ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: โดนกีดกัน เพราะฐานะผมยากจนกว่าเขา ( ไม่รู้ขอคำปรึกษาถูกที่ หรือ ไม่ )  (อ่าน 10004 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ลูกคิด

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 117
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
คือผมเป็นคนที่มีฐานะ พอเลี้ยงชีพได้ พ่อแม่ ทำกสิกรรมเป็นชาวนา หาเช้ามาิกินกันค่ำ ทุกวัน พ่อแม่ส่งผมเรียนจนจบ ป.ตรี แล้วผมก็พยายามหางานทำที่มีเงินเดือน แต่หาได้แล้วก็ต้องกลับมาช่วยพ่อแม่ทำงาน เพราะเป็นลูกชายคนเดียวครับ ซึ่งก็ได้ใช้ความรู้ที่มีอยู่พอทำให้ ที่บ้านพออยู่ได้ไม่ลำบากแบบเมื่อก่อน เรื่องน่าจะไม่มีปัญหาอะไร แต่พอผมกับมาอยู่ที่บ้านก็ไปชอบ ผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเธอเป็นคนมีฐานะมาก ๆ ในตำบล ก็จีบกันไป จีับกันมาก็รู้ว่าต่างคนต่างก็รักกัน จนกระทั่งผมให้พ่อแม่ไปสู่ขอ ซึ่งทางฝั่งผู้หญิงพ่อแม่เขาเรียกสินสอด แบบที่ผมเองก็จนปัญญาจริง ๆ ครับ เงิน 500000 บาท ทอง 10 บาท

  สุดท้ายผมก็คอตก พ่อแม่ ผมบอกว่าต่อรองได้ไหม เขาบอกว่า ลูกสาวเขา ไม่ใช่ผัก ไม่ใช่ปลา ถ้าไม่มีปัญญาก็ต้องเจียมตัว ซึ่งจากวันนั้นมา ผมก็ถูกกีดกันจากผู้ใหญฝั่งผู้หญิงไม่ให้เข้าพบ

   เล่าพอให้ พี่ ๆ ลุง ๆ ป้า ๆ ได้พอทราบเรื่องนะครับ

   ตอนนี้จิตผมเป็น ทุกข์ มากอยากจะหนีไปบวช แต่ก็ห่วงพ่อแม่ ว่าเรากำลังทดแทนคุณสร้างฐานะให้แก่ตัวเราและพ่อแม่ แต่ความรักนี่มันทุกข์มากครับ จะมีทางออกใดที่ผมจะฟันฝ่าไปได้ ครับขอพี่น้อง ชาวธรรมช่วยแจ้งทางสว่างให้ผมด้วย นะครับ

   นั่งกรรมฐานไม่ได้ครับ ตอนนี้ใจมันทุกข์ เบื่อข้าว เบื่อน้ำ ไม่มีเรีี่ยวแรงอยากจะทำอะไร ( จริง ๆ ผมตอนนี้ก็ไม่ทำอะไรเลยครับตอนนี้ เอาแต่นอนกระสับกระส่าย มา 3 วันแล้ว ครับ )

   :'( :'( :'(
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28439
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



 
  หากเป็นไปได้ ควรหาโอกาสไปอ่านกระทู้เหล่านี้ อาจช่วยให้ทุกข์น้อยลง

   บุพเพสันนิวาส, เนื้อคู่, คู่ครอง, คู่กรรม และเหตุที่ผิดหวังในความรัก
   http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=7174.0

   ทำไมถึงบอกว่า ที่ใด มีรัก ที่นั่นมีทุกข์ คะ
   http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5959.msg22437#msg22437

   ความรักกับการอกหัก
   http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=4986.0

   อุทาหรณ์ สอนใจผู้หญิงในเรื่องความรัก ที่ยึดมั่น ถือมั่น ผิดทาง ขาดหลักธรรม
   http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=2256.msg8323#msg8323

   ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
   http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=348.0

    :49: :58: :58: :s_good:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ความรักนี่มันทุกข์มากครับ จะมีทางออกใดที่ผมจะฟันฝ่าไปได้ครับ ขอพี่น้องชาวธรรมช่วยแจงทางสว่างให้ผมด้วยนะครับ ตอนนี้ใจมันทุกข์ เบื่อข้าว เบื่อน้ำ ไม่มีเรีี่ยวแรงอยากจะทำอะไรจริง ๆ  ครับ

ถ้า ณ ขณะนี้ใจมันทุกข์ก็ รู้ อยู่ กับมันซะให้หนัก แล้วลากสังขารไปอธิษฐานขอบารมีหลวงปู่สุก ไก่เถื่อน นั่งภาวนา

จากนั้นวิจยะธรรมใคร่ครวญกลับไปมาเพื่อเรียกสติคืน แล้วจักสว่างเอง คลายได้ชั่วขณะ ยื้อยึดครวญธรรมหยั่งธรรม

บ่อยๆ เพื่อยกใจให้ห่างจากความคิดกลัดกลุ่ม ใจนั้นมันขุ่นสลัวเมามัวเพียงสำคัญว่ากายนี้เรา เรามี เป็นของเรา เขา

