ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: บารมีของพระโพธิสัตว์ กับ บารมีพุทธสาวก แตกต่างกันอย่างไร ครับ  (อ่าน 4633 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ลูกคิด

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 117
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
การสร้างบารมี ของ พระโพธิสัตว์ กับพระพุทธสาวก นั้นมีการสร้างบารมีแตกต่างกันอย่างไรครับ
ถ้าเราสร้างบารมี เพื่อเป็นพระโพธิสัตว์แล้ว ปรารถนา เป็นพุทธสาวก ได้หรือไม่ครับ

 ด้วยความเคารพต่อเพื่อสหธรรม ทุกท่านครับ
  :c017:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๕
ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ -พุทธวังสะ-จริยาปิฎก

พุทธวงศ์
รัตนะจงกรมกัณฑ์
ว่าด้วยพระพุทธองค์ทรงเนรมิตที่จงกรมแก้ว

    ก็สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคผู้พิชิตมาร เชษฐบุรุษของโลก ประเสริฐกว่านรชน ทรงจงกรมด้วยฤทธิ์ แสดงให้โลกพร้อมทั้งเทวโลกเห็น พระศาสดาผู้เป็นนายกของโลก เสด็จจงกรมอยู่ ณ ที่จงกรมนั่นเอง ตรัสตอบ ไม่เสด็จกลับในระหว่างเหมือนดังเสด็จจงกรมอยู่ในที่จงกรม ๕ ศอก

     พระสารีบุตรผู้มีปัญญามากในสมาธิและฌาน ถึงความบริบูรณ์ด้วยปัญญาได้ทูลถามพระศาสดาผู้เป็นนายกของโลกว่า   
     ข้าแต่พระมหาวีรเจ้าผู้อุดมกว่านรชน อภินิหารของพระองค์เช่นไร
     พระองค์ทรงปรารถนาพระโพธิญาณอันอุดมในกาลไร
     ทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐานะ เมตตาและอุเบกขาเป็นเช่นไร


     ข้าแต่พระมหาวีรเจ้า ผู้เป็นนายกของโลก
           บารมี ๑๐ เป็นอย่างไร
           อุปบารมี ๑๐ และ
           ปรมัตถบารมี ๑๐ บริบูรณ์อย่างไร

     (เพราะทรงอธิษฐานกรรมอะไร จึงเป็นอธิบดีเช่นไร เป็นบารมีได้เช่นไร นักปราชญ์เช่นไรมีในโลก เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขาเป็นเช่นไร พระองค์ทรงบำเพ็ญพุทธการกธรรมให้บริบูรณ์เช่นไร)

     พระศาสดาผู้มีพระสุรเสียงไพเราะดังนกการะเวกอันพระสารีบุตรทูลถามแล้ว ทรงพยากรณ์ให้เย็นใจ และทรงยังโลกพร้อมทั้งเทวโลกให้ยินดี....ฯลฯ......


อ้างอิง
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๓ บรรทัดที่ ๖๖๕๔ - ๖๘๗๓. หน้าที่ ๒๘๖ - ๒๙๕.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=33&A=6654&Z=6873&pagebreak=0             
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=33&i=181
ขอบคุณภาพจาก http://4.bp.blogspot.com/





พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๕
ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ -พุทธวังสะ-จริยาปิฎก

สโมธานกถา
สรุปการบำเพ็ญบารมี ๓๐ ทัศ

    [๓๖] การบำเพ็ญบารมีอันเป็นเครื่องบ่มพระโพธิญาณเหล่านี้ จัดเป็นบารมี ๑๐ อุปบารมี ๑๐ ปรมัตถบารมี ๑๐ คือ

    การบำเพ็ญทาน ในภพที่ตถาคตเป็นพระเจ้าสิวิราชผู้ประเสริฐเป็นทานบารมี
     ในภพที่เราเป็นเวสสันดรและเป็นเวลามพราหมณ์ เป็นทานอุปบารมี
     ในภพที่เราเป็นอกิติดาบสอดอาหารนั้น เป็นทานอุปบารมี
     ในภพที่เราเป็นพระยาไก่ป่า สีลวนาคและพระยากระต่าย เป็นทานปรมัตถบารมี


     ในภพที่เราเป็นพระยาวานร ช้างฉัททันต์ และช้างเลี้ยงมารดาเป็นศีลบารมี
     พระผู้มีพระภาคผู้แสวงหาคุณยิ่งใหญ่ตรัสไว้ดังนี้
     การรักษาศีลในภพที่เราเป็นจัมเปยยกนาคราช และภูริทัตตนาคราช เป็นศีลอุปบารมี
     ในภพที่เราเป็นสังขปาลบัณฑิต เป็นศีลปรมัตถบารมี
     ในภพที่เราเป็นยุธัญชยกุมาร มหาโควินทพราหมณ์ คนเลี้ยงช้าง อโยฆรราชโอรส ภัลลาติ สุวรรณสาม มฆเทวะและเนมิราช บารมีเหล่านี้เป็นอุปบารมี





