ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไม พระมหาโมคคัลลานะ จึงเป็นผู้มีฤทธิ์มาก  (อ่าน 503 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

RithSeo

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 1
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0



ทำไม พระมหาโมคคัลลานะ จึงเป็นผู้มีฤทธิ์มาก

เชื่อว่าไม่มีใครที่ไม่รู้จักพระเถระรูปนี้ “ พระมหาโมคคัลลานะ ” พระอัครสาวกเบื้องซ้ายของพระผู้มีพระภาคเจ้า แต่จะมีใครบ้างไหมที่จะทราบว่า ทำไมพระมหาโมคคัลลานะจึงเป็นผู้มีฤทธิ์มาก ซีเคร็ตจะเผยสาเหตุที่พระเถระรูปนี้กลายเป็นผู้มีฤทธิ์มากให้ทุกคนได้ทราบ

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับความหมายของคำว่า “ฤทธิ์” หรือ “อิทธิ” กันก่อน ฤทธิ์ มีความหมายว่า “ความสำเร็จ” สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตฺโต) ได้อธิบายว่า พระพุทธศาสนาแบ่งฤทธิ์ออกเป็น 2 ประเภท คือ อามิสฤทธิ์ และ ธรรมฤทธิ์ ฤทธิ์อย่างแรกจะเกิดขึ้นจากวัตถุ ส่วนธรรมฤทธิ์จะเกิดจากการสำเร็จธรรม หรือที่นิยมเรียกว่า การบรรลุธรรม ดังนั้นฤทธิ์นี้จึงเป็นฤทธิ์ของพระอริยบุคคล ตามจริงผู้สำเร็จเป็นพระอริยบุคคลย่อมสามารถแสดงฤทธิ์ได้ จึงสรุปได้ว่า ฤทธิ์ 2 ประเภทนี้จะเกิดขึ้นเฉพาะผู้ที่สำเร็จฌาน

@@@@@@

ในอิทธิกถาได้กล่าวถึงการแสดงฤทธิ์ในแบบต่าง ๆ เช่น การเดินทะลุกำแพง เหาะไปยังพรหมโลก จำแลงเป็นสิ่งต่าง ๆ เป็นต้น เมื่อมองย้อนกลับไปในประวัติของพระเถระบางรูปจะพบว่า พระเถระบางรูปเมื่อเข้าใจในธรรมแล้ว (บรรลุธรรม) กลับมีฤทธิ์ขึ้นมา เช่น พระจูฬปันถกเถระที่พระพี่ชายต่อว่าท่านว่าเป็นคนที่โง่เขลาจึงบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ได้ยาก

จนกระทั่งพระบรมศาสดาทรงทราบว่าเมื่อในอดีตชาติ พระจูฬปันถกเคยเกิดเป็นพระราชา และได้พิจารณาผ้าขาวสะอาด หลังจากพระผู้มีพระภาคเจ้าให้พระจูฬปันถกพิจารณาผ้าขาวแล้ว ปรากฏว่าบรรลุธรรมแล้วสามารถแยกร่างออกเป็นพระจูฬปันถกหลายรูป นี้คือการแสดง (ธรรม) ฤทธิ์หลังจากสำเร็จธรรม (สามารถศึกษาเรื่องของพระจูฬปันถกได้ที่ >> พระจูฬปันถกเถระ วิบากกรรมของคนที่ชอบดูถูกผู้อื่น)

@@@@@@

ทำไมพระผู้มีพระภาคเจ้าประทานตำแห่นง (เอตทัคคะ) ว่าเป็นผู้มีฤทธิ์มากแก่พระมหาโมคคัลลานะ ในโมคคัลลานสูตรได้กล่าวไว้ว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสต่อพระภิกษุทั้งหลายว่า พระมหาโมคคัลลานะเป็นผู้ที่มีฤทธิ์มาก เพราะได้เจริญอิทธิบาท 4 (ฉันทะ วิริยะ จิตตะ และ วิมังสา) อิทธิบาท 4

นอกจากจะเป็นหลักธรรมที่สอนให้เราไปถึงความสำเร็จแล้วยังช่วยให้ผู้ที่เจริญอิทธิบาท 4 เป็นผู้ที่มีอายุยืนอีกด้วย ดังครั้งที่มารได้เข้าเฝ้าและทูลขอให้พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระองค์ได้ตรัสแก่พระอานนท์ว่า ผู้ที่เจริญอิทธิบาท 4 อยู่เป็นประจำ ผู้นั้นย่อมอายุยืนและอยู่ต่อได้อีกนาน (สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ >>ถ้าอยากอายุยืนขึ้น ควรทำอย่างไร ? เรื่องเล่าจากพระไตรปิฎก เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสถึงเรื่องอายุยืนกับพระอานนท์ )

@@@@@@

แล้วพระมหาโมคคัลลานะเจริญอิทธิบาท 4 อย่างไรจึงทำให้ท่านเป็นผู้ที่มีฤทธิ์ พระพุทธองค์ตรัสอธิบายให้พระภิกษุทั้งหลายเข้าใจในการเจริญอิทธิบาท 4 ของพระมหาโมคคัลลานะ เพราะการปฏิบัติเช่นนี้ทำให้กลายเป็นผู้มีฤทธิ์มากว่า

