ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เรียนถาม ว่า ถ้าผมฝึกกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ แล้วไม่ก้าวหน้ายากจะฝึก อานาปานสติ  (อ่าน 15524 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

keyspirit

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 68
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เรียนถาม ว่า ถ้าผมฝึกกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ แล้วไม่ก้าวหน้ายากจะฝึก อานาปานสติ ครับพอดีเคยฝึกมาก่อนครับ ในส่วนนี้ จึงคิดว่าขอฝึกเพียง ฐาน เดียวคือ ขุททกาปีติ และ จะไปฝึกกรรมฐาน อานาปานสติ ใแสำนักอื่น อยากเรียนถามผลกระทบ ตรงส่วนนี้ครับ ว่าถ้าฝึกไม่ผ่าน แล้ว เปลี่ยนกรรมฐาน อย่างนี้ จะมีผลเสียอย่างไรบ้างครับ

   มีความรู้สึกว่า กรรมฐาน นี้ยากมากครับ พยายามมา 1 ปีแล้วไม่ก้าวหน้า

  ( ผมขึ้นกรรมฐาน ที่วัดราชสิทธาราม ครับ ไปไม่ค่อยบ่อยครับ ปีหนึ่งไปสักสองครั้งครับ เรียนถามหลวงพ่อท่านก็ให้อยู่ที่ ฐาน ที่ 1 เหมือนเดิมเลยเหมือนฝึกไม่ก้าวน้า ผมจะนั่งกรรมฐานได้ประมาณ 1 ชม.ครับ )

   :c017: :25:
บันทึกการเข้า

painting

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 72
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ทำไมถึงถอดใจ อย่างนี้ครับ น่าจะฝึกต่อนะครับ วันนี้รู้สึกว่า จะมีหัวข้อนี้ออกมาด้วยนะครับ

  ความศรัทธา มีผลต่อการปฏิบัติ ภาวนาเป็นอย่างมาก
  http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=8367.0


อยากให้พระอาจารย์แนะนำการปฏิบัติ ในช่วงเข้าพรรษา สำหรับผู้ฝึกระัดับต้น และ กลาง
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=8352.msg31170#msg31170

อ้างถึง
6.พรรษานี้ เราจะภาวนากรรมฐานในแนวทางเดียว คือ กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ เท่านั้น ดังนั้นท่านที่ฝึกกรรมฐาน ก็ไม่พึงเปลี่ยนกรรมฐาน

      เนื่องด้วยหลายท่านตอนนี้ ฝึกกรรมฐานปนกัน เช่นท่านฝึก พุทโธ แล้ว ไปตามลมหายใจเข้าออก กำลังไม่พอทั้งสองมีการดำเนิน นิมิต ไม่เหมือนกัน ดังนั้น ท่านที่ยังไม่มีนิมิต ให้กำหนดนิมิต ในพระพุทธานุสสติ เสียก่อน อย่าพึงใจร้อน เพราะการฝึกพุทธานุสสตินั้น พ้นอบายได้ มีความเป็นไปได้สูงกว่า อานาปานสติ เพราะอานาปานสติ เป็นกำลังของพระอริยะระดับสูง ดังนั้นให้เราเพิ่มพูนในส่วนที่ง่ายก่อน และมีโอกาสก่อน

       จึงขอเชิญชวนท่านทั้งหลาย มาเจริญ พุทธานุสสติ ด้วยแนวทางกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ด้วยกันทุกท่าน


     สำหรับต้นพรรษา ขอแนะนำไว้เพียงเท่านี้ก่อน นะจ๊ะ
บันทึกการเข้า

bomp

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 72
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เรียนถามกลับว่า

  .."ทีี่ว่าปฏิบัติไม่ได้ คือ ไม่ได้อะไรครับ ?
  ปฏิบัติ ในพระขุททกาปีติ นั้น ไม่ได้อะไร ? หรือว่าอยากได้อะไร ? ในระดับนี้ อันที่่จริงผมคิดว่าน่าจะได้แล้วเพียงแต่ ที่คุณว่าไม่ได้นั้นไมตรงกับส่วนที่ทำ

    คือ อยากได้ฤทธิ์  อยากได้ความสิ้นไปแห่งอาสวะ ใช่หรือไม่ ทั้งที่ ๆ พระขุททกาปีตินั้น ควรจะได้อยู่ สองอย่างนะครับ คือ พระลักษณะ และ พระรัศมี   

     "

   ขออภัยหากผมวิเคราะห์ผิดนะครับ แต่อยากช่วยให้กำลังใจครับ เพราะอันที่จริงคุณ อาจจะหวังอะไรลึก ๆ กับการภาวนาอย่างนี้ ทั้ง ๆที่ เราทำมันคนละเรื่อง แต่ดูเหมือนเรื่องเดียวกัน
   
บันทึกการเข้า

hope

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 55
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ก็ดีนะ ถ้าท้ออยากเปลี่ยน เพราะไม่ค่อยได้แจ้งกรรมฐาน แน่ ๆ

  :s_hi:
บันทึกการเข้า

intro

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 77
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ไม่น่าจะมีความเสียหาย ใด ๆ นะครับ เพราะว่า กรรมฐานที่พระพุทธเจ้าน่าจะเป็นส่วนที่ทำให้ เราปฏิบัติได้สำเร็จเหมือนกัน  อาจจะไม่ถูกจริตนะครับ เพราะว่า พุทธานุสสติ นั้นเหมาะกับพวกสัทธาจริต ถ้าเป็นพวกวิตก และ โมหะจริต โดยตรงก็ควรเริ่มที่ อานาปานสติ นะครับ

  :s_hi:
บันทึกการเข้า

สมภพ

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 485
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
คิดว่า ตามถนัดครับ ตามจริต ตามวาสนา ครับ
แต่ให้พิจารณา ว่า สาเหตุแท้จริง คืออะไรครับ

  :s_hi:
บันทึกการเข้า

วิชชุดา

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 275
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
คิดว่า ความเห็นของครูอาจารย์ ก็คงจะอนุโมทนา คะ คงไม่ได้ขัด ในการปฏิบัติ เพราะอย่างไรก็ยังปฏิบัติเพียงแต่เปลี่ยนแนวทางกัน ดีกว่าไม่ปฏิบัติกันเลย อันนี้คิดว่า อนุโมทนาคะ เพราะท่าข้าม คือ กรรมฐานนั้น ไม่ไม่ได้มีเพียงแบบเดียวกัน ทั้งหมด ถึงแม้จุดหมายปลายทางจะมีที่เดียวกัน คือ พระนิพพาน