     ในภพที่เราเป็นมโหสถผู้เป็นทรัพย์ของรัฐกุลฑลตัณฑิละ และนกกระทา บารมีเหล่านี้เป็นปัญญาอุปบารมี
     ในภพที่เราเป็นวิธูรบัณฑิตและสุริยพราหมณ์มาตังคะ ผู้เป็นศิษย์เก่าของอาจารย์บารมีทั้ง ๒ ครั้งนี้ เป็นปัญญาบารมี
     ในภพที่เราเป็นพระราชา ผู้มีศีล มีความเพียร เป็นผู้ก่อให้เกิดสัตตุภัสตชาดก บารมีนี้แลเป็นปัญญาปรมัตถบารมี


     ในภพที่เราเป็นพระราชาผู้มีความเพียรบากบั่น เป็นวิริยปรมัตถบารมี
     ในภพที่เราเป็นพระยาวานรผู้มีครุธรรม ๕ ประการ เป็นวิริยบารมี

     ในภพที่เราเป็นธรรมปาลกุมาร เป็นขันติบารมี
     ในภพที่เราเป็นธรรมิกเทพบุตร ทำสงครามกับอธรรมิกเทพบุตร เรียกว่าขันติอุปบารมี
     ในภพที่เราเป็นขันติวาทีดาบส แสวงหาพุทธภูมิด้วยการบำเพ็ญขันติบารมี ได้ทำกรรมที่ทำได้ยากเป็นอันมาก นี้เป็นขันติปรมัตถบารมี


     ในภพที่เราเป็นสสบัณฑิต นกคุ่ม ซึ่งประกาศคุณสัจจะ ยังไฟให้ดับด้วยสัจจะ นี้เป็นสัจจบารมี
     ในภพที่เราเป็นปลาอยู่ในน้ำ ได้ทำสัจจะอย่างสูงยังฝนให้ตกใหญ่นี้เป็นสัจจบารมีของเรา
     ในภพที่เราเป็นสุปารบัณฑิตผู้เป็นนักปราชญ์ ยังเรือให้ข้ามสมุทรจนถึงฝั่ง เป็นกัณหทีปายนดาบส ระงับยาพิษ ได้ด้วยสัจจะ และเป็นวานรข้ามกระแสแม่น้ำคงคาได้ด้วยสัจจะนี้เป็นสัจจอุปบารมีของเรา
     ในภพที่เราเป็นสุตโสมราชา รักษาสัจจะอย่างสูง ช่วยปล่อยกษัตริย์ ๑๐๑ นี้เป็นสัจจปรมัตถบารมี





     อะไรที่จะเป็นความพอใจไปกว่าอธิษฐาน นี้เป็นอธิษฐานบารมี
     ในภพที่เราเป็นมาตังฏิล และช้างมาตังคะ นี้เป็นอธิษฐานอุปบารมี
     ในภพที่เราเป็นมูคผักขกุมาร เป็นอธิษฐานปรมัตถบารมี


     ในภพที่เป็นมหากัณหฤาษี และพระเจ้าโสธนะ และบารมีสองอย่าง คือ
     ในภพที่เราเป็นพระเจ้าพรหมทัตต์ และคัณฑิติณฑกะ ที่กล่าวแล้วเป็นเมตตาบารมี
     ในภพที่เราเป็นโสณนันทบัณฑิตผู้ทำความรัก บารมีเหล่านั้นเป็นเมตตาอุปบารมี
     เมตตาบารมีในภพที่เราเป็นพระเจ้าเอกราช เป็นบารมีไม่มีของผู้อื่นเหมือน นี้เป็นเมตตาปรมัตถบารมี

    ในภพที่เราเป็นนกแขกเต้าสองครั้ง เป็นอุเบกขาบารมี
     ในภพที่เราเป็นโลมหังสบัณฑิต เป็นอุเบกขาปรมัตถบารมี


      บารมีของเรา ๑๐ ประการนี้ เป็นส่วนแห่งโพธิญาณอันเลิศ
      บารมียิ่งกว่า ๑๐ ไม่มีหย่อนกว่า ๑๐ ก็ไม่มี
      เราบำเพ็ญบารมีทุกอย่างไม่ยิ่งไม่หย่อน เป็นบารมี ๑๐ ประการฉะนี้แล.

     จบสโมธานกถา
     จบจริยาปิฎก



อ้างอิง
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๓ บรรทัดที่ ๙๔๗๘ - ๙๕๒๖. หน้าที่ ๔๐๖ - ๔๐๘.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=33&A=9478&Z=9526&pagebreak=0             
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=33&i=244
ขอบคุณภาพจาก http://www.b.yimwhan.com/,http://www.thaigoodview.com/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 23, 2012, 02:02:08 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



บารมี ๑๐ หรือ ทศบารมี (ปฏิปทาอันยวดยิ่ง, คุณธรรมที่ประพฤติปฏิบัติอย่างยิ่งยวด คือ ความดีที่บำเพ็ญอย่างพิเศษ เพื่อบรรลุซึ่งจุดหมายอันสูง เช่น ความเป็นพระพุทธเจ้า และความเป็นมหาสาวก เป็นต้น)

     ๑. ทาน (การให้ การเสียสละ)
     ๒. ศีล (การรักษากายวาจาให้เรียบร้อย, ความประพฤติดีงามถูกต้องตามระเบียบวินัย)
     ๓. เนกขัมมะ (การออกบวช, ความปลีกตัวปลีกใจจากกาม)
     ๔. ปัญญา (ความรอบรู้, ความหยั่งรู้เหตุผล เข้าใจสภาวะของสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง)
     ๕. วิริยะ (ความเพียร, ความแกล้วกล้า ไม่เกรงกลัวอุปสรรค พยายามบากบั่นอุตสาหะ ก้าวหน้าเรื่อยไป ไม่ทอดทิ้งธุระหน้าที่)
     ๖. ขันติ (ความอดทน, ความทนทานของจิตใจ สามารถใช้สติปัญญาควบคุมตนให้อยู่ในอำนาจเหตุผล และแนวทางความประะพฤติ ที่ตั้งไว้เพื่อจุดหมายอันชอบไม่ลุอำนาจกิเลส)
     ๗. สัจจะ (ความจริง คือ พูดจริง ทำจริง และจริงใจ)
     ๘. อธิษฐาน (ความตั้งใจมั่น, การตัดสินใจเด็ดเดี่ยว วางจุดหมายแห่งการกระทำของตนไว้แน่นอน และดำเนินตามนั้นแน่นแน่)
     ๙. เมตตา (ความรักใคร่, ความปรารถนาดี มีไมตรี คิดเกื้อกูลให้ผู้อื่นและเพื่อนร่วมโลกทั้งปวงมีความสุขความเจริญ)
     ๑๐. อุเบกขา (ความวางใจเป็นกลาง, ความวางใจสงบราบเรียบสม่ำเสมอ เที่ยงธรรม ไม่เอนเอียงไปด้วยความยินดียินร้ายหรือชอบฟัง)





ทศบารมีนี้ เรียงตามที่ถือว่าได้บำเพ็ญในทศชาติ (จัดแบบไทย) ดังนี้
     ๑. พระเตมีย์ — เนกขัมมะ (ข้อที่ ๓)
     ๒. พระมหาชนก — วิริยะ (๕)
     ๓. พระสุวรรณสาม — เมตตา (๙)
     ๔. พระเนมิราช — อธิษฐาน (๘)
     ๕. พระมโหสถ — ปัญญา (๔)
     ๖. พระภูริทัตต์ — ศีล (๒)
     ๗. พระจันทกุมาร — ขันติ (๖)
     ๘. พระนารท — อุเบกขา (๑๐)
     ๙. พระวิธุร — สัจจะ (๗)
     ๑๐. พระเวสสันดร — ทาน (๑)


    บารมีนั้น ท่านกล่าวว่าจะบำเพ็ญให้บริบูรณ์ ต้องครบ ๓ ขั้น คือ
         ๑. บารมี (ระดับสามัญ เช่น ทานบารมี ได้แก่ ให้ทรัพย์สินเงินทอง สมบัตินอกกาย)
         ๒. อุปบารมี (ระดับรองหรือจวนจะสูงสุด เช่น ทานอุปบารมี ได้แก่ การเสียสละอวัยวะเป็นทาน)
         ๓. ปรมัตถบารมี (ระดับสูงสุด เช่น ทานปรมัตถบารมี ได้แก่ การสละชีวิตเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น)


    บำเพ็ญทั้ง ๑๐ บารมี ครบ ๓ ขั้นนี้ เรียกว่า สมตึสปารมี หรือ สมตึงสบารมี แปลว่า บารมี ๓๐ ถ้วน.