(เธอ) จึงสำคัญ ซึ่งแท้แล้วใจยังวางได้ไม่จริงไม่นิ่ง หากใจมันทุกข์ถึงที่สุดใจก็จักหน่ายวางคลายได้เอง วันนี้รักษา

ใจเราให้อยู่กับปัจจุบันขณะด้วยการวิจยะธรรม คือ ยกใจออกเสียจากอารมณ์รักห่วงหาอาลัยให้ได้ เท่านี้ลองทำดู
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 09, 2012, 09:18:30 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

หมิว

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 398
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ออกไปทำงาน เถอะคะ เดี๋ยวก็หาย ถ้ามัวนอนอยู่อย่างนั้น จะมีแต่ความทุกข์ ส่วนความไม่สมหวังเรื่องค่าสินสอดนั้นเป็นเพียงด่านทดสอบ คะ ถ้ารักกันจริง เป็นเนื้อคู่กันจริง ก็จะได้อยู่ร่วมกันเองคะ

  หากแม้นไม่สมหวัง ก็เป็นธรรมดาคะ เพราะเมื่อมีรัก ก็ต้องมีไม่สมหวังบ้างคะ

  :88:

บันทึกการเข้า
ใจดี น่ารัก และ ไม่ชอบคนที่กวน...ใจ
แสงพระธรรม นำทาง นำสู่ใจ ได้รับแสงสว่าง
แสงสว่างใดเสมอด้วยปัญญาไม่มี

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28439
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

บุพเพสันนิวาส, เนื้อคู่, คู่ครอง, คู่กรรม และเหตุที่ผิดหวังในความรัก

เหตุแห่งความรัก
   ปุถุชนผู้ยังละกิเลสไม่ได้ เกิดมาก็ย่อมต้องมีความรักทั้งหญิงและชาย พระพุทธเจ้าทรงแสดงเหตุที่ทำให้หญิงชายรู้สึกรักกันไว้ใน สาเกตชาดก พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๙ ดังนี้

  “ ข้าแต่พระผู้มีพระภาค เหตุไรหนอ เมื่อบุคคลบางคนในโลกนี้พอเห็นกันเข้าก็เฉย ๆ หัวใจก็เฉย บางคนพอเห็นกันเข้า จิตก็เลื่อมใส ”
  “ ความรักนั้น ย่อมเกิดขึ้นด้วยเหตุ ๒ ประการ คือ
    ด้วยการอยู่ร่วมกัน ในกาลก่อน ๑
    ด้วยความเกื้อกูลต่อกันในปัจจุบัน ๑ ”
    " เหมือนดอกอุบลและชลชาติ เมื่อเกิดในน้ำ ย่อมเกิดเพราะอาศัยเหตุ ๒ ประการ คือ น้ำและเปือกตม ฉะนั้น ”


    จึงจะเห็นว่าการที่หญิงชายมารักกัน ชอบกัน และอาจได้อยู่ร่วมกันนั้นไม่ใช่เหตุบังเอิญ
    แต่มีปัจจัยมาจาก ๒ ประการดังที่พระพุทธองค์ทรงแสดงเหตุให้รู้
    แต่ก็ยังมีข้อสงสัยที่เกี่ยวเนื่องกับความรัก คู่ครอง เนื้อคู่ ฯลฯ อีกมากมาย



ความหมายและประเภทของ"คู่"
๑.บุพเพสันนิวาส คือ การได้เคยอยู่ร่วมกันในอดีตชาติ จนส่งผลให้ได้มาเป็นคู่ครองกันในปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่จะคิดว่าเคยอยู่ร่วมกันเป็นสามีภรรยาเท่านั้น
   แต่แท้จริงแล้ว บุพเพสันนิวาส หมายถึง การที่อาจจะได้อยู่ร่วมกันในฐานะอื่นก็ได้ เช่น พี่กับน้อง พ่อกับลูก แม่กับลูก ครูกับศิษย์ นายกับบ่าว เป็นต้น

   การที่มีบุพเพสันนิวาสร่วมกันนี้เมื่อเกิดมาร่วมกัน ก็มักจะสร้างบุญสร้างกุศลร่วมกันมา ทำอะไรตามกัน มีความเห็นสอดคล้องกัน ทำให้อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข


๒.เนื้อคู่ คือ หญิงและชายที่เคยได้ใช้ชีวิตร่วมกัน เป็นสามีภรรยากันมาก่อนในอดีตชาติ

๓.คู่ครอง คือ หญิงและชายที่ใช้ชีวิตร่วมกัน เป็นสามีภรรยากันในชาติปัจจุบัน

๔.คู่กรรม คือ หญิงและชายที่ใช้ชีวิตร่วมกันเป็นสามีภรรยา แต่มักไม่มีความสุข เนื่องจากการมาอยู่ร่วมกันนั้นเกิดจากวิบากของกรรมที่ทำร่วมกันหรือวิบากกรรมที่มีต่อกันมาส่งผล เช่น อาจเคยทำบาปร่วมกัน หรือเคยเป็นศัตรูกันมาก่อนเป็นต้น