   สาธุ สาธุ สาธุ

    :s_hi:
บันทึกการเข้า
ขอให้ทุกท่าน จงเป็นผู้มีความสุข กันทุกคนนะจ๊ะ

สงกรานต์

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 10
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
การปฏิบัติกรรมฐาน ก็น่าจะเหมือนกับการบวช พระ นะครับ ในความคิดผมเป็นเช่นนั้น
เพราะถ้า ลาสิกขา ออกไป การที่จะเข้ามาบวชใหม่ นั้น เครดิตบางอย่างก็เสียไป ความสามารถบางอย่างก็อาจจะมีประโยชน์ ถ้ารักภาวนากรรมฐาน ใด แล้ว ผมว่าก็ควรทำกรรมฐาน ด้วยความศรัทธา ครับ

ผมเองยังไม่ได้ขึ้นกรรมฐาน กำลังคิดจะไปขึ้นกรรมฐาน พอได้อ่านคุณแสดงความคิดเห็นอย่างนี้ผมเองก็เลยชะลอ ชะงักเลยนะครับ เลยตัดสินใจศึกษาเพิ่มเติมต่อไปอีกน่าจะดีกว่า เพราะคิดว่าได้เปรียบกว่าการไปขึ้นกรรมฐาน

  :coffee2:
บันทึกการเข้า

สนั่น

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 14
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ขอเรียนถาม จขกท. ครับ ว่ายากมากเลยหรือครับ เพราะเห็น จขกท. บอกว่าปฏิบัตเป็นปีแล้ว ผมเองก็เลยคิดว่าว่าไม่เอาแล้วดีกว่า กับกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ขออยู่กับ พุทโธ หายใจเข้า ออก ดีกว่า เช่นกันครับ

   แต่ที่จริงได้อ่านศึกษามาหลายเดือนนี้ ก็ได้ความรู้ทางกรรมฐาน เพิ่มขึ้นมาก ในใจก็ยังคิดว่า น่าจะมีคนปฏิบัติได้มากขึ้น แต่ฟังจากความเห็นแล้ว เหมือนปฏิบัติได้ยากใช่หรือไม่ครับ เพราะไม่เห็นทางทีมงาน มาตอบแสดงว่ายาก ใช่หรือไม่ครับ

   :smiley_confused1: :c017:
บันทึกการเข้า

นินนินนิน

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 65
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อยากฟัง ความเห็น ที่ว่ายาก ตรงไหนครับ ผมจะได้ นำไว้เป็นครูครับ กำลังจะไปขึ้นกรรมฐานในวันที่ 2 ส.ค.55 ที่วัดราชสิทธาราม คณะ5 นะครับ ตั้งใจไว้ว่าจะไปขึ้นกรรมฐานวันเข้าพรรษา ครับ

  ขอบคุณมากครับ ถึงอย่างไรผมก็คิดว่า น่าจะอยู่ที่การภาวนาของแต่ละบุคคลด้วย ที่สำคัญผมว่า ความศรัทธา มีส่วนเหมือนที่พระอาจารย์กล่าวไว้ด้วยนะครับ เพราะบางท่านอาจจะปัญญามาก เชื่อยาก จึงทำให้ไม่ก้าวหน้า ผมเองก็ปฏิบัติในแนวดูจิตมาก่อน ก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร กับการภาวนาเลยนะครับ แต่ทุกอย่างคิดว่าต้องลองนะครับ เพราะส่วนนั้น ผมคิดว่าไม่ก้าวหน้าสำหรับผมแล้ว อาจจะเป็นวาสนา ก็ได้ที่ได้มารู้จัก หลวงปู่สุก ไก่เถื่อน ครูบาอาจารย์ที่เป็นถึงสังฆราช และเป็นกรรมฐานเก่า ดั้งเดิม ซึ่งมีระเบียบแบบแผนอยู่

    คิดว่า ศรัทธา มีถึง 75 เปอร์เซ็นแล้วนะครับ

   
บันทึกการเข้า

แพนด้า

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 248
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
คนในยากออก คนนอนอยากเข้า
ไม่มีงานเลี้ยงใด ไม่เลิกรา
ชีวิตของเรา ไม่ได้มีมาก เลือกมากลองมาก จะเสียการครับ



บันทึกการเข้า

pamai

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 139
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เห็นพระอาจารย์แสดงความเห็นไว้ใน facebook ไว้นะครับ นำมาให้อ่านก่อนที่พระอาจารย์จะเข้ามาตอบ

บันทึกการเข้า

pichai

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 99
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
น่าจะปฏิบัติต่อไปนะครับ
สาธุ สาธุ เป็นกำลังใจครับ ถึงจะเปลี่ยนก็ยังภาวนา นี่ครับ
  :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า

keyspirit

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 68
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ขอบคุณทุกท่าน ที่แสดงความเห็นให็ผมรับทราบ ครับ

  แต่การที่ผมจะเปลี่ยนกรรมฐาน นั้นก็มีสาเหตุหลายประการ คือ

 1. หน่วยงานที่ผมทำงานอยู่นั้น มีการจัดอบรมการภาวนากรรมฐาน ในสาย อานาปานสติ ที่วัดแห่งหนึ่งมีชื่อเสียงครับ และผมก็ถูกบังคับให้ไปเข้าคอร์ส ปฏิบัตธรรมนี้ 6 ครั้ง เริ่มในพรรษานี้  เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคกับการภาวนาที่ไม่ก้าวหน้าของเดิม ผมจึงคิดว่า จะเปลี่ยนเป็นฝึกตามที่เขาอบรมครับ

