ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
  Messages   Topics   Attachments  

  Topics - drift-999
หน้า: [1]
1  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / กุศลให้ผลก่อน หรือ อกุศลให้ผลก่อน ครับ เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2013, 07:25:23 pm
อาจจะถามคำถาม ที่ดูเหมือนไม่รู้เรื่อง แต่ที่จริงก็ไม่รู้จริง ๆ ครับ
 ไม่ทราบว่า กุศล ให้ผลก่อน หรือ อกุศล ให้ผลก่อนก ครับ

 หรือ ว่า ให้ผลพร้อมกัน 


  thk56
2  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / คนเป็น บ้า สาเหตุ มาจากอะไร การภาวนา จะช่วยได้หรือไม่ครับ เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2013, 07:20:50 pm
คนเป็น บ้า สาเหตุ มาจากอะไร การภาวนา จะช่วยได้หรือไม่ครับ

  เป็นเพราะอะไร ทำไม จึง บ้า
  และจะรักษา ด้วยพระธรรม ทำอย่างไร

  thk56
3  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / สีลัพพตปรามาส คือ อะไร กันแน่ เมื่อ: เมษายน 24, 2013, 10:59:18 am
 ask1

    ถ้า สีลัพพตปรามาส เป็นการคลายความยึดถือ ที่ผิด เช่น การบวงสรวง การปลุกเสก พิธีกรรมต่าง ๆ ทางศาสนา นั้นจัดเป็น สีลัพพปรามาส หรือ ไม่ครับ

     thk56
4  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / เชิญนมัสการองค์ดำ ที่โรงพยาบาล สระบุรี ครับ ( ใช่องค์เดียวกับที่สนามหลวงหรือไม่) เมื่อ: พฤศจิกายน 08, 2012, 06:37:54 pm
เชิญนมัสการองค์ดำ ที่โรงพยาบาล สระบุรี ครับ ( ใช่องค์เดียวกับที่สนามหลวงหรือไม่)

เสถียรธรรมสถาน ร่วม กับชมรมพัฒนาคุณภาพชีวิตโรงพยาบาลสระบุรี ขอเชิญพุทธศาสนิกชนทุกท่านร่วมสักการะพระองค์ดำ นาลันทา
ในวันที่ 8- 11 พฤศจิกายน 2555

ณ ลานจอดรถหน้าโรงพยาบาลสระบุีรี ค่ะ

ประวัติ โดยสังเขป เป็นพระพุทธรูปองค์เดียวเท่านั้น ที่เหลือรอดจากการถูกทำลายของมุสลิม และไม่ถูกอังกฤษยึดไป
พระพุทธรูปองค์ดำนี้..มีขนาดใหญ่และปดิษฐานตั้งไว้บนฐานที่มั่นคงยากลำบากต่อการเคลื่อนย้าย แต่ตามคำบอกเล่าทราบว่า ในกาลภายหลังทางรัฐบาลอินเดียพยายามที่จะย้ายท่านไปเก็บรักษาไว้ภายในพิพิธภัณฑ์เมืองนาลันทา ซึ่งเก็บรวบรวมหลักฐานพระพุทธรูปต่าง ๆ ที่ค้นพบในบริเวณนาลันทาและราชคฤห์ ทุกครั้งที่มีการโยกย้ายมักเกิดเหตุอาเพทที่ไม่คาดฝันเสมอ เช่น ฝนตกอย่างหนักเกิดฟ้าผ่าอย่างรุนแรงเป็นต้น เป็นเหตุให้การโยกย้ายองค์พระไม่สำเร็จได้ และชาวบ้านก็มาดูแลรักษาหลวงพ่อดำไว้ หากเกิดการเจ็บป่วยก็จะนำน้ำมันมาลูบองค์พระแล้วอฐิษฐานขอให้หลวงพ่อรักษาโรคต่าง ๆ ก็เป็นมหัศจรรย์ว่า โรคต่าง ๆ ได้ถูกรักษาด้วยพลังความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระ แม้แต่ปัจจุบัน ชาวพุทธผู้แสวงบุญชาวไทยต่างก็เดินทางไปสักการะและอฐิษบานของพรจากท่านรักษาโรคต่าง ๆ หายได้นับเป็นเรื่องมหัศจรรย์ยิ่งนัก

(จาก OK nation blog )

ขอขอบคุณ รูปภาพจากพี่แจงคนสวยด้วยจ้า





ที่มาเห็นใน facebook madchimaRDN นะครับ
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=398905610180530&set=p.398905610180530&type=1&theater
5  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / คัดลายมือภาษาไทยที่สวย ของเด็ก ม. ปลาย เขิญชม เรื่อง ทศพิธราชธรรม เมื่อ: ตุลาคม 04, 2012, 06:46:22 pm
มาดูลายมือของนักเรียน ม.ปลายที่สวยที่สุดของประเทศ รับถ้วยพระราชทานในหลวง


ขอบคุhttp://variety.teenee.com

 ลายมือของ "นางสาวพิชญา กำเนิดสิงห์"
ม.๖/๑ โรงเรียนน้ำโสมพิทยาคม จ.อุดรธานี
ได้รับถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ในโครงการประกวดคัดลายมือระดับชาติ ระดับ ม.4-6

http://toptenthailand.com/2012/topten-news-info.php?cate_id=1&nid=672
6  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / ทดสอบการปฏิบัติธรรม 3 แห่ง จากใจดารา ( ส่งตรงจากรายการพื้นที่ชีวิต ) เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2012, 09:28:11 pm
พื้นที่ชีวิต - วิจัยชีวิต (2) 20Jun12

เผยแพร่เมื่อ 20 มิ.ย. 2012 โดย LadyBimbettes

Playlist : http://www.youtube.com/playlist?list=PL5ED5020D93AE1835


!

 เพื่อใครยังไม่ได้ชม บอกเล่าสักเล็กน้อย สำหรับนักปฏิบัติธรรม ที่เลือกสถานที่ปฏิบัติธรรมที่คิดว่าดีที่สุด ในรายการนี้ ทางรายการได้ส่ง ดารา 3 คน ลงปฏิบัติในสถานที่ต่างกันคือ

  1. สำนักปฏิบัติธรรม โคเอ็นกา ลำพูน
  2. วัดป่า
  3. วันสุนันวราราม 

  ซึ่งท่านทั้งหลาย ควรชมบทสรุปในการปฏิบัติ ว่าจะเปลี่ยนใจดารา ทั้ง 3 อย่างไรในแง่มุมของศาสนา


 
7  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ของมันพลาดกันได้ อย่ามั่นใจเกินไป ( สยอง ) เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2012, 07:01:22 pm

Uploaded by madotubevid on Jul 22, 2011

เมียพยายามส่งสันญาณบอกเเล้วเเต่ฝ่ายชายไม่ได้ยิน เนื่องจากเสียงเพลงดัง เลยเกิดเหตุสยองดังกล่าว
8  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / เชิญร่วมบำเพ็ญกุศลศพ เจ้าคณะอำเภอสะบ้าย้อย วัดคูหา จ.สงขลา เมื่อ: มกราคม 18, 2012, 06:01:15 pm


ด้วย พระครูวิจิตรคณาภิรักษ์ (นุ้ย) ฉายา ทนฺตจิตฺโต ป.ธ.๓)
อายุ ๗๙ พรรษา ๕๙ เจ้าคณะอำเภอ สะบ้าย้อย วัดคูหา ตำบลคูหา อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา

 ได้ถึงมรณภาพเมื่อ วันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๕๕ คณะสงฆ์ได้นำศพไปบำเพ็ญกุศล ณ วัดคูหา

ตามระเบียบปฏิบัติของคณะสงฆ์จังหวัดสงขลา
 เมื่อพระสังฆาธิการระดับเจ้าคณะอำเภอถึงมรณภาพ
คณะสงฆ์ทุกอำเภอต้องร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญอุทิศถวาย


คิดว่าพระอาจารย์รู้จักครับ
9  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / จัดหนัก เมื่อ เหล่าสาวก iphone s4 ป่วน เมื่อ: มกราคม 13, 2012, 04:29:20 pm

อ่านข่าว ฟังข่าว ตอนนี้ เป็นศาสนา (ใหม่) หรือไม่ ?
 แหม ก็พี่แกใช้คำว่า สาวก ไงละจ๊ะ เพราะถ้ามีสาวก ก็มีศาสนา ใช่ไหม ?