๕.คู่บารมี คือ เนื้อคู่ที่ได้ติดตามกันมา ส่งเสริมกันและกันในทางที่ดี ได้ใช้ชีวิตร่วมกันในฐานะสามีภรรยาร่วมกันนับชาติไม่ถ้วน และจะติดตามกันต่อไปจนกว่าจะสามารถหลุดพ้นจากวัฏสงสารได้ มักใช้คำนี้กับพระโพธิสัตว์ที่บำเพ็ญบารมีกับเนื้อคู่ลำดับ ๑ ที่จะได้เป็นคู่ครองกับในชาติสุดท้าย



เหตุแห่งการได้อยู่ร่วมกัน
ดังที่พระพุทธองค์ได้แสดงเหตุที่หญิงชายได้รักและได้เป็นสามีภรรยากันนั้นมี ๒ ปัจจัย คือ
    • การได้อยู่ร่วมกันในกาลก่อน
    • การได้เกื้อหนุนกันในชาติปัจจุบัน

    เนื่องจากวัฎสงสารยาวไกลจนหาจุดเริ่มต้นและที่สุดไม่ได้
    หญิงชายแต่ละคนจึงมีเนื้อคู่มากมายเป็นแสนคน
    แต่ละชาติที่เกิดมาก็อาจได้พบเจอเนื้อคู่ได้หลาย ๆ คนพร้อมกัน หรืออาจไม่ได้เจอเนื้อคู่เลยสักคนก็เป็นได้
    กรณีที่ไม่เจอเนื้อคู่เลยนั้น หญิงชายนั้นก็อาจมีคู่ได้กับบุคคลใกล้ชิดที่ได้เกื้อหนุนกันในปัจจุบัน ซึ่งเมื่อได้เป็นคู่กันในปัจจุบันแล้วหญิงชายนั้นก็จะได้เป็นเนื้อคู่กันต่อไป



ลำดับของเนื้อคู่
    เพราะเหตุที่แต่ละคนมีเนื้อคู่จำนวนมากมาย จึงเป็นที่น่าสงสัยว่าแล้วใครกันเล่าที่สมควรจะได้อยู่เป็นคู่ครองกันมากที่สุด และจะมีวิธีการเลือกอย่างไร
    แม้จะมีเนื้อคู่จำนวนมากมาย แต่จะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เมื่ออยู่ร่วมกันแล้วมีความสุขที่สุด
    เมื่อพบหน้ากันแล้วไม่อาจตัดใจรักให้ขาดจากกันได้
    บุคคลนี้ คือ เนื้อคู่ที่ได้อยู่ร่วมกันมามากที่สุดเป็นแสนเป็นล้านชาติ เป็นเนื้อคู่ลำดับที่ ๑


   กฎแห่งกรรมจะจัดสรรการมีคู่ไว้ให้เราเรียบร้อย คือ หากเรามีเนื้อคู่เกิดมาพร้อมกัน ใจเราจะเป็นผู้เลือกเนื้อคู่ลำดับต้นเสมอ เมื่อเลือกแล้วคู่ลำดับอื่นเขาจะหลีกทางและไปหาคู่ของเขาต่อไป
   แต่กฎแห่งกรรมอีกเช่นกัน ที่บางชาติ กลับทำให้คู่ลำดับต้น ๆ ได้มาพบกันทีหลัง หลังจากที่อีกฝ่ายได้เลือกคู่ครองไปแล้ว

   ซึ่งแม้จะได้พบกันทีหลัง แต่เพราะเป็นคู่ลำดับต้น จิตใจของทั้งคู่ก็จะร้อนรนทนไม่ไหว จึงต้องรักกันอีกครั้ง
   ซึ่งความรักครั้งนี้ต้องหัก ต้องบังคับฝืนใจกันอย่างเต็มกำลัง
   กล่าวกันว่าแม้พระภิกษุผู้มั่นคงในศีล เมื่อได้เจอเนื้อคู่ลำดับต้น ๆ ยังทนไม่ได้ ต้องสึกหาลาเพศมาอยู่กับเนื้อคู่ของตนจนได้


   เหตุที่เนื้อคู่ลำดับต้นมาเกิดในชาติภพเดียวกัน แต่กลับไม่สมกันนั้น มีเหตุเดียว คือ กรรมพลัดพรากได้มาส่งผลเป็นวิบากแก่ทั้งคู่อย่างร้ายแรง หากกรรมนั้นใกล้จะหมดผล เขาทั้งสองก็อาจได้เป็นคู่ครองกันในชาตินั้น
   แต่หากกรรมนั้นยังรุนแรงอยู่ ทั้งสองก็ต้องทนทุกข์ทรมานชดใช้กรรมนั้นให้หมด แล้วจึงจะได้มีวาสนาอยู่ร่วมกันในชาติต่อ ๆ ไป




เหตุที่อกหักผิดหวังในความรัก
    นอกจากการผิดหวังจากเนื้อคู่ลำดับต้น ๆ ซึ่งเกิดจากกรรมพลัดพรากแล้ว บางครั้งคนเราก็อาจต้องผิดหวังในความรัก โดยมีเหตุมาจากกรรมทั้งสิ้น คือ อยู่กับคู่ครองไม่มีความสุข ทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นประจำหรือมีปัญหาให้ทุกข์ใจตลอด

