ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: "หลวงปู่บุญหนา ธัมมทินโน" ศิษย์กรรมฐาน "สายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต"  (อ่าน 4559 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28415
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


หลวงปู่บุญหนา ธัมมทินโน ศิษย์กรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู

ปัจจุบันอาจกล่าวได้ว่า ในบรรดาพระคณาจารย์ดังแห่งเมืองสกลนคร "หลวงปู่บุญหนา ธัมมทินโน" วัดป่าโสตถิผล อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร มีชื่อเสียงมาในลำดับต้นๆ เช่นเดียวกับสิ่งมงคลที่ท่านเมตตาให้สร้างและอธิษฐานทุกชนิดล้วนเป็นที่หมายปองของศิษยานุศิษย์ เพราะเชื่อว่ามีพุทธคุณความศักดิ์สิทธิ์ที่ก่อเกิดจากการบำเพ็ญทานบารมีของท่าน

หลวงปู่บุญหนา เป็นศิษย์สายวิปัสสนากรรมฐานพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต รุ่นสุดท้ายที่ยังดำรงขันธ์อยู่ในปัจจุบัน ท่านเป็นหลานแท้ๆ ของพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร อีกทั้งเคยปฏิบัติอุปัฏฐากรับใช้ครูบาอาจารย์สายกรรมฐานมากมายหลายรูป อาทิ พระอาจารย์ชอบ ฐานสโม, พระอาจารย์ตื้อ อจลธัมโม, ท่านพ่อลี ธัมมธโร, หลวงปู่แหวน สุจิณโณ, พระอาจารย์สิม พุทธาจาโร และพระอาจารย์จาม มหาปุญโญ เป็นต้น จึงเชื่อมั่นได้ในวัตรปฏิบัติอันงดงาม และความแก่กล้าแห่งสมาธิจิต ภายหลังหลวงปู่บุญหนาได้มาจำพรรษาอยู่ ณ วัดป่าโสตถิผล บ้านหนองโดก ต.ช้างมิ่ง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ตราบจนกระทั่งถึงปัจจุบัน



หลวงปู่บุญหนาเป็นพระสมถะสันโดษ ไม่ยึดติดในลาภยศสรรเสริญตามแบบฉบับพระสายป่าที่มุ่งเน้นในความเรียบง่ายเป็นธรรมชาติ และสอนญาติโยมให้ความสำคัญในเรื่องการปฏิบัติธรรมมากกว่าหลงใหลในวัตถุ โดยจะเน้นให้แง่คิดแก่ผู้เดินทางมากราบนมัสการเสมอว่า

"ให้เป็นผู้มีสติ ระลึกรู้ในกาย สติระลึกรู้ในวาจาคำพูด สติระลึกรู้ในใจ เมื่อสติรู้ซักซ้อมอยู่ภายในกายวาจา และใจแล้ว ทำ พูด คิด ถูกและผิด ก็ระลึกรู้อยู่ ปรับปรุงอยู่อย่างนี้เสมอ"

คำสอนดังกล่าวเป็นคำสอนของพระอาจารย์อ่อนที่ได้เล่าเรื่องของท่านพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสิโล เทศน์แสดงธรรมสั้นๆ ในช่วงที่เคยเดินทางไปกราบนมัสการหลวงปู่มั่นครั้งนั้นว่า กายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต กายบริสุทธิ์ วาจาบริสุทธิ์ ใจบริสุทธิ์

 

หลวงปู่บุญหนาคือพระสุปฏิปันโนที่เปี่ยมด้วยเมตตาบารมี ที่ผ่านมาลูกศิษย์พากันมาขอเมตตาให้ท่านช่วยอธิษฐานจิตมงคลวัตถุเพื่อนำไปแจกจ่ายให้ผู้ที่เคารพศรัทธา ซึ่งหลวงปู่ก็ช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง และท่านก็เมตตามอบให้ผู้ที่เดินทางไปกราบขอพรท่าน โดยมิได้คิดมูลค่าเงินทองแต่อย่างใด
 
โดยปกติของพระคณาจารย์สายกรรมฐานจะไม่มุ่งเน้นการสร้างวัตถุมงคล แต่ในยุคปัจจุบันที่ผู้คนต้องการที่พึ่งทางจิตใจ ส่งผลให้พระคณาจารย์หลายท่านเมตตาให้จัดสร้างสิ่งมงคลแก่ศิษย์ศรัทธาทั้งหลาย โดยนัยเพื่อให้เกิดขวัญกำลังใจ ที่สำคัญ เพื่อนำปัจจัยจากการร่วมทำบุญบูชาไปบูรณะพัฒนาวัด


คาถาพญานกยูงทอง

พระคาถาพญานกยูงทอง ที่ว่า "นะโมวิมุติตานัง นะโมวิมุตติยา" เป็นพระคาถาที่พระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่นนิยมใช้ โดยเฉพาะผูกเป็นยันต์ในเหรียญที่ทำแจกของพระคณาจารย์สายนี้ เป็นต้นว่าพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ท่านได้ใช้หัวใจคาถาพญานกยูงทองมาจารึกไว้ที่ด้านหลังวัตถุมงคลของท่านแทบทุกรุ่น

นอกจากจะพบคาถานี้บนหลังเหรียญแทบทุกรุ่นของท่านพระอาจารย์ฝั้นแล้ว ยังพบคาถาบทนี้ในตะกรุดอีกด้วย ทั้งนี้มีเหล่าบรรดาลูกศิษย์จำนวนมากไปหาอาจารย์ฝั้นให้ทำตะกรุดให้ โดยจัดหาแผ่นโละทองเหลือง-ทองแดง-ตะกั่วไปพร้อม ท่านก็มีเมตตาจารให้ทุกคน โดยท่านจะจารพระคาถาเป็นภาษาขอม ลาว อ่านว่า นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา โดยส่วนใหญ่บางครั้งอาจมีหัวใจคาถาอื่นเพิ่มเติมบ้าง เช่น นะโมพุทธายะ และ นะมะพะทะ ผนวกเข้าไว้ก็ได้


 :25: :25: :25: :25: :25:

ทั้งนี้เพราะท่านถือว่า คาถาพญานกยูงทองมาจากบทสวดมนต์ที่เรียกว่า "โมรปริตร" อันมีอยู่ในบทสวดมนต์ ๗ ตำนานอันเก่าแก่และเป็นหลักในการเจริญพระพุทธมนต์ตลอดมา

คาถานกยูงทองเป็นคาถาที่มีมาแต่โบราณ กล่าวกันว่า เมื่อพระโพธิสัตย์ได้เสวยชาติเป็นพญานกยูงทองนั้น ได้สวดมนต์ท่องพระคาถานี้เช้าเย็น ทำให้แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง วันหนึ่งนายพรานได้เห็นพญานกยูงทองคิดจะจับไปถวายพระราชา เอาบ่วงไปดักนกยูงทอง แต่ก็ไม่ติดบ่วง ถึงแม้ว่าจะเหยียบบ่วง แต่บ่วงก็ไม่รัดเท้า เพราะพญานกยูงทองสวดคาถาโมรปริตร ทำให้แคล้วคลาดพ้นจากภัยทั้งปวง


 st12 st12 st12 st12

นายพรานจึงคิดอุบายใหม่ หาวิธีการให้ลืมสวดมนต์ เมื่อทำให้มีความรัก ก็จะทำให้หลง หลงรูป เสียง กลิ่น รส นายพรานจึงจับตัวเมียมาผูกไว้ พญานกยูงทองเมื่อเห็นนกยูงตัวเมียก็ลืมสวดมนต์ จึงติดบ่วงนายพรานในที่สุด นายพรานจับได้ก็นำไปถวายพระราชา พระราชาทอดพระเนตรเห็นพญานกยูงทองก็รู้ว่าไม่ใช่นกยูงธรรมดาจึงได้ปล่อยไป

มีคติความเชื่อมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุยันว่า ผู้ใดได้เจริญโมรปริตรทุกเช้าค่ำจะปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง ในกรณีตะกรุดของพระอาจารย์ฝั้นบางคนก็เอาไปปิดเสาเรือน บางคนก็พกพาไว้ติดตัว โดยมีความเชื่อว่า สามารถกันไฟ กันฟ้าผ่า รวมทั้งแคล้วคลาด