  ยิ่งเห็นแต่ละที่ เข้าแถว นอนรอกันเลยที่จะซื้อสินค้า ชิ้นนี้

  มันมีอะไรดี หรือ iphone s4

  ที่เมืองจีนทราบว่า มีผู้หญิงประกาศขายตัวแลกกับ i s4
  เมื่อเช้านี้เฮ ไม่ขาย ที่ ปท.จีน คนมีอารมณ์ ขว้างปาไข่ ( ดีนะเป็นไข่ )

  อย่างนี้เรียกว่า ยุค บริโภควัตถุหรือ ไม่ จ๊ะ

 เดี๋ยวรายละเอียด อื่น ๆ จะอัพเดทให้ได้อ่านกันนะ

 

   
10  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / โทษตำรา ติดอาจารย์ ยุคนี้ ....เฉลียวใจกันบ้างหรือไม่ครับ เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2011, 07:44:07 pm
โทษตำรา!
เคยเฉลียวใจหรือเปล่าว่า ที่ยังไปไม่ถึงไหน เพราะอ่านหนังสือไม่เป็น ?
กระทั่งหนังสือ ยังเลือกอ่านไม่เป็น
แล้วออกไปปฏิบัติ จะปฏิบัติอะไร?
ติดขัดอะไร หันรีหันขวาง ไปไหนไม่ได้
สุดท้าย ก็ต้องยึดครูอาจารย์
ผละตำราหันมายึดตัวบุคคล
ศาสนาพุทธ ก็เลยกลายเป็นแค่ลัทธิสำนักนิยม
แต่ละสำนักก็ว่าไปตามเจ้าสำนัก เพราะอะไร
เพราะทิ้งตำรา หันหลังให้มาตรฐานกลางไปหมด
ถ้าชวนกันอ่านหนังสือน้อย ด้วยยึดมั่นว่า ไม่ต้องอ่านตำราอะไรเลย
ก้มหน้าปฏิบัติงุดๆๆ ให้จิตสอนจิต แล้วเดี๋ยวจู่ๆ การภาวนามันก็จะไปได้ดีเอง
ดังนั้น อย่าไปชอบอ่านตำรา เพราะตำรามันจะพาไปไม่ถึงไหน
ให้ปฏิบัติไป ปฏิบัติอะไรก็ไม่รู้หละ ปฏิบัติไปก็แล้วกัน
อะไรก็ไม่รู้หละ ดีก็แล้วกัน
รณรงค์กันมากๆ เข้า ชาวพุทธทอดทิ้งตำรากันให้หมด
วันหนึ่ง พระไตรปิฎกก็จะไม่มีใครอ่าน ไม่มีใครนิยม ไม่จัดพิมพ์เผยแพร่
เหลือแต่การเรียนการปฏิบัติตามสำนัก สอนกันไปคนละทิศละทาง ผิดแผกแหวกแนว
ถึงเวลานั้น ตัวใครก็ตัวมัน!


จากคุณ    : ระนาดเอก
เขียนเมื่อ    : 29 พ.ย. 54
11  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / รวมพลคนจิตอาสา ฟื้นฟู พื้นที่น้ำท่วม ที่สระุบุรี เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2011, 09:09:30 pm
ที่สวนเฉลิมพระเกียรติเทศบาลตำบลท่าลาน อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี นายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานเปิดงานวัน "สระบุรีรวมพลคนจิตอาสา ช่วยชาวประชาพ้นภัยน้ำท่วม"เพื่อเป็นการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและเต­รียมให้ราษฎรดำเนินชีวิตตามปกติหลังน้ำท่วมเข้าสู่สภาวะปกติโดย­มี องค์กรทุกภาคส่วน ทั้งภาคราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และภาคประชาชน ร่วมจัดกิจกรรม สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ประกอบไปด้วยการทำความสะอาดถนน ตลาด วัด และทาสีวัด โดยได้รับการสนับสนุนจากประชาชนทุกภาคส่วนในพื้นที่ และนิสิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้การสนับสนุนสีทาวัดและกำลังจากนิสิต รวม 100 คน มาร่วมกิจกรรม พร้อมการให้บริการจากภาครัฐ อาทิ บริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า/ไฟฟ้าในบ้าน/ซ่อมรถจักรยานยนต์/เครื­่องก ลการเกษตร โดยวิทยาลัยเทคนิคท่าหลวงซีเมนต์ไทยอนุสรณ์ และวิทยาลัยการอาชีพสระบุรี บริการเอกสารหาย เช่น บัตรประจำตัวประชาชน/ทะเบียนบ้าน โดยอำเภอบ้านหมอ บริการเอกสารโฉนดที่ดินหาย หลักเขตคลาดเคลื่อน และอื่นๆ โดยสำนักงานที่ดินจังหวัดสระบุรี รับแจ้งใบขับขี่หาย/ต่อภาษีรถ โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดสระบุรี รับลงทะเบียนเกษตรกรที่เอกสารหาย โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดสระบุรี สำนักงานประมงจังหวัดสระบุรี และสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสระบุรี บริการเกี่ยวกับแรงงาน เช่น ลงทะเบียนผู้ว่างงาน รับสมัครงาน ให้คำปรึกษาเรื่องของกฎหมายแรงงาน/สิทธิประโยชน์การประกันสังคม โดยหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน แจกจ่ายสารน้ำยาทำความสะอาดเอนกประสงค์ โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสระบุรี แจกจ่ายสาร EM โดยสถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดสระบุรี และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสระบุรี การบริการด้านการแพทย์ ตรวจสุขภาพเบื้องต้นแจกจ่ายยารักษาโรค ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระบุรี และโรงพยาบาลบ้านหมอ

http://www.youtube.com/user/prsaraburi#p/a/u/2/CMsVLtBpX3Y

prsaraburi
12  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / กฐินพระราชทาน วัดเขาแก้ววรวิหาร 4 พ.ย.54 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2011, 09:06:03 pm
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สำนักคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นผู้รับพระราชทานผ้าพระกฐินพระราชทาน ถวายแด่พระส­งฆ์ที่จำพรรษากาลถ้วนไตรมาส ณ วัดเขาแก้ววรวิหาร ตำบลต้นตาล อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี โดยมี ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน์เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นผู้นำผ้าพระกฐินพระราชทานถวายแด่พระสงฆ์ โดยมีนายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี และคณะข้าราชการ พ่อค้าประชาชน ในจังหวัดสระบุรี ร่วมโดยเสด็จพระราชกุศลในการถวายผ้าพระกฐินในครั้งนี้ด้วย



อนุโมทนากับ prsaraburi ด้วยครับ
13  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ฤาษีพุทธจรัล ฤาษีลอยตัว เมื่อ: กันยายน 10, 2011, 08:41:39 pm
ฤาษีพุทธจรัล ฤาษีลอยตัว



ที่ อาศรมอมราวดีอายุเวท อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้มีการสาธิตเหาะลอยตัวของฤาษีพุทธจรัลหรือฤาษีปรองดองขึ้น โดยการสาธิตดังกล่าวฤาษีพุทธจรัลจะนั่งขัดสมาธิพนมมืออยู่บนฟูกที่ปูไว้ เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานท่านฤาษีก็ได้ดีดตัวขึ้นไปในอากาศสูงประมาณ 80-90 ซม. ก่อนที่จะร่วงลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลก สร้างความประหลาดใจให้กับลูกศิษย์ลูกหาที่ไปเฝ้าชมเป็นอย่างมาก