    เหตุที่เป็นดังนี้ แสดงว่าคู่ครองนั้นไม่ใช่เนื้อคู่ลำดับที่ ๑-๕
    เนื่องจากกรรมจากการเป็นคนไม่ดี ไม่มีศีลธรรมส่งผลให้ ไม่ได้พบเนื้อคู่ลำดับต้น ๆ
    หรืออาจเป็นเพราะทั้งสองไม่ใช่เนื้อคู่กัน แต่ทั้งคู่เป็นศัตรูคู่อาฆาต ได้เคยผูกใจเจ็บกันมา
    ชาตินี้จึงต้องมาแก้แค้นกันเอง และแรงอาฆาตได้ผลักดันให้ทั้งสองมาอยู่ร่วมกัน และแก้แค้นกันเองตามแรงอาฆาตนั้น


    หรือบางคนรักเขาข้างเดียว อกหักบ่อยครั้ง โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจด้วยเลย
    เหตุนี้เกิดขึ้นเนื่องจากอดีตชาติเคยอาฆาตเขาไว้ แต่เขาไม่ได้อาฆาตตอบและไม่ได้ถือโกรธด้วย
    ชาตินี้จึงต้องทนทุกข์ทรมานเพราะเขาอยู่เพียงฝ่ายเดียว อย่างนี้ไม่ได้เป็นเนื้อคู่ เป็นเพียงคู่กรรมเท่านั้น


ทำอย่างไรจึงจะได้อยู่ร่วมกัน
    เมื่อความรักหวานชื่น คู่ครองทั้งหลายย่อมต้องอยากเกิดมาเป็นเนื้อคู่กันอีก ซึ่งผลกรรมก็ได้จัดสรรการเกิดมาเป็นคู่ครองกันอีกตามที่ได้กล่าวมาแล้ว
    แต่นอกจากการรอให้กรรมเป็นตัวจัดสรรแล้ว เรายังสามารถเลือกที่จะได้พบและอยู่เป็นคู่ครองกับเนื้อคู่ของเราได้ในอนาคต โดยการอธิษฐาน แต่แม้จะมีอธิษฐานร่วมกัน สุดท้ายการได้อยู่ร่วมกันก็ยังต้องขึ้นอยู่กับกฎแห่งกรรมอยู่ดี


    การอธิษฐานนั้นมีทั้งประโยชน์และโทษ คือ ในด้านประโยชน์ ทำให้เนื้อคู่ทั้งสองมีโอกาสกลับมาเป็นคู่ครองกันในชาติต่อ ๆไป ได้ง่าย แต่ในแง่ของโทษ บางครั้งก็ทำให้การใช้ชีวิตไม่เป็นปกติสุข เช่น

    หากเนื้อคู่ที่อธิษฐานกันไว้ไม่ได้มาเกิด หรือมาเกิดแล้วแต่ยังไม่ได้พบกัน ฝ่ายที่รออยู่จะไม่สามารถมีคู่ได้ จิตใจไม่รักใคร หรือแม้จะได้พบเนื้อคู่ลำดับต้น ๆ แต่ก็มีเหตุให้ไม่สมหวังทุกครั้งไป เนื่องจากแรงอธิษฐานนั้นฉุดรั้งไว้ หรือบางครั้งจิตใจมีสังหรณ์อยู่เสมอว่ารอคอยใครอยู่ ทั้งที่ไม่รู้ว่ารอคอยใคร



การแก้ปัญหาเรื่องอธิษฐาน
    หากแน่ใจว่าเนื้อคู่ที่อธิษฐานกันไว้คงไม่ได้พบเจอกันแน่แล้ว หรืออยากจะปล่อยวางเพื่อมีโอกาสได้ตัดสินใจกับเนื้อคู่ลำดับอื่น สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงอธิษฐานขออนุญาตเนื้อคู่ว่า ขอละคำอธิษฐานนั้น ขอให้ชีวิตได้พบเนื้อคู่ที่สมกัน และได้ใช้ชีวิตคู่อย่างปกติและมีความสุข


คู่บารมี
    สุดท้ายคือเรื่องของคู่บารมี เป็นคู่สำคัญ เป็นคู่ที่ยาวนาน เพราะต้องร่วมกันสร้างบารมีขณะที่ฝ่ายหนึ่งเป็นพระโพธิสัตว์ และอีกฝ่ายหนึ่งเป็นเนื้อคู่ที่จะเคียงข้างกันไป การเป็นพระโพธิสัตว์นั้นต้องการกำลังใจที่เข้มแข็ง มั่นคง และเสียสละความสุขทั้งปวงเพื่อประโยชน์ของสัตว์โลก พระโพธิสัตว์นั้นต้องใช้เวลายาวนานมากในการสร้างบุญบารมีกว่าที่จะสามารถตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้
    อย่างเร็วที่สุดก็ต้องใช้เวลาถึง ๒๐ อสงไขยกับเศษแสนมหากัป
    และอย่างช้าก็เนิ่นนานจนถึง ๘๐ อสงไขยกับเศษแสนมหากัปเลยทีเดียว

    คนที่ตั้งใจเป็นคู่บารมีจึงต้องมีความเสียสละและเด็ดเดี่ยวไม่แพ้กันบุคคลผู้ปรารถนาเป็นคู่บารมีนั้น จะเป็นผู้ที่ได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมากที่สุดได้เป็นคู่ครองกันมากที่สุด และเป็นเนื้อคู่ลำดับ ๑ อย่างเที่ยงแท้