 2.ผมได้ไปขึ้นกรรมฐานที่วัดราชสิทธาราม 2 ปีแล้ว แต่ไม่ค่อยได้ไปบ่อยครับ เนื่องด้วยอาขีพการงานไม่อำนวย และที่สำคัญ วัด หรือพระสงฆ์ ที่จะปรึกษากรรมฐาน นั้นไม่มีเลยมีเพียงหลวงพ่อ พระครูรูปเดียวที่ผมโทรถามหา ท่านก็ให้ผมปฏิบัติ อยู่ที่ฐานหนึ่ง และลองขึ้นไปฐานสองบ้าง ก็เป็นอยู่อย่างนี้มา 2 ปีแล้วไม่ก้าวหน้า และมีความรู้สึกอึดอัด เนื่องด้วยเพื่อนที่ไปด้วยกันนั้น เข้าห้องที่ 2 หลายท่านแล้ว ผมซึ่งเป็นคนชักขวนพวกเขาไปกัน รู้สึกละอายใจ เหมือนไม่มีวาสนาในกรรมฐาน นี้ครับ
 
 3.ก่อนที่ผมจะมาภาวนากรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับเคยฝึกกรรมฐาน อานาปานสติ ในแนวทางหลวงพ่อพุทธทาสมาก่อนครับ จึงคิดว่า น่าจะกลับไปเริ่มต้นในสิ่งที่ตนเองทำดีกว่าครับ

 4.พิจารณา กรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ นั้นมีความยาก และซับซ้อน ไม่มุ่งรื่องวิปัสสนา ทำให้ผมไม่ชอบหลายส่วน ครับ

   ยังมีอีกหลายเหตุผล แต่ถ้าเพื่อนๆ ชี้นำทางที่ควรให้ผม ตัดสินใจได้ จะเป็นการขอบคุณมากครับ จึงได้มาเรียนถามในห้องกรรมฐาน นี้ครับ

   :c017: :c017: :c017:
บันทึกการเข้า

ธรรมะ ปุจฉา

  • http://www.facebook.com/srikanet?ref=tn_tnmn
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 713
  • ปัญญสโก ภิกขุ (พระที) ..... คณะ ๓/๓ วัดพลับ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
คุณคิดว่า การที่เราๆ มาเปลี่ยนแปลงตัวเราเอง มันยากไม๊ละ

ในขณะที่เราเอง ก็พยายามที่จะคอยไปเปลี่ยนแปลงคนอื่น

ต่างคนต่างเก่ง รู้ดีกันไปซะหมด ว่า เธอต้องทำอย่างนั้น เธอต้องทำอย่างนี้

แต่ไม่ค่อยจะรู้ตัวเราเอง ไม่ค่อยจะเปลี่ยนตัวเราเอง (ผู้เขียนเองก็เคยเป็น)

ไม่ค่อยจะทำตัวเองให้ดีขึ้น

นี้จะเป็นการตอบคำถาม ที่ว่า อยาก ได้ชัดเจน

ก็เราปล่อยตัวเรา ตามใจตัวเรา มา กันตั้งนานเท่าไหร่แล้วละ

บางคน เด็กหน่อย ก็ 10 ปี บ้าง 20 ปี บ้าง
บางคนมีอายุมากหน่อย  ก็ 30 ปี บ้าง 40 ปี บ้าง
ส่วนผู้ที่อายุมาก  ก็  อาจจะถึง 50 บ้าง

ที่เราได้ปล่อยจิตปล่อยใจของเรา ปล่ยใจ ตามใจตัวเองกันมานานซะขนาดนี้

ลองนึกถึงสิ่งที่ไม่ดีในตังของเราเอง ว่ามีไม๊ ตัวเราเองรู้ดีที่สุด อะไรละที่เราอยากจะเปลี่ยนให้มันดีขึ้น ทั้งนิสัยเราที่ไม่ดี ความคิดของเรา ที่ผ่านมา  เช่น ว่า บางคนก็ติดหวย บอกตัวเองมาตลอดว่า จะไม่ซื้อแล้ว จะไม่เล่นแล้ว แล้วก็ซื้อ แล้วก็เล่นเหมือนเคยเลิกไม่ได้ หรือ จะเป็นเล่นบอล จะไม่เล่นๆ เพื่อนมาชวน ไม่แคล้วก็เล่นอีก  หรือ จะไม่ตื่นสายแล้ว บอกกันตัวเอง ฉันจะต้องตื่นเช้า แล้วทำได้ไหม  ก็ยังคงตื่นสายอยู่ คุณคิดว่า สิ่งเหล่านี้มันเป็นการอยากไม๊ละ จนตอนนี้อะไรที่เราอยากจะเปลี่ยน เราก็มาทำวันนี้
 
        กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ จะทำให้คุณเปลี่ยนได้ หลักการ มีอยู่ว่า นิมิตทั้งสามห้ามหาย นิวรณ์ธรรมห้ามเกิด แค่นี้ ถ้าคุณยังทำไม่ได้ ก็คงไม่ต้องไปพูดถึงสิ่งอื่น เพราะอะไร?

        เพราะในนิวรณ์มี
              ๑. กามฉันทะ        ความพอใจรักใคร่ใรอารมณ์ที่ชอบใจ มีรูปเป็นต้น
              ๒. พยาบาท         ปองร้ายผู้อื่น
              ๓. ถีนมิทธะ         ความที่จิตหดหู่และเคลิบเคลิ้ม
              ๔. อุทธัจจกุกกุจจะ  ความฟุ้งซ่านและรำคาญใจ
              ๕. วิจิกิจฉา          ความลังเลไม่ตกลงได้

        นิวรณ์ทั้ง ๕ อย่างนั้น ย่นลงใน อกุศลมูล ๓ ได้ ดังนี้
              ๑. ย่นกามฉันทะ  ลงในโลภะ
              ๒. ย่นพยาบาท   ลงในโทสะ
              ๓. ย่นถีนมิทธะ อุทธัจจะกุกกุจจะ และ วิจิกิจฉา  ลงในโมหะ