โดย ฤาษีพุทธจรัล กล่าวว่า ฤาษีลอยตัว หรือการเหาะลอยตัวครั้งนี้เป็นการทำ โยคะสูตร ซึ่งการทำโยคะสูตรนี้มนุษย์ทุกคนก็สามารถทำได้เพียงมีจิตใจ และฌานสมาบัติ เป็นพื้นฐานที่เข้มแข็งและแน่วแน่ จนจิตและกายประสานสัมพันธ์กัน เมื่อคิดอะไรทำอะไรก็ได้สมใจนึก

นอกจากนี้ ฤาษีพุทธจรัล ยังได้กล่าวต่ออีกว่าการสาธิตลอยตัวดังกล่าวจะทำเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว เพราะมีอายุมากการทำการเหาะลอยตัวแต่ละครั้งใช้พลังมาก ทั้งร่างกายและจิตใจ ต้องมีสมาธิ จิตใจต้องแน่วแน่อย่างสูง รวบรวมพลัง ทั้งฌาน ลมปราณ จิตใจ ร่างกายให้เป็นหนึ่ง ก่อนดีดตัวให้ลอยขึ้นไปในอากาศได้

“ใน อดีตสังคมยุคหนึ่ง บุคคลที่เกิดมาในโลกนี้ก็มีความพร้อมสมบูรณ์ ทั้งจิตและกาย เขาเรียกว่า มีสิทธิ มีฤทธิ์ สิทธิหรือฤทธิ์ นั้นเป็นเรื่องปกติของสัตว์โลก เหมือนนกที่บินได้ แมวที่กระโดดไปเกาะสิ่งต่าง ๆ ที่สูงถึง 2-3 เมตร สัตว์เหล่านี้มีสิทธิ และมีฤทธิ มนุษย์เองเกิดมาก็มีสิทธิมีฤทธิ์ มากกว่าสัตว์พวกนี้ด้วยซ้ำไป เมื่อก่อนที่ประเทศจีนเขาก็เอามาใช้ แต่เป็นในลักษณะของกำลังภายใน”

ขอบคุณที่มาข่าว
http://news.mthai.com/general-news/130086.html
14  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / คนที่ฝึกกรรมฐาน เข้าฌาน ไ้ด้ มีพลังจิต .... เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2011, 09:59:24 pm
คนที่ฝึกกรรมฐาน เข้าฌาน ไ้ด้ มีพลังจิต ..

 จะทำอะไรพลาดได้หรือ ไม่ หนังเหนียว ทุกคนหรือไม่ครับ

 เป็นจอมเวทย์ มีพลังจิต อะไรปานนี้ ทุกคนหรือไม่ ครับ

 พระที่นั่งกรรมฐาน เก่ง ๆ บาดเจ็บได้หรือไม่ ครับ

  :smiley_confused1: :67: :c017:
15  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / จริงหรือไม่ ที่เวลาคนตาย แล้ว วิญญาณที่ตายจะอยู่ตรงนั้น หรือ พยายามกลับบ้าน เมื่อ: มิถุนายน 30, 2011, 07:44:52 pm
เมื่อวันก่อน ที่ข้างบ้านผม มีคนเสียชีวิตเป็นคนแก่ เสียชีวิตด้วยโรคเบาหวาน

ปรากฏว่า ก็จัดงานศพที่วัด 3 คืน

แต่ทุกคืน เวลา 22.00 น. ถึง 24.00 น. จะมีเหตุการณ์

 หมา (สุนัข ) มาหอนที่หน้าบ้านทุกคืน เลยครับ ปกติก็ไม่เคยมี หมา มาหอนแบบนี้

และที่สำคัญ ลูกหลาน ที่นอนกันที่วัด ในบ้านไม่มีใครอยู่ เขาฝากให้ผมช่วยดูให้

ปรากฏ ว่าผมเห็น คนเดินอยู่ในบ้าน เป็นเงาดำ มองผ่านม่าน เหมือนลุง คนที่ตายที่เคยมายืนมองตรงหน้าต่าง

ผมรู้สึก ขนลุกซู่ กลัว .... เหมือนกัน ครับ

จึงสงสัย ว่า จริง ๆ แล้ว คนที่ตายไปแล้ว จะกลับมาอยู่ในบ้าน ไม่ยอมไปผุด ไปเกิด อย่างนี้เป็นไปได้หรือไม่ครับ อย่างนี้แล้ว คงไม่ได้เกิดใช่หรือไม่ครับ เพราะอะไรครับ

และผมควรทำอย่างไร ที่จะได้ไม่ต้องหลอน เพราะเสียง และ ภาพ ที่เกิดขึ้นครับ

ขอบคุณ เพื่อนสมาชิก

  ขอให้ช่วยตอบเป็นการด่วน เลยนะครับ กลัวมาก

   :c017: :25:
16  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง / คิวยาวมาก ๆ ประวัติศาสตร์ เลย กับการรับพระสมเด็จสะท้านเพชร เมื่อ: พฤษภาคม 06, 2011, 09:05:08 pm


เมื่อไปถึงวัดก็แทบตะลึง คนเยอะเหลือเกิน !

จากการสอบถาม ...

คนที่เข้าแถวอยู่หน้าประตูวัด บอกว่า เค้าเข้าคิวมา 3 ชั่วโมงแล้ว  เพิ่งจะได้เข้าประตูวัดนี่แหละ !

อีกคนอยู่ใกล้จุดรอรับพระ  บอกว่ามาตั้งแต่เช้ามืด  คาดว่าอีก 1 ชั่วโมง คงจะได้รับ ( ตอนถาม ก็บ่าย 3 กว่าๆ )

ศรัทธาแรงกล้ามาก คนเข้าคิวยาวถึงบางลำพูโน่น   ข้าพเจ้าจึงถอยดีกว่า เพราะฝนเริ่มตกแล้ว ....

หมายเหตุ   ในวัดเข้าแถวกันอย่างเขาวงกต วนไปวนมา อีกยาวเชียว

คาดว่าต้องกลับไปอีกรอบ แหะๆๆ











ขอบคุณภาพ ข้อมูลข่าวจาก http://www.oknation.net/blog/Freelance/2009/12/31/entry-1
17  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / จะขอไฟล์ เรื่องเล่า กฏแห่งกรรม ที่เปิดในช่วงนี้ ครับ เมื่อ: เมษายน 18, 2011, 07:57:50 pm
ผมชอบฟังมากครับ มีเรื่องหลวงพ่อ สรรพแดง เป็นต้น ชอบมาก

จะขอดาวน์โหลดไฟล์ ไว้ฟังบ้าง ต้องทำอย่างไรบ้างครับ
 :c017:
18  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / พิธีอัญเชิญ “พระเขี้ยวแก้ว” ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี เมื่อ: เมษายน 11, 2011, 05:24:13 pm








ขอบคุณภาพประกอบจากเว็บ
http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y10438463/Y10438463.html
พิธีอัญเชิญ “พระเขี้ยวแก้ว” แห่พระเขี้ยวแก้ว ประจำปี 2554 เทศบาลเมืองพระพุทธบาท อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี

      เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 11 มีนาคม 2554 ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี มีพิธีอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว เพื่อ อัญเชิญ แห่รอบเทศบาลเมืองพระพุทธบาท ประจำปี 2554 โดย ผู้อัญเชิญ พระเขี้ยว มี นายอนุพงษ์ กิ่งแก้ว รองนายกเทศมนตรีทศบาลเมืองพระพุทธบาท และ นายธวัชชัย วรกุลเสถียร สมาชิกสภาเทศบาลเมืองพระพุทธบาท พระเขี้ยวแก้วประดิษฐานในพิพิธภัณฑสถานพระพุทธบาท

      ( ต้องกราบ ขออภัยสามารถถ่ายภาพเคลื่อนไหว ได้เท่าที่เห็น เนื่องจาก ระหว่างถ่ายภาพวีดีโอเคลื่อนไหว ถูกห้ามถ่ายภาพ (เสียความรู้สึกมาก ไปเฝ้ารอทำข่าวตั้งนาน แดดก็ร้อน)