    การเป็นคู่บารมีนั้นลำบากมากยิ่งนัก เพราะคนเป็นคู่บารมีนั้นจะต้องพบกับสิ่งต่อไปนี้ คือ
    ต้องเกิดเป็นผู้หญิง ไม่ได้เกิดเป็นผู้ชาย
    ต้องช่วยพระโพธิสัตว์ทำงานอย่างเต็มกำลัง ในบางชาติอาจต้องร่วมสร้างบารมีกับพระโพธิสัตว์ เช่น ต้องสละชีวิตร่วมกัน ต้องถูกบริจาคลูก หรือตัวเองเพื่อเสริมบารมีให้พระโพธิสัตว์ เป็นต้น
    ตราบใดที่พระโพธิสัตว์ยังไม่ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า คู่บารมีนั้นก็ยังไม่มีโอกาสบรรลุโลกุตรธรรมได้



อ้างอิง
บทความจาก ธรรมะเดลิเวอรี่ โดยคุณอังคาร
http://www.dhammadelivery.com
http://www.kroobannok.com/blog/26423
ขอบคุณภาพจาก
http://iam.hunsa.com/,http://drama.zubzip.com/,http://i4.ytimg.com/,http://www.palapanyo.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

pinmanee

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 163
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
มั่นคงในรัก ก็ต้องลุกขึ้นสู้ชีวิต เราต้องอยู่ได้ สิคะ ไม่ใช่เรื่องแค่นี้ ก็มานั่งทอดอาลัย ทำให้พ่อแม่เป็นห่วง ทำหน้าที่ที่ควรทำเสียสิคะ การดูแล พ่อ แม่ นั้นเป็นเรื่องสำคัญที่คุณทุ่มเทไว้ พอบุคคลที่มาที่หลัง มาอย่างนี้คุณกับลืมหน้าที่ของคุณทำให้พ่อแม่ ต้องเป็นทุกข์ตามไปด้วยไม่ถูกนะคะ
 
  ชีิวิตคู่ จะจีรังยั่งยืนจริงหรือคะ เห็นหญิงชาย แต่งงานอยู่กินกัน หย่าร้างกันมากมาย คุณคิดว่าชีิวิตของคุณจะไม่เป็นอย่างนั้นหรือคะ ดูดาราสิคะแต่งกันเป็นสิบล้าน ก็ยังหย่ากัน ....

   รักแท้ ต้องมั่นคง ต้องสู้ชีิวิต การเห็นคนรักมีความสุข น่าจะเป็นเหตุผลที่ดีมากที่สุด นะจ๊ะ
 :58: :34:
บันทึกการเข้า

Lux

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 113
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เป็นผู้ชาย ต้องอดทนสิคะ ยิ่งถ้าได้ศึกษาหลักธรรมด้วย ควรใช้หลักธรรมให้เป็นประโยชน์

การปล่อยวาง ควรเป็นสิ่งที่ต้องนำมาปฏิบัติก่อน

 แผ่ส่วนบุญให้เทวดา ประจำตัวสิคะ ..... เนื่องด้วยเทวดาเรายังไม่แข็งแรง

บันทึกการเข้า
อยากให้ทุกคนได้มีรอยยิ้ม มีความสุข แม้แบบชาวโลก
อยากให้ทุกคนไม่มีทุกข์ มีแต่สุข ในการภาวนา
อยากหนอ .... ก็ทุกข์หนอ ใช่หรือไม่จ๊ะ

ก้านตอง

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +4/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 195
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
รักเหมือนยุง เวลากินอิ่มก็บินจากไป

รักเหมือนต้นไม้ ต้องการคนเอาใจใส่ดูแล

รักเหมือนลม ทำให้หนาวทั้งตัวและหัวใจ

รักเหมือนไฟ อบอุ่นแต่ก็พร้อมจะทำลาย

รักเหมือนกระดาษ เริ่มต้นจากความว่างเปล่าแล้วค่อยมีเนื้อหา

รักเหมือนถ้ำ ที่ตอนแรกดูมืดๆน่ากลัวแต่ถ้าเดินทางต่อไปจะพบว่ามันงดงาม

รักเหมือนสายรุ้ง มีหลายสีหลายอารมณ์

รักเหมือนโทรศัพท์มือถือ เบื่อรุ่นนี้ก็ต้องเปลี่ยนรุ่นใหม่

รักเหมือนฝน ที่ตกลงมาให้ชุ่มฉ่ำแต่นานไปก็ทำให้เราหนาว

รักเหมือนน้ำและอาหาร ที่เราต้องการเพื่อทำให้ชีวิตอยู่รอด

รักเหมือนหมอก บางทีก็มองไม่เห็นว่าจะฝ่ามันไปหาแสงได้อย่างไร

รักเหมือนแสงอาทิตย์ สว่างสดใสเสมอ

รักเหมือนคอมพิวเตอร์ บางทีก็แฮงค์เป็นเหมือนกัน

บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28439
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
หยอดเหรียญ 7 ปี หนุ่มรักทรหด ได้เงินแสนขอแฟน
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: เมษายน 10, 2012, 03:16:03 pm »
0



หยอดเหรียญ 7 ปี หนุ่มรักทรหด ได้เงินแสนขอแฟน

หนุ่มเมืองคอนพิสูจน์รักแท้ หยอดเหรียญใส่ถังน้ำดื่มพลาสติค 7 ปี นำเป็นสินสอดแต่งครูสาวชื่นมื่น ญาติช่วยนับเหรียญนับเงินได้ 1.6 แสนบาท วันแต่งหามกระปุกยักษ์มอบเป็นสินสอด...

นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ส.ส.เขต 4 จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2553 ที่ผ่านมา ตนเองพร้อมด้วย นายมาโนชญ์ วิชัยกุล บิดา ซึ่งเป็นอดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรค ปชป.หลายสมัย ได้รับเชิญไปเป็นสักขีพยานในงานแต่งงานของคู่บ่าวสาว

โดยฝ่ายเจ้าบ่าวเป็นญาติสนิทมีศักดิ์ เป็นน้องชายของตน คือ นายอภิเดช วิชัยกุล หรือ”ไก่”อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 7 ต.เสาเภา อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ส่วนเจ้าสาวคือ น.ส.อัญธิกา หรือ ”น้องปั้ม” ทิพย์มนตรี อายุ 25 ปี เป็นครูสอนอยู่โรงเรียนบ้านเปร็ต อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช

โดย พิธีมงคลสมรสจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่บ้านของเจ้าสาวเลขที่ 126/1 หมู่ 5 ต.เสาเภา อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ท่ามกลางเพื่อนฝูงและบรรดาแขกหรื่อนับพันคนที่ไปร่วมแสดงความยินดีและเป็น สักขีพยานจำนวนมาก

ทั้งนี้ นางสาวพิมพ์ภัทรา กล่าวอีกว่า สิ่งที่แปลกกว่างานแต่งงานหรือพิธีวิวาห์ทั่วไป ๆ ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับตนและแขกหรื่อที่ไปร่วมงานก็คือ
    ในขบวนขันหมากของเจ้าบ่าวได้หามกระปุกออมสินยักษ์
    ซึ่งทำด้วยถังน้ำดื่มพลาสติกขนาดบรรจุน้ำ 20 ลิตร
    ภายในใส่เหรียญเงินตั้งแต่มูลค่าเหรียญละ 25 สตางค์ถึงเหรียญละ 10 บาทเต็มถังน้ำ
    ไปมอบให้กับเจ้าสาวเป็นค่าสินสอด ซึ่งในขบวนแห่ขันหมากของฝ่ายเจ้าบ่าวไปยังบ้านของเจ้าสาว
    ต้องเดินเท้าเข้าไปหลายร้อยเมตร



นายอภิเดช เจ้าบ่าว ได้ใช้ผ้าสีแดงห่อถังน้ำดื่มที่หยอดเหรียญใส่ไว้ข้างในเต็มกระป๋องหนัก ประมาณ 30-40 กิโลกรัม และใช้หวายทำเป็นสาแหรกสอดไม้คานหามให้เพื่อนเจ้าบ่าว 2 คน หามไปยังบ้านของเจ้าสาว เพื่อมอบเป็นสินสอด ท่ามกลางความสนใจของผู้ที่ไปร่วมงานทั้งฝ่ายเจ้าบ่าวและฝ่ายเจ้าสาว

หลังจากเสร็จสินพิธีมงคลสมรสญาติ ๆ ของฝ่ายเจ้าสาวได้ช่วยกันนับเหรียญที่เทออกมาจากถังน้ำดื่มน้ำได้จำนวนรวมกว่า 1.6 แสนบาท สร้างความประทับใจให้กับเจ้าสาวและญาติ ๆ รวมทั้งแขกหรื่อเป็นอย่างมาก

ทางด้านนายอภิเดช เจ้าบ่าว เปิดเผยว่าหลังจากที่ตนเรียนจบระดับ ปวช. จากเทคโนโลยีบางกุ้ง จ.สุราษฏร์ธานี ได้กลับมาช่วยพ่อแม่คือนายสังข์วร วิชัยกุล ปัจจุบันอายุ 55 ปี นางสาวภา วิชัยกุล ปัจจุบันอายุ 52 ปี ทำการเกษตร

จนมีโอกาสได้พบรักกับ น.ส.อัญธิมา หรือน้องปั้มเจ้าสาว ซึ่งกำลังเรียนระดับมัธยมปลายอยู่ที่โรงเรียนประจำอำเภอ ตนและน้องปั้มได้สัญญากันด้วยวาจาว่าหากน้องปั้มเรียนจบก็จะไปสู่ขอแต่งงาน ด้วย

จากนั้นตนได้เริ่มต้นทำธุรกิจน้ำดื่มยี่ห้อ”แฟมิลี่” จำหน่ายในหมู่บ้านจนได้รับความนิยมในระดับหนึ่ง ซึ่งเงินที่ได้จากการจำหน่ายน้ำดื่มส่วนใหญ่จะเป็นเหรียญ ตนจึงได้นำเหรียญที่ได้ทั้งหมดซึ่งถือเป็นกำไรมาหยอดใส่ถังน้ำดื่มขนาด 20 ลิตร โดยตนทำธุรกิจจำหน่ายน้ำดื่มอยู่มานาน 7 ปี

ในขณะที่น้องปั้มก็มุมานะตั้งใจเรียนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยสงขลา นครินทร์ หรือ มอ.ปัตตานี และทั้งตนและน้องปั้มได้ยึดมั่นในคำสัญญามาตลอด จนน้องปั้มเข้าทำงานเป็นครูสอนอยู่ที่โรงเรียนบ้านเปร็ต อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราชจึงเริ่มปรึกษาถึงเรื่องการแต่งงาน



ซึ่งญาติของทั้งสองฝ่ายก็ไม่ขัดข้องโดยทางพ่อแม่ของน้องปั้มคือ นายวิสุทธิ์ และนางอภิญญา ไม่ขอเรียกสินสอดใด ๆ จากตนแม้แต่น้อย บอกว่าแล้วแต่ว่าทางฝ่ายตนจะให้เท่าไรก็ได้

“ในขณะที่พ่อแม่และญาติ ๆ ของตนได้รวบรวมเงินให้ตนกว่า 1 แสนบาทเพื่อใช้เป็นสินสอดให้กับทางพ่อแม่ฝ่ายเจ้าสาว แต่ตนก็ปฏิเสธไม่ยอมรับเงินช่วยเหลือ แต่จะขอใช้เงินเหรียญที่ตนหยอดใส่ถังน้ำดื่มพลาสติคที่อุตส่าห์เก็บหมอรอม ริบมาตลอด 7 ปี

โดยไม่เคยนับว่ามีจำนวนเท่าไร่และได้หามไปมอบให้กับพ่อแม่เจ้าสาวในวัน แต่งงานเลยทีเดียว จนเมื่อมีการนับเงินในกระป๋องน้ำได้มากถึงกว่า 1.6 แสนบาท

โดยตนมั่นใจในตัวน้องปั้มเจ้าสาวของตนเป็นอย่างมากเพราะเป็นตลอดเวลากว่า 7 ปีแม้จะสัญญากันด้วยวาจา แต่น้องปั้มเจ้าสาวมั่นคงในคำมั่นสัญญามากและรักเดียวใจเดียวมาตลอด ทำให้ตนมั่นใจและเชื่อว่าน้องปั้มจะเป็นภรรยาที่ดีของตนและเป็นแม่ที่ดีของ ลูกตลอดไป”

ในขณะที่นางสาวอัญธิกา หรือน้องปั้ม เจ้าสาวเปิดเผยว่า หลังจากที่ให้คำมั่นสัญญาต่อกันเมื่อ 7-8 ปีก่อน ตนพบว่าพี่ไก่ เจ้าบ่าวเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย ขยันขันแข็งทำมาหากิน โดยเมื่อทราบว่าพี่ไก่ พยายามเก็บเงินด้วยการหยอดกระปุกซึ่งทำด้วยถังน้ำดื่มยิ่งทำให้ตนมั่นใจและ รักในผู้ชายคนนี้มากยิ่งขึ้น

ประกอบกับพี่ไก่อายุ 32 ปี มากกว่าตน 7- 8 ปี ยิ่งทำให้ตนมั่นใจในความเป็นผู้ใหญ่ของพี่ไก่ที่จะเป็นผู้นำครอบครัวที่ดี ให้กับตนและลูก ๆ ตลอดไปอย่างแน่นอน ตนมีความสุขมาก ๆ ที่ได้แต่งงานกับพี่ไก่ โดยจะยึดมั่นเป็นภรรยาที่ดีของพี่ไก่ตลอดไป น้องปั้ม เจ้าสาวผู้โชคดีกล่าวในที่สุด



ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
http://www.thairath.co.th/content/region/82322



