีวัดไหนที่น่าเที่ยวชมบ้าง ตามมาดูทางนี้เลย

 

1. วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร จ.นครพนม

จัดระเบียบร้านค้าใหม่ เพิ่มพื้นที่สีเขียวมากขึ้น

วัดที่มีพระธาตุจอมเจดีย์องค์สำคัญของประเทศไทย-ลาว จึงมีมหาชนจำนวนมหาศาลหลั่งไหลไปสักการบูชาองค์พระธาตุ และร่วมประเพณีตลอดทั้งปี ในทางกลับกัน การที่มีคนเดินทางไปปีละมากๆ ทำให้เกิดความวุ่นวายจากการท่องเที่ยวและการค้าขาย ที่อยู่บริเวณรอบวัดและองค์พระธาตุ ทำให้พื้นที่รอบวัดไม่สงบ

ดังนั้นจึงมีการปรับปรุงจัดระเบียบพื้นที่ร้านค้าให้อยู่ภายนอกวัด เปิดพื้นที่สีเขียวรอบองค์พระธาตุเพื่อเสริมความสง่างาม พร้อมเพิ่มพื้นที่โดยรอบให้เกิดความสงบ ใช้เป็นพื้นที่ปฏิบัติภาวนา เรียนรู้ พักผ่อนหย่อนใจ

ส่วนกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น การปฏิบัติภาวนาข้ามคืน การประกอบศาสนกิจตามพระธรรม และวินัยของคณะสงฆ์ การสวดมนต์ข้ามปี เป็นต้น


2. วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร จ.เชียงใหม่

แบ่งสัดส่วนวัดกับชุมชนภายนอก เรียกความสงบกลับมา

วัดที่มีมรดกทางประวัติศาสตร์ล้านนาอยู่ทุกที่ทั่วบริเวณวัด โดยมีพระพุทธสิหิงค์พระคู่บ้านคู่เมืองชาวเชียงใหม่ประดิษฐานอยู่ที่นี่ เปรียบเป็นพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ที่มีชีวิต และมีประเพณีวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของชุมชน ทั้งยังมีโรงเรียนภายในวัดที่ให้นักเรียนกับสามเณรเรียนร่วมกัน มีการปฏิบัติธรรมภายในวัด แต่ละวันมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเป็นจำนวนมาก

ที่นี่มีการจัดระเบียบใหม่ คือ โซนการใช้งานในวัดแบ่งให้ชัดเจนขึ้น เช่น ใช้แนวต้นไม้แบ่งสัดส่วนวัดกับโรงเรียนเพื่อความสงบ ปรับภูมิทัศน์ที่เน้นความเชื่อมต่อกัน ส่งเสริมสถาปัตยกรรมสำคัญภายในวัด เปิดพื้นที่บางส่วนเพื่อรองรับมหาชนจากกิจกรรมทางสังคม และกิจกรรมทางธรรม

กิจกรรมในวัด เช่น งานบุญปีใหม่ งานห่มผ้าพระธาตุหลวง งานบุญครูบาศรีวิชัย งานแห่พระพุทธสิหิงค์และปี๋ใหม่เมือง งานตักบาตรดอกไม้วันเข้าพรรษา งานตานก๋วยสลาก อีกทั้งได้รื้อฟื้นประเพณีทำบุญถวายดอกไม้พุทธสิหิงค์ขึ้นมาอีกครั้ง


3. วัดนางชีโชติการาม กรุงเทพฯ

เพิ่มพื้นที่ใช้สอย รื้อฟื้นประเพณีดีๆ ให้กลับมา

วัดเก่าแก่ย่านฝั่งธนที่ซ่อนตัวอยู่ภายในชุมชนเก่า ยังคงความสงบร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้ และที่สำคัญคือ มีอาคารสถาปัตยกรรมในยุค ร.3 ซึ่งได้รับการดูแลเป็นอย่างดี และอาคารที่สร้างขึ้นใหม่ก็ยังออกแบบได้สอดรับกับสถาปัตยกรรมเดิม โดยยังมีประเพณีริมน้ำเก่าแก่อย่าง “ประเพณีชักพระ” ถือว่าเป็นสถานที่หลีกหนีความวุ่นวายสู่ความสงบกลางกรุง

ที่นี่มีการปรับเปลี่ยนคือ ปรับเส้นทางสัญจรใหม่ให้กับชุมชนใกล้เคียง ไม่ให้ผ่านกลางวัด เพื่อให้วัดคงความสงบ ปรับปรุงพื้นที่การใช้งานให้เรียบร้อย และเพิ่มสาธารณูปโภคในการรองรับกิจกรรมที่มีคนจำนวนมาก เช่น การทำพิธีชักพระ การเข้าค่ายปฏิบัติธรรมจากโรงเรียนต่างๆ

กิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ ประเพณีชักพระ (งานแห่พระบรมสารีริกธาตุ) การจัดทำวัตรสวดมนต์ การอบรมปฏิบัติธรรม ฟังเทศน์ฟังธรรม ให้กับคนในชุมชน


4. วัดชลประทานรังสฤษดิ์ จ.นนทบุรี

จัดสรรพื้นที่ให้ใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น

เป็นฐานทัพธรรมสำคัญของ ท่านปัญญานันทภิกขุ ที่มีเอกลักษณ์ทั้งรูปแบบของพื้นที่ และการเผยแผ่ธรรมตามพุทธวิธีอย่างทันสมัย เช่น ลานหินโค้ง หรือ งานศพวิถีพุทธที่มีการแสดงธรรม เป็นต้น แต่ปัจจุบันผู้คนเข้ามาในวัดมากขึ้นหลายเท่าตัว ทำให้พื้นที่ต่างๆ เริ่มรองรับได้ไม่เพียงพอ และไม่ตอบโจทย์การใช้งานธรรม

วัดนี้จึงถูกปรับปรุงลานหินโค้งให้เป็นพื้นที่ใหญ่ผืนเดียวเพื่อรองรับคน และให้คนเข้าถึงกิจกรรมได้ในจำนวนมาก ไม่กระจัดกระจาย จัดอาคารจอดรถใหม่ เพื่อให้บริเวณโบสถ์ทางเข้าวัดไม่มีรถยนต์ สร้างความสงบ ความสง่างาม ให้กับวัด และเพิ่มพื้นที่ใช้งานให้มากขึ้น

กิจกรรมที่น่าสนใจ คือ ตักบาตรสาธิต ทำบุญวันอาทิตย์ การบวชพระนวกะ การแสดงธรรมในพิธีศพ หรือแม้กระทั่งแนวคิดร่วมสมัยในการจัดงานศพฟรี ไม่ต้องมีพวงหรีด เพื่อประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ ลดความสิ้นเปลือง


5. วัดภูเขาทอง จ.อยุธยา

เพิ่มพื้นที่ใช้งานให้คุ้มค่า

วัดยุคกรุงศรีอยุธยาตอนต้น มีเจดีย์ภูเขาทอง ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในยุคพระนเรศวรมหาราช เป็นเจดีย์ต้นแบบของวัดสระเกศในกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันวิถีชีวิตผู้คนเริ่มห่างหายไปจากวัด และโบราณสถานมีสภาพทรุดโทรมอย่างมากตามกาลเวลา และจากการผ่านอุทกภัยครั้งใหญ่ที่ผ่านมา

วัดแห่งนี้ได้มีการปรับปรุงใหม่ คือ ปรับปรุงภูมิทัศน์ตามคติจักรวาล ตามลักษณะโบราณสถานดั้งเดิม เพื่อสร้างจิตวิญญาณของพื้นที่และเจดีย์ จัดสัดส่วนพื้นที่ใช้งาน ให้ผู้คนสามารถเข้าถึงวัดได้ง่าย และยังกระตุ้นให้เกิดการใช้พื้นที่ต่างๆ ในวัดทำกิจกรรม และเดินเล่นพักผ่อนได้มากขึ้น

กิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ รื้อฟื้นประเพณีดั้งเดิม เช่น ไหว้วัดภูเขาทองหลังออกพรรษา ตัดไม้ข่มนาม บวงสรวงสมเด็จพระนเรศวร ตักบาตรเทโว (โดยพระจะเดินบิณฑบาตลงมาจากเจดีย์) การทำวัตรสวดมนต์ ปฏิบัติธรรมใต้ต้นโพธิ์เก่าแก่ เป็นต้น


6. วัดสุทธิวราราม กรุงเทพฯ

จัดพื้นที่วัดกับโรงเรียนให้แยกกัน

วัดคู่โรงเรียนดังอย่างวัดสุทธิวราราม ตั้งอยู่ในย่านเจริญกรุง ซึ่งเป็นแหล่งธุรกิจ การค้า การท่องเที่ยว ที่กำลังขยายตัวสูง บริเวณโดยรอบไม่มีพื้นที่สีเขียวเพียงพอต่อคุณภาพชีวิตที่ดีของชุมชน และวัดเองมีการใช้งานหลักเป็นเพียงสถานที่จัดงานศพ ส่วนพื้นที่รอบวัดใช้เป็นเพียงลานจอดรถ

วัดแห่งนี้ได้ปรับปรุงใหม่ คือ เปลี่ยนพื้นที่จอดรถให้เป็นพื้นที่สีเขียวเพื่อความสงบร่มรื่น เปลี่ยนพื้นที่ว่างที่ไม่ได้ใช้งานบนอาคารสวดศพให้กลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ร่วมสมัย โดยมีไฮไลต์ที่สำคัญ คือภาพชุดปริศนาธรรมในฝาผนังโบสถ์ เปิดให้เป็นพื้นที่พักผ่อนทั้งทางกายและจิตใจให้ผู้คนได้เข้ามาใช้งาน

กิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น เพลินธรรมกับภาพผนัง กิจกรรมศูนย์เรียนรู้ นิทรรศการ ห้องสมุดย่านเจริญกรุง การทำวัตรสวดมนต์ ปฏิบัติภาวนาในสวน สวดมนต์ข้ามปี และการเปิดเป็นพื้นที่ส่วนกลางให้ชุมชนเข้ามาทำกิจกรรม


7. วัดศรีทวี จ.นครศรีธรรมราช

สามารถไปเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจ ได้ชิลๆ

วัดชุมชนกลางเมืองแห่งนี้ ยังมีกิจวัตรปฏิบัติตามพุทธวิถีครบถ้วน ทำให้มีผู้เฒ่าผู้แก่ให้ความศรัทธามาร่วมศาสนกิจอยู่เสมอ และยังมีการใช้พื้นที่วัดในการพบปะกันเป็นศูนย์กลางของชุมชน แต่พื้นที่วัดมีผู้คนเข้ามาใช้งานมากขึ้นจนวัดไม่เงียบสงบเหมือนเมื่อก่อน

ดังนั้น วัดแห่งนี้จึงได้ปรับปรุง โดยขยายพื้นที่ใช้งานศาลาการเปรียญให้รองรับการใช้งานมากขึ้น จัดพื้นที่สำหรับการปฏิบัติภาวนาให้เป็นสัดส่วน เปลี่ยนพื้นที่ให้เช่าด้านหน้าวัดให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียว เพิ่มพื้นที่พักผ่อนและพบปะกันของชาวนครศรีธรรมราช

กิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ การทำวัตรเช้าเย็น ทำบุญทุกวันพระ ปฏิบัติภาวนา อบรม-ปฏิบัติธรรมให้เด็กนักเรียน ประเพณีให้ทานไฟ ประเพณีบุญเดือนสิบ ประเพณีตักบาตรหน้าล้อ ฯลฯ


8. วัดป่าโนนกุดหล่ม จ.ศรีสะเกษ

เปิดพื้นที่ทำกิจกรรมกับชุมชนมากขึ้น

วัดป่าที่สร้างจากการมีส่วนร่วมในทุกๆ ขั้นตอนของชุมชนชาวบ้าน โดยมีพระสงฆ์เป็นผู้นำชาวบ้านดังเช่นในอดีต มีรูปแบบของวัดที่เป็นเอกลักษณ์ แต่เมื่อวัดขยายตัวทำให้พื้นที่ใช้สอยไม่เป็นสัดส่วน

วัดแห่งนี้ถูกปรับภูมิทัศน์ใหม่ ให้ส่งเสริมกับแนวทางของวัด ปรับเปลี่ยนการใช้งานบางพื้นที่ให้วัดเป็นระบบระเบียบ สะอาด สงบ เหมาะแก่การปฏิบัติภาวนา และทำกิจกรรมของชาวบ้าน

ส่วนกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น การปลูกต้นไม้ครอบครัว กฐินดิน การร่วมตั้งชื่อสถานที่ในวัด นอนวัดวันเสาร์ เข้าวัดวันอาทิตย์พัฒนาชีวิตด้วยพระธรรม พุทธทาสรำลึก อบรมต้นกล้าพุทธบุตร เป็นต้น


9. วัดมหาจุฬาวราราม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จ.พระนครศรีอยุธยา

วัดในมหาวิทยาลัยสงฆ์

เมื่อมีการสร้างวัดในมหาวิทยาลัยสงฆ์ขึ้นมาใหม่ ถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะใช้ผังแม่บทในการทำวัดแห่งนี้ ให้เป็นที่เผยแพร่แนวคิดและแรงบันดาลใจ สู่พระนิสิตทั่วประเทศที่มาเรียน ได้เรียนรู้ถึงการออกแบบ และการจัดสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับวัดของตัวเอง ให้วัดทันสมัยเข้ากับยุคปัจจุปันมากขึ้น

วัดแห่งนี้จึงได้มีการปรับปรุง คือ จัดสรรพื้นที่ให้สิ่งปลูกสร้างอยู่ร่วมกับน้ำในทุกพื้นที่ พลิกฟื้นสภาพผืนดินเดิมให้ปลูกต้นไม้ได้มากที่สุด จัดบรรยากาศโดยรอบให้พระนิสิตได้อยู่เป็นหมู่คณะในวิถีของสงฆ์ ได้ปฏิบัติภาวนาและประกอบศาสนกิจได้อย่างเหมาะสม

กิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ การปฏิบัติภาวนา การประกอบศาสนกิจตามพระธรรมและวินัยของคณะสงฆ์ การสวดมนต์ข้ามปี เป็นต้น

 

ติดตามรายละเอียดอื่นๆ ของโครงการ วัดบันดาลใจ ได้ที่ WatBunDanJai

ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.thairath.co.th/content/512344