“ภิกษุทั้งหลาย พระมหาโมคคัลลานะเป็นผู้มีฤทธิ์ และอานุภาพมากอย่างนี้ เพราะได้เจริญ และปฏิบัติอย่างมากด้วยหลักของอิทธิบาท 4 คือพระมหาโมคคัลลานะเจริญอิทธิบาทที่ประกอบด้วย ฉันทะ วิริยะ จิตตะ และวิมังสา โดยมีความตั้งใจดังนี้ว่า ฉันทะของเราจะไม่ย่อหย่อนเกินไป ไม่ต้องประคับประคองเกินไป  ไม่หดหู่ ไม่ฟุ้งซ่าน พระมหาโมคคัลลานะกระทำเช่นนี้ตลอดไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ และไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็ปฏิบัติเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังอบรมจิตของตนเองให้ผ่องใส ไม่มีสิ่งใดมารบกวน”

@@@@@@

ทำไมการเจริญอิทธิบาท 4 จึงทำให้ผู้ปฏิบัติมีฤทธิ์ เพราะการปฏิบัติตามหลักอิทธิบาท 4 จะทำให้ผู้ปฏิบัติเกิดสมาธิที่แน่วแน่ เมื่อเกิดสมาธิที่แน่วแน่แล้วย่อมทำสิ่งใดได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ดังที่สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์กล่าวไว้ในเรื่อง “อิทธิบาท 4 :ทางแห่งความสำเร็จ” ว่า “สภาพที่จิตแน่วแน่อยู่กับสิ่งที่กระทำนั้น เราเรียกว่า ‘สมาธิ‘ เพราะฉะนั้น ฉันทะก็นำไปสู่สมาธิ เมื่อมีความแน่วแน่ต่อสิ่งที่กระทำย่อมเป็นผลสำเร็จที่ดี เรียกว่านำไปสู่ ‘ความเป็นเลิศ‘”

พระมหาโมคคัลลานะมักเหาะไปแดนสวรรค์อยู่เสมอ ครั้งใดที่ท่านได้พบกับวิมานที่มีความวิจิตรตระการตา ท่านจะเข้าไปถามไถ่เรื่องผลบุญของเทวดาผู้เป็นเจ้าของวิมานทันที (ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ >>> ทำบุญด้วยน้ำ อานิสงส์แรง เรื่องเล่าจากพระอรหันต์) หรืออย่างครั้งหนึ่งท่านเคยเขย่าวิมานของท้าวสักกะเทวราชด้วยการเหาะขึ้นไปเหยียบบนยอดปราสาท (ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ >>> พระโมคคัลลานะเขย่าวิมานพระอินทร์) หรือการปราบพยศเศรษฐีคนหนึ่งให้กลายเป็นผู้ละซึ่งความตระหนี่ (ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ >>> พระโมคคัลลานะทรมานเศรษฐีขี้ตระหนี่)

หรือครั้งที่พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระสาวกเหาะไปดาวดึงส์ นันโทปนันทนาคราชได้เนรมิตกายบดบังเขาสิเนรุ (เขาพระสุเมรุ) พระองค์ก็ทรงให้พระมหาโมคคัลลานะเป็นผู้ปราบพยศพญานาคตนนี้ด้วยฤทธิ์ ซึ่งพระมหาโมคคัลลานะได้เนรมิตกายเป็นพญานาคตัวใหญ่กว่าและพันรอบนันโทปนันทนาคราชจนยอมแพ้

@@@@@@

จะสังเกตได้ว่าเรื่องการใช้ฤทธิ์นั้น พระพุทธองค์จะทรงไว้วางพระทัยพระมหาโมคคัลลานะที่สุด รองลงมาคือพระอุบลวรรณาเถรี โดยพระเถรีรูปนี้มีบทบาทในการแสดงฤทธิ์ช่วยเหลือพระพุทธองค์ในครั้งที่พระองค์ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ปราบพยศเดียรถีย์ พระเถรีได้แสดงฤทธิ์โดยเนรมิตรถเทียมด้วยม้า 4 ตัวขึ้นมา จากนั้นพระพุทธเจ้าจึงได้ตั้งเอตทัคคะเป็นผู้มีฤทธิ์แก่พระอุบลวรรณาเถรี (ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ >>> เส้นทางสู่อรหัตตผลของพระอุบลวรรณาเถรี : สตรีผู้ทำบุญด้วยดอกบัวมาหลายชาติ)

นอกจากพระเถระในพระพุทธศาสนาที่เมื่อสำเร็จธรรมแล้วจะกลายเป็นผู้ที่มีฤทธิ์ พระพุทธองค์ยังตรัสไว้ในสมณพราหมณสูตรอีกว่า หากสมณพราหมณ์ (ซึ่งอาจจะรวมถึงพระฤษี โยคี ชีไพรต่าง ๆ) เจริญอิทธิบาท 4 มากก็สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้อีกด้วย แสดงว่าไม่ว่าจะเป็นใครหากได้เจริญอิทธิบาท4 ย่อมสามารถเป็นผู้ที่มีฤทธิ์ได้ทั้งนั้น



ที่มา :-
www.84000.org/ฤทธิ์ 2
www.84000.org/อิทธิกถา
www.84000.org/สมณพราหมณสูตร
www.84000.org/โมคคัลลานสูตร
การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตฺโต)

ภาพ : www.pexels.com
ขอบคุณ : https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/178255.html
By nintara1991 ,12 October 2019
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 14, 2019, 07:19:59 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า