         ด้วยประการนี้ จะเห็นได้ชัดว่า เป็นการละกิเลส ไม่ให้เกิดขึ้นในจิตใจของเรา ก็แล้วที่ผ่านมา เราทำได้ไหม ที่จะให้จิตใจของเราปราศจากกิเลส (ทำไม่ได้ หรือทำได้น้อย) แต่นี้เรามาปฏิกรรมฐาน ก็เพื่อให้กิเลส ของเราที่มีอยู่มันน้อยลง มิใช่ว่า จะสามารถทำให้กิเลสมันดับลงหายไปหมดได้เลยในทันที(ถ้าใคร่ทำได้ ก็สาธุ ด้วย นั้นหมายความว่า ท่าน สำเร็จ อรหัตผลแล้ว เป็นห่างไกลจากกิเลสแล้ว )  แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราก็ต้องยอมรับว่า เรา มาปฏิกัน ก็ต้องใช้เวลา ไม่ใช่ว่า มาทำวันนี้ แล้ว พรุ่งนี้ จะสำเร็จ เป็น พระอรหัน กันเลย เมื่อเป็นเช่นนี้  นี้คือความจริง แล้วการที่ท่าน ทั้งหลายปฏิบัติ กันแล้วไม่ก้าวหน้า  ท่านไม่ก้าวหน้า หรือ กรรมฐานไม่ก้าวหน้า ท่าน ได้ ใช้ทุกกระบวนท่า ทุกความสามารถของท่านที่มีอยู่หรือเปล่า เช่น ท่าน มีความเพียรมากน้อยแค่ไหน มีความอดทนมากน้อยแค่ไหน มีความพยายามมากน้อยแค่ไหน มีวิริยะ อุสาห แค่ไหน ไหนลองแสดงสิ่งเหล่านั้นมาให้เพื่อนๆ ได้รู้ได้ดูกันซิ้  หลังจากนั้นแล้ว เราเอง อาจจะเห็นได้ว่า บางที ที่เราว่าเราทำ แล้ว  ยังไม่สู้คนอื่นได้เลย แต่เรา เอาตัวเราเป็นหลัก บอกว่ายาก  ท่านลองย้อนกลับไปศึกษาดูพระประวัติ ของพระอรหัน แต่ละรูปดูสิ ไม่มีใคร่ที่จะได้มาโดยง่าย โดยสบายเลย(หมายถึงตั้งแต่ท่านเกิด จนตาย)  ก็ต้องประสบความลำบากกันบ้างทั้งนั้นแล้วเราละเป็นใคร จะไม่ให้มีอุปสักกวากหนามเลยหรือ 

         และการที่ท่านบอกว่ายากแน่นอน ก็มันเป็นการเปลี่ยนจิตเปลี่ยนใจ ให้สูงยิ่งขึ้น ก็เริ่มตั้งแต่ สละความเห็นแก่ตัว สละ ทานสิ่งของ ท่านได้ทำหรือเปล่า ถ้ายังหรือทำไม่ได้ ก็แน่นอน มันก้ทำให้ท่านไม่สามารถที่จะมาปฏิบัติกรรมฐานอะไรๆได้หรอก ก็มันเริ่มจาก ทาน ศีล ภาวนา  ตอนนี้ท่านมีศีล หรือเปล่า  ถ้ายังไม่มีก็ไปที่วัดเข้าหาพระอราธนาศีล  ทั้งสองอย่างแรกนี้ ถ้าท่ทานทำมาน้อยมีมาน้อย  ท่านก็ปฏิบัติกรรมฐานได้น้อย เพราะ ยิ่งชัดเจนว่า นั่งกรรมฐาน ท่านยังคงมีความโลภ ความโกรธ ความหลงอยู่ ในการดำนินชีวิตประจำวัน ท่านก็ต้องไปทำให้สิ่งเหล่านี้มันเกิดน้อยลงด้วย จึงจะมาช่วยในการปฏิบัติ ละชัดเจนว่า ถ้ามันเกิดขึ้นในต้องท่านมานั่งปฏิบัติ ก็หมายความได้ด้วยว่า ท่านมีสิ่งเหล่านั้นมามาก   ก็เป็นเรื่องธรรมดา ที่จะต้องมาสู้กัน ก็อาจจะต้องใช้เวลาเป็นปี
 แต่สิ่งเหล่านี้ นี้ ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เห็นชัดเจนขึ้นไปอีดว่า ท่านทั้งหลายจะต้องมีครูเพื่อที่จะได้มีผู้ชี้แนะให้ท่านได้ มิใช่ว่า ท่านทำของท่านเองเพียงแต่ตามลำพัง แล้วบอกว่า มันยาก ต้องเข้าหาครูบาอาจารย์บอกแจ้งกรรมฐาน ความสิ่งที่เกิดขึ้น หรือสอบถามข้อข้องใจ จะได้ถูกแก้ไข กำจัดไป ไม่ค้างคา ถามกลับ ท่านมีการแจ้งกรรมฐานกันบ้างไหม  ถ้ามีแล้วมากน้อย บ่อยขนาดไหน แล้วก่อนแจ้ง ท่านได้มานั่งกรรมฐานก่อนแล้ว ตามธรรมเนียมหรือไม่ ถ้าไม่ได้มีเลย ก็เป็นธรรมดาที่ท่านจะปฏิบัติกันไม่ได้ (แต่ไม่ได้บอกว่าจะไม่มีคนปฏิบัติได้เลยนะ)
       พวกท่านรู้ไหม หลายคนที่ปฏิบัติเก่งดีแล้ว เขาเหล่านั้นในปัจจุบัน เขาไม่ได้สนใจทีวีกันแล้ว หนังสือพิมพ์ก็ไม่ได้อ่านกันแล้ว นี้เป็นข้อเปรียบเทียบ ท่านละ ยังคงดู ยังคงอ่านกันอยู่หรือเปล่า ถ้าทำอยู่ แนะนำว่า ให้เลิกดู เลิกอ่าน เพราะ เห็นประโยชน์จะมีน้อย จะยิ่งเป็นการสะสมกิเลส เข้าไปอีกตั้งหาก เช่นว่า เห็นโฆษณาชุดนี้ แล้วอยากได้  นั้น กิเลสเกิดทันที เกิดอยากจะได้ขึ้นมาละ  แล้วทำไงทีนี้ ก็พยายามที่จะสนองกิเลสตัวเอง  ก็นั้นแหละที่ทำให้ท่าน ๆ ปฏิบัติกันแล้วไมา่ได้ ก็มานั่งกรรมฐาน วันละครึ่งชัวโมง แต่ ดูทีวี เที่ยงกันทั้งวัน ไม่ก็ไม่ได้นะสิ มันก็แพ้กิเลสนะสิ ก็แล้วดูทีวีแล้วมันทำให้ปฏิบัติกรรมบานได้ดีขึ้นไหม อ่านหนังสือพิมพ์แล้วปฏิบัติกรรมฐานได้ดีขึ้นไหม  วันนี้พานหัวข่าว โจรใต้ยิ่งทหารดับ อ่านแล้วใจหดหู่ มันทำให้ชีวิตของท่านดีขึ้นไม๊ หรือ แม่ค้าถูรางวัลที่หนึ่งได้เงินเป็นล้าน แล้วท่านละ อ่านเสร็จก็ยังคงจนอยู่เหมือนเดิม มันไม่ได้ทำให้การปฏิบัติดีขึ้นเลย