       ภาพที่ได้ต่อมาเป็นภาพนิ่ง ได้รับความอนุเคราะห์ มาจาก คุณ สุรชาติ ยืนวิชญาวัฒน์ ผอ.หนังสือพิมพ์ ภาพข่าว .ต้องขอขอบคุณมา ณ โอกาส นี้ด้วย ครับ )

      พระเขี้ยวแก้ว พระทันตธาตุ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร จ.สระบุรี มีประเพณีแห่พระเขี้ยวแก้ว ประจำทุกปี ใน วัน ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 4 ปี 2554 นี้ ตรงกับ วันนี้ วันที่ 11 มีนาคม 2554

      พระเขี้ยวแก้ว หรือ พระทันตธาตุ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประดิษฐานในเจดีย์จุฬามณี อยู่ในวิหารคลังบน วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ต.ขุนโขลน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี มีขนาดใหญ่กว่าฟันมนุษย์ธรรมดา ( พระเขี้ยวแก้ว องค์จำลอง )

      ตามพงศาวดารกล่าวไว้ว่า พระเขี้ยวแก้วคือฟันของพระพุทธเจ้าที่เหลือไว้เป็นปูชนียวัตถุ มี 4 องค์

      1. ประดิษฐานอยู่ที่จุฬามณีเจดีย์ดาวดึงส์เทวโลก

      2. ประดิษฐานอยู่ ณ เมืองกาลึงคราษฎร์ ประเทศอินเดีย

      3. ประดิษฐานอยู่ที่ใต้บาดาลอันมีนามว่า นาคพิภพ

      4. ประดิษฐานอยู่ประเทศลังกา หรือลังกาทวีป ปัจจุบันได้อัญเชิญมาอยู่ที่พระพุทธบาท สระบุรี ตั้งแต่สมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศครองกรุงศรีอยุธยา( พ.ศ.2275-2301 ) ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารหลวง โดยอยู่ในวิหารคลังบนในเจดีย์จุฬามณี ( แต่พงศาวดาร บางฉบับ กล่าวว่า ได้อัญเชิญมาอยู่ที่วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร จ.สระบุรี ตั้งแต่ สมัยพระเจ้าทรงธรรมครองกรุงศรีอยุธยา ( พ.ศ.2154-2171 )

      แต่มีบันทึกในสมัย พระเจ้าอยู่หัวพระบรมโกศว่า ในปี พ.ศ. 2296 พระเจ้ากีรติสิริราชสิงห์ กษัตริย์ลังกา ได้ส่งราชทูตมาขอพระมหาเถระ และคณะสงฆ์ไปช่วยฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในลังกา ที่เสื่อมโทรมลงไป สมเด็จพระเจ้าบรมอยู่หัวโกศ จึงโปรดให้ส่งคณะสมณทูตประกอบด้วยพระราชาคณะสองรูป พระอุบาลี , พระอริยมุนี พร้อมคณะสงฆ์อีก 12 รูป ไปลังกา เพื่อประกอบพิธีบรรพชา อุปสมบท ให้กับชาวลังกา คณะสงฆ์คณะนี้ได้ไปตั้ง นิกายสยามวงศ์ ขึ้นในลังกา หลังจากที่ได้ช่วยฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในลังกา เป็นเวลา 7 ปีแล้ว คณะสงฆ์คณะนี้บางส่วนได้เดินทางกลับกรุงศรีอยุธยา เมื่อปี พ.ศ. 2303

      กาลเวลาล่วงเลยมาจนถึงปี พ.ศ.2455 ที่เมืองพระพุทธบาท ได้เกิดโรคระบาด ประชาราษฎร์ได้เกิดการเจ็บป่วยล้มตายไป เป็นอันมาก พร้อมทั้งเกิด ทุพภิกขภัย อดอยาก ฝนแล้ง แห้งน้ำ ได้รับ ความเดือดร้อน เป็นที่ยิ่ง ผู้ปกครองพระพุทธบาทในสมัยนั้นจึงอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วจากวิหารคลังบนออกแห่ แล้วเชิญประชาชน ร่วมขบวนและถวายน้ำสรงพระเขี้ยวแก้ว เกิดในวันนั้นเอง ได้มีฝนตกกระหน่ำมาอย่างหนัก ทำให้ประชาราษฎร์ และพฤกษชาตินานาพันธุ์ได้รับความชุ่มเย็นอันเกิดจากฝนนั่นเอง จึงได้ปฏิบัติเป็นประเพณี เรื่อยมา จนถึงปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้เองประชาชนชาวพระพุทบาทจึงได้สืบทอดประเพณีแห่พระเขี้ยวแก้ว เป็นประจำทุกปี ในวันขึ้น 7 ค่ำ เดือน 4โดยมีความเชื่อว่า หากมีการแห่พระเขี้ยวแก้วแล้วจะสามารถบันดาลให้ประชาชนชาวพระพุทธบาทได้รับ ความร่มเย็นเป็นสุข เพื่อความร่มเย็นและสงบสุขของชาวพระพุทธบาท ทำมาค้าขายกันดีทั่วหน้า ( เชื่อกันว่า ในวันขึ้น 7 ค่ำ เดือน 4 เป็นวันการแห่พระเขี้ยวแก้วครั้งแรก จึงยึดถือเอา วันขึ้น 7 ค่ำ เดือน 4 นี้ เป็นวันแห่พระเขี้ยวแก้วฯ สืบมาทุกปี )

     

      แม้แต่งานประเพณีตักบาตรดอกไม้ หนึ่งเดียวในโลก หลังจาก ที่พระภิกษุสงฆ์เดินรับบิณฑบาต( ดอกไม้) จากพุทธศาสนิกชนแล้ว จะนำดอกไม้ไปสักการะ “รอย พระพุทธบาท” ,พระเจดีย์จุฬามณี อันเป็นพระเจดีย์ที่บรรจุพระเขี้ยวขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้ว นำไปสักการะพระเจดีย์มหาธาตุองค์ใหญ่ ที่ชาวพุทธถือว่าเป็นพระเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ( รัชกาลที่ 4 ) เสด็จอัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐาน ณ เจดีย์นี้ ( เจดีย์ พระมกุฎภัณฑเจดีย์) เมื่อ ปี พ.ศ. 2403

      พระเขี้ยวแก้ว ( องค์จำลอง ) หรือ พระทันตธาตุ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประดิษฐานในเจดีย์จุฬามณี อยู่ในวิหารคลังบน วัดพระพุทธบาท อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี เดินทางเข้าประตูยักษ์สองตน ตรงไปตามทางขึ้นบันได ซ้ายมือเป็นวิหารล่าง

      ( ศาลเจ้าพ่อพระกาฬ ) ถ้าขึ้นบันไดไปทางซ้ายมือเป็นรอยพระพุทธบาท แต่ให้ตรงไป ซ้ายมือเป็น วิหารคลังกลาง ( ใช้เก็บ วัตถุมงคล สิ่งของสำคัญ ) ตรงไปขึ้นบันได เป็น วิหารคลังบน ที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้ว

      ภายใน วิหารคลังบน มีภาพวาดจิตรกรรม เก่า ที่ฝาผนังวิหาร เป็นรูปพระสงฆ์ ปักกลด โปรดมนุษย์ ฯ ต่างๆ ที่พระเขี้ยวแก้วบรรจุอยู่ใน เจดีย์จุฬามณี ทำด้วยทองเหลือง พระเขี้ยวจะประดิษฐานภายในเกือบถึงยอดเจดีย์ มีพานรองรับ อยู่ในกรอบกระจกใสกลม บนกระจกมีโลหะแบบเป็นยอดมณฑปครอบ เจดีย์จุฬามณี มีประตูเล็กๆ เป็นช่อง เปิดได้ แต่ใส่กุญแจแบบโบราณสี่เหลี่ยมยาว ขนาดเล็ก มีทองคำเปลวปิดหนาเต็มทั้งกุญแจและเจดีย์จุฬามณี ( วิหารคลังบน นี้ มีบันทึกว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์พุทธสรเถระ วัดอนงคาราม ผู้กำกับการวัดพระพุทธบาท บูรณะด้วยทุนการกุศลพระพุทธบาท พ.ศ.2497 )

     

      ในป่างองค์อมเรศอดิศร สมบัติอมรินทร์คำกลอน มีกลอนกล่าวไว้ แสดงว่า พระเขี้ยวแก้ว เป็นพระเขี้ยวแก้วข้างขวาด้านบน

      “หนึ่งเจดีย์พระจุฬามณีสถิต

      อันไพจิตรด้วยฤทธิ์สุเรนทร์ถวาย

      สูงร้อยโยชน์โชติช่วงประกายพราย

      ยิ่งแสงสายอสุนีในอัมพร

     

      เชิญเขี้ยวขวาเบื้องบนพระทนต์ธาตุ

      ทรงวิลาศไปด้วยสีประภัสสร

      แทนสมเด็จพระสรรเพชญ์ชิเนนทร

      สถาวรไว้ในห้องพระเจดีย์

     

      ประดิษฐ์บนพระมหาจุฬารัตน์

      เป็นที่แสนโสมนัสแห่งโกสีย์

      กับสุราสุรเทพนารี

      ดั่งจะชี้ศิวโมกข์ให้เทวัญ

     

      ประดับด้วยราชวัติฉัตรแก้ว

      พรายแพร้วลายทรงบรรจงสรรค์

      ระบายห้อยพลอยนิลสุวรรณพรรณ

      เจ็ดชั้นเรียวรัดสันทัดงาม

     

      ดั่งฉัตรเศวตพรหเมศร์ครรไลหงส์

      เมื่อกั้นทรงพุทธาภิเษกสนาม

      ยิ่งดวงจันทร์พ้นแสงสมัยยาม

      อร่ามทองแกมแก้วอลงกรณ์

     

      ครั้นถ้วนถึงวันครบอุโบสถ

      กำหนดพร้อมด้วยสุราสรางค์สมร

      บูชาเครื่องเสาวรสสุคนธร

      ข้าวตอกแก้วแซมช้อนสุมามาลย์

     

      บ้างเริงรื่นชื่นชมประนมหัตถ์

      กระทำทักษิณาวัฏบรรณสาร

      ประนอมจบเคารพไตรวาร

      แล้วลีลาศยังสถานพิมานจันทน์”

      ป่างองค์อมเรศอดิศร สมบัติอมรินทร์คำกลอน เป็นวรรณกรรมชิ้นเอกชิ้นหนึ่ง ของ เจ้าพระยาพระคลัง (หน) กวีเอก ในสมัยต้นรัตนโกสินทร์

     

      คาถาบูชา พระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้ว

     

      “อะหัง วันทามิ อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ปูชะนัตถายะ ปะระมะสารีริกะ ทาฐาธาตุง มัยหัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ”

     

      ข้าพเจ้า ขอกราบไหว้พระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้ว เพื่อต้องการบูชาพระอรหันตะสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ข้าพเจ้า ตลอดกาลเทอญ

     

      คัดลอกจากหนังสือ พระพุทธเจ้า (หนังสือธรรมะคำถาม-คำตอบ ประวัติและการปฏิบัติ)

      /////

ขอบคุณเนื้อหาและข่าวจากเว็บ

http://76.nationchannel.com/playvideo.php?id=140127
19  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เพลิงไหม้ ที่ตลาดเก่าแก่ ห้องแถว ตลาดในพระพุทธบาท อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี เมื่อ: เมษายน 11, 2011, 05:18:51 pm


เพลิงไหม้ ที่ตลาดเก่าแก่ ห้องแถว ตลาดในพระพุทธบาท อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี
เมื่อ ช่วงเช้า วันที่ 12 มีนาคม  2554 เกิดเหตุเพลิงไหม้ ที่ตลาดเก่าแก่ ห้องแถว ตลาดในพระพุทธบาท อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี โดยเพลิงเกิดจากห้องแถวเก่าแก่อายุนับ 70 กว่าปี วอดนับ20ห้อง ซึ่งอยู่ห่างจาก สถานีดับเพลิงเทศบาลพระพุทธบาท(หน่วย2)ประมาณ 500เมตร
ในท้องที่เทศบาลพระพุทธบาทเกิดเหตุเพลิงไหม่บ่อยครั้ง แต่เกิดความล้มเหลวในการสกัดเพลิงของเจ้าหน้าที่ ทำให้แต่ละครั้งจึงมีผลเสียหายวงกว้าง  ส่วนสาเหตุเกิดจากเพลิงลุกไหม้จากห้องแถวไม้ เวลาประมาณ07.00น. เจ้าหน้าที่ไม่สกัดเพลิงไว้ได้ หลังจากนั้นหน่วยดับเพลิงจาก อ.หนองโดน ,เทศบาลพุกร่าง ,ลพบุรี และหน่วยดับเพลิงที่อื่น มาสกัดเพลิงได้เวลาประมาณ 8.00น.
20  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านร่วมทำบุญสร้างเมรุ สำนักสงฆ์ธารน้ำตก 13 เม.ย.54 เมื่อ: เมษายน 11, 2011, 05:07:04 pm
ขอเชิญชวนสมาชิกชมรม และผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านร่วมทำบุญสมทบทุนสร้างเมรุ

สำนักสงฆ์ธารน้ำตก

หมู่ 10 ต.ชำผักแพว อ.แก่งคอย จ.สระบุรี

วันที่ 13 เมษายน 2554 ออกเดินทางจากชมรม 09.30 น.






อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ blog ครับ
http://wwwbanchum.blogspot.com/2011_04_01_archive.html
21  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / สลด! เด็กหญิงป.5 ผูกคอตาย เครียด ผลสอบไม่ผ่าน เมื่อ: เมษายน 02, 2011, 06:59:02 am

สลด! เด็กหญิงป.5 ผูกคอตาย เครียด ผลสอบไม่ผ่าน

วานนี้ รายงานแจ้งว่า ด.ญ.แก้ม (นามสมมติ) นักเรียนชั้นป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองเลย จ.เลย ใช้เข็มขัดผูกคอตาย โดยสาเหตุคาดว่าเด็กหญิงแก้มอาจจะเสียใจที่ ไปดูผลสอบ ป. 5 ขึ้น ป. 6 ปรากฏว่า สอบไม่ผ่านได้อันดับสุดท้ายของห้อง อีกทั้งเกิดความเครียดกลัวว่า ไม่ได้ศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาจึงเกิดคิดสั้น

โดยผู้เป็นแม่กล่าวว่า ปกติลูกสาวเป็นคนร่าเริง แต่หลังจากที่ทราบผลก็มีสีหน้าเคร่งเครียด หงุดหงิด โดยลูกสาวบอกกับตนว่า “สอบได้ที่สุดท้าย แล้วจะไปหาที่เรียนต่อที่ไหน “ ตนจึงบอกว่าจะส่งให้เรียนต่อแถวบ้าน เนื่องจากฐานะที่บ้านก็แค่พอมีพอใช้เท่านั้น แต่ลูกสาวมีความคิดอยากจะไปศึกษาต่อในกรุงเทพฯ จนกระทั่งช่วงบ่าย ลูกสาว ใช้เข็มขัดหนังผูกคอตัวเองกับมือจับประตูห้อง เสียชีวิต

เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news

fwd mail
22  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ตั้งกายตรง ดำรงสติ เฉพาะหน้า อันนี้มีความหมายอย่างไรครับ เมื่อ: มีนาคม 27, 2011, 08:33:40 pm
เรียนถามผู้รู้ครับ....ผม

ตั้งกายตรง ดำรงสติ เฉพาะหน้า อันนี้มีความหมายอย่างไรครับ

 :c017:
23  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ถวายเงินพระผิดหรือไม่ เมื่อ: มีนาคม 21, 2011, 10:13:42 am
ไปอ่านเจอมาครับ คิดว่ามีเหตุผลดี ครับ

โยมถวายเงินให้พระผิดหรือไม่
ตอนนี้พูดตรงๆไม่ได้ว่า ผิดหรือถูก ถ้าผมพูดว่าถูกก็โดนตำหนิ ผมพูดว่าผิดก็โดนตำหนิแน่นอน อยากให้ทุกคนเอาหัวคิดตรึกตรองดูเจตนาทั้งผู้ให้และผู้รับตามเหตุและผล เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ผมมีความคิดดังนี้ครับ..เงินนั้นเป็นสิ่งสมมุติใช่ไหมเงินนั้นไม่มีความหมาย เลยใช่ไหมหากมันซื้ออะไรไม่ได้ใช่ไหมครับมันมีความหมายเพราะมันสามารถ แปรสภาพเป็นอะไรก็ได้ ตามที่เราต้องการ หากเราเอาเงินนั้นให้พระนั้นผิด ในทุกกรณี ไม่ว่าเงินนั้นจะแปรสภาพเป็นอะไรก็ต้องว่าเรียกว่าเงินใช่ไหม เราเอาเงินนั้นแปรสภาพ เป็นสังฆทาน เป็นเครื่องใช้เป็นนม ข้าวปลาอาหาร เครื่องนุ่งห่ม อิฐหินปูนทราย จิปาถะ สิ่งนั้นก็มาจากเงินใช่ไหมในสมัยนี้เราจะเอาสิ่งของต่างๆมาได้ยังไง ถ้าไม่มีเงิน เราเดินไปหยิบเอานม ไม่จ่ายเงินได้ไหมครับ ของทุกอย่าง ต้องใช้เงินซื้อมาทั้งนั้น สิ่งของที่เราซื้อมานั้นนั้นก็คือเงิน ไม่เชื่อลองเอาของที่เราซื้อมาไปขายต่อซิ มันก็กลับมาเป็นเงินเหมือนเดิมไช่ไหมครับ พูดด้วยเหตุและผลนะครับ
หาก เป็นอย่างนี้ พระคงต้องอดข้าวนอนใต้ต้นไม้แน่นอน โยมจะต้องไปทำนา ปลูกผัก หาปลา มาเลี้ยงพระ แล้วการปลูกผัก หาปลา ทำนา ก็จะต้องไม่มีเงินมาเกี่ยวข้อง ปุ๋ยไม่ต้องใส่ เพราะต้องใช้เงินซื้อ
จะปฏิเสธ ว่า ของทุกอย่างไม่ใช่เงินนั้นไม่ได้ เพราะสามารถ นำไปขาย กลับมาเป็นเงินได้
การไม่รับเงินนั้น ก็ต้องไม่รับสิ่งของนั้นๆด้วย เพราะมันแปรสภาพมาจากเงิน แล้วมันยังสามารถ
แปรสภาพกลับมาเป็นเงินเหมือนเดิมได้ ทุกสิ่ง ล้วนใช้เงินทั้งสิ้น แม้แต่ข้าวที่เรากิน ก็ต้องซื้อปุ๋ย
ซื้อเมล็ดพันธ์ มีค่าใช้จ่าย ต้นทุน จะมาบอกว่า ข้าวนี้ไม่ใช่เงินไม่ได้ เพราะว่ามันสามารถแปรสภาพ
กลับมาเป็นเงินได้อีก ผมว่าดูที่เจตนาคนให้และคนรับดีกว่า คือให้แล้วไม่สงสัย คนรับ ก็ไม่สงสัย
ผู้ให้หากสงสัยในเงินหรือสิ่งของที่จะให้ ก็ไม่ต้องให้ ผู้รับหากสงสัยในสิ่งของที่จะรับ ก็ไม่ต้องรับ
พระบางองค์ ไม่รับเงิน โยมวางให้ตรงไหนก็ปล่อยวางไว้ตรงนั้น ผมว่าไม่ถูกต้องนะครับ
ขอโทษนะครับ เหมือนเราเอาเมียเราแก้ผ้า มัดมือ มัดปาก วางไว้หน้าบ้าน จะเกิดอะไรขึ้นก็ช่าง
มันล่อตา พวกมิจฉาชีพ การที่จะเป็นสิ่งดี กลับมาสร้างบาป ให้คนขโมย บางครั้งเขาก็ไม่อยากขโมย
แต่มันง่าย ต่อการขโมยจึงต้องเอาไป สู้เราหยิบไปวางไว้ที่มิดชิดไม่ดีกว่าหรือ เงินทองที่
พระหยิบนั้น ก็ต้องไม่มีความสงสัยในการหยิบเลย ของสิ่งนี้มันแค่สิ่งสมมุติว่าเป็นเงินมีความจำเป็น
กับ ผู้คนเท่านั้นแต่มันไม่ใช่สิ่งจำเป็นและสำคัญสำหรับเราเลย ผมพูดถึงนิสัยพระที่ดีนะครับ ถ้าเจตนาดีอย่างนี้ จะผิดตรงไหนครับ ถ้าบอกว่าพระธรรมบัญญัติมาแล้วว่าผิด ให้เราก็ผิด ให้เพื่อคนอื่นก็ผิด แต่เจตนาไม่ผิดครับ หากสิ่งนี้ จะมีบางคน ไม่ชอบ ก็ขออภัยด้วยครับ ผมเพียงแต่อยากจะทำสิ่งดีๆ ก็เท่านั้นเองครับ มิได้ตำหนิ หรือว่าใครเลย พระธรรมคำสั่งสอนและความเชื่อนั้น มีและไปได้หลายๆทาง แต่จุดหมายนั้นก็ถึงเหมือนกันถึงแม้ว่าจะช้าไปบ้างดันไปตกนรกก่อนบ้าง เลยช้าไปหน่อย แต่สุดท้ายก็ได้ไปถึงเหมือนๆกันนั่นแหละครับ ขอบคุณทุกๆท่านครับ นานาจิตตัง!

จาก คุณ Wirut

อันที่จริงแล้วหลักธรรมทางพระพุทธศาสนานั้นมีลักษณะ  ที่ยืดหยุ่นได้ ถามว่าการให้เงินพระนั้นผิดมัย  บาปมัย
เรื่อง นี้   สมมติว่าพระรับเงินจากโยม  แล้วเอาเงินของโยมไปช่วยเหลือคนยากจน  เอาเงินไปสร้างโบส  สร้างวิหาร  สร้างศาลา ให้เป็นที่พักอาศัยแก่ผู้คนที่เข้ามาในวัด   อย่างนี้ผิดมัย  โยมเป็นบาปมัย   
       ถ้าพูดถึงตามหลัก วิัันัย เปะ ๆ  พระถึงไม่ได้รับเองใช้ให้ผู้อื่นรับแทนและให้เก็บไว้ให้ด้วยจิตยังมีความ ยินดีก็ถือว่าผิดเหมือนกัน  ดังที่ตรัสว่า  ภิกษุรับเองก็ดี  ใช้ให้ผู้อื่นรับก็ดี  หรือมีความยินดีในเงินและทองก็ดี  ต้องอาบัติ  การรับเงินผิดหรือไม่ผิดนั้นต้องดูบริบทและเจตนาทในสมัยนั้น  คือภิกษุจำนวนหนึ่งมีความโลภ แสวงหาทรัพย์ด้วยวิถีที่ไม่ใช่สมณะ  สร้างความเสื่อมเสียให้แก่หมู่สงฆ์  ก็เลยมีพุธบัญญัติข้อนี้ขึ้นมา
       แม้แต่พระพุทธเจ้าเองก็ยังเคยรับเงินและทองไว้  กล่าวคือในสมัยหนึ่ง  นางวิสาขาได้ใส่เครื่องประดับมีค่า ๘๐ โกฏิ ก่อนเข้าเฝ้าพระองค์นางได้ถอดไว้  ตอนกลับนางเลยลืมไว้  ด้วยความที่นางนั้นชอบทำบุญให้ทาน นางจึงได้ถวายเครื่องประดับนั้นเข้าหมู่สงฆ์  พระพุทธเจ้าให้พระอานนท์จัดนำเครื่องประดับนั้นไปประกาศขายเพื่อนำมาสร้าง วิหาร จะเห็นว่าพระองค์เองก็ยังมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องเงินและทองเลย   
        การบัญญัติสิกขาบทข้อนี้นั้นเป็นอุบายอย่างหนึ่ง  เพราะปัญหาต่าง ๆ มากมาย ที่ทำให้พระต้องสูญเสียคุณงามความดีก็เพราะเงิน  เงินนั้นเป็นเหตุให้ผู้คนเกิดความโลภ เกิดความอยาก อยากได้นั้น  อยากได้นี่ ทำให้จิตฟุ้งซ่านไม่เป็นอันปฏิบัติธรรม   แต่อันที่จริงแล้วทุกอย่างอยู่ที่ใจของเรา  อยู่ที่เจตนา  ผู้ที่จะเข้าใจได้ก็ต่อเมื่อได้บรรลุธรรมแล้ว
 ปัญหาหลายอย่างที่ผู้คนพา กันไปถามพระพุทธเจ้าแล้วพระองค์ไม่ตอบ เพราะตอบไปแล้วยิ่งก่อให้เกิดความสงสัย  ปัญหาไม่รู้จักจบสิ้น พระองค์ทรงหลีกที่จะตอบปัญหา  พระองค์กลับตรัสว่า ผู้ที่เข้าถึงกระแสธรรมแล้วจะเข้าใจเอง   การทำบุญไม่ว่าจะเป็นเงินหรือทองนั้น ย่อมได้บุญอยู่แล้วโดยไม่ต้องสงสัย  มีหลักที่ว่า
         1.ทรัพย์ที่ได้มานั้นต้องบริสุทธิ์  ไม่ได้ลักขโมยเขามา
         2.ก่อนให้  ขณะให้  และหลังให้ก็มีจิตยินดี มีปีติ ความเอิบอิ่มใจ
         3. ผู้รับเป็นผู้อยุ่ในคุณธรรม  ถ้าผู้รับไม่มีคุณธรรมก็มุ่งเอาที่ถวายเข้าหมู่สงฆ์โดยมีพระพุทธเจ้าเป็น ประมุข  อานิสงส์ก็ถือว่าได้มากแล้ว  นอกจากนี้พระองค์ก็ยังตรัสพระวินัยโดยอนุโลมไว้ด้วย

       
โอวาท ครั้งสุดท้าย
    "อานนท์ ! เมื่อเราล่วงลับไปแล้ว เธอทั้งหลายอาจจะคิดว่า บัดนี้พวกเธอไม่มีศาสดาแล้วจะพึงว้าเหว่ไร้ที่พึ่ง อานนท์เอย ! พึงประกาศให้ทราบทั่วกันว่า ธรรม วินัยอันใดที่เราได้แสดงแล้วบัญญัติแล้ว ขอให้ธรรมวินัยอันนั้นจงเป็นศาสดาของพวกเธอแทนเราต่อไป เธอทั้งหลายจงมีธรรมวินัยเป็นที่พึ่ง อย่าได้มีอย่างอื่นเป็นที่พึ่งเลย"
             "อานนท์ ! อีกอย่างหนึ่ง คือสิกขาบัญญัติที่เราได้บัญญัติไว้เพื่อภิกษุทั้งหลายจะได้อยู่ด้วยกัน อย่างผาสุก ไม่กินแหนงแคลงใจกัน มีธรรมเป็นเครื่องอยู่เสมอกัน สิกขาบทบัญญัติเหล่านั้นมีอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อเราล่วงลับไปแล้ว สงฆ์พร้อมใจกันจะถอนสิกขาบทเล็กน้อย ซึ่งขัดกับกาลกับสมัยเสียบ้างก็ได้ กาลเวลาล่วงไปสมัยเปลี่ยนไป จะเป็นความลำบาก  ในการปฏิบัติสิกขาบทที่ไม่เหมาะสมัยเช่นนั้น เราอนุญาตให้ถอนสิกขาบทเล็กน้อยได้
บัดนี้ พละกำลังของพระผู้มีพระภาคเจ้าเหลืออยู่น้อยเต็มทีแล้ว ประดุจน้ำที่เทราดลงไปในดินที่แตกระแหงย่อมพลันเหือดแห้งหายไป มิได้ปรากฏแก่สายตา ถึงกระนั้น พระบรมโลกนาถก็ยังประทานปัจฉิมโอวาทเป็นพระพุทธดำรัสสุดท้ายว่า
               "ภิกษุทั้งหลาย ! บัดนี้เป็นวาระสุดท้ายแห่งเราแล้ว เราขอเตือนเธอทั้งหลายให้จำมั่นไว้ว่า สิ่งทั้งปวง มีความเสื่อมและความสิ้นไปเป็นธรรมดาเธอทั้งหลายจงอยู่ด้วยความไม่ประมาท เถิด"
   

นอกจากนี้แล้วยังมีหลัก   มหาประเทส ๔ ในการตัดสินอีกด้วย จะเห็นว่าในหลักมหาประเทศ ๔ นั้น ให้ภิกษุปฏิบัติให้เกื้อกูลศาสนาและการไม่ทำลายศรัทธาของมหาชนเป็นหลัก
       พระวินัยเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก  ถ้าศึกษาแล้วต้องศึกษาทุก  แง่ทุกมุม ศึกพระวินัยเล่ม ๒ เล่ม ไม่พอ พระวินัยมีก็เล่ม ต้องอ่านให้หมด  แล้วพระสุตตันมีก็เล่มต้องอ่านให้หมดเช่นกัน
        ทำไมต้องอ่านพระสุตตันด้วย  เพราะบางครั้งในพระวินัยนั้นดูเหมือนว่า ภิกษุต้องปฏิบัติเคร่งครัดมาก  แต่เมื่อมาอ่านในพระสุตตันตปิฎก การเคร่งครัดมากไปก็ไม่ได้หมายความว่าจะบรรลุธรรมได้
        ภิกษุบางท่าน ศรัทธาในพระศาสนา ศึกษาเฉพาะในส่วนพระวินัย ก็จะเกิดเคร่งครัดมาก ทำผิดนิดผิดหน่อยไม่ได้เลย พระแทบจะเป็นพระอิฐ พระปูน เพราะแค่ขยับก็ผิดแล้วศีล  ฉะนั้นพระเเทบจะทำอะไรไม่ได้เลย
        ยิ่งถ้าเป็นคนทั่วไป  คนธรรมดาแล้วไม่ควรที่จะไปศึกษาวินัยของพระ  เพราะถ้าศึกษาแล้ว  คนจะเสื่อมศรัทธาทันที
        ถ้าอยากทำศรัทธาให้เกิดต้องศึกษาพระสุตตันตปิฎก

จากคุณ surat-2527

จาก http://www.zone-it.com/185938

หัวข้อนี้มีการพูดกัน มากผู้พูดไม่ได้เข้าใจ วิถีชีวิตของสงฆ์จริง ๆ ครับ

   1.พระสงฆ์ บวชเรียน ต้องใช้ปัจจัย

   2.พระสงฆ์ อยู่ในที่กันดารห่างไกลจากบ้านผู้คน ในป่า ในเขา เสบียงภาวนา ก็ต้องใช้เงิน

   3.พระสงฆ์ นักเผยแผ่ธรรมะ เดินทาง จัดอบรมเข้าค่าย ให้คววามรู้แก่เยาวชน ก็ต้องใช้เงิน

   4.พระสงฆ์ ที่ทำหน้าที่ตามตำแหน่งต่าง ๆ ล้วนแล้วก็ต้องใช้เงิน

      เรื่องนี้มีตัวอย่าง พระสงฆ์เป็นเจ้าอาวาส ได้นิตยภัตร ประมาณ ไม่เกิน 1 พันบาท
      มีประชุมทุกเดือน ในเมือง ท่านต้องเดินทาง  มีการขอให้ดำเนินการสมทบทุน เรื่อง มูลนิธิ 6 มูลนิธิประจำปี มูลนิธิ ละ 2500 บาท ที่ระดับเจ้าอาวาส ( คิดดูครับว่า นิตยภัตรยังไม่พอเลย ) การส่งเสริมอบรม พระภิกษุสามเณรภายใต้การปกครอง อีก

   และยังมีอีกหลายสาเหตุ ผมบอกตรง ๆ ว่า พระพุทธศาสนา มีการสืบทอดตามระดับธรรม คือ จริยธรรม ศีลธรรม โลกุตรธรรม ถ้าคุณเลือกที่จะดำเนินการให้เป็นไปแนวไหน ก็ต้องดูด้วย

   ผมเห็นผู้ออกมาเผยแผ่เรื่องนี้ มีการเลือกปฏิบัติ แนะแนวทางซึ่งทำลายเศรษฐกิจ สร้างจิตคนให้เพ่งเล็งซึ่งเป็นการจับผิดพระสงฆ์ ทั่วประเทศ ซึ่งการจับผิดก็มองเพียงภายนอก ไม่ได้เข้าใจแก่นแท้จริง เรื่องที่ควรรีบด่วนคือการภาวนา รักษากุศลบถ 10 ต่างหากเป็นเรื่อง ที่อุบาสก อุบาสิกา อย่างเราควรจะกระทำ

  นานาจิตตัง พูดไปก็เถียงกันอีกครับ

   :67:
24  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / เมื่อคิดย่อมไม่รู้ เมื่อไม่คิดย่อมรู้ -- หลวงปู่ดูลย์ อตุโล เมื่อ: มีนาคม 04, 2011, 07:57:00 am
"เมื่อคิดย่อมไม่รู้ เมื่อไม่คิดย่อมรู้" คำสอนนี้คงเป็นที่คุ้นหูกันดีสำหรับผู้ที่สนใจใฝ่ในธรรม แต่จะมีซักกี่คนที่เข้าใจควาหมายที่แท้จริงของคำสอนนี้ อย่างลึกซึ้ง จนสามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม เมื่อก่อนตัวผมก็เคยเข้าใจผิดคิดว่าการ "หยุดคิด" "ไม่คิด" ก็คือการจงใจ หรือตั้งใจกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อไม่ให้ตัวเองคิด แต่ก็โชคดีที่ได้รับการชี้แนะจากกัลยาณมิตรหลาย ๆ ท่าน จนสะมารถผ่านพ้นความเคยชินแบบเดิม ๆ นั้นมาได้

และในโอกาสนี้ ผมขอนำเอาคำสอนที่สำคัญนั้นมาแบ่งปันให้กัลยาณมิตรได้ศึกษากันครับ


เมื่อคิดย่อมไม่รู้ เมื่อไม่คิดย่อมรู้ -- หลวงปู่ดูลย์ อตุโล

เมื่อเราสังเกตกิริยาจิตไปเรื่อย ๆ จนเข้าใจถึงเหตุปัจจัยของอารมณ์ความนึกคิดต่าง ๆ ได้แล้ว จิตก็จะค่อย ๆ รู้เท่าทันการเกิดของอารมณ์ต่าง ๆ อามรณ์ความนึกคิดต่าง ๆ ก็จะค่อย ๆ ดับไปเรื่อย ๆ จนจิตว่างจากอารมณ์ แล้วจิตก็จะเป็นอิสระ อยู่ต่างหากจากเวทนาของรูปกาย อยู่ที่ฐานกำหนดเดินมั่นเอง การเห็นนี้เป็นการเห็นด้วยปัญญาจักษุ

"คิดเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ต่อเมื่อหยุดคิดจึงรู้ แต่ต้องอาศัยคิด"

เมื่อ สามารถเข้าใจได้ว่า จิตกับกายอยู่คนละส่วนกันได้แล้ว ให้ดูที่จิตต่อไปว่ายังมีอะไรหลงเหลืออยู่ที่ฐานกำหนด (จิต) อีกหรือไม่ พยายามใช้สติสังเกตดูที่จิต ทำความสงบอยู่ในจิตไปเรื่อย ๆ จนสามารถเข้าใจพฤติกรรมแห่งจิตได้อย่างละเอียดตลอดตามขั้นตอน (เข้าใจในความเป็นเหตุเป็นผลกันว่า เกิดจากความคิดนั่นเอง และความคิดมันออกไปจากจิตนี่เอง ไปหาปรุงหาแต่งหาก่อหาเกิดไม่มีที่สิ้นสุด มันเป็นมายาหลอกลวงให้คนหลง) แล้วจิตก็จะเพิกถอนสิ่งที่อยู่ในจิตไปเรื่อย ๆ จนหมด หมายถึงเจริญจิตจนสามารถเพิกรูปปรมาณูและวิญญาณที่เล็กที่สุดภายในจิตได้

เมื่อ เจริญจิตจนปราศจากความคิดปรุงแต่งได้แล้ว (ว่าง) ก็ไม่ต้องอิงอาศัยกับกฎเกณฑ์แห่งความเป็นเหตุเป็นผลใดๆ ทั้งสิ้น จิตก็จะอยู่เหนือภาวะแห่งคลองความคิดนึกต่าง ๆ อยู่เป็นอิสระ ปราศจากสิ่งใด ๆ ครอบงำอำพรางทั้งสิ้น เรียกว่า "สมุจเฉทธรรมทั้งปวง"

เมื่อธรรม ทั้งหลายได้ถูกถ่ายทอดไปแล้ว สิ่งที่เรียกว่าธรรมจะเป็นธรรมไปได้อย่างไร สิ่งที่ว่าไม่มีธรรมนั่นแหละ มันเป็นธรรมของมันในตัว (ผู้รู้น่ะจริง แต่สิ่งที่ถูกรู้ทั้งหลายนั้นไม่จริง)

จากหนังสือ ชุดธรรมะจากพระอริยสงฆ์ พระราชวุฒาจารย์ (หลวงปู่ดูล์ อตุโล)

จากคุณ    : NotBeSt
เขียนเมื่อ    : 3 มี.ค. 54 17:54:53
25  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / หนุ่มชาวจีนร้องเพลงกล่อมภรรยาที่เป็นเจ้าหญิงนิทราจนฟื้นได้ เมื่อ: มีนาคม 03, 2011, 04:39:58 pm
หนุ่มชาวจีนร้องเพลงกล่อมภรรยาที่เป็นเจ้าหญิงนิทราจนฟื้นได้
วันเสาร์ ที่ 19 ก.พ. 2554

ชมวีดีโอได้ที่ลิงก์นี้ครับ
http://www.mcot.net/cfcustom/cache_page/171551.html

จีน 19 ก.พ.- หนุ่มชาวจีนใช้พลังแห่งความรักปลุกภรรยาที่กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรามานานกว่า 8 ปี ให้กลับมาเป็นปกติได้อย่างปาฏิหาริย์

นายจาง ยู่หัว ชาวนาในมณฑลชานตง ปลุกภรรยาที่กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรามานานกว่า 8 ปี ด้วยการร้องเพลงให้ภรรยาฟังทุกวัน จนสามารถปลุกภรรยาขึ้นมาได้สำเร็จ นายจาง เล่าว่า ภรรยาป่วยหนักจนมีอาการโคม่า แพทย์ไม่อาจช่วยเหลือได้เพราะค่ายาแพงมาก ตนจึงตัดสินใจพาภรรยากลับมาบ้าน และตนก็ร้องเพลงให้ภรรยาฟังทุกวันด้วยความรัก นับแต่วันที่กลับจากโรงพยาบาลวันแรก ในที่สุดภรรยาก็เริ่มร้องไห้ตนก็เริ่มพูดคุยกับภรรยา แม้จะไม่มีอาการโต้ตอบ นายจาง ก็ยังไม่ละความพยายาม จนกระทั่งภรรยาฟื้นจากอาการเจ้าหญิงนิทราได้อย่างมหัศจรรย์. -สำนักข่าวไทย


อยากจะถามว่า

เป็นเพราะพลังใจ หรือกรรมสิ้นสุด หรือสมาธิจากเสียงเพลงครับ ที่รักษาให้คนหลับ 8 ปี ฟื้นขึ้นมาได้
หน้า: [1]