เหรียญ ๗ รอบ หลวงปู่บุญหนา

พระเครื่องและวัตถุมงคลหลวงปู่บุญหนาทุกรุ่นล้วนเป็นที่นิยม วัตถุมงคลสิ่งแรกของหลวงปู่บุญหนาออกเมื่อปี ๒๕๓๘ เป็นรูปถ่าย หลังมีแผ่นจาร จัดสร้างเพื่อแจกคนงานที่มาสร้างโบสถ์กลางน้ำเนื่องจากคนงานไม่ยอมรับเงินค่าจ้าง แต่ขอเป็นวัตถุมงคลของหลวงตาแทน นายช่างสาธร ทัศนเอี่ยม จึงขออนุญาตถ่ายรูปหลวงตาแล้วนำไปอัดมาแจก แต่หลวงตาให้ตัดแผ่นเงิน/ทองแดง/ตะกั่ว (แต่ละรูปแผ่นจารด้านหลังจะไม่เหมือนกัน) ให้ท่าน แล้วท่านก็จารให้ พร้อมทั้งลงมืออัดกรอบพลาสติกเองและทำตะกรุดร้อยเชือกด้วยตัวท่านเองทุกชิ้น

ล็อกเกตหลวงตาบุญหนา จัดสร้างเพื่อแจกญาติโยมที่มาร่วมแรงร่วมใจกันสร้างโบสถ์กลางน้ำ เมื่อปี ๒๕๓๘ ออกก่อนเหรียญรุ่นแรกกริ่งฉลองพระประธานโบสถ์กลางน้ำ จัดสร้างเพื่อเป็นที่ระลึกในงานถวายพระประธานโบสถ์น้ำในปี ๒๕๓๘ โดยนายช่างสาธร ทัศนเอี่ยม (ผู้สร้างเหรียญรุ่นแรก บล็อกแรก)

เหรียญหลวงตาบุญหนา รุ่นแรก บล็อกแรกพิมพ์เต็มองค์ (สมาธิ) จัดสร้างถวายโดยนายช่างสาธร ทัศนเอี่ยม และคุณชูชาติ กิตติธรรม เพื่อแจกในงานฉลองโบสถ์กลางน้ำของวัดป่าโสตถิผล เมื่อปี ๒๕๔๐


 st11 st11 st11 st11

อย่างไรก็ตาม ในวาระที่หลวงปู่มีอายุครบ ๗ รอบ ในวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๘ หลวงปู่ได้อนุญาตให้ศิษย์ โดย ”คุณเลิศ นาแก” สร้างเหรียญรูปไข่เต็มองค์ ๗ รอบ ประกอบด้วย เนื้อทองคำ เนื้อเงินหน้าทองคำ เนื้อเงินหน้ากากเงิน เนื้อนวะหน้าทองคำ เนื้อนวะหน้าเงิน เนื้อนวะ เนื้ออัลปาก้า ชุดเนื้อเงินลงยา (สีแดง สีเขียว สีน้ำเงิน) และเนื้อทองแดงรมมันปู ส่วนเนื้อทองแดงสร้าง ๕,๕๘๔ เหรียญ ให้หลวงปู่แจกฟรีในงานวันเกิด

พิธีพุทธาภิเษก เหรียญรูปไข่เต็มองค์ ๗ รอบ หลวงปู่เมตตาอธิษฐานจิตให้เป็นกรณีพิเศษ ที่โบสถ์กลางน้ำ วัดป่าโสตถิผล ในวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ส่วนหนึ่งได้ถวายให้หลวงปู่แจก (เหรียญทองแดง) ในวันเกิด ส่วนเนื้ออื่นเปิดสั่งจอง สอบถามข้อมูลได้ที่ โทร.๐๙-๐๙๗๙-๓๘๗๔ และ ๐๘-๑๕๘๑-๗๙๖๖


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20150727/210488.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Hero

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 557
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
ทำไมต้องมีอินทรีแดง เพราะสังคมเราบางครั้งก็ตาบอด
ปล่อยให้คนดี เดือดร้อน ดังนั้นจึงต้องมีผู้ปกป้องคนดี
hero ไม่ได้มีแต่ในหนังเท่านั้น นะครับ