     ท่านต้อง หันมาปฏิบัติให้มากขึ้น  บางคนบอกปฏิบัติมาเป็นปีแล้ว ถามว่า ไอ้ที่ว่า เป็นปีนะ ท่านทำทุกวันหรือเปล่า หรือว่า ทำบ้างไม่ได้ทำบ้าง แต่พอพูดก็บอกว่าเป็นปี  แล้วปฏิบัติวันหนึ่งๆ มากแค่ไหน บางคนก็ครึ่งชั่วโมง  บางคน ก็หนึ่งชั่วโมง บางคนก็สองชั่วโมง  แล้วท่านคิดว่า จะต้อง ทำวันหนึ่งๆ กี่ชั่วโมงละมันถึงจะได้

      ตามประสบการที่ผ่านมา ที่เห็น ถ้าปฏิบัติวันละ อย่างน้อย หนึ่งชั่วโมงทุกวัน ภายในหนึ่งอาทิตย์ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว หนึ่งเดือนนี้ตอบตัวเองได้เลยว่า ฉันมีความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ทุกคน(แต่ต้องปฏิบัติให้ถูกนะ)

   ทั้งหมดนี้ก็เป็นการแนะนำ การปฏิบัติที่ควรจะเป็นไป ในส่วนนึง  ก็ขอเป็นกำลังใจให้สำหรับ นักปฏิบัติมือใหม่ ทั้งใหม่ในการปฏิบัติ และใหม่มาจากที่อื่นกรรมฐานอื่น ขอเน้นว่าถ้าท่านาปฏิบัติวันละ อย่างน้อย หนึ่งชั่วโมงทุกวัน ภายในหนึ่งอาทิตย์ จะได้แน่นอน (กลับไปดูวิธีการปฏิบัติทั้งหมดว่ามีอะไรบ้าง)

   หรือเอาอย่างนี้กันเลยก็ได้  ให้ท่านทั้งหลายเขียนมาส่ง จะถือเป็นข้อสอบเลยก็ได้  ว่าวิธีการปฏิบัติในฐานจิตแรก ต้องทำอย่างไรบ้าง ถ้าใคร่ไม่สามารถที่จะบอกได้ถูก ก็แสดงให้เห็นได้ว่า ก็ท่านปฏิบัติไม่ถูกต้องตามขั้นตอน อาจจะมีการกระโดด ลัดขั้นตอน หรือลืมสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป ไม่ครบตามที่ครูบาอาจารย์บอกสอน

   จะเป็นการพิสูจน์ดูได้ด้วย  จะลองดูเป็นการตรวจตัวเองก็ได้

(คราวนี้ขอเป็นแบบอารมณ์ดุดันหน่อย จะได้ไปช่วยกระตุ้น) :72:

 :25: :25: :25:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 31, 2012, 10:43:32 pm โดย Mr. งังจัง »
บันทึกการเข้า
ยาดี มิได้ทำให้คนหายไข้   คนหายไข้ เพราะได้กินยาดี
ธรรมะ มิได้ทำให้คนดี       คนดีได้  เพราะปฏิบัติธรรม

ธรรมะ ปุจฉา

  • http://www.facebook.com/srikanet?ref=tn_tnmn
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 713
  • ปัญญสโก ภิกขุ (พระที) ..... คณะ ๓/๓ วัดพลับ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
 ตะกรุดพระยาไก่เถื่อน

สาธุด้วยจ้า  ดีใจจัง  ที่ยังเห็นคนแบบนี้อยู่  ดีใจที่ได้รู้จัก  คงได้พบเจอกันสักครั้ง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 01, 2012, 10:16:03 pm โดย Mr. งังจัง »
บันทึกการเข้า
ยาดี มิได้ทำให้คนหายไข้   คนหายไข้ เพราะได้กินยาดี
ธรรมะ มิได้ทำให้คนดี       คนดีได้  เพราะปฏิบัติธรรม

keyspirit

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 68
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ขอบคุณมากครับ แต่ผมคิดว่า ส่งมอบให้กับผู้ที่ทำคุณประโยขน์ให้แก่เว็บ ครับ
โดยเฉพาะ คุณที่ช่วยใส่ทำนองเพลง ปณิธานเพื่อเผยแผ่พระกรรมฐาน  นะครับผมว่าเขาควรจะได้รับสิ่งนี้ครับ

 ขออนุญาต ส่งมอบให้ตามนั้นขอรับ

  :25: :c017: :13:
บันทึกการเข้า

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
คิดว่าเปลี่ยนกรรมฐาน นั้น ก็ต้องลองดูนะคะ แต่จะเสียเวลา หรือไม่ หรือว่าของที่ผ่านมาก็ยังไม่ได้ต่ออะไร หรือยังไม่ได้ เป็นเรื่องที่แปลกนะคะ ถ้าภาวนาแล้ว พระลักษณะ น่าจะเกิดอย่างเร็วนะคะ

   :smiley_confused1: :smiley_confused1: :smiley_confused1:
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ

VongoleX

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 402
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
แสดงว่า ผู้ฝึก มีอาการ ต้อแต๋ ท้อแท้ ครับ งานนี้ต้องคุยหาเหตุผลจริง ๆ ว่าเพราะอะไร กันแน่
อาจจะเป็นเพราะว่าข้อที่ 1 โดยตรงก็ได้นะครับ ว่ามีแต่เพื่อนไปปฏิบัติ อานาปานสติ กันและต้องไปด้วยจะมัวแต่ไปเอาแต่กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับก็คงไปไม่รอด แน่ ๆ ก็เลยสละ เรือ มัชฌิมา ไปอานาปานสติ

 หรือเป็นเพราะข้อที่ 2 ไปมาหลายรอบ ก็ไปนั่งสงบนิ่ง ๆ สนทนากับครูอาจารย์น้อย และเห็นเพื่อน ๆ ก้าวหน้าแล้วอายเพื่อน ๆ กันแน่

 หรือยังการปฏิบัติแบบเก่าเพราะสังสมอย่างนั้นมานาน

  หรือเห็นว่ากรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ว่ายากสุด ๆ

   :smiley_confused1: :smiley_confused1: :smiley_confused1:

