ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: "อโหสิกรรม" | ส่วนตัวยกโทษให้ได้ แต่กลไกของกรรม..ไม่เป็นเช่นนั้น  (อ่าน 720 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28436
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


"อโหสิกรรม" | ส่วนตัวยกโทษให้ได้ แต่กลไกของกรรม..ไม่เป็นเช่นนั้น

อโหสิ [อะ-] ก. เลิกแล้วต่อกัน, ยกโทษให้.
อโหสิกรรม [อะ-] น. กรรมที่เลิกให้ผล; การเลิกแล้วต่อกัน, การไม่เอาโทษแก่กัน. (ป. อโหสิกมฺม).
(พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๕๔)

ในภาษาไทย มักใช้คำว่า “อโหสิกรรม” ในความหมายว่า ขอโทษ หรือยกโทษให้ คือผู้ทำผิดขอให้ตนอย่ามีความผิด อย่าต้องรับโทษ และผู้ถูกละเมิดไม่ติดใจที่จะเอาผิด

ความหมายเช่นว่านี้ ตรงกับคำว่า ขอโทษ หรือขอขมา ซึ่งในแง่ตัวบุคคลสามารถขอโทษและยกโทษให้กันได้ แต่ในทางธรรม เมื่อทำกรรมสำเร็จ จะขอร้องไม่ให้กรรมนั้นให้ผลหาได้ไม่ เพราะเมื่อทำกรรมแล้วกรรมนั้นย่อมให้ผลตามเหตุตามปัจจัยเที่ยงตรงเสมอ

@@@@@@@

พอจะเทียบได้กับความผิดบางอย่างที่กฎหมายกำหนดไว้ว่ายอมความกันมิได้ แม้ผู้ถูกละเมิดหรือถูกกระทำจะยินยอมไม่เอาความ แต่ผู้รักษากฎหมายก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายอยู่นั่นเอง

กรณีที่ศาลมีคำพิพากษาลงโทษจำเลย แต่ถ้าไม่มีตัวจำเลยอยู่ เช่นจำเลยเสียชีวิตไปก่อนที่จะรับโทษ โทษตามคำพิพากษานั้นก็เป็นอันระงับไป นี่คือความหมายแง่หนึ่งของ “อโหสิกรรม” ที่พอจะช่วยให้เข้าใจได้ง่ายๆ

     ขออภัย-ให้อภัยกันได้ เพราะเป็นกลไกของคุณธรรม
     แต่ขออโหสิกรรมกันไม่ได้ เพราะเป็นกลไกของกรรม
     เพราะฉะนั้น ก่อนจะทำอะไร คิดให้รอบคอบ และรู้จักยับยั้งชั่งใจให้จงมาก แต่จะทำเช่นนั้นได้ก็ต้องฝึกหัดไว้ล่วงหน้า จะไปยับยั้งชั่งใจเอาทันทีตอนที่จะลงมือทำนั้นไม่ทันการณ์ คนที่ฝึกยับยั้งชั่งใจไว้เสมอๆ จึงปลอดภัย ไม่ต้องไปขออโหสิกรรมใครพร่ำเพรื่อ หรือมานั่งเสียใจว่า นี่เราทำอะไรลงไป





ขอขอบคุณ :-
บทความของ : พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย ,๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ , ๑๑:๑๑
web : dhamma.serichon.us/2021/11/11/อโหสิกรรม/
posted date ; 11 พฤศจิกายน 2021 , By admin.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