อ้างอิง
ขุ.พุทฺธ.๓๓/๑/๔๑๔; ขุ.จริยา.๓๓/๓๖/๕๙๖.
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลธรรม พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
ขอบคุณภาพจาก http://www.dhammajak.net/,http://www.thaigoodview.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
การสร้างบารมี ของ พระโพธิสัตว์ กับพระพุทธสาวก นั้นมีการสร้างบารมีแตกต่างกันอย่างไรครับ
ถ้าเราสร้างบารมี เพื่อเป็นพระโพธิสัตว์แล้ว ปรารถนา เป็นพุทธสาวก ได้หรือไม่ครับ

 ด้วยความเคารพต่อเพื่อสหธรรม ทุกท่านครับ
  :c017:

     ตามความเข้าใจของผม ณ ตอนนี้ การสร้างบารมีในระดับต่างๆ(บารมี อุปบารมี ปรมัตถบารมี) ไม่ว่าใครจะปรารถนาภูมิใด ทุกคนสามารถสร้างบารมีได้ทุกระดับ และการปรารถนาพุทธภูมิ หรือ สาวกภูมิ ก็สามารถอธิษฐานเข้าหรือออกภูมิต่างๆได้ ตามใจปราารถนา    

     เช่น ผู้ที่ปรารถนาพุทธภูมิ เมื่อเห็นภัยของสังสารวัฏมากๆ ก็เบื่อหน่ายอาจลาพุทธภูมิ แล้วเข้านิพพานในฐานะสาวกภูมิไปเลย หากใครอ่านประวัติพระป่าหลายๆรูป ก็เคยปรารถนาพุทธภูมิมาก่อน  หรือในทางตรงกันข้ามผู้ที่ปรารถนาสาวกภูมิ เห็นเพื่อนปรารถนาพุทธภูมิแล้วรู้สึกเท่ห์ ก็เลยอธิษฐานพุทธภูมิเอาอย่างเพื่อนบ้าง

    อย่างไรก็ตามเชื่อว่า ผู้ที่เป็นสาวกภูมิ น่าจะทำได้แค่อุปบารมี ส่วนการสร้างบารมีขั้นปรมัตถ์ควรมีเฉพาะพุทธภูมิเท่านั้น เพราะระดับนี้ตัองเอาชีวิตเข้าแลก เรื่องนี้เป็นเพียงความรู้สึกส่วนตัวเท่านั้น ไม่มีทีอ้างอิงอันใด

     ในกรณีผู้ที่ปรารถนาพุทธภูมิ ที่มีจิตที่มั่นคง ไม่คิดที่จะลาพุทธภูมินั้น ต้องได้รับคำพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งก่อน ผู้นี้จะตีตั๋วทางเดียว(ไม่กลับ)จะเดินหน้าสร้างปรมัตถบารมีจนถึงที่สุด

      ตัวอย่างพระที่ปรารถนาพุทธภูมิ แล้วกลับไปเป็นสาวกภูมิ เช่น หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
      ตัวอย่างพระที่ปรารถนาพุทธภมิ ที่ได้รับคำพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าแล้ว คือ ครูบาศรีวิชัย เล่ากันว่า หลวงปู่มั่นเคยชวนครูบาฯลาพุทธภูมิด้วยกัน แต่ท่านปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่า ท่านได้รับคำพยากรณ์แล้ว


      อาจมีใครสงสัยว่า จะรู้ได้อย่างไรว่า บารมีต่างๆที่สั่งสมมาเต็มแล้ว
      ผู้ที่เป็นพุทธภูมิ จะรู้ได้เอง เมื่อไปจุติในสวรรค์ชั้นดุสิต ในเขตเฉพาะของพระโพธิสัตว์ที่บารมีเต็มพร้อมจะเป็นพระพุทธเจ้าในกาลต่อไป
      ส่วนผู้ที่เป็นสาวกภูมิ ต้องสอบถามครูบาอาจารย์ที่มีญาณทัสนะ ผู้รู้ท่านหนึ่งกล่าวว่า ผู้ที่จะเป็นอรหันตสาวก
ได้นั้น โดยเฉลี่ยแล้ว ต้องสร้างบารมีมาอย่างน้อย ๓๓ กัป  หนึ่งกัป หมายถึง โลกมนุษย์(ชมพูทวีป)เกิดแล้วก็ดับแตกสลายไปหนึ่งรอบ


      ขอคุยเป็นเพื่อนเท่านี้ครับ

       :25:

บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Hero

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 557
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
คาถาย่อ บารมี 10
 
   เต ชะ สุ เน มะ ภู จะ นา วิ เว

  สวดท่่องไว้ให้ประจำครับ สำหรับผู้ปรารถนาเป็นพระโพธิสัตว์ครับ
บันทึกการเข้า
ทำไมต้องมีอินทรีแดง เพราะสังคมเราบางครั้งก็ตาบอด
ปล่อยให้คนดี เดือดร้อน ดังนั้นจึงต้องมีผู้ปกป้องคนดี
hero ไม่ได้มีแต่ในหนังเท่านั้น นะครับ