บันทึกการเข้า
ผู้พิทักษ์รุ่นที่ 10 แห่ง Vongole จับมือกับ แก็งค์ อ๊บ อ๊บ

Hero

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 557
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ขอบคุณทุกท่าน ที่แสดงความเห็นให็ผมรับทราบ ครับ

  แต่การที่ผมจะเปลี่ยนกรรมฐาน นั้นก็มีสาเหตุหลายประการ คือ

 1. หน่วยงานที่ผมทำงานอยู่นั้น มีการจัดอบรมการภาวนากรรมฐาน ในสาย อานาปานสติ ที่วัดแห่งหนึ่งมีชื่อเสียงครับ และผมก็ถูกบังคับให้ไปเข้าคอร์ส ปฏิบัตธรรมนี้ 6 ครั้ง เริ่มในพรรษานี้  เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคกับการภาวนาที่ไม่ก้าวหน้าของเดิม ผมจึงคิดว่า จะเปลี่ยนเป็นฝึกตามที่เขาอบรมครับ

 2.ผมได้ไปขึ้นกรรมฐานที่วัดราชสิทธาราม 2 ปีแล้ว แต่ไม่ค่อยได้ไปบ่อยครับ เนื่องด้วยอาขีพการงานไม่อำนวย และที่สำคัญ วัด หรือพระสงฆ์ ที่จะปรึกษากรรมฐาน นั้นไม่มีเลยมีเพียงหลวงพ่อ พระครูรูปเดียวที่ผมโทรถามหา ท่านก็ให้ผมปฏิบัติ อยู่ที่ฐานหนึ่ง และลองขึ้นไปฐานสองบ้าง ก็เป็นอยู่อย่างนี้มา 2 ปีแล้วไม่ก้าวหน้า และมีความรู้สึกอึดอัด เนื่องด้วยเพื่อนที่ไปด้วยกันนั้น เข้าห้องที่ 2 หลายท่านแล้ว ผมซึ่งเป็นคนชักขวนพวกเขาไปกัน รู้สึกละอายใจ เหมือนไม่มีวาสนาในกรรมฐาน นี้ครับ
 
 3.ก่อนที่ผมจะมาภาวนากรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับเคยฝึกกรรมฐาน อานาปานสติ ในแนวทางหลวงพ่อพุทธทาสมาก่อนครับ จึงคิดว่า น่าจะกลับไปเริ่มต้นในสิ่งที่ตนเองทำดีกว่าครับ

 4.พิจารณา กรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ นั้นมีความยาก และซับซ้อน ไม่มุ่งรื่องวิปัสสนา ทำให้ผมไม่ชอบหลายส่วน ครับ

   ยังมีอีกหลายเหตุผล แต่ถ้าเพื่อนๆ ชี้นำทางที่ควรให้ผม ตัดสินใจได้ จะเป็นการขอบคุณมากครับ จึงได้มาเรียนถามในห้องกรรมฐาน นี้ครับ

   :c017: :c017: :c017:


    ก็นับว่ามีเหตุผลนะครับ เพราะหน่วยงาน และเพื่อน ๆ ปฏิบัติอย่างนั้น เราเองก็ต้องถูกส่งไปอบรมอย่างนั้นด้วยเป็นการไม่ทำใจให้ฝ้นกับการเรียนกรรมฐาน นะครับ ฟังแล้วก็ดูเหมือนจะดีแต่ผมว่า กรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับมีจุดเด่นนะครับ ทำไมไม่ฝึกอานาปานสติก่อนผมว่าต้องมีเหตุผลในองค์กรรมฐานแน่ ๆ นะครับ

   ผมว่าข้อที่สองนี้อาจจะเป็นเหตุสำคัญที่คุณรู้สึกท้อและอายเพื่อน ๆ กันครับแต่อยากให้ย้อนกลับไปดูว่าเราได้ฝึกกรรมฐานจริงจังอย่างเพื่อนหรือไม่ครับ และเพื่อนเราสร้างบารมีอะไรมาด้วยครับ เพราะกรรมวาสนาที่ติดตัวมากันแต่กำเนิดนั้นไม่เหมือนกันนะครับ ส่วนนี้ดังนั้นควรอนุโมทนากับเพื่อน ๆ นะครับและเพื่อน ๆ เหล่านั้นปฏิบัติมาระดับนี้เขาก็คงไม่มาหมิ่นเราหรอกครับผมเชื่อว่า คุณอาจจะคิดมากส่วนนี้มากไปครับ

  กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับเป็นการเรียนไปตามลำดับ ผมว่ามีวิปัสสนาแล้วอย่างอ่อน กลาง หนัก ไปตามลำดับ เมื่อเรายังไม่พร้อมวิปัสสนา ก็ยังไม่พร้อมครับ แต่ถึงไม่พร้อมดวงตาเห็นธรรมก็จะเกิดขึ้นไปเรื่อย ๆ นะครับตามที่พระอาจารย์เคยอธิบายเรื่องดวงตาเห็นธรรม ดังนั้นเป็นอุปนิสัยเรามักจะหวนคืนสู่อะไรที่ชอบ ก็จึงรู้สึกว่าฝืนในเวลากรรมฐาน นะครับ

  ถ้าปฏิบัติตามครูอาจารย์สอนไม่ใช่เรื่องยากนะครับ ที่ยากเพราะไม่ตามที่สอนครับ
   

  เป็นกำลังใจให้นะครับ


   :25: :s_hi:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 01, 2012, 08:11:16 pm โดย Hero »
บันทึกการเข้า
ทำไมต้องมีอินทรีแดง เพราะสังคมเราบางครั้งก็ตาบอด
ปล่อยให้คนดี เดือดร้อน ดังนั้นจึงต้องมีผู้ปกป้องคนดี
hero ไม่ได้มีแต่ในหนังเท่านั้น นะครับ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
โดยส่วนตัว เรื่องปฏิบัติ ผมฟังพระอาจารย์กรรมฐานองค์เดียว
ดูเพื่อ ฟังเพื่อน เพื่อนก็ไม่รู้จริง เหมือนกับเรา
ตอนภาวนาเน้นไปที่พระพุทธเจ้าเพิ่มขึ้นซักหน่อยก็จะดี
ครูอาจารย์กล่าวไว้ว่า พระขุททกาฐานเดียวก็ไปได้ สามารถเข้าถึงอานาปาได้
อย่าขาดนิมิตสามประการ
อย่าภาวนาเป็นแฟชั่นตามเพื่อน
เราทําอะไรอยู่ ก็ให้รู้ตัว
ธรรมเอกอันผุดผ่อง อยู่ที่กายใจของเรา
ไม่ได้อยู่ที่ใคร
เรามีพระพุทธเจ้า เป็นที่ไป
ความตายความเกิดไม่มีสําหรับเรา เรามีแต่พระพุทธเจ้า
 ลองตั้งปณิธารใหม่อย่าย่อท้อ......จุดหมายมีได้เพราะภาวนา
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

keyspirit

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 68
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ขอบคุณทุกท่าน ที่แสดงความเห็น ครับ

  อาจจะจริงก็ได้ครับ ว่า ผมขาดการอนุโมทนา กับเพื่อน ๆ ที่ปฏิบัติแซงเราไปแล้ว บางครั้งมัวแต่มองเขาก็รู้สึกว่า เรานี้ไม่ได้เรื่อง ไม่มีวาสนากับกรรมฐาน ครูอาจารย์ท่านก็ไม่ค่อยใส่ใจในตัวเราเพราะเราอาจจะปฏิบัติไม่ได้ดี

   ความคิดรู้สึกท้อครับ ในเรื่องการภาวนา ประกอบกับที่ทำงานด้วยกันไม่มีเพื่อนที่จะคอยปรึกษาเรื่องกรรมฐานนี้ได้ ผมเองก็ปฏิบัติทุกวันนะครับ วันละ 1 ชม.บางวันก็มากกว่า แต่ก็ไม่รู้สึกว่าได้ผลเหมือนคนอื่น ๆครับ อาจจะมีอะไรบางอย่างที่ผมยังไม่ค่อยจะเข้าใจ เคยแอบไปร่วมปฏิบัติธรรมที่วัดราชสิทธาราม คณะ 5 แล้ว 2 ครั้งในปีนี้ แต่ก็ไม่รู้สึกก้าวหน้าครับ

   ตอนนี้จึงขวนขวายกับมาที่ อานาปานสติ ครับ

   ก็จะขอลองอีกสักพักครับ จนกว่าจะได้พบพระอาจารย์ครับ

    :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า

แพนด้า

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 248
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ศรัทธา ของผู้ใด ตั้งมั่นอย่างดี ไม่หวั่นไหว เขาควรพอกพูนอาการเช่นนั้นไว้

 ผมคิดว่า คุณมาถูกทางแล้วครับ แต่ ศรัทธา ความเพียร บารมีธรรม เป็นสิ่งที่รวมกันอยู่เหมือนพลาสติกใสบาง ๆ ที่รัดห่อของไว้นะครับ

  เพราะความคลาดเคลื่อน ในการภาวนานำมาซึ่งความเข้าใจผิดในการภาวนาได้ครับ

  อยากให้ทบทวนให้ดีนะครับ เพราะสิ่งที่คุณกำลังจะกระทำลงไปตอนนี้ คือการปรามาสพระกรรมฐาน น่าจะมีผลในการภาวนามากขึ้น ในสายกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ เท่าที่ตามอ่านมามักจะระวังข้อนี้เป็นข้อแรกนะครับ

   :a102: :a102: :67: :040:
บันทึกการเข้า

ธรรมะ ปุจฉา

  • http://www.facebook.com/srikanet?ref=tn_tnmn
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 713
  • ปัญญสโก ภิกขุ (พระที) ..... คณะ ๓/๓ วัดพลับ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
 สวัสดี คุณ keyspirit  สาธุ  :25:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 09, 2012, 02:17:17 pm โดย Mr. งังจัง »
บันทึกการเข้า
ยาดี มิได้ทำให้คนหายไข้   คนหายไข้ เพราะได้กินยาดี
ธรรมะ มิได้ทำให้คนดี       คนดีได้  เพราะปฏิบัติธรรม

เสริมสุข

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 223
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ผมคิดว่า พระพุทธานุสสติ นั้นส่งเสริมกำลังกรรมฐาน อื่น ๆ นะครับ
ที่สำคัญ คือ อุคคหนิมิต อุปจาระสมาธิ สุขสมาธิ กายนิโรธธรรมเริ่มต้น นี้สนับสนุนสมาธิ ขั้นอัปปนานะครับ

ดังนั้นการที่เราฝึกลมหายใจเข้า ออก ก็เหมือนกับ นำพุทโธ รวมไปในลมหายใจเข้า และออก นะครับ คิดว่าน่าจะไม่ต่างจากการภาวนาแบบนี้

   แต่การเข้าถึง พระพุทธานุสสติ มีลำดับ จาก ธาตุ เป็น มนธาตุ มนายตนะธาตุ หทัยวัตถุ อุปาทายรูป.... ดังนั้นผมคนที่ได้ดวงตาเห็นธรรมมาอย่างนี้แล้ว คิดว่าไม่ควรเปลี่ยนกรรมฐาน ครับ

    :smiley_confused1: :a102: :welcome:
บันทึกการเข้า
อยากได้รับความสุข จาก ธรรมะ อยากได้รับ ..... แหมก็อยากนี้จ๊ะ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
กรรมฐาน สมบูรณ์ อยู่แล้ว แต่ข้อผิดพลาด คืออะไร ที่ท่านภาวนากันไม่ได้ เท่าที่หาสาเหตุมองเห็นเหตุจากลูกศิษย์ คือ
  1.ต้องการให้ครูช่วยเหลือตลอดเวลา ครั้นครูไม่อยู่ หรือไม่ได้เจอครูไม่สามารถนั่งกรรมฐานได้ตามขั้นตอน
  2.ไม่แจ้งกรรมฐาน หรือแจ้งกรรมฐานไม่ตรงกับที่ติด ถามออกไปนอกเรื่องที่ควรถาม จึงไม่ได้เข้าใจใน่ส่วนที่จะถาม
  3.เห็นเพื่อนปฏิบัติก้าวหน้ามากกว่า หมดกำลังใจ เพราะมองคนอื่นเป็นที่ตั้ง
  4.ไปที่ไหนก็ไม่มีใครปฏิบัติกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ
  5.รวมถึงบางครั้งหาครูกรรมฐาน แนะนำไม่ได้
  6.ขี้เกียจภาวนา คือ ภาวนาบ้างไม่ภาวนาบ้าง
  7.ทาน ศีล ภาวนา บารมียังไม่เต็ม
  8.ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนพระกรรมฐาน เช่นการขอขมา การอธิษฐานกรรมฐาน การปฏิบัติขามขั้นตอน การออกจากกรรมฐาน การแผ่เมตตา เป็นต้น
  9.ปฏิบัิติ หลาย ๆ กรรมฐานในเวลาเดียวกัน
  10.จิตหน่วงวิปัสสนามาก จึงทำให้ไม่เจริญสำรวมจิต
  11.ฟุ้งซ่านเพราะเรียนมาก ฟังมาก หลากหลายครูอาจารย์
  12.ไม่กำหนดเป้าหมายในการภาวนา หรือ ยังกำหนดเป้าหมายในการภาวนาไม่ได้
  13.สัปปายะการภาวนาไม่พร้อม
  14.มีปลิโพธ อยู่หลายอย่าง
  15.สุขภาพ สังขารไม่ดี เป็นอุปสรรค
  16.วิกลจริต ติดยาเสพติด อย่างนี้ก็ปฏิบัติไม่ได้ 

ทั้งหมดนี้ก้เป็นสาเหตุหลัก

   อย่างไรเสีย ท่านที่มีการภาวนามาก้าวหน้าแล้ว อย่าถดถอย สิ่งสำคัญความศรัทธาในพระกรรมฐาน ตั้งมั่นแล้ว ก็ต้องพยายามรักษาด้วยการกำหนดทุกข์ให้แจ้ง


เจริญพร / เจริญธรรม

 ;)
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

doremon

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 171
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
กรรมฐาน สมบูรณ์ อยู่แล้ว แต่ข้อผิดพลาด คืออะไร ที่ท่านภาวนากันไม่ได้ เท่าที่หาสาเหตุมองเห็นเหตุจากลูกศิษย์ คือ
  1.ต้องการให้ครูช่วยเหลือตลอดเวลา ครั้นครูไม่อยู่ หรือไม่ได้เจอครูไม่สามารถนั่งกรรมฐานได้ตามขั้นตอน
  2.ไม่แจ้งกรรมฐาน หรือแจ้งกรรมฐานไม่ตรงกับที่ติด ถามออกไปนอกเรื่องที่ควรถาม จึงไม่ได้เข้าใจใน่ส่วนที่จะถาม
  3.เห็นเพื่อนปฏิบัติก้าวหน้ามากกว่า หมดกำลังใจ เพราะมองคนอื่นเป็นที่ตั้ง
  4.ไปที่ไหนก็ไม่มีใครปฏิบัติกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ
  5.รวมถึงบางครั้งหาครูกรรมฐาน แนะนำไม่ได้
  6.ขี้เกียจภาวนา คือ ภาวนาบ้างไม่ภาวนาบ้าง
  7.ทาน ศีล ภาวนา บารมียังไม่เต็ม
  8.ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนพระกรรมฐาน เช่นการขอขมา การอธิษฐานกรรมฐาน การปฏิบัติขามขั้นตอน การออกจากกรรมฐาน การแผ่เมตตา เป็นต้น
  9.ปฏิบัิติ หลาย ๆ กรรมฐานในเวลาเดียวกัน
  10.จิตหน่วงวิปัสสนามาก จึงทำให้ไม่เจริญสำรวมจิต
  11.ฟุ้งซ่านเพราะเรียนมาก ฟังมาก หลากหลายครูอาจารย์
  12.ไม่กำหนดเป้าหมายในการภาวนา หรือ ยังกำหนดเป้าหมายในการภาวนาไม่ได้
  13.สัปปายะการภาวนาไม่พร้อม
  14.มีปลิโพธ อยู่หลายอย่าง
  15.สุขภาพ สังขารไม่ดี เป็นอุปสรรค
  16.วิกลจริต ติดยาเสพติด อย่างนี้ก็ปฏิบัติไม่ได้ 

ทั้งหมดนี้ก้เป็นสาเหตุหลัก

   อย่างไรเสีย ท่านที่มีการภาวนามาก้าวหน้าแล้ว อย่าถดถอย สิ่งสำคัญความศรัทธาในพระกรรมฐาน ตั้งมั่นแล้ว ก็ต้องพยายามรักษาด้วยการกำหนดทุกข์ให้แจ้ง


เจริญพร / เจริญธรรม

 ;)

 พระอาจารย์ วิเคราะห์ไม่ผิดเลยครับ ผมเองก็อยู่ี่ ข้อที่ 6 ครับ

 :hee20hee20hee: :25:
บันทึกการเข้า

sompong

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 218
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ต้องเพิ่มกำลังใจ กันครับส่วนนี้ อาจจะต้องมีกัลยาณมิตร หลาย ๆ ท่านเป็นผู้ชี้นำกันครับ
ต้องคุยกัน นะครับ เพราะว่า การภาวนา กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ในขั้นเดียวกันน่าจะคุยกันได้อยู่ครับ
 
ก็อนุโมทนากับทุกท่านที่ยังพากเพียร กันนะครับ

เชื่อสิครับ น้ำตาที่เราเสียน้ำตากันมามากนั้นในกองทุกข์ ชั่วกัปป์นั้นเป็นเวลานานแล้วนะครับ ต้องเชื่อมั่นต่อพระกรรมฐาน ศรัทธา และปฏิบัติให้มากขึ้นนะครับ

  :s_hi:
บันทึกการเข้า

indy

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 101
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
มันไม่มีอะไรผิดหรือถูกหรอก ที่ผ่านมาเราก็ได้เรียนรู้มาแล้ว ถึงแม้เราจะเปลี่ยนใหม่
ผลที่เราได้พยายามฝึกมาแล้วนั้นจะส่งผลต่อเราแน่นอน อย่าไปกังวลเกินเหตุให้ถามตัวเราเองว่าทำไมเราต้องฝึกแบบมัชฌิมา ลองพยายามต่อไปผมเองก็เปลี่ยนมาเยอะแล้ว คุณมีเพื่อนอย่ากังวล สุดท้ายจะรู้เองว่าต้องทำยังไง
เป็นกำลังใจให้ครับ
บันทึกการเข้า