อัปโหลดโดย oh2n เมื่อ 3 ก.พ. 2011
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 10, 2012, 03:32:40 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
- หากเมื่อคุณทำให้ถึงที่สุดแล้ว พิสูจน์ในรักแท้ของคุณแล้ว แต่ทว่ายังไม่อาจทำให้ พ่อ แม่ ครอบครัว ฝ่ายนั้นพอใจ เพียงพอได้ ให้คุณระลึกไว้อย่างนี้ก่อนว่า พ่อ-แม่ รักลกทุกคน ไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากให้ลูกมาลำบากตรากตรำ จึงพยายามที่จะหาสิ่งที่ดีที่สุดให้บุตร ให้เข้าใจจิตใจของคนที่เป็นพ่อแม่คนก่อนนพะครับ เพื่อลดความคิดเครียดแค้นตีตราฟุ้งซ่านในท่านเหล่านั้นลงและเข้าใจถึงคำว่าพ่อแม่ เหกมือนพ่อแม่ที่เลี้ยงคุณมาลำบากแค่ไหนก็ต้องทนทำ เพื่อหาสิ่งดีๆให้คุณ หวังให้คุณมีความสุขสบาย
- เมื่อคุณเข้าใจในเรื่องข้างต้นแล้ว ให้คุณมองเห็นสัจธรรมดั่งนี้ว่า
๑. คนเราย่อมประสบกับความผิดหวัง ไม่เป็นดังหวัง-ปารถนาตั้งใจ-ใคร่ได้เป็นธรรมดา พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสไว้อย่างนี้ว่า ปารถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้น นั่นก็เป็นทุกข์ หากเราเข้าใจในสัจธรรมนี้แล้วลดละความปารถนา ตั้งหวัง ใคร่ได้ ทะยานอยากลง เราก็จะทุกข์น้อยลง จนถึงความไม่ติดข้องใจ-ไม่สำคัญมั่นหมายกับสิ่งใดๆตั่งมั่นไว้ในใจ ทุกข์ก็ลดลง หรือ ไม่ทุกข์เลยกับมัน
๒. คนเรานั้มีความพรักพรากเป็นที่สุด ไม่อาจล่วงพ้นจากความพรัดพรากจากบุคคลที่รัก สิ่งของที่รักนั้นไปได้ จะต้องพรัดพรากไปไม่ด้วยทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่ว่าจะด้วยกาลเวลา การดูแลรักษา สภาพแวดล้อมรอบๆตัว ฯลฯ ดังนั้น พระพุทธเจ้าจึงตรัสไว้เช่นนี้ว่า ความพรัดพรากจากสิ่งที่รัก ที่พอใจ ที่จำเริญใจทั้งหลายนั้น นั่นก็เป็นทุกข์ เมื่อเข้าใจว่าเราทั้งหลายย่อมมีความพรัดพรากเป็นที่สุด ให้พึงเข้าถึงสัจธรรมนี้เพื่อมีใจสู่ความเป็นอุเบกขาแห่งจิตทุกข์เราจะลดลง เบาบางลง จนถึงไม่ทุกข์เลย (บางครั้งเมื่อคนที่เจอสภาพนี้แรกๆ ก็จะมองว่าพูดง่าย ทำยาก ใครไม่เจอไม่เข้าใจหรอก เว้นแต่จนเมื่อบุคคลนั้นมีสมาธินิ่ง สงบ พิจารณาเห็นตามจริงดังสัจธรรมนี้ ก็จะเข้าใจและลดทุกข์ลง เมื่อแรกๆคงยากที่จะบอกให้เข้าใจได้ แต่หากลองคิดย้อนกลับดูว่า ถึงแม้เราร้องไห้โศรกเศร้า ร่ำไร รำพัน คับแค้นกาย-ใจ ไปจนตาย สิ่งเหล่านั้น บุคคลเหล่านั้นก็หาจะหวนคืนกลับมาได้ ทุกสิ่งทุกอย่างไม่อาจจะไปบังคับจับยึด ให้คงอยู่กับเราตลอดไป ให้เป็นไปตามที่ใจเราต้องการได้ ทุกอย่างมีคสามเสื่อมสลายเป็นธรรมดาไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งดังที่ผมได้กล่าวมา จึงขึ้นชื่อว่า ไม่เที่ยง ไม่มีตัวตน มันเป็นทุกข์)
๓. เราทั้งหลายนั้นย่อมประสบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รักที่พอใจเป็นแน่แท้ เราจะต้องเจอกับสิ่งที่ไม่ปารถนาใคร่ได้ต้องการ เจอสิ่งที่ไม่ชอบ ไม่อยากได้ ไม่พอใจยินดี เจอการพรัดพรากจากสิ่งที่รักที่พอใจทั้งหลาย เจอความผิดหวัง จะล่วงพ้นหลีหนีสิ่งนี้ไปไม่ได้เลย พระพุทธเจ้าจึงตรัสไว้ว่า ความประสบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รักที่พอใจทั้งหลานนั้น นั่นก็เป็นทุกข์ หากเราเข้าใจในสัจธรรมนี้แล้วลดละความสำคัญมั่นหมายของใจว่าสิ่งนี้ชอบ ไม่ชอบ พอใจ ไม่พอใจ ให้วางใจไว้กลางๆ เราจะทุกข์น้อยลง
ดูตาม Link ข้างล่างนี้ บุคคลนี้เจาก็เจอเรื่องเดียวกับคุณ ไม่ใช่แค่คุณคนเดียวที่พานพบ เพื่อนำมาพิจารณาว่าทุกคนต้องเจอเป็นเรื่องธรรมดาจะล่วงพ้นไปไม่ได้ แม้ผมเองก็ผ่านเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน แต่เมื่อเข้าใจในสัจธรรมเหล่านี้ผมก็ทุกข์น้อยลง จนถึงไม่ทุกข์กับสิ่งเหล่านี้อีก

http://www.carefor.org/component/option,com_mamboboard/Itemid,161/func,view/id,11137/catid,2/

เมื่อรู้แล้วลองพิจารณาการถึงความมีใจกลางๆตาม Link นี้นะครับ

http://www.watkoh.com/forum/index.php?topic=6516.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 18, 2012, 03:44:19 pm โดย Admax »
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ

ดรุณี

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 96
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
คุณ ลูกคิด น่าจะมีความสุข แล้วนะครับ เพื่อนชาวธรรม ให้คำแนะนำกันหลายท่าน
ที่สำคัญในช่วงสงกรานต์นี้ ยังขยันขันแข็ง ค้าขาย อีก เอาใจช่วยนะคะ ..... จากเพื่อน ๆ ที่เป็นห่วงคะ

  :25:
บันทึกการเข้า
อยากให้ทุกชีวิต มีความสุข และ ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 31, 2012, 01:20:38 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา