ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ช้ำใจมากคะ ผิดหวังมากด้วย ถ้ามีอาการอย่างนี้ควรทำอย่างไรในกรรมฐาน คะ  (อ่าน 4004 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0

QA  ใครช่วยตอบได้ ก็ช่วยตอบกัน ด้วยนะ จะนำคำถามมาลงก่อน ก็แล้วกันนะ ส่วนคำตอบจะทะยอยตอบ


ปุจฉา
     ช้ำใจมากคะ ผิดหวังมากด้วย ถ้ามีอาการอย่างนี้ควรทำอย่างไรในกรรมฐาน คะ   


วิสัชชนา

    <?<?<? ยังไม่ได้ตอบ รอให้ สมาชิกธรรม ร่วมตอบกันก่อน


 ;)
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

เฉินหลง

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 153
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ควรกำหนด ทุกข์ ที่เกิดนั้นมีสาเหตุ มาจากอะไร ครับ
 
           ช้ำใจ มีสาเหตุ มาจากอะไร ?

           ดู ที่สมุทัย ของสาเหตุครับ ว่าใช่หรือไม่ ?
                สาเหตุที่ ทุกข์ มีอยู่ 4 ประการครับ เรียกว่า อุปาทาน 4 ประการ

               1.กามุปาทาน  การยึดมั่นถือมั่นในการคุณ มีโลกธรรม ทั้งฝ่ายบวก และ ฝ่ายลบ
               2. สีลัพพตุปาทาน การยึดมั่นต่อระเบียบแบบแผนที่ผิดจาก อริยะมรรค
               3.อัตตวาทุปาทาน การยึดมั่นมั่นแม้ด้วยวาจา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นของเรา นั่นเป็นตัวเป็นตนของเรา
               4.ทิฏฐปาทาน ยึดมั่น ถือทิฏฐิ ความเห็น

          ทั้ง 4 ประการ นี้เป็นสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้คนไม่พ้นจากสังสารวัฏ ครับ
      ต้องขอบคุณพระอาจารย์ ที่เมตตาช่วยชี้แนะไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วครับ

        :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า

ลำใย

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 83
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ความผิดหวัง เพราะ ไม่ได้ดั่งใจ คะ อยากให้เป็นอย่างนี้ แล้วไม่ป็นอย่างนี้ ความผิดหวัง นั้น เกิดจากการที่เรามีความรุ้สึกตั้งใจ จะให้เป็นอย่างนั้น อย่างนี้ตามใจที่เราหวัง บางครั้งก็ใส่ความปรารถนาดีลงไป ด้วย

   เช่นเสนองาน ให้เจ้านาย เราก็คิดว่า วิธี นี้ ที่สุด เล่าให้ฟังนะคะ

      คือ ในช่วงที่มีการใหัพนักงานออกไอเดียประหยัด ช่วยเหลือลดค่าใช้จ่ายบริษัท ตอนนั้นเราก็เสนอ วิธีการปิดแอร์ในที่ทำงาน ซึ่งจะมีการปิดในเวลา เช้า เปิดหลังเข้าทำงาน 30 นาที เที่ยง 1 ชม.และ ก่อนเลิกงาน 1 ชม. แต่ความคิดนี้ ถูกเพื่อนด่ากันมากคะ สุดท้ายก็ล้มเลิก โดยที่ตนเองถูกตราหน้าว่า เสนอเรื่องไร้สาระ เดินไปตรงไหน ก็จะมีคนเดินหนี และ คนให้ฉายาว่า แม่ขี้เหนียว  ประมาณนี้คะ

     คิดดูสิคะ ว่าเราปรารถนาดี กระทำตามนโยบาย บริษัท แต่ กับลงเอยด้วย แบบนี้

     คิดดังนั้น เพราะความที่กลุ้มใจอยู่ 1 เดือน จึงนำเรื่องร้องเรียน ผู้บังคับบัญชา ระดับสูงผู้ออกนโยบาย มาว่า เพื่อให้ท่านทราบผลการแสดงความคิดเห็น แต่ท่านกล่าวว่า เรื่องมันผ่านไปแล้ว อย่านำมาใส่ใจเลย... เดี๋ยวเขาก็หยุดกันเอง

     คิดดูิสิคะ ท่านไม่เข้าข้างเรา แม้นิดเดียว มันน่าน้อยใจ นะคะ

     ตอนนั้นมันหมดกำลังใจ ที่จะทำงาน อยากจะลาออกให้พ้นจากบริษัทไปเลย แต่ถ้าลาออกแล้ว เราจะกินอะไรงานก็หายากอยู่ จึงกล้ำกลืนฝ้นทนเขาบ่นเขาว่า กันไป แต่อย่างไรก็เป็นสาเหตุที่เราเองก็ปฏิเสธร่วมกิจกรรมหลาย ๆ อย่าง ที่เขาออกมา เรียกว่า ฉันไม่ร่วม ในขณะเดียวกัน ก็ทำการ แอนตี้ ทั้งเล็ก และใหญ่ ไปด้วยในตัว

    สุดท้ายพอได้มาศึกษา หลักธรรม เมื่อสองปีที่แล้ว จึงได้ทราบว่าเราเองเป็นทุกข์ เพราะว่าเรานั้นมี ทิฏฐิ มาก ไม่ยอมใคร และห่วงเรื่องชื่อเสียง ( ที่ไม่มีอยู่จริง ) สิ่งใดที่ไม่รู้อีกหลายประการ

     ดังนั้นอยากให้เพื่อน ๆ สมาชิก ตระหนัก ถึงความทุกข์ แท้ที่จริง ก็มาจากความยึดมั่นถือมั่น 4 ประการนี้แหละคะ เห็นด้วยกับ คุณ เฉินหลง คะ

   เปิดใจ ตนเอง แล้ว พิจารณา ตนเอง คะ อย่ามัวแต่ไปมองภายนอกคะ ถ้าจะเรียนธรรมะ หรือแก้ความชำ้ใจของเรา ที่เกิดขึ้นในใจ

 
บันทึกการเข้า

ประสิทธิ์

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +14/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 639
  • จิตว่าง ก็เป็นสุข
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ช้ำกาย ก็ น้ำใบบัวบกครับ

ช้ำใจ หรือ ใจช้ำ ก็เจริญ สติ ให้มากขึ้น

  เหตที่ช้ำใจ เพราะ สติ ขาดยังนับว่า สิ่งนั้น เป็นเรา เป็นของเรา เป็นตัว เป็นตน ของเรา สำหรับปุถุชนไม่แปลกนะครับ แต่ สำหรับผู้ที่กำลังภาวนา อยู่ จัดว่าแปลกมาก เพราะสติ ถึงจะแม้จะขาดบ้าง ก็ไม่ถึงกับหลุดหลุ่ย นะครับ

   ในการภาวนา สำหรับ โคตรภูบุคคล จัดได้ว่า ควรมีสติ ยับยั้งชั่งใจ ได้ไม่ถึงกับสติขาดไปเลย นะครับ

   ธรรมที่สมานใจ ชั้นยอด นะครับ

  บทปลงสังชาร อภิณหปัจจเวกขณ

   http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=4327.0


  ของดีที่พระอาจารย์ ทำไว้ให้ศิษย์ ทุกท่านมีอยู่แล้ว แต่มีใครได้ทบทวนหรือไม่ครับ
 
  ขอบคุณทุกท่านที่อ่านครับ

   :c017: :25:

 
บันทึกการเข้า
ใครชอบ ใครชัง ช่างเถิด
ใครเชิด ใครชู ช่างเขา
ใครด่า ใครบ่น ทนเอา
ใจเรา ร่มเย็น เป็นพอ

:;

บุญเอก

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 516
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อนุโมทนา กับทุกท่าน ครับ มีข้อคิด ที่ดีมากเลยครับ

สาูธุ สาธุ

  :25: :25:
บันทึกการเข้า
ทำงานอาสา หวังช่วยคนตกยาก แม้จะลำบาก แต่ก็จะทำโดยความไม่หนักใจ
อาสากตัญญู พัทยา ยินดีรับใช้

arlogo

  • 1.บรรพชิต
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +101/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 1176
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
เวลาที่ชีิวิตผิดหวัง หรือ ช้ำใจ

   สิ่งที่ควรทำเป็นส่วนแรก คือ ก็คือ การเรียก สติ กลับมา

   วิธีการเรียกสติกลับมานั้น ก็มีหลาย วิธี แต่ วิธีที่ดีที่สุด ควรเจริญ มรณานุสสติ แบบ สติ ให้ระลึกถึงว่า

 ::." เรามีความเกิด เป็นธรรมดา ไม่ล่วงเกิดความไปได้ เรามีความแก่ เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้
เรามีความตายเป็นธรรมดาา ไม่ล่วงพ้นความตายนี้ไปได้ เรามีความพรัดพรากจากของรักของชอบใจ เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความพรัดพรากจากของรักของชอบใจนี้ไปได้ เรามีความประสบกับสิ่งไม่เป็นที่รักที่พอใจเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นจากไม่ประสบกับสิ่งที่ไม่เป็นรักที่พอใจนี้ไปได้ เรามีกรรมเป็นกำเนิด เรามีกรรมเป็นพวกพ้อง เราม่กรรมเป็นผลตกทอด เรามีกรรมเป็นที่พึ่งพาอาศัย ไม่ว่าเราทำกรรมใด ๆ ไว้ เราจักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น
"


    เจริญแบบนี้ก่อนนะ เวลาที่ช้ำใจ ผิดหวัง ให้มองเห็นว่า สิ่งเหล่านี้มีเกิดเป็นธรรมดา และ ก็มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา มองให้เห็น หยั่งให้รู้ว่า มันเป็นธรรมดา ไม่พ้นจากความเป็นธรรมดา เพราะปกติก็เช่นนี้


    เจริญธรรม

     ;)
บันทึกการเข้า
แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแต่เรา ปัญญาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา วิชชาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา